“กลับยังไงที่บอกว่ากลับเองได้” ผมถามขึ้นทันที เมื่อได้ยินเสียงน้องสาวของผมอย่างยัยข้าวหอมตะโกนว่าให้ไปส่งเพื่อนของเธอ แน่นอนว่ามันเข้าทางผมมากเพราะผมตั้งใจลงมาจากด้านบนให้ตรงกับเวลาที่เธอใกล้จะกลับ
“แท็กซี่ค่ะ” คนตัวเล็กที่ชื่อว่าเลิฟและขึ้นชื่อว่าเป็นคนที่ผมชอบมากตอบกลับมา
“ไปกับฉันปลอดภัยกว่าแท็กซี่” ผมพูดขึ้นอีกครั้งและไม่รอให้เธอปฏิเสธก็จับมือของเธอเดินออกจากบ้านมาทันที
“เดี๋ยวฉันไปส่ง” ผมพูดขึ้นเมื่อเดินมาถึงรถพร้อมกับหยิบหมวกกันน็อกของตัวเองสวมให้เลิฟ
“อย่าถอยหนีแค่ใส่หมวก” ผมพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงดุกว่าเดิมเพราะวันนี้เธอขยับตัวถอยหนีผมสองรอบแล้ว
“หนูกลับเองได้” เธอพูดขึ้นอีกครั้งและไม่วายที่จะใช้มือพยายามจะขัดขวางผมที่กำลังจะใส่หมวกให้
“อย่าดื้อ บอกว่าจะไปส่งก็คือไปส่ง” ผมพูดขึ้นอีกครั้งก่อนจะติดเข็มขัดรัดหมวกให้เธอ
“ขับช้าๆนะคะ” คนตัวเล็กพูดขึ้นแล้วขึ้นรถบิ๊กไบค์คันโตของผมเมื่อรู้ว่าตัวเองไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ อีกอย่างต่อให้เธอปฏิเสธไปก็เท่านั้นเพราะผมจะไปส่งให้ได้
บุญวาสนารถแท้ๆ ผู้หญิงคนแรกที่ได้นั่งรถของผมก็เป็นคนที่ผมชอบ เชื่อเถอะว่าแม้แต่ยัยข้าวหอมหรือแม่ก็ไม่เคยนั่งคันนี้
“กอดเอวฉันไว้” ผมพูดขึ้นพร้อมกับเอื้อมมือไปจับมือของเธออย่างวิสาสะ แน่นอนว่าเธอสะดุ้งและรีบดึงมือกลับ
ท่าทางของเธอ ยิ่งกว่ารังเกียจกันเสียอีก
“ถ้าเธอไม่จับก็ระวังตกแล้วกัน” ผมพูดเสร็จก็แกล้งเป็นบิดรถหนึ่งทีให้มันกระชากจนเธอต้องรีบคว้าเอวของผมไว้
“อย่าแกล้งสิ เลิฟกลัวนะ” คนตัวเล็กพูดขึ้นแต่คราวนี้เธอกลับไม่ดึงมือออกไป สองแขนเรียวกอดเข้าที่เอวของผมเบาๆ
“แวะซื้อของก่อน ทางผ่านพอดี” ผมจอดรถพร้อมกับพูดขึ้น ตอนนี้เราอยู่แถวตลาดนัดแห่งหนึ่ง ใกล้ๆโรงเรียนผมซึ่งเป็นร้านขายอะไหล่รถ
“อย่าช้านะคะ เลิฟต้องรีบกลับบ้าน” คนตัวเล็กพูดขึ้นทันที
“รอฉันตรงนี้” ผมพูดขึ้นอีกครั้งก่อนจะเดินตรงเข้ามาในร้านขายอะไหล่รถ ซื้อของที่ตัวเองต้องการก่อนจะออกมาหาคนตัวเล็กที่ยืนอยู่หน้าร้าน
“เห้ย ! นั่นมันไอ้ปั้น” เสียงของใครสักคนตะโกนขึ้นจนผมต้องหันกลับไปมอง นั่นให้ผมจับมือคนตัวเล็กไว้แน่น
“วิ่งดิวะ รอให้พวกมันมากระทืบหรือไง” ผมพูดขึ้นอย่างหัวเสียเพราะไม่คิดว่าจะเจอพวกมันที่นี่
“ทำไมเลิฟต้องวิ่ง ในเมื่อเลิฟไม่ได้มีปัญหากับพวกเขา” คนตัวเล็กตอบกลับมาแต่นี่ไม่ใช่เวลาที่เธอจะมาถามอะไรแบบนี้
“แค่มันเห็นเธออยู่กับฉัน เธอก็คือปัญหาของมัน” ผมพูดขึ้นอีกครั้งก่อนจะลากเธอให้วิ่งตาม ในเมื่อผมจับมือเธอไว้แล้ว ถ้าเธอจะรั้งไม่วิ่งตามผมก็ไม่ได้เพราะผมแรงเยอะกว่าและที่สำคัญผมก็ไม่ปล่อยให้เธอยืนตรงนี้หรอก
“อ๊ะ…วิ่งไปไหนคะ” เสียงคนตัวเล็กถามขึ้นอีกครั้งแต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่ผมจะมาอธิบายอะไรกับเธอ
“ฉันอธิบายให้เธอฟังตอนนี้ไม่ได้” ผมพูดขึ้นพร้อมกับพยายามพาเธอวิ่งเข้าซอยต่างๆที่คิดว่ามันคงจะหนีพวกมันพ้น
“เห้ย ! หยุดนะโว้ยไอ้เหี้ยปั้น” เสียงมันตะโกนตามหลังดังขึ้นมา
ผมที่จับมือคนตัวเล็กวิ่งมาเรื่อยๆ เมื่อเห็นว่าที่ตรงนี้พอจะหลบพวกมันได้ก็จัดการพาเธอหลบเข้าหลังตู้ขนาดใหญ่ตรงนี้
“เรากำลังหนีคู่อริเฮียปั้นอยู่ใช่ไหม” คนตัวเล็กมองหน้าผมพร้อมกับถามขึ้น สีหน้าของเธอแสดงออกว่ากำลังกังวลอย่างเห็นได้ชัด
“ใช่ ฉันไม่คิดว่าจะเจอพวกมัน” ผมพูดขึ้นพร้อมยกมือปาดเหงื่อที่ไหลลงมาตามกรอบหน้า
“จะไปไหน” ผมถามขึ้นพร้อมคว้าคนตัวเล็กไว้ทันทีเพราะเธอทำท่าจะลุกและเดินออกไป
“คู่อริเฮียปั้นไม่เกี่ยวกับหนู” คนตัวเล็กพูดขึ้นอีกครั้ง
“ถ้ามันเห็นเธอ มันเล่นเธอแน่” เพราะผมมั่นใจดี ไอ้พวกนี้มันไม่สนไม่แคร์หรอกว่าเป็นใครแต่ถ้าคนคนนั้นอยู่กับผมคนที่มันเกลียด มันก็พร้อมจะจัดการเพราะมันรู้ว่าคือจุดอ่อนของผม
“แล้วจะทำยังไง ต้องแอบแบบนี้อีกนานแค่ไหน” คนตัวเล็กพูดขึ้นอีกครั้ง สีหน้ากังวลแสดงขึ้นบนใบหน้าสวยชัดกว่าเก่า
“เดี๋ยวฉันออกไปดู เธอรออยู่ตรงนี้ห้ามออกมาเด็ดขาด” ผมพูดขึ้นพร้อมกำชับกับเธอไว้อย่างดี
แน่นอนว่าทันทีเมื่อผมออกมา ผมเห็นพวกมันยืนอยู่ นั่นทำให้ผมเลือกที่จะวิ่งต่อและทิ้งเธอแอบไว้แบบนั้น
“ไอ้เหี้ยปั้น หยุดนะโว้ย ยังไงวันนี้มึงโดนพวกกูแน่” เสียงของพวกมันตะโกนขึ้นพร้อมกับผมที่กำลังวิ่งหนีพวกมันไปทางอื่น เมื่อเห็นว่าวิ่งจากที่แอบของคนตัวเล็กผมก็หยุดวิ่ง
“พอแล้วหรอวะไอ้ปั้น” เสียงไอ้แชมป์เพื่อนของผมที่พึ่งมีเรื่องขึ้นโรงพักกับผมเมื่อกลางวันพูดขึ้น
“เออพอแล้ว พวกมึงไปได้แล้วกูไปรับเลิฟก่อน” ผมพูดขึ้นอีกครั้งก่อนจะไล่ให้ไอ้แชมป์กับเพื่อนอีกสองสามคนเดินออกไปทางอื่น
จริงๆมันไม่ใช่คู่อริของผมแต่มันเป็นเพื่อนของผมที่ผมให้พวกมันแกล้งมาเป็นคู่อริของผมวิ่งไล่ตามผมกับเลิฟ หลังจากสั่งพวกมันให้แยกย้ายผมก็รีบวิ่งกลับมายังที่เลิฟแอบ
“เลิฟ ฉันอยู่นี่” ผมพูดขึ้นพร้อมกับเดินเข้ามาหาเธอ ตอนนี้คนตัวเล็กของผมทำนั่งจับเข่าร้องไห้
“เฮียปั้นวิ่งไปไหน ไม่รู้หรือไงว่าเลิฟกลัว” ให้ตายไม่คิดเลยว่าจะออกมาเป็นแบบนี้
ที่ผมเรียกมันพวกมันมาทำแบบนี้เพื่อที่จะโชว์พาวว่าผมปกป้องเธอได้แต่เมื่อเห็นเธอร้องไห้แบบนี้ แม่ง กูทำส้นตีนอะไรวะ
“ฉันวิ่งล่อมันไปทางอื่น มันจะได้ไม่เห็นเธอ” ผมพูดขึ้นอีกครั้งพร้อมดึงเธอเข้ามากอด
ยิ่งเห็นน้ำตาก็ยิ่งรู้สึกผิดและมันก็เป็นสิ่งที่เน้นย้ำทันทีว่าที่ผมทำอยู่มันไม่ถูกที่อยากโชว์พาวปกป้องสาวด้วยแผนการเหี้ยๆ
“พวกมันไม่ตามมาแล้วใช่ไหม เลิฟกลัว ไม่เคยเจอแบบนี้ กลัวจริงๆ” คนตัวเล็กพูดขึ้นอีกครั้งและยังคงร้องไห้อยู่ในอ้อมกอดของผม
“ไม่ต้องกลัว อยู่กับฉันเธอจะปลอดภัย” ผมพูดขึ้นพร้อมกับลูบหัวเธอไปด้วยเพื่อเป็นการปลอบประโลม
รู้สึกผิดฉิบหาย !
“หยุดร้องพวกมันไปหมดแล้ว” ผมจับใบหน้าสวยให้เงยขึ้นพร้อมกับยกมือปาดคราบน้ำตาที่ตอนนี้เปรอะเปื้อนใบหน้าสวย
“ไปแล้วจริงๆนะเฮียปั้น”
“พวกมันไปหมดแล้ว ตอนนี้เธอต้องหยุดร้องไห้ ฉันจะได้ไปส่ง”
“จะรู้ได้ยังไงว่ามันไม่ได้แอบหรือดักรอเรา
“เธอมีฉันอยู่ตรงนี้ทั้งคนเธอจะกลัวอะไร”
❤️
เจ้าแผนการจริงๆ
เจอดันเจอลูกสาวอิฉันร้องไห้ใส่