“ฉันถึงบ้านแล้ว” ผมพูดขึ้นทันทีเมื่อปลายสายรับโทรศัพท์
“บอกในแชทก็ได้ เฮียปั้นโทรหาเลิฟมีอะไรคะ” เสียงเจื้อยแจ้วของคนตัวเล็กถามกลับมาทำเอาผมยกยิ้มขึ้น
“คิดถึงอยากได้ยินเสียง”
“คิดถึงอะไรกันเฮียปั้น เลิฟไปอาบน้ำก่อนไม่คุยด้วยแล้ว” คนขี้เขินตอบกลับมาก่อนจะตัดสายไปในทันที
ดูก็รู้ว่าอาการแบบนี้ต้องเขินจนหน้าขึ้นสีเป็นลูกตำลึงแน่ๆ ให้ตาย คิดแล้วก็อยากฟัดจนใจจะขาด
“ได้ข่าวว่าพึ่งกลับมาจะไปไหนอีก” ป๊าถามขึ้นทันทีเมื่อผมกำลังจะก้าวขาออกจากประตูบ้าน
“กินเหล้า” ผมตอบกลับไปตามตรงเพราะกับป๊าไม่มีอะไรต้องโกหก
“จะไปก็รีบมาเดี๋ยวแม่ลงมาจะไม่ได้ไป” ผมยกยิ้มขึ้นทันทีกับคำพูดของป๊าเพราะป๊าเข้าใจผมที่สุด
“ว่าแต่งานรับน้องปีนี้ป๊าจะไปหรือเปล่า” ผมถามขึ้นอีกครั้งเพราะมันใกล้จะถึงแล้วอีกสองสามวันนี้เอง
“ไปสิอย่างป๊าเคยพลาดด้วยหรอ” ก็ไม่เคยพลาดสักปีนั่นแหละ
“ลุงแบงค์ก็ไป ปั้นเลยมาถามป๊า” ลุงแบงค์ที่ผมหมายถึงก็คุณพ่อของไอ้เหี้ยแชมป์เพื่อนสนิทของผมนั่นแหละ
“ป๊าก็ไปกับไอ้แบงค์นั่นแหละ วันนั้นก็หาพกอะไรไปดีๆเพราะมันต้องมีสถาบันอื่นมาป่วนอยู่แล้ว” ป๊าพูดขึ้นอีกครั้งซึ่งมันเป็นจริงตามที่ป๊าพูดเสมอ ทุกปีในงานรับน้องโรงเรียนของผมมันจะมีไอ้พวกสถาบันอื่นมาป่วนเสมอ
“รู้อยู่พึ่งไปสอยไม้เบสบอลกับไอ้แชมป์มาใหม่” ผมตอบกลับไปทันที
“ใหญ่ไปเอาอะไรที่เก็บไว้ที่ตัวได้” ป๊าพูดขึ้นอีกส่วนในมือก็ยกแก้วเหล้าขึ้นดื่ม
“โอเคๆ งั้นปั้นไปก่อนนะนัดเพื่อนไว้” ผมพูดขึ้นอีกครั้งพร้อมกับเดินออกจากบ้านขืนอยู่คุยนานกว่านี้คุณแม่ลงมาก็ไม่ได้ไปกันพอดี
เมื่อออกมาหน้าบ้าน ผมก็จัดการควบบิ๊กไบค์คันโตออกมาทันทีแต่อยู่ๆตาขวาก็ต้องกระตุกเพราะเหลือบมองเห็นไอ้รถมอเตอร์ไซต์สองคันที่ขับตามอยู่ด้านหลัง
“จะเล่นกู รู้จักกูน้อยไปซะแล้ว” ผมสบถกับตัวเองก่อนจะขับรถไปที่เปลี่ยวกว่านี้เพราะท้องถนนตอนนี้เป็นถนนสายหลักไม่เหมาะกับการมีเรื่องเพราะการจราจรติดขัด
หลังจากที่บิดรถนำพวกมันมา ผมก็จัดการจอดรถและยืนรอพวกมัน แน่นอนว่าผมทิ้งช่วงห่างไม่มากแต่ด้วยความเร็วที่เร็วกว่าของรถ ทำให้พวกมันก็มาช้ากว่าผมอยู่หลายนาที
ท่อนไม้ที่ถูกทิ้งไว้ในโพรงป่า ถูกผมหยิบมาถือไว้ในมือเตรียมซัดไอ้พวกเวรนั่นเรียบร้อยแล้ว
“คิดไว้ไม่มีผิดว่าต้องเป็นมึง” ผมพูดขึ้นพร้อมกับเดินตรงไปหาพวกมัน
มาสองคันสามคน สำหรับผมถือว่าสบายๆ
“กลัวกูหรือไง ถึงล่อกูมาถึงนี่” ไอ้เหี้ยโดมพูดขึ้นพร้อมทำกร่างเดินตรงมาหาผมเช่นกัน
เชื่อผมเถอะ ที่มันกร่างได้ขนาดนี้เพราะมีพวก ไอ้เวรนี่ถ้าตัวๆกับผมก็หมา
“อย่างกูนี่นะกลัวมึง ฝันเถอะไอ้สัส !” ผมพูดขึ้นพร้อมถ่มน้ำลายใส่มันเป็นการหาเรื่องหน่อยๆ
บอกแล้วว่าผมมันสถุนหมา
“อยู่คนเดียวแล้วทำปากดี ยังไงวันนี้มึงก็ไม่รอดหรอกไอ้เหี้ยปั้น” ไอ้โดมพูดขึ้นพร้อมพุ่งเข้ามาหาผมกันรวมถึงเพื่อนที่มากับมันอีกสามคน
ผมที่เห็นแบบนั้นก็เอาไม้หน้าสามที่ถือแอบไว้ด้านหลังฟาดใส่ไอ้เหี้ยโดมเป็นคนแรก
อั่ก !
ส่วนเพื่อนของมันก็จัดการพุ่งเข้าหาผมทันทีเมื่อเห็นว่าไอ้โดมล้มลง แน่นอนว่าผมหลบมันได้แต่กลับต้องหน้าชาเพราะหมัดของเพื่อนมันอีกคน
“ไอ้สัส” ผมถ่มน้ำลายผสมเลือดที่อยู่ในปากลงพื้นอีกครั้งก่อนจะจัดการกับไอ้เวรสองตัวตรงหน้าเพราะลูกพี่ของมันอย่างไอ้โดมตอนนี้นอนกุมท้องตัวงออยู่ข้างๆตีนของผม
“มึงเข้ามาไอ้สัส” ผมพูดขึ้นพร้อมกับจัดการเสยหน้าเพื่อนหรือลูกกระจ๊อกของไอ้เหี้ยโดมคนแรกพร้อมกับใช้สองตีนถีบมันให้ล้มลง ไม้หน้าสามที่อยู่ในมือก็จัดการฟาดอีกตัวที่เหลือทันที
ตุบ !
อั่ก !
“อะ…ไอ้เหี้ยโดม” ผมเซถลาร้องขึ้นทันที เมื่ออยู่ๆก็โดนถีบจากด้านหลัง สองเท้าพยายามลุกขึ้นเพราะคนที่ทำผมเป็นไอ้เหี้ยโดม
“อย่างมึงมันต้องเจอกู” ไอ้เหี้ยโดมพูดขึ้นพร้อมกับพุ่งมาหาผมอีกครั้ง
ผมใช้จังหวะที่มันเผลอจัดการเสยหน้ามันพร้อมกับถีบมันให้ล้มลง ตอนนี้พวกมันทั้งสามคนนอนกองรวมกันเป็นปุ๋ยขยะหมัก สภาพสารรูปไม่ได้ดีนัก
“กูถือว่านี่ยังไม่หนัก ถ้าพวกมึงไม่จบก็จัดมาอีก” ผมพูดขึ้นพร้อมใช้ไม้หน้าสามในมือให้ฟาดลงหน้าไอ้เหี้ยโดมอีกครั้งด้วยความหมั่นไส้
“มึงมันกระจอก” ไอ้เหี้ยพูดขึ้น
“จะตายห่าอยู่แล้วปากยังดี วันนี้กูอารมณ์ดีเลยซัดพวกมึงไม่เยอะแต่ปากแบบมึงกูขออีกสักที” ผมพูดขึ้นเสร็จก็ใช้ตีนเตะเสยหน้าไอ้เหี้ยโดมอีกครั้งจนมันสลบแน่นิ่งไป
ก่อนที่ผมจะขึ้นรถและขับออกไปยังร้านเหล้าของเฮียกรณ์รุ่นพี่ที่จบไปแล้ว
“หน้าไปโดนเหี้ยไรวะไอ้ปั้น” ไอ้แชมป์ถามขึ้นทันทีเมื่อผมมาถึง
“ไอ้เหี้ยโดม” ผมตอบกลับไปก่อนจะยกแก้วเหล้าตรงหน้าไอ้ปั้นเข้าปาก
“มันตามมึงมาว่างั้น” ไอ้แชมป์ถามขึ้นต่อ
“เออ แต่กูจัดการไปแล้ว มาสามคนแต่ทำส้นตีนอะไรกูไม่ได้อยู่ดี” ผมพูดขึ้นอีกครั้งเพราะพวกมันทำอะไรผมไม่ได้จริงๆ ถึงจะพลาดท่าอยู่บ้างแต่ไม่เสียท่านอนหายใจรวยรินอยู่ข้างถนนแบบพวกมันแน่ๆ
“กูไปล้างหน้าก่อน แสบฉิบหาย” ผมพูดขึ้นอีกครั้งก่อนจะลุกตรงมาห้องน้ำ
“ให้ตาย ไอ้เหี้ยโดมหน้ากู” ผมพูดขึ้นอีกครั้งเมื่อเห็นตัวเองในกระจก แผลเก่าพึ่งจะหายแผลใหม่มาอีกแล้ว คุณแม่คนสวยนางยักษ์ตัวน้อยๆของผมต้องบ่นอีกแน่ๆ
“กูเอากล่องยามาให้ ไอ้แชมป์บอกมึงโดนเล่น” เฮียกรณ์ที่นั่งอยู่ที่โต๊ะพูดขึ้นเมื่อผมเดินกลับมา
สำหรับเฮียกรณ์คนนี้เคยเป็นหัวโจกมาก่อนและเป็นรุ่นพี่ที่ผมกับไอ้แชมป์สนิทที่สุด ถึงจะจบมาแล้วแต่ทุกครั้งก็ยังไปมีเรื่องกับผมอยู่เสมอ
“หึ พวกมันโดนกูเล่นว่ะเฮีย” ผมตอบกลับไปก่อนจะเปิดกล่องยาทำแผล
ให้ตาย ถ้ามีคนทำแผลให้เหมือนวันก่อนก็คงจะดี
“เหม่ออยู่นั่นแหละไอ้ปั้น มึงจะทำไหมแผลอะ” ไอ้แชมป์พูดขึ้นพร้อมส่งสำลีให้กับผม
“ทำดิวะ” ผมตอบกลับพร้อมรับสำลีมาจากไอ้แชมป์และจัดการใส่ยาให้เรียบร้อย
“แล้วคิดอะไรถึงออกมาดื่มร้านกูวันนี้” เจ้าของร้านถามขึ้นทันที
“อยาก ทำไมหรือกูมาไม่ได้” ผมถามกลับไปเพราะที่มาก็อยากดื่มล้วนๆ
“รู้อยู่ว่าเฮียไม่อยากให้กูกับไอ้ปั้นมาใช่ไหม” ไอ้แชมป์ที่นั่งข้างผมก็พูดขึ้นอีกครั้ง
“เออดิไอ้พวกเหี้ย บ้านก็รวยมาทีไรแดกฟรีตลอดไอ้ส้นตีน” เฮียกรณ์พูดขึ้นด้วยท่าทางหัวเสียแต่มันก็เป็นแบบที่เฮียแกพูดจริงๆนั่นแหละ
ผมกับไอ้เหี้ยแชมป์แดกฟรีทุกงานตั้งแต่ร้านเปิดใหม่ๆจนวันนี้ก็จวบจนเกือบปีไม่เคยจะเสียเงินสักบาท
“เอาหน่า มีน้องรักอยู่สองคนมึงก็เลี้ยงหน่อยเฮีย” ผมพูดขึ้นอีกครั้ง
“กูก็เลี้ยงตลอดไหม แล้วเรื่องงานรับน้องเป็นยังไงปีนี้” เฮียกรณ์ถามขึ้นอีกครั้ง
“สาขาเรามันก็ต้องโหดเอาเรื่องหน่อยดิวะ ระดับหัวโจกเรียนช่างกลด้วย” ไอ้แชมป์พูดขึ้นและคนที่มันพูดถึงก็ผมนี่แหละ
“โหดไปเดี๋ยวพวกแม่งกลัวหมด” ก็จริงเพราะทุกปีหลังจากรับน้องเสร็จ บางคนก็หายไปเลยเพราะความน่ากลัวของพวกรุ่นพี่
แต่มันก็น่ากลัวแค่วันแรกเพราะถ้าผ่านรับน้องมาได้ ทุกอย่างมันคือมิตรภาพคำว่าเพื่อน พี่น้องและที่สำคัญศักดิ์ศรีสถาบัน
“พวกกูคิดไว้บ้างแล้ว รอไปแล้วกันเดี๋ยวก็รู้” ผมพูดขึ้นทันทีเพราะมันไม่ได้โหดอะไรมากมายหรอก
“กูไปดูร้านก่อน พวกมึงก็นั่งแดกกันไปอย่าหาสั่งของแพง ร้านกูจะเจ๋งเพราะพวกมึงสองตัว” เฮียกรณ์พูดขึ้นอีกครั้งก่อนจะเดินออกไปทันที
“แล้วมึงคิดดีแล้วหรือไง” ไอ้แชมป์ถามขึ้นอีกครั้ง
“คิดอะไร” ผมถามกลับไปเพราะอยู่ๆแม่งเปิดประโยคมาแต่ไม่มีเคล้าเรื่องอะไรเลย
“เพื่อนน้องสาวมึงที่มึงจีบอยู่” มันพูดขึ้นอีกครั้งซึ่งแน่นอนว่าผมรู้ดีมันหมายถึงอะไร
“ถ้าไอ้เหี้ยโดมตามมึงขนาดนี้ มึงคิดว่ามันจะรู้ไหม” ไอ้แชมป์พูดขึ้น
“เวลากูไปรับกูพยายามเอารถยนต์ไป มันจะได้ไม่รู้” นี่คือเหตุผลว่าทำไมที่ผ่านมาผมไม่เคยไปส่งข้าวหอมที่โรงเรียนเลยสักครั้งเพราะคู่อริของผมมันจะตามเล่นงานคนของผม
“มึงก็รู้ว่าสักวันพวกมันต้องรู้และมันไม่ได้จะเล่นแค่มึงแต่คนที่มันจะเล่นคือคนของมึงด้วย” แน่นอนว่าเรื่องนี้ผมรู้ดี
“ถ้ามันทำส้นตีนอะไรกับคนของกู คนของมันก็จะโดนส้นตีนกูนี่แหละ” ผมพูดขึ้นอีกครั้ง
คนของมันที่ผมพูดถึงไม่ได้หมายความว่าแค่แฟนหรือเมียแต่ไม่ว่าใครหน้าไหนที่เกี่ยวกับมัน ผมจะจัดการหมด ไม่สนว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่เพราะเมื่อไหร่ที่มันลามถึงคนรอบตัว ผมก็จะทำแบบมัน
“ระวังไว้แล้วกัน กูเตือนเพราะเป็นห่วงทั้งมึงและเพื่อนน้องมึง” ไอ้แชมป์พูดขึ้นอีกครั้ง
“ไว้ว่างๆจะพาเข้าไปให้ไอ้พวกที่โรงเรียนรู้จัก” ผมพูดขึ้นอีกครั้งเพราะถ้าทุกคนที่โรงเรียนรู้ว่าเธอคือคนของผมก็จะได้ช่วยเป็นหูเป็นตา
เคยได้ยินคำว่า ควีนของหัวโจก ไหมล่ะ
“ก็ดี คนของมึงพวกมันต้องปกป้องอยู่แล้ว” และคนของพวกมันทุกคนที่อยู่ในโรงเรียนของผม พวกเราก็ช่วยกันสอดส่องดูแลเช่นกัน
“แต่กูมีเรื่องให้น่ากังวลมากกว่าเรื่องนี้” ผมพูดขึ้นอีกครั้งเพราะกับไอ้แชมป์ผมสามารถพูดได้ทุกเรื่อง
“มึงว่าที่มหาวิทยาลัยจะมีคนจีบยัยนั่นไหม แค่วันนี้ตอนกูไปรับสายตาไอ้พวกผู้ชายมองยัยนั่นกับข้าวหอมก็แทบจะจับแดกอยู่แล้ว”
“ข้าวหอม” ไอ้แชมป์พูดขึ้นอีกครั้ง
ไม่แปลกหรอกที่มันจะย้ำถึงข้าวหอม ไอ้เวรนี่มันชอบน้องสาวผมแต่ไม่กล้าบอกไปสักที เลยทำได้แต่ตามดูแบบนี้
“เนื้อหอมทั้งคู่”
“ก็เชื่ออยู่ สวยขนาดนั้น”
“ถ้าจะจีบน้องกูก็รีบจีบ หมารอจะแดกเยอะนะ” ผมพูดกับมันอีกครั้งเพราะถ้าเป็นไอ้แชมป์ ผมว่าผมก็โอเค นิสัยมันเป็นยังไงผมรู้ดี แน่นอนว่าผมรักข้าวหอมมากเพราะยังไงก็น้องสาว ถ้าเป็นไอ้แชมป์จริงๆก็หายห่วง
“ว่าแต่กู มึงไปขอคบเพื่อนน้องมึงให้ไอ้ก่อนเถอะ” โคตรจี้จุดฉิบหาย ประเด็นคือขอแล้วแต่เขาปฏิเสธไง
“กูขอแล้ว ขอไม่รู้กี่รอบ” เพราะผมขอแล้วจริงๆแต่เธอกลับเมินเฉยและเฉไฉทุกครั้ง
“มึงขอแบบไหนถ้าอยู่ๆพูดเลย เป็นกูก็ไม่ตกลงหรอกไอ้เหี้ย มันต้องทำหวานหน่อยดิวะ”
“ขอไม่ได้ ก็จับกดแม่ง”
❤️