ตอนที่ 1
วันนี้มาลินีต้องตื่นแต่เช้าเพราะหล่อนต้องนั่งรถเมล์ไปหาพี่สาวที่อพาร์ทเม้นท์ในเขตย่านการค้าแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ เด็กสาววัยสิบแปดในชุดเสื้อกล้ามสวมทับด้วยเสื้อคลุมตัวบาง ๆ และกระโปรงสั้นเหนือเข่าพาหุ่นอวบอัดเดินนวยนาดขึ้นรถเมล์ที่มีคนทั้งนั่งทั้งยืนกันแน่นขนัด
มาลินีพึ่งเรียนจบ ม.6 แต่หล่อนยังไม่ได้สมัครเรียนต่อที่ไหนเพราะทางบ้านมีเงินส่งเสียให้ไม่พอ เด็กสาวก็เข้าใจว่าสถานะทางบ้านตอนนี้ง่อนแง่นมากพอควร สิ่งที่หล่อนทำได้คือต้องหางานทำไปพลาง ๆ และหล่อนกำลังจะเดินทางไปหาพี่สาวที่อยู่อีกเขตหนึ่ง
มาลินีจะไปอยู่กับพี่สาวที่อพาร์ทเม้นท์เพราะเมื่อไม่กี่วันก่อนหล่อนติดต่อไปหาพี่สาวที่มีเพียงคนเดียวและตอนนี้ก็ทำงานเป็นพนักงานบริษัท พี่สาวของมาลินีที่อยู่กับสามีสองคนเพราะยังไม่มีลูกชักชวนให้หล่อนไปอยู่ด้วยเพราะคิดว่าจะหางานให้น้องสาวทำในเวลาที่ยังไม่มีงานและเงินแบบนี้
“ขอโทษนะคะ”
เด็กสาวพูดเสียงหวานตอนขึ้นรถเมล์ที่มีคนแน่นขนัดและแทรกตัวเข้าไปในกลุ่มคนที่ยืนแออัดยัดเยียดกันอยู่บนรถ กระเป๋ารถเมล์เดินมาเก็บเงินค่าโดยสาร เมื่อเด็กสาวยื่นให้แล้วก็ยืนตัวตรง มาลินีมีสัดส่วนที่อวบอัดตามวัยของสาวสิบแปด ผิวของเด็กสาวขาวเนียนผุดผ่องและมักจะมีหนุ่ม ๆ ข้างบ้านมาเมียงมองเสมอ มาลินีเองก็เหมือนสาวรุ่นทั่วไปที่จริง ๆ แล้วก็สนใจในเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ เหมือนกัน
“อุ๊ย!”
เด็กสาวอุทานออกมาเบา ๆ เมื่อรถเบรกกะทันหันตอนส่งคน จังหวะนั้นทำให้ร่างอวบถูกเบียดจากทางด้านหลัง มาลินีรู้สึกเหมือนว่าหล่อนถูกเบียดเข้ามาชิดและได้ยินเสียงลมหายใจหอบ ๆ อยู่ที่ใบหู
“อืม...อืม...”
เสียงนั้นเหมือนเสียงผู้ชาย เด็กสาวยืนตัวแข็งไม่กล้าหันไปมองและรู้สึกว่าเนื้อตัวของหล่อนกำลังระริกเต้นเพราะมีบางอย่างยุกยิกอยู่ที่เอว แล้วมันก็ค่อย ๆ เลื่อนลงไปที่สะโพก มีบางอย่างแข็ง ๆ ดุนดันอยู่ข้างหลังเด็กสาว มาลินีไม่ได้คิดไปเองว่ามีผู้ชายยืนอยู่ข้างหลังหล่อน และ...เขากำลังใช้มือลูบไล้ตัวหล่อนที่สะโพกผายแล้วเลื่อนมาที่ด้านหน้า
มาลินีเอามืออุดปากแล้วจับกระเป๋าสะพายไว้แน่น ปกติหล่อนก็ไม่ค่อยได้ขึ้นรถเมล์บ่อยเท่าไหร่ คิดว่านับครั้งได้เลย นี่เป็นครั้งแรก มือไม้ของคนแปลกหน้าที่หล่อนไม่กล้าหันไปมองลูบอยู่ที่ด้านหน้าของหล่อน ใต้หน้าท้อง มาลินีหายใจไม่คล่อง เหมือนจะหอบ แต่ก็เสียว ๆ อยู่ที่กลางลำตัว
“อืม...อวบดีจริง”
หล่อนได้ยินเสียงนั้นดังชิดใบหู ลมหายใจร้อน ๆ ก็เป่าที่ลำคอของหล่อน เด็กสาวที่เนื้อตัวอวบอัดไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรเพราะตอนนี้ดูเหมือนใคร ๆ ก็กำลังให้ความสนใจกับป้ายที่จะลงข้างหน้า แต่หล่อนยังต้องผ่านอีกหลายป้าย
“อุ๊ย!”
เด็กสาวอุทานเบา ๆ เพราะมือที่ลูบไล้กลางตัวหล่อนลงน้ำหนักจนกลายเป็นบีบที่เนื้อนุ่มกลางตัวของหล่อนเบา ๆ มาลินีเสียวสยิวโดยไม่รู้ตัว อะไรกันนี่...เล่นกันอย่างนี้บนรถเมล์เลยเหรอ ไม่เฉพาะแต่มือที่ยุกยิกอยู่ที่กระโปรงด้านหน้าของหล่อน ด้านหลังของเด็กสาวก็ถูกอะไรแข็ง ๆ เบียดถูไปมาจนมาลินีเริ่มเสียวสยิว
“อูย...”
หล่อนร้องออกมาเบา ๆ แต่ก็ดูเหมือนไม่มีใครสนใจแม้แต่คนเดียว ทุกคนให้ความสนใจข้างหน้า บ้างก็คุยกัน แต่ส่วนใหญ่ก็จะยืนนิ่งมีแต่หล่อนนี่ล่ะที่ชักจะนิ่งไม่ไหว มาลินีจะหันกลับไปก็ทำไม่ได้เพราะคนแน่นเหลือเกิน
สักพักมือไม้เจ้ากรรมของใครก็ไม่รู้มันล้วงเข้าไปใต้ชายกระโปรงของเด็กสาว มาลินีต้องกลั้นเสียงร้องไว้เพราะมือทั้งสองข้างก็ว่าได้ล้วงเข้าไปในชั้นในจีสตริงของหล่อน มาลินีเกือบจะส่งเสียงร้องแล้วเชียว แต่รู้สึกเสียวมากกว่า แล้วก็รู้สึกเหมือนว่านิ้วที่ยุกยิกไม่หยุดถูขึ้น ๆ ลง ๆ ที่กลีบกุหลาบของหล่อน
“อืม...อวบจริง...อูว”
แน่ะ...มีเสียงครางอยู่ข้างหลัง ช่างไม่เกรงกลัวใครจะได้ยินเลย มาลินีนิ่วหน้า หน้าสวยของเด็กสาวชักเริ่มเหยเก ไม่รู้จะทำยังไง และเหมือนเจ้าของมือจะยิ่งได้ใจเพราะมันล้วงลึกเข้าไปในกลีบกุหลาบที่เริ่มฉ่ำของหล่อน ส่วนบั้นท้ายของหล่อนก็ยังถูกคุกคามด้วยอะไรบางอย่างเป็นลำแข็ง ๆ ถูไถไปมา ขึ้น ๆ ลง ๆ จนหล่อนเองก็เสียวจนต้องครางเบา ๆ
“อืม...ซี๊ด...ซี๊ด”
ไม่มีใครได้ยินเสียงของหล่อนหรอก แต่มาลินีรู้สึกว่าโดนแบบนี้กลายเป็นว่ามันได้ใจหล่อนไปเสียอย่างนั้น เด็กสาวไม่ใช่ว่าไม่รู้สึกรู้สาอะไร ขนหล่อนลุกชัน นิ้วนั้นซุกเข้าไปลึกแล้วขยับเข้า ๆ ออก ๆ จนมาลินีสะท้านไปหมดทั้งตัว
หล่อนเกร็งตัวเพราะความสยิว นิ้วของคนที่ไม่ได้เห็นหน้าพลิกพลิ้วเข้าออกอยู่ในกลีบดอกไม้ของหล่อน เด็กสาวสิบแปดเคลิบเคลิ้มอารมณ์ไปด้วย แต่แล้วจู่ ๆ มือซุกซนก็ถอนออกไปเหมือนรีบร้อน
ทุกอย่างหยุดลงในทันทีทันใด เด็กสาวรีบเรียกสติกลับคืนเพราะรถหยุดลงที่ป้ายหนึ่ง แต่เมื่อจะหันกลับไปมองก็พบว่าเป็นผู้หญิงที่เบียดเข้ามาแทน มาลินีมองลงไปที่หน้าต่างรถก็เห็นผู้ชายสี่ห้าคนลงไปพร้อมกัน
เด็กสาวขัดใจนิดหน่อยเพราะไม่รู้ว่าใครกันที่เป็นเจ้าของมือและ ลำยาว ๆ แข็ง ๆ ที่ถูตรงบั้นท้ายของหล่อน ที่มากกว่านั้นคือมันทำให้หล่อนเสียอารมณ์เพราะค้างเติ่งตอนใกล้ถึงป้ายที่หล่อนจะลงอีกไม่ไกล
“อ้าว...นี...มาถึงตอนไหนน่ะ ไม่เห็นโทรบอกพี่เลยจะได้ไปรับ”
มาลี พี่สาวของมาลินีทักน้องสาวเมื่อเปิดประตูห้องพักแล้วเห็นว่ามาลินีมายืนอยู่ที่หน้าประตูหลังจากเคาะบานประตูหลายครั้ง มาลินียิ้มให้แล้ววางกระเป๋าเสื้อผ้าที่นำติดตัวมาด้วยลงกับพื้น
“ก็พึ่งมาถึงเนี่ยล่ะ...ขอเข้าไปนั่งพักก่อนนะ...ขึ้นรถเมล์ นีโดนยืนมาตลอดทางเลยล่ะ”
“เข้ามาก่อนสิ...แหม...เดี๋ยวพี่เอาน้ำให้นะ”
มาลียกกระเป๋าไปเก็บไว้ในห้องให้น้องสาวที่เมื่อมาถึงก็นั่งลงที่โซฟา มาลินีเกือบจะนอนแผ่หลาเพราะความเหนื่อยเลยทีเดียว
“เป็นไงบ้างล่ะ...นี่...พี่หางานไว้ให้นีได้แล้วนะ”
“งานอะไรพี่มาลี”