“ตอนนี้การแข่งขันมันสูงมาก ไม่เหลือคนจริงใจตกมาถึงแกแน่ ๆ เชื่อฉันเหอะ”
“แหม... พูดเหมือนจะลงหาเสียง”
“อ้าวมันเรื่องจริงนี่นา ฉันไม่ได้พูดเล่น ๆ นะโว้ย สถิติการหย่าร้างสูงมาก เพราะอะไรรู้ไหม เพราะผู้หญิงที่เป็นเมีย ไม่มีประสบการณ์เรื่องบนเตียงมาก่อนโว้ย นอนนิ่ง ๆ เหมือนท่อนไม้ ครางก็ไม่คราง บางคนครางอย่างกะเสียงช้างออกลูก” พูดแล้วปลายฟ้าก็หัวเราะเสียงสนุก
“ยิ่งแกไม่ยอมให้ไอ้ธารามันนอนด้วย แล้วเป็นไง พอไปเจอแบบง่าย ๆ แถมไม่พอรวยล้นฟ้าแบบนั้น เขวเลย ไปพ้น ไม่หวนกลับ ดีนะ มันยังมีจริยธรรมบ้าง ที่ยกเงินที่เก็บร่วมกันมาให้กับแกนะ นี่ ๆ” เขย่าตัวของเพื่อนไปด้วย
“เชื่อฉันสักครั้ง แล้วสวรรค์ที่แกรอคอยจะอยู่ตรงหน้า อีกอย่างจะได้เป็นยาดีที่จะลืมไอ้เชี่ย ตัวเห.. ตัวนั้นได้ โอเค” แล้วก็ลุกขึ้น
“นั่นแกจะไปไหน”
“ห้องน้ำสิ ล่อเข้าไปเสียเยอะ ต้องไปเอาน้ำออก” พูดติดตลก ให้มนัสยาได้คิดตาม
“รีบไปรีบมานะ” เสียงก็อ้อแอ้พอ ๆ กัน
“เอ้อ” ปลายฟ้าเดินลับตาไป มนัสยาก็หันมายกแก้วต่อ
จะว่าไป... ปลายฟ้าก็ไม่ผิดหรอก
ชีวิตของใคร ๆ ใครก็ต้องใช้เอง ใช้ให้คุ้มค่า อะไรมันก็ไม่แน่ไม่นอนจริง ๆ
ตอนที่เขายืนอยู่ที่เคาน์เตอร์ แล้วปลายฟ้าเดินเข้ามาหาเด็ก ชายหนุ่มยืนอยู่ตรงนั้นด้วย เขาจึงคุยกับปลายฟ้าและได้รับนามบัตรมา ตอนที่อ่านชื่อบนนามบัตร เขาแทบหัวใจวาย ใจคอไม่อยู่กับเนื้อกับตัว หน้าแดงร้อนออกผ่าว ๆ
“ผมจะดูแลเพื่อนคุณเป็นอย่างดีครับ”
“โอ้! คุณจะดูแลเองเลยหรือคะ” ปลายฟ้ารู้ว่าเขาไม่ใช่พนักงานที่นี่ แต่ก็ไม่รู้ว่าเป็นอะไรกับเจ้าของ และยังมีข่าวลือที่ว่าเขายังโสดออกมาจากปากของน้อง ๆ พนักงาน
“จริงหรือคะนี่”
“ผมพูดจริงเสมอ”
“เพื่อนฉันคือคนนั้นน่ะค่ะ” ปลายฟ้าชี้มือไปที่มนัสยา
“มัส” เขางึมงำชื่อของเธอออกมา
“คุณคะ ช่วยเบา ๆ กับเพื่อนของฉันด้วยนะคะ คือแบบนางยังซิงนะ แล้วก็ถูกเทงานแต่งงานค่ะ จะแจกการ์ดอยู่แล้วเชียว แต่ถ้าจะคิดมุมกลับ แม่งโคตรโชคดีที่เพื่อนของฉันไม่ได้แต่งงานกับไอ้คนเฮงซวยนั่นนะ ดีแบบสุด ๆ ไม่อย่างนั้นตกนรกทั้งเป็นแน่ หากอยู่ ๆ กันไปแล้วมีลูก จากนั้นพอมันไปเจอคนอื่น แล้วมาขอหย่า แบบนั้นน่าเจ็บช้ำใจมากกว่า ที่จริงปัญหามันติดอยู่นิดเดียวที่ยายมัสน่ะ ไม่ยอมมีซัมซิงรองกับแฟนนะสิ เฮ้อ...” แล้วก็ถอนหายใจออกมา
“คุณจะต้องเทกแคร์เพื่อนของฉันให้ดีที่สุดนะคะ”
ปลายฟ้าก็เดินจากไป
เธอหันมาหาเขา มองมือที่ยื่นอยู่ตรงหน้าไม่ยอมชักกลับ
“อ้อ ๆ ฉันคิดออกแล้ว คุณคือโฮสต์หนุ่มที่ยายฟ้าส่งมาให้ใช่ไหม หืม... จริงเลย ฉันอุตส่าห์ปฏิเสธไปแล้วแท้ ๆ บ้าจริง ยายคนนี้ ชอบว่านเงิน และใช้เงินเป็นเบี้ย”
ปลายฟ้าทำธุรกิจจนรวย อายุไม่ถึงยี่สิบห้าปีก็มีเงินเกือบห้าสิบล้าน ปลายฟ้าทั้งพูดเก่งและขายของเก่ง ปลายฟ้าเอ่ยปากจะให้เงินเดือนมนัสยาให้มาทำงานด้วย
แต่มนัสยายืนยันที่จะทำงานในโรงพยาบาลต่อ เธอทำอยู่ที่โรงพยาบาลเอกชน ซึ่งมั่นคงตรงที่เวลาที่พ่อแม่เป็นอะไรได้สิทธิ์รักษาแทบจะเรียกว่าจ่ายน้อยกว่าที่เป็นจริง ทำให้มนัสยาปฏิเสธ บางทีคำตอบของชีวิต ก็ไม่ใช่คำว่ารวย เงินทองเป็นของนอกกายก็จริง แต่ก็มีค่าฉิบหาย
ทำงานหาเงินแล้วใช้ มันก็หมดไป เจียดเก็บบ้างตามอัตภาพ พอใจในสิ่งที่ตนมีอยู่ และมนัสยาก็ไม่ได้เดือดร้อน เธอเห็นเพื่อนได้ดี ร่ำรวยก็พลอยยินดีไปด้วย บางครั้งเราไม่เก่งเท่าเขา ก็เอาเท่าที่มี และที่มีก็คือความจริง ที่อยู่แล้วทำด้วยความสุข
“นี่คุณยังไม่อยากจะกลับหรือครับ คุณเมาแล้วนะ” หัวคิ้วของเขาขมวดเข้าหากัน
“ใครบอกคะว่าฉันเมา ฉันยังไหว” ทั้งที่ตาจะปิด หัวปวดจนร้าวแล้ว ใครว่าดื่มแล้วจะสบายขึ้น ดูเหมือนจะอาการหนักกว่าเดิม
“ครับผม คนเมาก็พูดแบบนี้ทุกคน” เขาไม่อาจจะละสายตาจากใบหน้าของมนัสยาได้จริง ๆ
นิ้วน้อย ๆ ของมนัสยาจิ้มลงไปที่หน้าอกของเขา
“จริงด้วย ฉันลืมไปเลยว่ายายฟ้าบอกฉันก่อนไปว่าจะหาเด็กให้” แล้วเธอก็อดขำ ปลายฟ้าคงจะจ่ายเงินให้กับผู้ชายตรงหน้าแล้ว แม้เธอจะปฏิเสธ ก็ตาม
มนัสยานึกถึงปลายฟ้ายังพูดทิ้งท้าย
“แกจะทำอะไร ๆ กับผู้ชายคนนั้นก็ได้ ไม่จำเป็นต้องนอนด้วยสักหน่อย ให้เขาเอาใจแกก็พอ เข้าใจไหม? ยายมัส” แล้วก็ดึงปลายจมูกของมนัสยา
“โอ๊ย! เจ็บนะ นี่ดีนะที่ฉันไม่ได้เสริมจมูกไม่อย่างนั้นมีเบี้ยว”
“ค่ะเบ้าหน้าแม่สร้างมาดี ฉันนะจะไปเปลี่ยนดั้งอยู่ และทำรูปหน้าวีเชฟ”
“เฮ้ย ๆ พอได้แล้วมั้ง แกนะจะเสพติดศัลยกรรมมากไปแล้วนะ”
“เชอะ คนหน้าตาดีอย่างเธอนะ จะมาเข้าใจกับพวกเบ้าหน้าแบบนี้ เอ้อ... มีเงินจ่ายน่า” กอดอกมองหน้ามนัสยาอย่างอิจฉา
“แหม... ขนาดเจ็บตัวนะ ก็ไม่กลัวกันเนอะ”
“เจ็บแล้วสวย จบนะ”
“จ้า เอาที่สบายใจจ้าแม่คุณ” ท้ายเสียง มนัสยาทำเสียงสูง และยักไหล่ เอาที่เพื่อนสบายใจ