สายน้ำมาที่มหาลัยเพราะทางอาจารย์ขอให้โรงแรมที่เขาบริหารรับนักศึกษาของมหาลัยเข้าไปฝึกงาน ที่ผ่านมาโรงแรมเขาไม่เคยรับนักศึกษาเข้าไปฝึกงานเลยเพราะไม่อยากให้มีปัญหาอะไรเกิดขึ้น แต่นี่ทางมหาลัยร้องขอและเชิญเขาเข้ามาพูดคุยด้วยเขาเลยจำใจต้องมา
“หึหึ” ระหว่างที่เดินไปที่ที่จอดอยู่รถสายน้ำก็อดยิ้มออกมาไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อกี้ไม่ได้ ใครจะคิดว่าเขาจะเดินชนคนแต่จะว่าไปนักศึกษาหญิงคนนั้นที่เขาชนเธอมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ แต่มันหอมมากหอมจนติดจมูกเขาถึงตอนนี้เลยทีเดียว แถมพอได้สบตาและเห็นหน้าเธอเข้ายังทำให้หัวใจเขาเต้นแรงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนเลยแม้แต่กับซอลญ่าผู้หญิงที่เขารักและเฝ้ารอเธอกลับมา พอคิดมาถึงตรงนี้สายน้ำเลิกคิดเลิกสนใจผู้หญิงคนนั้นเขาขึ้นรถที่จอดอยู่และขับรถออกไปเพื่อกลับไปยังโรงแรมทันที
สายน้ำที่เดินเข้ามาในผับหลังจากที่โดนเพื่อนสนิททั้งสองโทรตามโทรจิกให้ออกมาเจอกัน ที่จริงวันนี้เขาอยากจะกลับไปนอนพักผ่อนสบาย ๆ ที่คอนโดเพราะเหนื่อยจากการทำงานมาทั้งวัน
“กว่าจะเสด็จมาได้นะมึง กูโทรตามจนโทรศัพท์กูแบตหมดแล้วเนี่ย” ทันทีที่สายน้ำเปิดประตูเข้ามาในห้อง VIP ของผับบิ๊กเพื่อนสนิทของสายน้ำก็บ่นพร้อมกับยกโทรศัพท์ของตัวเองขึ้นมาให้สายน้ำดู
“กูก็มาแล้วไง มึงจะบ่นทำไม”
“ก็กูเห็นมึงมาแล้วนะสิถึงได้บ่นถ้าไม่เห็นมึงกูจะบ่นไปทำไมบ่นไปให้ใครแถวนี้ฟังแทนหรือไงวะ”
“เออ ๆ ก็กูงานยุ่งนี่หว่า”
“งานยุ่งหรือขี้เกียจมาวะ แม่งปฏิเสธกูตลอด พวกมึงชอบทิ้งกู”
“ก็กูไม่ว่างเหมือนมึงนี่”
“ใครว่ากูว่างก็ทำงานเหมือนมึงไหม”
“เหอะ กล้าพูดนะมึงทำงานวันเว้นวันแถมเข้างานก็สายแบบมึงเขาไม่เรียกทำงานแล้วมั้ง”
“ก็ช่วยไม่ได้กูยังใช้ชีวิตวัยรุ่นยังไม่คุ้มเลยนี่หว่า”
“ช่างกล้า” สายน้ำว่าให้บิ๊กหนึ่งในเพื่อนสนิทของเขาหนุ่มเจ้าสำราญที่ใช้ชีวิตสำราญไม่หยุดสักที ที่จริงบิ๊กก็เข้าไปช่วยธุรกิจของที่บ้านเหมือนสายน้ำและพอลแต่บิ๊กสบายตรงที่มีพี่ชายใจดีที่ดำรงตำแหน่งประธานบริษัทบริหารงานดีและเก่งทุกอย่างจนรองประธานบริษัทอย่างบิ๊กเลยสบาย ๆ ไปเลย แต่ถ้าถึงเวลาทำงานจริงจังบิ๊กก็ตั้งใจทำงานและช่วยงานได้ดี ต่างจากพอลที่เข้าไปช่วยที่บ้านบริหารงานเต็มตัวแต่ไม่ได้สบายเท่าบิ๊กเพราะพอลเป็นลูกคนเดียวจึงต้องทำงานหนักเหมือนกับเขาที่ต้องบริหารโรงแรมคนเดียวโดยที่พ่อเขาวางมือให้เขาเข้าไปบริหารแบบเต็มตัว
“ว่าไงไอ้พอลมึงนี่ลืมปากไว้ที่บ้านหรือไง แม่งเอาแต่ดื่มไม่พูดไม่จาอะไรเลย”
“อืม”
“กูละเบื่อมึงจริง ๆ มากับมึงเหมือนกูมาคนเดียวมีกูพูดอยู่คนเดียว แม่งดีแล้วที่มึงมาได้ไอ้น้ำถ้ามึงไม่มากูนั่งอยู่กับไอ้พอลกูก็คิดว่านั่งคนเดียวอยู่ดี” บิ๊กบ่นพอลที่เอาแต่นั่งดื่มโดยไม่พูดไม่จาอะไรตั้งแต่มาตามสไตล์คนพูดน้อย ทำให้เขานั่งพูดนั่งบ่นอยู่คนเดียวจนต้องโทรตามโทรเร่งให้สายน้ำมาอีกคน
“พวกมึงรู้หรือยังว่าซอลญ่ากำลังจะกลับมาแล้วนะเว้ย”
“จริงเหรอวะ แล้วมึงรู้ได้ยังไง”
“ก็กูเก่งไง ว่าแต่มึงไอ้น้ำยังไม่เลิกรอเลิกรักซอลญ่าอีกเหรอวะ”
“เรื่องของกู”
“กูก็แค่เตือนมึงในฐานะเพื่อน ซอลญ่าไปเรียนต่อตั้งหลายปีแถมยังไม่ค่อยติดต่อหามึงอีกมึงจะยังรักยังรอเธออยู่อีกเหรอวะ” บิ๊กส่ายหัวให้กับสายน้ำที่ยังมั่นคงและรอผู้หญิงที่ไม่น่ารอ แต่ในเมื่อเพื่อนเขารักเขาก็ทำอะไรไม่ได้ทั้งเตือนทั้งบอกมันก็ไม่ยอมฟังเลยได้แต่มองอยู่ห่าง ๆ เขาว่ารักแรกฝังใจคงจะจริง
“จริง” พอลสนับสนุนคำพูดของบิ๊กถึงแม้พวกเขาจะรู้จักซอลญ่าเพราะเป็นเพื่อนกัน แต่ที่ผ่านมาพวกเขารู้ว่าสายน้ำรักซอลญ่ามาตลอดเชื่อเธอทุกอย่าง ทั้งที่มีคนดี ๆ เข้ามาสายน้ำก็ไม่สนแถมปฏิเสธกลับไป
ในช่วงที่เรียนอยู่ด้วยกันสายน้ำก็เป็นคนคอยดูแลเทคแคร์ซอลญ่าอยู่ตลอดแต่ถึงอย่างนั้นซอลญ่าก็ยังแอบมีคนอื่นลับหลังสายน้ำ แต่พอสายน้ำรู้หรือจับได้ก็อ้างว่าเป็นเพื่อนกันขอโทษขอโพยร้องห่มร้องไห้เสียใจยกใหญ่ว่าสายน้ำไม่รักไม่เชื่อเธอ ไอ้เพื่อนเขาก็ดีเหลือเกินเชื่อทุกครั้งแกล้งทำเป็นไม่รู้บ้างถึงแม้ตัวเองจะเจ็บแต่ก็ทนเพราะคำว่ารักคำเดียว
แม้จนทุกวันนี้สายน้ำก็ยังรออย่างมีความหวังก็เพราะผู้หญิงยังให้ความหวังอยู่ตลอด ทั้ง ๆ ที่ผ่านมาซอลญ่าติดต่อกลับมาแทบนับครั้งได้เลย
“มึงรู้แล้วเหรอว่าซอลญ่าจะกลับมาเมื่อไหร่” สายน้ำถามบิ๊กออกมาด้วยความสงสัยอยากรู้เพราะเขาไม่รู้จริง ๆ ว่าซอลญ่ากำลังจะกลับมา ช่วงหลัง ๆ มานี้เขากับเธอแทบไม่ได้คุยกันเลยเธอบอกแต่ว่าเรียนหนักมากไม่มีเวลาว่างเลยซึ่งเขาเองก็ค่อนข้างยุ่งเรื่องงานอยู่เหมือนกัน
“เร็ว ๆ นี้แหละเห็นว่าน่าจะเดือนหน้านี่ละมั้ง แล้วมึงจะไปรับเธอที่สนามบินไหม”
“ไปสิ”
“เออ ๆ กูไปด้วย”
“เออ” สายน้ำกำลังใช้ความคิดอย่างหนักทำไมซอลญ่าไม่ยอมบอกเขาว่าเธอจะกลับมา ทั้งที่เธอก็รู้ว่าเขารอเธอกลับมาอยู่ตลอดทำไมเขาต้องมารู้จากคนอื่นด้วย แล้วเธอมีเหตุผลอะไรหรือเปล่าที่ไม่ยอมบอกเขาว่าจะกลับมา
ทั้งสามคนนั่งคุยกันไปดื่มกันไปเรื่อย ๆ ตามประสาเพื่อนที่นาน ๆ เจอกันที เพราะทุกคนต่างมีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบทำให้พวกเขาได้เจอกันน้อยลงไม่เหมือนตอนเรียนที่เจอกันเที่ยวด้วยกันเกือบทุกวัน
“กูไปห้องน้ำนะ” สายน้ำพูดบอกเพื่อนทั้งสองคนที่นั่งดื่มกันอยู่ก่อนจะลุกขึ้นเดินออกจากห้องไปโดยไม่รอฟังว่าเพื่อนจะพูดอะไรหรือไม่
สายน้ำเดินตรงไปยังห้องน้ำแต่พอใกล้ถึงเขากับได้ยินเสียงคนทะเลาะกันที่จริงเขาว่าจะไม่สนใจแล้วถ้าไม่บังเอิญว่าเขาได้ยินที่สองคนนั้นพูดและเขาก็จำได้ว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นคนเดียวกันกับที่เขาเดินชนเมื่อวันก่อนที่มหาลัย
“ปล่อยนะ!!! ฉันบอกให้ปล่อยไง”
“อย่ามาทำเป็นเล่นตัวไปหน่อยเลย จะเอาเท่าไหร่ก็ว่ามาฉันยินดีจ่าย”
“ก็บอกแล้วไงว่าไม่ใช่ผู้หญิงขายตัว นี่แกฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องหรือไง”
“จะไปกันดีดีหรือจะต้องให้ออกแรง ห๊ะ!!!”
“ปล่อย!!! ก็บอกให้ปล่อยไง!!!” พระพายออกแรงยื้อยุดฉุดกระชากอยู่กับผู้ชายร่างใหญ่ที่หน้าห้องน้ำ เธอผิดเองที่มาเข้าห้องน้ำคนเดียวเพราะคิดน้อยไปหน่อยว่าจะไม่เกิดอะไรขึ้น แต่มันกลับไม่เป็นแบบนั้นดันมีคนเมาเข้ามาดักหน้าเธอและพยายามฉุดเธออย่างที่เป็นอยู่
พระพายพยายามร้องขอความช่วยเหลือแต่กลับไม่มีใครสนใจเลยเพราะคิดว่าเป็นเรื่องของผัวเมียตามที่ผู้ชายคนนี้บอกจึงไม่อยากเข้ามายุ่ง ระหว่างที่พระพายพยายามแกะมือของผู้ชายที่จับแขนเธออยู่ออกก็มีมืออีกมือยื่นเข้ามาจับแขนของผู้ชายคนนั้นพร้อมกับน้ำเสียงเข้มที่เอ่ยออกมา
“ปล่อยเธอ!!!”