เมียนักเลง | 10

2163 คำ
“ฉันถึงบ้านแล้ว” ผมพูดขึ้นทันทีเมื่อปลายสายรับโทรศัพท์ “บอกในแชทก็ได้ เฮียปั้นโทรหาเลิฟมีอะไรคะ” เสียงเจื้อยแจ้วของคนตัวเล็กถามกลับมาทำเอาผมยกยิ้มขึ้น “คิดถึงอยากได้ยินเสียง” “คิดถึงอะไรกันเฮียปั้น เลิฟไปอาบน้ำก่อนไม่คุยด้วยแล้ว” คนขี้เขินตอบกลับมาก่อนจะตัดสายไปในทันที ดูก็รู้ว่าอาการแบบนี้ต้องเขินจนหน้าขึ้นสีเป็นลูกตำลึงแน่ๆ ให้ตาย คิดแล้วก็อยากฟัดจนใจจะขาด “ได้ข่าวว่าพึ่งกลับมาจะไปไหนอีก” ป๊าถามขึ้นทันทีเมื่อผมกำลังจะก้าวขาออกจากประตูบ้าน “กินเหล้า” ผมตอบกลับไปตามตรงเพราะกับป๊าไม่มีอะไรต้องโกหก “จะไปก็รีบมาเดี๋ยวแม่ลงมาจะไม่ได้ไป” ผมยกยิ้มขึ้นทันทีกับคำพูดของป๊าเพราะป๊าเข้าใจผมที่สุด “ว่าแต่งานรับน้องปีนี้ป๊าจะไปหรือเปล่า” ผมถามขึ้นอีกครั้งเพราะมันใกล้จะถึงแล้วอีกสองสามวันนี้เอง “ไปสิอย่างป๊าเคยพลาดด้วยหรอ” ก็ไม่เคยพลาดสักปีนั่นแหละ “ลุงแบงค์ก็ไป ปั้นเลยมาถามป๊า” ลุงแบงค์ที่ผมหมายถึงก็คุณพ่อของไอ้เหี้ยแชมป์เพื่อนสนิทของผมนั่นแหละ “ป๊าก็ไปกับไอ้แบงค์นั่นแหละ วันนั้นก็หาพกอะไรไปดีๆเพราะมันต้องมีสถาบันอื่นมาป่วนอยู่แล้ว” ป๊าพูดขึ้นอีกครั้งซึ่งมันเป็นจริงตามที่ป๊าพูดเสมอ ทุกปีในงานรับน้องโรงเรียนของผมมันจะมีไอ้พวกสถาบันอื่นมาป่วนเสมอ “รู้อยู่พึ่งไปสอยไม้เบสบอลกับไอ้แชมป์มาใหม่” ผมตอบกลับไปทันที “ใหญ่ไปเอาอะไรที่เก็บไว้ที่ตัวได้” ป๊าพูดขึ้นอีกส่วนในมือก็ยกแก้วเหล้าขึ้นดื่ม “โอเคๆ งั้นปั้นไปก่อนนะนัดเพื่อนไว้” ผมพูดขึ้นอีกครั้งพร้อมกับเดินออกจากบ้านขืนอยู่คุยนานกว่านี้คุณแม่ลงมาก็ไม่ได้ไปกันพอดี เมื่อออกมาหน้าบ้าน ผมก็จัดการควบบิ๊กไบค์คันโตออกมาทันทีแต่อยู่ๆตาขวาก็ต้องกระตุกเพราะเหลือบมองเห็นไอ้รถมอเตอร์ไซต์สองคันที่ขับตามอยู่ด้านหลัง “จะเล่นกู รู้จักกูน้อยไปซะแล้ว” ผมสบถกับตัวเองก่อนจะขับรถไปที่เปลี่ยวกว่านี้เพราะท้องถนนตอนนี้เป็นถนนสายหลักไม่เหมาะกับการมีเรื่องเพราะการจราจรติดขัด หลังจากที่บิดรถนำพวกมันมา ผมก็จัดการจอดรถและยืนรอพวกมัน แน่นอนว่าผมทิ้งช่วงห่างไม่มากแต่ด้วยความเร็วที่เร็วกว่าของรถ ทำให้พวกมันก็มาช้ากว่าผมอยู่หลายนาที ท่อนไม้ที่ถูกทิ้งไว้ในโพรงป่า ถูกผมหยิบมาถือไว้ในมือเตรียมซัดไอ้พวกเวรนั่นเรียบร้อยแล้ว “คิดไว้ไม่มีผิดว่าต้องเป็นมึง” ผมพูดขึ้นพร้อมกับเดินตรงไปหาพวกมัน มาสองคันสามคน สำหรับผมถือว่าสบายๆ “กลัวกูหรือไง ถึงล่อกูมาถึงนี่” ไอ้เหี้ยโดมพูดขึ้นพร้อมทำกร่างเดินตรงมาหาผมเช่นกัน เชื่อผมเถอะ ที่มันกร่างได้ขนาดนี้เพราะมีพวก ไอ้เวรนี่ถ้าตัวๆกับผมก็หมา “อย่างกูนี่นะกลัวมึง ฝันเถอะไอ้สัส !” ผมพูดขึ้นพร้อมถ่มน้ำลายใส่มันเป็นการหาเรื่องหน่อยๆ บอกแล้วว่าผมมันสถุนหมา “อยู่คนเดียวแล้วทำปากดี ยังไงวันนี้มึงก็ไม่รอดหรอกไอ้เหี้ยปั้น” ไอ้โดมพูดขึ้นพร้อมพุ่งเข้ามาหาผมกันรวมถึงเพื่อนที่มากับมันอีกสามคน ผมที่เห็นแบบนั้นก็เอาไม้หน้าสามที่ถือแอบไว้ด้านหลังฟาดใส่ไอ้เหี้ยโดมเป็นคนแรก อั่ก ! ส่วนเพื่อนของมันก็จัดการพุ่งเข้าหาผมทันทีเมื่อเห็นว่าไอ้โดมล้มลง แน่นอนว่าผมหลบมันได้แต่กลับต้องหน้าชาเพราะหมัดของเพื่อนมันอีกคน “ไอ้สัส” ผมถ่มน้ำลายผสมเลือดที่อยู่ในปากลงพื้นอีกครั้งก่อนจะจัดการกับไอ้เวรสองตัวตรงหน้าเพราะลูกพี่ของมันอย่างไอ้โดมตอนนี้นอนกุมท้องตัวงออยู่ข้างๆตีนของผม “มึงเข้ามาไอ้สัส” ผมพูดขึ้นพร้อมกับจัดการเสยหน้าเพื่อนหรือลูกกระจ๊อกของไอ้เหี้ยโดมคนแรกพร้อมกับใช้สองตีนถีบมันให้ล้มลง ไม้หน้าสามที่อยู่ในมือก็จัดการฟาดอีกตัวที่เหลือทันที ตุบ ! อั่ก ! “อะ…ไอ้เหี้ยโดม” ผมเซถลาร้องขึ้นทันที เมื่ออยู่ๆก็โดนถีบจากด้านหลัง สองเท้าพยายามลุกขึ้นเพราะคนที่ทำผมเป็นไอ้เหี้ยโดม “อย่างมึงมันต้องเจอกู” ไอ้เหี้ยโดมพูดขึ้นพร้อมกับพุ่งมาหาผมอีกครั้ง ผมใช้จังหวะที่มันเผลอจัดการเสยหน้ามันพร้อมกับถีบมันให้ล้มลง ตอนนี้พวกมันทั้งสามคนนอนกองรวมกันเป็นปุ๋ยขยะหมัก สภาพสารรูปไม่ได้ดีนัก “กูถือว่านี่ยังไม่หนัก ถ้าพวกมึงไม่จบก็จัดมาอีก” ผมพูดขึ้นพร้อมใช้ไม้หน้าสามในมือให้ฟาดลงหน้าไอ้เหี้ยโดมอีกครั้งด้วยความหมั่นไส้ “มึงมันกระจอก” ไอ้เหี้ยพูดขึ้น “จะตายห่าอยู่แล้วปากยังดี วันนี้กูอารมณ์ดีเลยซัดพวกมึงไม่เยอะแต่ปากแบบมึงกูขออีกสักที” ผมพูดขึ้นเสร็จก็ใช้ตีนเตะเสยหน้าไอ้เหี้ยโดมอีกครั้งจนมันสลบแน่นิ่งไป ก่อนที่ผมจะขึ้นรถและขับออกไปยังร้านเหล้าของเฮียกรณ์รุ่นพี่ที่จบไปแล้ว “หน้าไปโดนเหี้ยไรวะไอ้ปั้น” ไอ้แชมป์ถามขึ้นทันทีเมื่อผมมาถึง “ไอ้เหี้ยโดม” ผมตอบกลับไปก่อนจะยกแก้วเหล้าตรงหน้าไอ้ปั้นเข้าปาก “มันตามมึงมาว่างั้น” ไอ้แชมป์ถามขึ้นต่อ “เออ แต่กูจัดการไปแล้ว มาสามคนแต่ทำส้นตีนอะไรกูไม่ได้อยู่ดี” ผมพูดขึ้นอีกครั้งเพราะพวกมันทำอะไรผมไม่ได้จริงๆ ถึงจะพลาดท่าอยู่บ้างแต่ไม่เสียท่านอนหายใจรวยรินอยู่ข้างถนนแบบพวกมันแน่ๆ “กูไปล้างหน้าก่อน แสบฉิบหาย” ผมพูดขึ้นอีกครั้งก่อนจะลุกตรงมาห้องน้ำ “ให้ตาย ไอ้เหี้ยโดมหน้ากู” ผมพูดขึ้นอีกครั้งเมื่อเห็นตัวเองในกระจก แผลเก่าพึ่งจะหายแผลใหม่มาอีกแล้ว คุณแม่คนสวยนางยักษ์ตัวน้อยๆของผมต้องบ่นอีกแน่ๆ “กูเอากล่องยามาให้ ไอ้แชมป์บอกมึงโดนเล่น” เฮียกรณ์ที่นั่งอยู่ที่โต๊ะพูดขึ้นเมื่อผมเดินกลับมา สำหรับเฮียกรณ์คนนี้เคยเป็นหัวโจกมาก่อนและเป็นรุ่นพี่ที่ผมกับไอ้แชมป์สนิทที่สุด ถึงจะจบมาแล้วแต่ทุกครั้งก็ยังไปมีเรื่องกับผมอยู่เสมอ “หึ พวกมันโดนกูเล่นว่ะเฮีย” ผมตอบกลับไปก่อนจะเปิดกล่องยาทำแผล ให้ตาย ถ้ามีคนทำแผลให้เหมือนวันก่อนก็คงจะดี “เหม่ออยู่นั่นแหละไอ้ปั้น มึงจะทำไหมแผลอะ” ไอ้แชมป์พูดขึ้นพร้อมส่งสำลีให้กับผม “ทำดิวะ” ผมตอบกลับพร้อมรับสำลีมาจากไอ้แชมป์และจัดการใส่ยาให้เรียบร้อย “แล้วคิดอะไรถึงออกมาดื่มร้านกูวันนี้” เจ้าของร้านถามขึ้นทันที “อยาก ทำไมหรือกูมาไม่ได้” ผมถามกลับไปเพราะที่มาก็อยากดื่มล้วนๆ “รู้อยู่ว่าเฮียไม่อยากให้กูกับไอ้ปั้นมาใช่ไหม” ไอ้แชมป์ที่นั่งข้างผมก็พูดขึ้นอีกครั้ง “เออดิไอ้พวกเหี้ย บ้านก็รวยมาทีไรแดกฟรีตลอดไอ้ส้นตีน” เฮียกรณ์พูดขึ้นด้วยท่าทางหัวเสียแต่มันก็เป็นแบบที่เฮียแกพูดจริงๆนั่นแหละ ผมกับไอ้เหี้ยแชมป์แดกฟรีทุกงานตั้งแต่ร้านเปิดใหม่ๆจนวันนี้ก็จวบจนเกือบปีไม่เคยจะเสียเงินสักบาท “เอาหน่า มีน้องรักอยู่สองคนมึงก็เลี้ยงหน่อยเฮีย” ผมพูดขึ้นอีกครั้ง “กูก็เลี้ยงตลอดไหม แล้วเรื่องงานรับน้องเป็นยังไงปีนี้” เฮียกรณ์ถามขึ้นอีกครั้ง “สาขาเรามันก็ต้องโหดเอาเรื่องหน่อยดิวะ ระดับหัวโจกเรียนช่างกลด้วย” ไอ้แชมป์พูดขึ้นและคนที่มันพูดถึงก็ผมนี่แหละ “โหดไปเดี๋ยวพวกแม่งกลัวหมด” ก็จริงเพราะทุกปีหลังจากรับน้องเสร็จ บางคนก็หายไปเลยเพราะความน่ากลัวของพวกรุ่นพี่ แต่มันก็น่ากลัวแค่วันแรกเพราะถ้าผ่านรับน้องมาได้ ทุกอย่างมันคือมิตรภาพคำว่าเพื่อน พี่น้องและที่สำคัญศักดิ์ศรีสถาบัน “พวกกูคิดไว้บ้างแล้ว รอไปแล้วกันเดี๋ยวก็รู้” ผมพูดขึ้นทันทีเพราะมันไม่ได้โหดอะไรมากมายหรอก “กูไปดูร้านก่อน พวกมึงก็นั่งแดกกันไปอย่าหาสั่งของแพง ร้านกูจะเจ๋งเพราะพวกมึงสองตัว” เฮียกรณ์พูดขึ้นอีกครั้งก่อนจะเดินออกไปทันที “แล้วมึงคิดดีแล้วหรือไง” ไอ้แชมป์ถามขึ้นอีกครั้ง “คิดอะไร” ผมถามกลับไปเพราะอยู่ๆแม่งเปิดประโยคมาแต่ไม่มีเคล้าเรื่องอะไรเลย “เพื่อนน้องสาวมึงที่มึงจีบอยู่” มันพูดขึ้นอีกครั้งซึ่งแน่นอนว่าผมรู้ดีมันหมายถึงอะไร “ถ้าไอ้เหี้ยโดมตามมึงขนาดนี้ มึงคิดว่ามันจะรู้ไหม” ไอ้แชมป์พูดขึ้น “เวลากูไปรับกูพยายามเอารถยนต์ไป มันจะได้ไม่รู้” นี่คือเหตุผลว่าทำไมที่ผ่านมาผมไม่เคยไปส่งข้าวหอมที่โรงเรียนเลยสักครั้งเพราะคู่อริของผมมันจะตามเล่นงานคนของผม “มึงก็รู้ว่าสักวันพวกมันต้องรู้และมันไม่ได้จะเล่นแค่มึงแต่คนที่มันจะเล่นคือคนของมึงด้วย” แน่นอนว่าเรื่องนี้ผมรู้ดี “ถ้ามันทำส้นตีนอะไรกับคนของกู คนของมันก็จะโดนส้นตีนกูนี่แหละ” ผมพูดขึ้นอีกครั้ง คนของมันที่ผมพูดถึงไม่ได้หมายความว่าแค่แฟนหรือเมียแต่ไม่ว่าใครหน้าไหนที่เกี่ยวกับมัน ผมจะจัดการหมด ไม่สนว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่เพราะเมื่อไหร่ที่มันลามถึงคนรอบตัว ผมก็จะทำแบบมัน “ระวังไว้แล้วกัน กูเตือนเพราะเป็นห่วงทั้งมึงและเพื่อนน้องมึง” ไอ้แชมป์พูดขึ้นอีกครั้ง “ไว้ว่างๆจะพาเข้าไปให้ไอ้พวกที่โรงเรียนรู้จัก” ผมพูดขึ้นอีกครั้งเพราะถ้าทุกคนที่โรงเรียนรู้ว่าเธอคือคนของผมก็จะได้ช่วยเป็นหูเป็นตา เคยได้ยินคำว่า ควีนของหัวโจก ไหมล่ะ “ก็ดี คนของมึงพวกมันต้องปกป้องอยู่แล้ว” และคนของพวกมันทุกคนที่อยู่ในโรงเรียนของผม พวกเราก็ช่วยกันสอดส่องดูแลเช่นกัน “แต่กูมีเรื่องให้น่ากังวลมากกว่าเรื่องนี้” ผมพูดขึ้นอีกครั้งเพราะกับไอ้แชมป์ผมสามารถพูดได้ทุกเรื่อง “มึงว่าที่มหาวิทยาลัยจะมีคนจีบยัยนั่นไหม แค่วันนี้ตอนกูไปรับสายตาไอ้พวกผู้ชายมองยัยนั่นกับข้าวหอมก็แทบจะจับแดกอยู่แล้ว” “ข้าวหอม” ไอ้แชมป์พูดขึ้นอีกครั้ง ไม่แปลกหรอกที่มันจะย้ำถึงข้าวหอม ไอ้เวรนี่มันชอบน้องสาวผมแต่ไม่กล้าบอกไปสักที เลยทำได้แต่ตามดูแบบนี้ “เนื้อหอมทั้งคู่” “ก็เชื่ออยู่ สวยขนาดนั้น” “ถ้าจะจีบน้องกูก็รีบจีบ หมารอจะแดกเยอะนะ” ผมพูดกับมันอีกครั้งเพราะถ้าเป็นไอ้แชมป์ ผมว่าผมก็โอเค นิสัยมันเป็นยังไงผมรู้ดี แน่นอนว่าผมรักข้าวหอมมากเพราะยังไงก็น้องสาว ถ้าเป็นไอ้แชมป์จริงๆก็หายห่วง “ว่าแต่กู มึงไปขอคบเพื่อนน้องมึงให้ไอ้ก่อนเถอะ” โคตรจี้จุดฉิบหาย ประเด็นคือขอแล้วแต่เขาปฏิเสธไง “กูขอแล้ว ขอไม่รู้กี่รอบ” เพราะผมขอแล้วจริงๆแต่เธอกลับเมินเฉยและเฉไฉทุกครั้ง “มึงขอแบบไหนถ้าอยู่ๆพูดเลย เป็นกูก็ไม่ตกลงหรอกไอ้เหี้ย มันต้องทำหวานหน่อยดิวะ” “ขอไม่ได้ ก็จับกดแม่ง” ❤️
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม