“ไปแล้วจริงๆนะเฮียปั้น” ฉันถามขึ้นทันทีเพราะตอนนี้ฉันรู้สึกกลัวมาก เกิดมาอายุขนาดนี้ไม่เคยเจอเรื่องน่ากลัวอะไรเท่านี้มาก่อน
ตั้งแต่เฮียปั้นวิ่งออกไป ฉันก็ได้แต่นั่งจับเข่าร้องไห้เพราะความกลัว
“พวกมันไปหมดแล้ว ตอนนี้เธอต้องหยุดร้องไห้ ฉันจะได้ไปส่ง” เฮียปั้นพูดขึ้นพร้อมกับมือหนาที่ปาดคราบน้ำตาออกจากใบหน้าของฉัน
ฉันก็อยากจะหยุดแต่ตอนนี้มันหยุดไม่ได้
“จะรู้ได้ยังไงว่ามันไม่ได้แอบหรือดักรอเรา” ฉันถามขึ้นด้วยความกลัว
“เธอมีฉันอยู่ตรงนี้ทั้งคนเธอจะกลัวอะไรวะ” เฮียปั้นพูดขึ้นด้วยท่าทางไม่พอใจและเอาดิ้นดันกระพุ้งแก้มด้วยท่าทางหงุดหงิด
“เลิฟแค่กลัว” ตอนนี้ฉันกำลังสับสนกับตัวเองว่าที่กลัวคือพวกมันหรือคนตรงหน้ากันแน่
“อยู่กับฉันเธอจะปลอดภัย จำไว้” เฮียปั้นพูดขึ้นอีกครั้งก่อนจะจับมือฉันพาเดินออกมาที่รถ
เขาเดินนำหน้าฉันด้วยท่าทีสบายๆต่างจากฉันที่เอาแต่หันซ้ายขวาด้วยความกังวลและความกลัว
“เลิกกลัวได้แล้ว พวกมันไปหมดแล้ว” เขาหยุดเดินแล้วหันหน้ามาพูดกับฉัน
“เลิฟกลัวจริงๆไม่เคยเจออะไรแบบนี้ มันเลยอดกลัวไม่ได้” ฉันพูดอธิบายเพื่อหวังเขาจะเข้าใจ
หมับ !
เฮียปั้นดึงฉันเข้าไปกอดก่อนจะลูบหัวของฉันเบาๆเหมือนว่าเขากำลังปลอบฉันอยู่
“หยุดกลัวได้แล้ว ถ้าฉันบอกว่าพวกมันไปแล้วนั่นคือไปแล้วจริงๆ” ให้ตาย ตอนนี้รู้สึกอบอุ่นกับคำพูดเขาเอาเสียดื้อๆ ความกลัวที่มีอยู่ในใจค่อยๆหลอมละลายราวกับน้ำแข็ง
“งั้นไปส่งหนูที่บ้านเลยนะ ตอนนี้เย็นแล้ว” ฉันที่สบายใจขึ้นก็พูดขึ้นก่อนที่เขาจับจะจับมือฉันเดินนำมาที่รถอีกครั้ง
หมวกกันน็อกใบเดิมถูกสวมให้เหมือนเดิมโดยที่ครั้งนี้ฉันไม่ขัดขืนอะไร
จากตอนแรกที่บอกว่าเขาน่ากลัว มันก็น่ากลัวจริงๆถ้าอยู่ใกล้ผู้ชายแบบเขาแต่ความอบอุ่นที่เขาแสดงออกมามันทำให้ฉันรู้สึกอีกแบบ
“กอดเอวฉันไว้เดี๋ยวตก” ฉันทำตามที่เขาพูดอย่างว่าง่ายเพราะก่อนออกจากบ้านคนตัวสูงแบบเขาดันแกล้งบิดรถให้ฉันตกใจและเผลอกอดเอวของเขา
รถบิ๊กไบค์คันโตแล่นผ่านถนนที่การจราจรติดขัดอย่างแน่นหนาในช่วงเย็น ฉันกอดเอวของเฮียปั้นแน่นเพราะความกลัวต่อให้ขับไม่เร็วแต่เวลาที่รถวิ่งซิกแซกไปทางเลนกลางมันทำให้ฉันกลัวไม่น้อย
“ขอบคุณที่มาส่งนะคะ” ฉันพูดขึ้นพร้อมกับแกะหมวกกันน็อกคืนเขาเมื่อรถจอดสนิทหน้าบ้าน
“ถ้าอยากให้มารับก็บอก” เฮียปั้นพูดขึ้นอีกครั้ง นั่นทำให้ฉันเอียงหน้าด้วยความสงสัย
“ทำไมเลิฟต้องอยากคะ” ฉันถามกลับเพราะความงุนงง
“ก็เผื่อเธออยากไปเล่นกับข้าวหอม บอกให้ฉันมารับได้” เขาพูดขึ้นอีกครั้ง นั่นทำให้ฉันเข้าใจทันทีว่าอย่างน้อยๆเขาก็คงจะหวังดี
“ไม่รบกวนหรอกค่ะ เลิฟนั่งแท็กซี่ไปเองได้” ฉันตอบกลับไปเพราะฉันคงไม่รบกวนเขาอีกแล้ว
“ไปกับฉันปลอดภัยกว่าแท็กซี่ ถ้าจะไปบ้านฉันก็บอกเพราะถ้าฉันเห็นเธอนั่งแท็กซี่ไปเมื่อไหร่ เธอโดนฉันแน่” เฮียปั้นที่คร่อมรถอยู่พูดขึ้นและก่อนที่เขาพูดจบก็ชี้นิ้วใส่ฉันเหมือนเป็นการสั่ง
แล้วฉันต้องเชื่อเขาไหมอะ ?
“โดนอะไรคะ เฮียปั้นจะทำอะไรหนู” ฉันถามขึ้นด้วยความอยากรู้
“อยากรู้หรอ” ฉันพยักหน้ารัวๆเพราะตอนนี้ในหัวของฉันมันเต็มไปด้วยความอยากรู้
“ถ้าอยากรู้ก็มาใกล้ๆ” นั่นทำให้ฉันขยับตัวเข้าไปใกล้เขาทันที
จุ๊บ !
“อ๊ะ” ฉันร้องขึ้นทันทีเมื่อแก้มด้านซ้ายโดนเฮียปั้นหอมเข้าเต็มๆและนั่นก็ทำให้ฉันถอยหนีอย่างอัตโนมัติ
“ถ้าเธอไม่ทำตามที่ฉันสั่ง ครั้งต่อไปเธอโดนมากกว่านี้แน่” เฮียปั้นพูดขึ้นอีกครั้งก่อนจะขับรถออกไป เหลือเพียงแค่ฉันที่กำลังยืนงงกับเหตุการณ์เมื่อกี้
“มันแค่ชนกันแหละ เขาไม่ได้ตั้งใจหรอก” ฉันพูดขึ้นเพื่อปลอบใจตัวเองเพราะเมื่อกี้ฉันเป็นคนขยับเข้าไปและเขาก็คงหันหน้ามาพอดี มันเลยทำให้แก้มของฉันและปากของเขามันบังเอิญชนกัน
ใช่แหละเนอะ
“กลับมาแล้วค่ะ” ฉันพูดขึ้นพร้อมวิ่งตรงไปหาคุณแม่ในครัว
“ใครมาส่งทำไมลูกสาวแม่ยืนคุยนานเชียว” น้ำเสียงหวานใจดีของคุณแม่ถามขึ้นทันที
“เฮียปั้นพี่ชายข้าวของหอมมาส่งค่ะ” ฉันตอบกลับไปตามตรงเพราะกับคุณแม่ไม่มีอะไรต้องโกหก
“เฮียปั้น” คุณแม่พูดขึ้นอีกครั้ง
“อ๋อ...ก็เฮียปั้นเขาบอกให้เลิฟเรียกเขาว่าเฮียเหมือนข้าวหอม สงสัยคงเอ็นดูเลิฟเหมือนน้องสาว” ฉันพูดขึ้นอีกครั้ง ก็นะ ตอนนั้นเขาเป็นคนบอกฉันเองว่าฉันเป็นเพื่อนสนิทข้าวหอม
“ฮ่าๆ แล้วทำไมวันนี้เฮียปั้นเขามาส่งลูกสาวแม่ได้ล่ะ” คุณแม่ถามขึ้นอีกครั้งพร้อมกับมือที่กำลังทำอาหารอยู่ด้วย
“ก็เฮียปั้นเขากำลังจะออกมาข้างนอกพอดีเลยมาส่งเลิฟด้วย” ฉันพูดขึ้นและที่สำคัญฉันคงไม่บอกเรื่องเมื่อกี้ที่โดนคู่อริเฮียปั้นตามให้คุณแม่รู้หรอกนะ ไม่งั้นคงเป็นห่วงฉันไม่ได้ทำอะไรแน่ๆ
“โอเคแค่ทางผ่านเนอะ งั้นลูกสาวแม่ไปอาบน้ำได้แล้วจะได้ลงมากินข้าว” ฉันพยักหน้ารับทันทีก่อนจะเดินขึ้นมายังชั้นสองของบ้าน
บ้านของฉันไม่ใหญ่โตเหมือนบ้านข้าวหอมเพราะบ้านฉันเป็นบ้านสองชั้นธรรมดาในหมู่บ้านหนึ่งที่ราคาไม่ได้สูงมาก อีกอย่างฉันกับแม่ก็อยู่กันแค่สองคนจึงไม่รู้มีบ้านหลังใหญ่ไว้ทำไมและถ้าถามถึงพ่อฉันก็ไม่รู้เหมือนกันเพราะไม่เคยทราบข่าวคราวเลยแต่ก็ไม่เป็นไรเพราะต่อให้คุณแม่ของฉันเลี้ยงฉันมาคนเดียว ฉันก็ได้รับความรักเต็มที่ไม่ได้ขาดอะไรเลย
“ถึงบ้านแล้วนะข้าวหอม” ฉันพูดขึ้นทันทีเมื่อข้าวหอมรับสาย
“เป็นยังไงบ้าง กลับบ้านกับเฮีย” ข้าวหอมถามขึ้น ถ้าถามว่าเป็นไงบ้างนะหรอ
“แย่อะดิเพราะดันเจอคู่อริเฮียปั้นวิ่งตาม ฉันกลัวจนร้องไห้เลยนะ” ฉันเล่าให้ข้าวหอมฟังละเอียดยิบ
“จริงไหมเนี่ย เดี๋ยวเฮียกลับมา ฉันจะจัดการให้แกเอง” ข้าวหอมพูดขึ้นด้วยท่าทางจริงจัง
“ไม่เป็นไรหรอก ฉันไม่ได้เป็นอะไรเลย” แค่ร้องไห้เท่านั้นเองกับกลัวนิดๆ
“ไม่ได้หรอก ขืนแม่แกรู้เข้านะแกอดมาบ้านฉันแน่ๆ” ข้าวหอมพูดขึ้นอีกครั้ง ซึ่งฉันก็คิดแบบนั้น การเก็บให้มิดเป็นเรื่องที่ดีที่สุด
“ฮ่าๆ งั้นแค่นี้ก่อนนะ ฉันไปอาบน้ำก่อนจะลงไปกินข้าวแล้วหิวมาก” ฉันพูดขึ้นอีกครั้ง
“มีอะไรก็โทรมานะ”
“โอเค” ฉันวางสายจากข้าวหอมก็เปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมอาบน้ำทันที
Pan ได้เพิ่มคุณจากหมายเลขโทรศัพท์
Pan : ถึงแล้ว
เอ๊ะ ปัน ปั้น เฮียปั้นอะหรอ แล้วเขาเอาเบอร์ฉันมาจากไหนล่ะ ทำไมถึงเพิ่มเพื่อนได้แบบนี้
ไม่ทันให้ความสงสัยเกิดกับตัวเองนานนั่นทำให้ฉันกดเข้าแอปพลิเคชันสีเขียวชื่อดังทันที
Love : ?
Pan : ถึงบ้านเพื่อนแล้ว
❤️
เอ๊ะ คุณปั้นคะ บอกลูกสาวฉันทำไม
แล้วแอบหอมแก้มลูกสาวฉันทำไม !