“ก็เป็นงานพนักงานขายของในร้านสะดวกซื้อ พอดีพี่รู้จักกับเจ้าของร้านน่ะ เค้าขาดคนอยู่พอดี”
มาลีวางแก้วน้ำลงบนโต๊ะและมองหน้าน้องสาววัยสิบแปดซึ่งห่างกับหล่อนห้าปี มาลินีเป็นสาววัยสะพรั่ง หน้าตาสะสวยและรูปร่างอวบอัด
“นีสนใจทำรึเปล่าล่ะ”
“ทำไมจะไม่สนใจล่ะพี่มาลี...นีมาหางานทำนะ ตอนนี้ไม่เกี่ยงหรอก งานอะไรก็ได้ทั้งนั้น”
พูดแล้วก็หันว้ายหันขวาเหมือนมองหาอะไรบางอย่าง
“เออ...แล้วสามีพี่ล่ะ เขาไปไหนน่ะ เขาไม่อยู่เหรอ”
“พี่ภาสน่ะเหรอ...เขาออกไปทำงาน กลับเย็น ๆ เดี๋ยวก็ได้เจอ นีจะอาบน้ำอาบท่าเสียก่อนมั้ยล่ะ นั่นห้องของนีนะ พี่จัดห้องไว้ให้นีแล้ว โชคดีอพาร์ทเม้นท์นี่มีสองห้องนอน นีจะได้อยู่แบบสบาย ๆ หน่อย ไม่อึดอัด”
“นีไม่รู้จะขอบคุณพี่มาลียังไง นีไม่ได้เรียนต่อก็ไม่เสียใจหรอกนะ แต่คิดว่าจะตั้งใจทำงานให้ดี เก็บเงินจะได้ส่งให้พ่อกับแม่ด้วย”
เด็กสาวพูดไม่ทันจบประโยคประตูห้องก็ถูกผลักเข้ามา ทั้งสองสาวพี่น้องหันไปมองร่างสูงในชุดลำลองที่กำลังถอดรองเท้าหน้าห้อง
“ภาส...นี่นี...น้องสาวของมาลีที่เล่าให้ฟังยังไง เขาพึ่งมาถึง”
ชายร่างสูงและหน้าตาหล่อเหลาไม่ใช่เล่นก้าวเข้ามาในห้อง เขายิ้มให้หญิงสาวทั้งสอง มาลินีนิ่งมอง ภาสกร พี่เขยของหล่อนที่จริง ๆ แล้วหล่อนไม่ค่อยได้เจอหน้าเพราะทั้งมาลีและพี่เขยทำงานและไม่ค่อยมีเวลากลับไปเยี่ยมบ้าน แต่ทุกเดือนมาลีก็จะส่งเงินไปให้พ่อแม่
มาลินีไม่เจอเขานานแล้วตั้งแต่งานแต่งของพี่สาว มาเจออีกทีรู้สึกว่าชายหนุ่มมีอะไรเปลี่ยนไปหลายอย่าง หรือหล่อนไม่ได้เจอนาน ๆ ก็เลยเห็นว่าพี่เขยตัวใหญ่ขึ้น หล่อขึ้นแถมบนแก้มมีลักยิ้มเล็ก ๆ ที่หล่อนไม่เคยสังเกตเห็น
“สวัสดีค่ะพี่ภาส”
มาลินียกมือไหว้พี่เขยที่มองหล่อนด้วยดวงตาเป็นประกาย ภาสกรรับไหว้และพูดขึ้น
“สวัสดีจ้ะ นี...เป็นไงบ้าง สบายดีมั้ย”
“สบายดีค่ะ พี่ภาสล่ะคะ เห็นพี่มาลีบอกว่าวันนี้จะกลับเย็น ทำไมกลับเร็วจัง”
“พอดีวันนี้มีงานเลี้ยงที่ออฟฟิศ พี่ไม่ค่อยสบายเลยขอตัวกลับมาซะก่อน แล้วนี่จะเริ่มทำงานที่มาลีหาไว้ให้เมื่อไหร่ล่ะ”
“พรุ่งนี้เลยภาส” มาลีเสริมขึ้น “ว่าจะให้ภาสนั่งรถเมล์ไปส่งนีที่ทำงานเพราะมันไปทางเดียวกัน ออกไปพร้อมกันแต่เช้า ภาสจะได้ช่วยบอกนีด้วยว่าต้องลงที่ป้ายไหน ที่ทำงานอยู่ที่ไหน เพราะนียังไม่รู้จักเส้นทางย่านนี้สักเท่าไหร่”
“ได้สิ” ภาสกรรับคำ “พรุ่งนี้พี่จะพานีไปส่ง นั่งรถเมล์ไปพร้อมกันเพราะพี่ก็ไปทุกวันอยู่แล้ว”
“ขอบคุณมากค่ะพี่ภาส แบบนี้นีก็ค่อยโล่งใจหน่อยเพราะนีไม่ค่อยชินกับพื้นที่แถวนี้จริง ๆ”
มาลินียกมือไหว้อีกครั้ง หล่อนมองพี่เขยสุดหล่อไม่วางตา ไม่เห็นหน้าภาสกรนานแล้วไม่นึกว่าเห็นใกล้ ๆ หล่อนจะมีพี่เขยหล่อขนาดนี้ เด็กสาวรู้สึกตงิด ๆ ขึ้นมา แล้วหล่อนก็นึกไปถึงเหตุการณ์บนรถเมล์เมื่อครู่ ไม่รู้ว่ามือของใครลูบไล้และทำให้หล่อนเกิดอารมณ์ จู่ ๆ ก็ไปเสียเฉย ๆ ทำให้หล่อนค้างเติ่งจนถึงตอนนี้
ค่ำแล้วมาลินีเตรียมตัวจะเข้านอนแม้จะรู้สึกแปลกที่แปลกทางไปบ้าง แต่อพาร์ทเม้นท์ของมาลีแม้ห้องจะไม่ใหญ่แต่ก็โชคดีที่มีสองห้องนอนแม้ว่าห้องน้ำต้องใช้ร่วมกัน เด็กสาวจัดเสื้อผ้าและปิดไฟตั้งท่าจะนอน หล่อนเอนหลังและหลับตาลงแต่กลับได้ยินเสียงกุกกักดังอยู่ข้างนอก มาลินีดูนาฬิกาก็เห็นว่าใกล้จะเที่ยงคืนแล้ว หล่อนได้ยินเสียงเหมือนคนคุยกัน ก็นึกไปว่าพี่สาวกับพี่เขยคงจะยังไม่นอนกันละกระมัง
“ดึกป่านนี้ยังไม่นอนกันอีกหรือไง”
มาลินีพูดกับตัวเองเบา ๆ แต่แล้วด้วยความอยากรู้หล่อนก็แกล้งแง้มประตูเพื่อดูว่าใครอยู่ในห้องรับแขก บานประตูถูกแง้มออกเบา ๆ ในห้องรับแขกไฟยังสว่างจ้า หล่อนเห็นมาลีกับพี่เขยนั่งกันอยู่ที่โซฟา ส่วนทีวีก็ยังเปิดเป็นปกติ แต่ให้ตายสิ...สิ่งที่หล่อนเห็นบนโทรทัศน์เครื่องนั้นไม่ใช่รายการทีวีโดยทั่วไป หน้าจอขนาดใหญ่หันมาทางหล่อนพอดีทำให้เห็นชัดว่ามันเป็น
หนังโป๊!
มาลินีแง้มประตูไว้อย่างนั้นแล้วมองลอดช่องประตู เห็นภาพคมชัดบนหน้าจอโทรทัศน์เป็นภาพสาวกับหนุ่มกำลังร่วมเพศกันในที่โล่งแจ้ง แถมได้ยินเสียงซี๊ดซ๊าดดังออกมาแม้จะเบาแต่ตอนดึกมันก็ทำให้ได้ยินชัดเจน
“อือ...ภาสน่ะ...อย่าซี...ดึกแล้วนะ”
“แหม...กอดแค่นี้เอง”
“เดี๋ยวเกิดนีตื่นขึ้นมาตอนนี้มาลีอายแย่”
“นียังไม่ตื่นหรอกน่า...ภาสกอดนิดเดียวเอง”
“ไหนว่าไม่สบายไง...แล้วนี่น่ะ...เปิดหนังไว้แบบนี้ถ้านีตื่นขึ้นมาล่ะ”
เสียงมาลีกระเง้ากระงอดสามีของหล่อน มาลินีได้ยินเสียงพี่สาวเหมือนพยายามปฏิเสธแต่ดูเหมือนพี่เขยไม่ยอมทำตาม หล่อนเห็นภาสกรกอดจูบพี่สาว สักครู่มาลีก็จูบตอบ ลิ้นแลกลิ้นได้ยินเสียงตอนกลางคืนดังชัดเจน
“ภาสไม่สบายก็นอนเถอะ...อูย...ซี้ด...อย่าน่า”
“นิดเดียวเองเมียจ๋า...ผัวอยากจะแย่อยู่แล้ว”
“เข้าไปในห้องดีกว่ามั้ย”
“ตรงนี้แหละ ได้อารมณ์ดี...ซี๊ด...อืม”
มาลินีต้องแอบกลืนน้ำลายลงคอ ไม่นึกว่าคืนแรกหล่อนก็ได้ดูทั้งหนังเอ็กซ์และหนังสดแบบนี้ แต่ท่าทางพี่เขยของหล่อนไม่ใช่เล่น ๆ เลย ภาสกรหูตาวับวาว ใจหนึ่งก็อยากปิดประตูแล้วเข้าไปคลุมโปงใต้ผ้าห่มนอนซะให้รู้แล้วรู้รอด แต่หล่อนก็อยากรู้ว่าพี่เขยจะลีลาเด็ดสักแค่ไหน
“อูย...ภาสน่ะ...อย่าซี...อึ๋ย...อย่าน่า”
เสียงของมาลีเหมือนปฏิเสธอยู่ตลอดเวลา แต่ภาพที่เห็นมันไม่ใช่เพราะพอภาสกรถอดเสื้อขอเขาออกแล้วหันมาถอดให้ พี่สาว มาลีก็ไม่ได้ขัดขืนแต่อย่างใด ดูจะพออกพอใจเสียด้วยซ้ำแต่ปากก็ยังพูดว่า
“อย่าน่าภาส...ซี๊ด...ไม่เอานะ”