ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“ยัยเลิฟ ยัยเลิฟ” เสียงเคาะประตูดังขึ้นพร้อมกับเสียงของข้าวหอมดังขึ้น แต่เดี๋ยวนะ นี่มันบ้านฉัน
“มาได้ยังไง” ฉันที่รีบลุกขึ้นมาเปิดประตูห้องก็ถามขึ้นด้วยความตกใจ
“จะมาชวนไปซื้อชุดนักศึกษาน่ะสิ ใครจะคิดว่าแกยังไม่ตื่น” ข้าวหอมพูดขึ้นอีกครั้งก่อนจะดันตัวฉันให้ถอยห่างประตูและเดินเข้ามาในห้อง
“ฉันยังง่วงอยู่เลย” ฉันว่าขึ้นเพราะเมื่อคืนกว่าจะนอนก็เกือบเช้า
“รีบไปอาบน้ำเฮียปั้นรออยู่ด้านล่าง”
“เขามาด้วยหรอ” ฉันถามขึ้นด้วยอาการตกใจเพราะปกติเขาเคยพาข้าวหอมมาบ้านฉันซะที่ไหนล่ะ
“ใช่ ! แกไปอาบน้ำได้แล้ว ฉันจะลงไปรอด้านล่างให้ไวด้วย” ยัยข้าวหอมพูดทิ้งท้ายไว้ก่อนจะออกจากห้องของฉันไป
นั่นทำให้ฉันรีบตรงเข้ามาอาบน้ำ เอาจริงๆนี่ใกล้แล้วที่มหาวิทยาลัยจะเปิดแต่ฉันยังไม่เตรียมตัวซื้อของอะไรเลย ไม่น่ารับปากกับคุณแม่ว่าจะหาซื้อเอาเลย ไม่งั้นนะตอนนี้คุณแม่คงเตรียมพร้อมไว้ให้หมดแล้ว
“แม่ฉันล่ะ” ฉันที่ลงถึงด้านล่างของบ้านก็ถามขึ้นทันที
“แม่แกออกไปเปิดร้านตั้งแต่ฉันมาแล้ว” ข้าวหอมตอบกลับอีกครั้งก่อนที่เราจะออกจากบ้านกัน
ซึ่งถ้าถามว่าคุณแม่ของฉันเปิดร้านอะไร ก็ร้านดอกไม้นี่แหละเพราะคุณแม่ของฉันชอบจัดดอกไม้มากๆ
“โอเค งั้นไปกัน”
“ยัยเลิฟไปนั่งด้านหน้า ฉันปวดหัวจะเอนหลังสักหน่อย” ฉันหยุดชะงักทันทีเมื่อข้าวหอมพูดขึ้น
“ด้านหน้าก็เอนได้ แกไปนั่งเลย” ฉันพูดขึ้นแต่นั่นไม่เป็นผลเพราะตอนนี้เฮียปั้นเดินตรงมาทางฉันก่อนจะเปิดประตูรถด้านหน้าและดันฉันให้เข้าไปนั่ง
“นั่งตรงนี้” เฮียปั้นพูดขึ้นทันทีก่อนจะเดินอ้อมไปฝั่งคนขับ
ให้ตาย ! แล้วทำไมฉันต้องมานั่งด้านหน้าแบบนี้ด้วย
“จะไปซื้อที่ไหน” เฮียปั้นถามขึ้น นั่นทำให้ฉันหันไปมองด้านหลังที่ตอนนี้ยัยข้าวหอมนอนหลับคอพับไปแล้ว
“ที่ไหนมีขายบ้างคะ พอดีเลิฟไม่ค่อยรู้” ฉันพูดขึ้นตามตรงเพราะปกติแล้วคุณแม่จะเป็นคนจัดการให้ตลอด
“ห้างแล้วกันน่าจะมี”
“งั้นห้างก็ได้ค่ะ”
“แบบนี้ยาวไปหรือเปล่าเลิฟ สั้นกว่านี้นิดหนึ่งเหนือเข่าขึ้นมาโอเคเลยนะ” ข้าวหอมพูดขึ้นพร้อมทาบกระโปรงกับฉันแต่ไม่รู้สิตัวที่ข้าวหอมเอามาทาบให้มันดูสั้นยังไงไม่รู้
“ฉันว่ามันสั้นไปนะ” ฉันพูดทันทีเพราะถ้าเป็นชุดนักเรียนหรือชุดมหาลัยแบบนี้ สั้นเกินก็ใช่ว่าจะเหมาะ
“ไม่สั้นหรอก เอาความยาวเท่านี้แล้วกัน” ข้าวหอมพูดขึ้นอีกครั้ง
“สั้นไป” แต่แล้วเสียงของเฮียปั้นก็ดังขึ้นตอนที่ข้าวหอมกำลังจะส่งกระโปรงนักศึกษาทั้งหมดให้พนักงานขาย
“สั้นตรงไหนเฮีย พอดีจะตาย” ข้าวหอมมุ่ยหน้าพร้อมกับถามเฮียปั้นด้วยความไม่พอใจ
“ถ้ากับข้าวหอมเฮียว่าโอเคแต่ถ้ากำลังเธอฉันว่ามันสั้นไป” ประโยคแรกพูดกับข้าวหอม ส่วนประโยคที่สองหันมาพูดกับฉัน
“แอบหวงใช่ไหม นี่เพื่อนข้าวหอมนะเฮียปั้น” ข้าวหอมพูดขึ้นอีกครั้งพร้อมดึงฉันถอยห่างจากเฮียปั้น
“ฉันว่าสั้นไปเหมือนที่เฮียปั้นบอกนั่นแหละ เอายาวกว่านี้หน่อยสามตัวนะคะ” ฉันบอกกับพนักงานขายทันทีเพราะส่วนตัวแล้วฉันก็ไม่ชอบใส่กระโปรงสั่นเหมือนกัน
เรามัวแต่ยืนเถียงกันเรื่องกระโปรงนานมาก ส่วนเรื่องเสื้อไม่มีปัญหาเพราะเราเลือกแบบที่พอดีตัวและไม่รัดเกินไป
“ฉันว่าจะไปดูหนัง แกจะไปกับฉันหรือเปล่า” ข้าวหอมถามขึ้นอีกครั้งพร้อมกับกดโทรศัพท์ไปด้วย
“เรื่องอะไรล่ะ” ฉันถามกลับทันทีเพราะข้าวหอมนี่คอหนังผีชัดๆต่างกับฉันที่ไม่ชอบเป็นที่สุด
“ร่างทรง” นั่นไง ได้ยินมาว่าเรื่องนี้น่ากลัวมากๆ
“ไม่ไปดีกว่า ฉันกลัวอะแกก็รู้” ฉันตอบกลับไปตามตรงพร้อมยกมือขึ้นปฏิเสธ
“งั้นเฮียพาเลิฟมันกลับด้วยนะเดี๋ยวข้าวกลับเอง” ข้าวหอมพูดจบก็เดินแยกออกไปทันที ไม่รอให้ฉันพูดหรือคัดค้านอะไร
“เดี๋ยวสิ…ข้าวหอม จะทิ้งกันแบบนี้เลยหรือไง” ฉันตะโกนขึ้นแต่ก็ไร้วี่แววคนที่เดินออกไปจะสนใจ นั่นทำให้ฉันหันมาสนใจเฮียปั้นอีกครั้ง
“จะไปไหนหรือเปล่า ฉันว่างพาไปได้” เฮียปั้นถามขึ้นพร้อมกับดึงถุงชุดนักศึกษาที่ฉันถือไว้ในมือไปถือ
“อ๊ะ”
“โทษที ดึงแรงไปหน่อย”
“หนูถือเองได้ค่ะ” ฉันพูดขึ้นเพราะถุงแค่สองสามใบไม่ได้หนักอะไรสำหรับฉันเลย
“สรุปอยากไปไหนหรือเปล่า” ให้ตาย เขาเมินคำพูดของฉันพร้อมถามคำถามใหม่
โอเคในเมื่อเขาอยากถือฉันก็จะปล่อยเลยตามเลยแล้วกันเพราะคิดๆดูแล้ว เขาเป็นคนที่อยากทำอะไรก็จะทำให้ได้เหมือนกับตอนนี้
“ไม่อยากค่ะ” เพราะฉันไม่มีแพลนจะไปไหนอยู่แล้ว ฉันออกมาเพราะซื้อชุดนักศึกษา ซื้อเสร็จก็ไม่รู้จะทำอะไรต่อ
“แต่ฉันอยากไปที่หนึ่ง” ฉันหันหน้าไปมองเฮียปั้นทันทีเมื่อเขาพูดขึ้น
“ก็ไปสิคะ แยกกันตรงนี้เลิฟกลับเองได้” ฉันพูดขึ้นทันทีเพราะฉันไม่ได้อยากให้เขาไปส่ง ภาพจำวันก่อนยังตราตรึงในใจของฉันอยู่เลย
“ฉันหมายถึงฉันอยากไปกับเธอ”
“ทำไมถึงอยากไปกับเลิฟคะ”
“ก็อยากให้เธอช่วยตัดสินใจ”
“ไปที่ไหนคะ ลองว่ามาก่อน” ฉันถามขึ้นทันทีเพราะถ้าเขาต้องการให้ฉันช่วยตัดสินใจก็คงมีเรื่องอะไรอยู่สักอย่าง
“ในนี้แต่อยู่อีกชั้น” เฮียปั้นตอบกลับมา
“แล้วจะพูดเหมือนอยู่ที่อื่นทำไม” ฉันบ่นพึมพำกับตัวเองเพราะสิ่งที่เขาพูดมันเหมือนอยู่ไกลจากที่นี่
“ขี้บ่นว่ะ” ให้ตายเขาได้ยินได้ยังไงกัน
หลังจากนั้นเขาก็จับมือฉันให้เดินตามมาทันทีซึ่งร้านที่เขาพาฉันมานั่นคือร้านเพชร
หรูหราหมาเห่ามากพูดเลย
“ถ้าจะซื้อให้ใครสักคน เธอว่าเส้นไหนเหมาะ” เขาถามฉันขึ้นทันทีเมื่อเราทั้งคู่เดินมาหยุดที่มุมสร้อย
“จะซื้อให้ใครคะ หนูจะได้ดูถูกประมาณว่าอายุเท่าไหร่” ฉันถามขึ้นเพราะการซื้อของให้ใคร นั่นก็ต้องดูอายุของเขา รสนิยม ความชอบ
“ก็เท่าเธอ” ฉันพยักหน้ารับเป็นอันเข้าใจทันทีก่อนจะเดินดูสร้อยเพชรที่โชว์เรียงกันอยู่
ถ้าคนอายุเท่าฉันก็หนีไม่พ้นข้าวหอมหรืออาจจะเป็นสาวๆของเขา
“เส้นนี้ดีไหมคะ” ฉันถามขึ้นทันทีพร้อมหยุดอยู่ตรงหน้าสร้อยเพชรเส้นเล็กๆที่ประดับด้วยเพชรรูปหัวใจ มันดูเรียบๆสวยงามเหมาะกับคนอายุประมาณฉันและที่แน่ๆถ้าอยู่บนคอผู้หญิงแล้วก็คงจะเหมาะมากเหมือนกัน
“อืม สวยดี งั้นเอาเส้นนี้ครับ” เฮียปั้นบอกพนักงานทันทีโดยไม่คิดลังเลอะไรเลย
“ไม่ต้องใส่กล่องครับ ผมขอเลย” เฮียปั้นพูดขึ้นอีกครั้งก่อนจะรับสร้อยมาจากพนักงานขาย
“หันหลังหน่อย” เฮียปั้นพูดขึ้นพร้อมกับขยับชิดตัวของฉันและยืนซ้อนหลังฉัน
“หันทำไมคะ” ฉันก็ยังยืนอยู่ที่เดิมเพราะไม่รู้ว่าเขาจะให้หันไปเพื่ออะไร
“หันเถอะน่า” เฮียปั้นเริ่มขึ้นเสียงก่อนจะจับฉันให้หันหลังพร้อมกับสร้อยเพชรจะถูกวางลงบนคอของฉัน
“จองไว้แล้ว”
“คะ”
“ฉันบอกว่าฉันจองเธอไว้แล้ว”
❤️
แอบหวงก็แล้วยังจะแอบจองลูกสาวฉันอีก
ตอนนี้ยังแค่น้ำจิ้ม รอมหาลัยเปิดก่อน !