“งั้นเลิฟถามหน่อยสิแต่เฮียปั้นต้องตอบเลิฟตรงๆนะ” ผมนั่งมองหน้าคนตัวเล็กที่ตอนนี้กำลังพูดเสียงเจื้อยแจ้วอยู่ใกล้ๆ
“ว่ามาสิ” ผมตอบกลับไปทันทีเมื่อเธอมีข้อสงสัยที่อยากจะถาม
“เฮียปั้นชอบเลิฟหรอ ไม่ใช่เอ็นดูเลิฟเหมือนน้องสาวหรือไงเพราะเลิฟไปเล่นกับข้าวหอมบ่อยนะ” เอาอะไรมาคิดว่าผมจะเอ็นดูเธอเหมือนน้องสาว
“เอ็นดูหรอ…ฉันอยากให้เธอดูเอ็นฉันมากกว่า” ผมตอบกลับไปในทันที เชื่อเถอะว่าเด็กสาวใสซื่ออย่างเลิฟไม่มีทางเข้าใจในสิ่งที่ผมพูดหรอก
“หมายความว่ายังไงคะ ดูเอ็น เอ็นที่แขนหรอ” คนตัวเล็กถามขึ้นอีกครั้งก่อนจะก้มหน้ามาทางแขนของผมที่วางอยู่บนโต๊ะ
น่ารักชะมัด !
“ที่ฉันบอกว่าจะจีบเธอไม่เข้าใจหรือไง ทำไมยังคิดว่าฉันเอ็นดูเธอเหมือนน้องสาว” ผมถามขึ้นทันทีเพราะผมมั่นใจว่าการกระทำของผมมันชัดเจนมากๆ
“ก็เลิฟเป็นเพื่อนข้าวหอมและไปเล่นบ้านเฮียปั้นบ่อย” คนตัวเล็กตอบกลับมาอีกครั้ง
“ฉันชอบเธอที่หมายถึงฉันจะเอาเธอมาเป็นแฟน” ผมพูดขึ้นเพื่อเน้นย้ำให้เธอเข้าใจ แน่นอนว่าหลังจากที่เธอได้ยืนคำพูดของผมก็หน้าแดงขึ้นสี
“ไม่สิ ฉันชอบเธอที่หมายถึงจะเอาเป็นเมีย” คนที่เขินอยู่แล้วตอนนี้เขินยิ่งกว่าเก่า ตัวแดงจนผมคิดว่าลมพิษขึ้นตัว
“ฉันชอบเวลาเธอเขินนะ ดูน่ารักดี” ผมพูดขึ้นอีกครั้งอย่างอดแซวไม่ได้ เด็กคนนี้เวลาเขินน่ารักจริงๆ
ท่าทางที่ไม่ได้ประดิดประดอยของเธอทำผมเอาผมอยากฟัดเธอแทบบ้า
“หยุดแซวเลิฟเลย ไปส่งเลิฟได้แล้วคุณแม่รอแย่แล้ว” คนตัวเล็กพูดขึ้นอีกครั้ง ทำเอาผมก้มดูนาฬิกาข้อมือทันที
อ่า...เย็นแล้วจริงด้วย มัวแต่คุยเรื่องที่ดินจนลืมดูเวลาไปเลยว่าถ้าเย็นแล้วก็คงมีเวลาอยู่ด้วยกันน้อย
“โอเค งั้นไปกัน” ผมตอบกลับอีกครั้งก่อนจะพาคนตัวเล็กตรงกลับบ้านทันที
“กลับมาแล้วหรอลูกสาว” เสียงหวานของคนเป็นแม่ของคนตัวเล็กเอ่ยขึ้นขณะที่กำลังรดน้ำต้นไม้อยู่หน้าบ้าน
“สวัสดีครับ” ผมยกมือไหว้พร้อมพูดขึ้นทันที
“สวัสดีจ้ะ ทำไมวันนี้เฮียปั้นพี่ชายหนูข้าวหอมถึงมาส่งลูกสาวแม่ได้ล่ะ” คนเป็นแม่ถามขึ้นอีกครั้งพร้อมมองหน้าผมสลับกับหน้าของลูกสาว
“พอดีผมรบกวนน้องให้ช่วยตัดสินใจเรื่องงานน่ะครับ” ผมตอบกลับไปตามตรงเพราะกับผู้ใหญ่ไม่มีอะไรต้องโกหกอยู่แล้ว
“แบบนี้นี่เอง อยู่ทานข้าวเย็นบ้านแม่ไหม” คุณแม่ของคนตัวเล็กถามขึ้น
“เฮียปั้นไม่กินหรอกแม่เดี๋ยวเฮียปั้นต้องรีบกลับบ้านใช่ไหมเฮียปั้น” คนตัวเล็กพูดขึ้นนั่นทำให้ผมรีบตอบ
“กินครับ” ผมพูดขึ้นเสียงดังฟังชัดจนคนเป็นแม่หันมองอย่างยิ้มๆ
“งั้นเลิฟพาเฮียปั้นเข้าไปนั่งรอแม่ด้านในก่อน แม่รดน้ำต้นไม้เสร็จจะตามเข้าไปทำอาหารให้กิน”
“เฮียปั้นจะรับปากคุณแม่ว่ากินทำไมคะ” คนตัวเล็กมุ่ยหน้าพร้อมหันมาถามผมขึ้นทันทีเมื่อลับสายตาคนเป็นแม่
“ทำไมฉันจะกินข้าวบ้านเธอไม่ได้ ในเมื่อเธอยังเคยกินข้าวบ้านฉันบ่อยๆเลย” ผมถามกลับทันที
“ก็ตอนนี้ข้าวหอมไม่อยู่สักหน่อย” แล้วยังไง ?
“แม่เธอชวนขนาดนี้ ฉันไม่ปฏิเสธผู้ใหญ่หรอกมันเสียมารยาทไม่รู้หรอ” ผมพูดขึ้นอีกครั้ง
“นั่งรอตรงนี้เลยเดี๋ยวเลิฟไปดูในครัวดีกว่า เผื่อมีอะไรทำได้บ้าง” คนตัวเล็กพูดจบก็ตรงเข้าไปในครัวที่ถูกแบ่งโซนไว้อย่างชัดเจน มือเล็กๆหยิบผักที่วางอยู่มาล้างน้ำอย่างทะมัดทะแมงก่อนจะลงมือหั่นมันในทันที
“ไม่รู้เลยว่าจะทำอาหารเป็นด้วย” ผมถามขึ้นหลังจากแอบดูการกระทำของคนตัวเล็กอยู่สักพักใหญ่
“เลิฟชอบมาช่วยแม่ทำอาหารอยู่บ่อยๆ ฝีมือดีนะแม่จะบอกให้” ก็เชื่ออยู่แหละครับเพราะดูท่าทะมัดทะแมงเลยทีเดียว
“งั้นผมตั้งตารออาหารฝีมือคุณแม่กับเลิฟแล้วล่ะครับ” ผมพูดขึ้นทันที จริงๆไม่ได้จะเอาใจหรอกนะแต่แม่ยายใจดีขนาดนี้ เอาใจนิดๆหน่อยก็ได้วะ เผื่อจีบลูกสาวไม่ติดจะได้เข้าทางแม่ยาย
“แม่คิดว่าจะตั้งตารออาหารฝีมือเลิฟคนเดียวซะอีก”
“ฮ่าๆ มีอะไรให้ผมช่วยไหมครับ” ผมหัวเราะกลบเกลื่อนพร้อมกับถามขึ้นทันที
“ไม่มีหรอก เฮียปั้นไปนั่งรอหน้าทีวีเลยเดี๋ยวเลิฟกับคุณแม่ทำเอง” คนตัวเล็กพูดขึ้นอีกครั้ง นั่นทำให้ผมเดินมารอหน้าทีวีเพราะต่อให้ยืนอยู่ในครัวต่อไป ผู้ชายอย่างผมก็ไม่รู้จะช่วยอะไรอยู่ดี
“เป็นยังไงบ้างอาหารฝีมือแม่กับเลิฟอร่อยถูกเปล่าหรือเปล่า” เสียงหวานของคุณแม่คนตัวเล็กถามขึ้นทันทีเมื่ออาหารทุกอย่างถูกวางลงบนโต๊ะ
“อร่อยมากเลยครับ” ผมตอบกลับไปเพราะอาหารทุกอย่างตรงหน้ามันอร่อยจริงๆ
“อร่อยก็กินเยอะๆ แม่ทำไว้เยอะเลย” คุณแม่พูดขึ้นอีกครั้ง
“ขอบคุณครับ อร่อยแบบนี้คราวหลังผมต้องมาฝากท้องบ่อยๆแล้ว” จริงๆที่อยากมาฝากท้องไว้บ่อยๆก็เพราะอยากกินข้าวกับคนตัวเล็กคนนี้ด้วยเลยหาข้ออ้างก็เท่านั้น
“มาเลยจ้ะ มาได้ตลอดเลย”
จวบจนเวลาผ่านไปจนกินข้าวเสร็จ ตอนนี้คนตัวเล็กกำลังเดินมาส่งผมที่หน้าบ้าน
“พรุ่งนี้จะมารับไปส่งที่มหาลัยโอเคหรือเปล่า” ผมพูดขึ้นทันที
“ให้เลิฟไปเองบ้างเถอะค่ะ เลิฟเกรงใจ” คนตัวเล็กมุ่ยหน้าพร้อมกับพูดขึ้น
“บอกว่าจีบ ถ้าไม่ให้มารับจะรู้ได้ยังไงว่ากำลังจีบอยู่” ผมพูดขึ้นอีกครั้ง
จุดประสงค์ที่ผมมารับเธอมันมากกว่าจีบ อยากเจอ อยากได้ยินเสียงก็ส่วนหนึ่ง อีกส่วนคือไอ้ตัวผู้ที่มหาวิทยาลัยจะได้รู้ว่าเธอมีเจ้าของแล้ว
“ก็รู้แล้วว่าจีบแต่ทางไปมหาวิทยาลัยกับบ้านเลิฟมันคนละทาง”
“ฉันว่าฉันเคยพูดเรื่องนี้กับเธอแล้วนะ มารับก็คือมารับ อย่าดื้อได้ไหมวะ” ผมพูดขึ้นอีกครั้งกับท่าทางหัวรั้นของคนตรงหน้าเพราะพูดเรื่องนี้ทีไรมันก็จะพาทำผมหงุดหงิด ไม่รู้เหมือนกันเธอจะเกรงใจอะไรนัก ในเมื่อผมเต็มใจที่จะทำ
ดื้อเงียบที่สุด !
“เลิฟไม่ได้ดื้อนะ” คนดื้อเถียงกลับทันทีพร้อมทำสีหน้าไม่พอใจ
“ถ้าไม่ดื้อก็ทำตามที่บอก”
“โอเค มารับก็มารับงั้นก็มารับให้ได้ตลอดแล้วกัน” คนตัวเล็กพูดขึ้นด้วยท่าทางประชดประชัน แต่เชื่อเถอะ ผมมารับได้ตลอดแน่
“ฉันมารับเธอตลอดแน่ มานี่ดิ มายืนใกล้ๆหน่อย” ผมพูดขึ้นพร้อมกับเรียกคนตัวเล็กให้เข้ามาใกล้ก่อนจะค่อยๆก้มหน้าเข้าหาเธอ
“ใกล้กว่านี้หน่อย” ผมพูดขึ้นอีกครั้ง
ฟอด !
“ขโมยหอมแก้มเลิฟครั้งที่สามแล้วนะ” คนตัวเล็กโวยวายขึ้นทันทีเมื่อโดนผมหอมแก้ม
“ไม่ได้ขโมย ฉันตั้งใจหอมแก้มเธอ” ผมพูดขึ้นทำเอาใบหน้าสวยแดงขึ้นสีอีกครั้ง
“วันหลังไม่ให้หอมแล้วนะเฮียปั้น ทำแบบนี้เลิฟเสียหายไม่รู้หรอ” ปากเล็กๆสีแดงไร้การแต่งแต้มพูดขึ้นทันที
สาบานเลยว่าถ้าได้จูบจะจูบให้ช้ำ
“งั้นก็เป็นแฟนฉันสิ จะได้ไม่เสียหาย”
“ไม่คุยด้วยแล้ว กลับไปได้แล้วเลิฟจะเข้าบ้าน” คนตัวเล็กพูดขึ้นด้วยท่าทางเฉไฉก่อนจะหันหลังกลับเข้าบ้านไป
ส่วนผมก็เดินกลับมาขึ้นรถด้วยท่าทางสบายใจ ให้ตายชักติดใจแก้มนิ่มๆแล้วว่ะ เป็นไปได้ก็อยากหอมมันทุกวัน คนอะไรวะ แก้มนิ่มฉิบหาย
“ไงพ่อตัวดี กลับเข้าบ้านมายิ้มแย้มเชียว” เสียงคุณแม่ของผมทักขึ้นทันที
“ตัวดีอะไรกันแม่ วันนี้ปั้นยังไม่ได้มีเรื่องอะไรเลยนะ” ผมตอบกลับคนเป็นแม่ทันทีเพราะวันนี้ผมปฏิบัติตัวดีอยู่นะ
“ไปทำอะไรมาทำไมอารมณ์ดีแบบนี้” คนเป็นแม่ถามขึ้นอีกครั้งแววตามองผมอย่างจับผิดราวกับต้องการจะรู้ให้ได้
“ก็เฮียปั้นกำลังอินเลิฟไงคะแม่” ข้าวหอมที่เดินมาจากไหนไม่รู้พูดขึ้นทันที
“จริงหรอ ปั้นกำลังมีความรักหรอลูก” คุณแม่ถามขึ้นด้วยท่าทางดีใจ ก็แน่สิ ผมไม่เคยมีแฟนเป็นตัวเป็นตนเลยอย่างมากก็คั่วไปเรื่อย
“พูดมากนะข้าวหอม” ผมพูดขึ้นอีกครั้งและอดไม่ได้ที่จะเขกหัวยัยน้องสาวตัวดีไปสักทีพร้อมกับทำท่าจะเดินขึ้นไปด้านบนของบ้าน
“มุบมิบเก่งเหลือเกิน รู้หรือเปล่าวันนี้ที่มหาวิทยาลัยมีคนมองเลิฟเยอะมากเลยนะเฮียปั้น” แน่นอนว่าเมื่อได้ยินคำพูดของข้าวหอม ผมก็รีบหันกลับมามอง
“เลิฟหรอ เพื่อนเรานะหรอข้าวหอม”
“อุ้ย ! หลุดปากอะเฮียปั้น ไม่รู้ไม่ชี้” ยัยน้องสาวตัวดีที่ทิ้งระเบิดลูกใหญ่ไว้เสร็จก็วิ่งออกไปทันที
“ปั้นกำลังจีบหนูเลิฟอยู่หรอลูก” คุณแม่ถามขึ้นด้วยความอยากรู้ สองมือจับแขนผมไว้แน่น
“อะไรกันแม่ ทำไมอยากรู้ล่ะ” ผมตอบกลับอย่างปัดๆเพราะไม่อยากเอามาพูดเท่าไหร่
“อะไรกันแค่นี้บอกแม่ไม่ได้หรือไง เอาเถอะเรื่องวัยรุ่นแม่ไม่ยุ่งก็ได้แต่ถ้าเป็นหนูเลิฟแม่โอเคนะ แต่ถ้าเป็นสาวๆที่ปั้นชอบไปคั่วๆบ่อยแม่ไม่เอานะ” คนเป็นแม่ขึ้นอีกครั้งก่อนจะเดินออกไปทันที
นั่นทำให้ผมตรงขึ้นด้านบนอีกครั้ง หวังว่าจะไม่มีใครเข้ามาผ่านตาให้วุ่นวายอีกแล้วกัน
“เฮีย ผมมีเรื่องปรึกษาว่ะ” อะไรกันวะ !
“มีอะไรมึงว่ามาเลย กูไม่ว่างรอมึงพูดนานๆหรอกนะไอ้โอ๊ต” ผมพูดขึ้นทันทีด้วยอาการหัวเสียหน่อยๆเพราะตั้งใจว่ากลับมาถึงบ้านจะเปิดโทรศัพท์ทักแชทไปหาคนตัวเล็กสักนิดแต่กลับกลายมีไม่รู้กี่คนเข้ามาชวนคุย
ลืมบอก ไอ้โอ๊ตที่ผมพูดถึงมันคือข้าวโอ๊ตน้องชายคนเล็กของบ้านวัยสิบห้าปี
“พอดีผมเผลอไปมีอะไรกับผู้หญิงอะเฮีย”
“ไอ้เหี้ยโอ๊ตมึงอายุสิบห้า” ผมพูดขึ้นทันทีด้วยท่าทางตกใจเพราะอายุสิบห้ามันเร็วมาก
“เฮียอย่าลืมสิ ตอนนั้นตอนเฮียบอกกับผมเฮียก็อายุสิบห้า” ไอ้นี่มันย้อนว่ะ ส้นตีนจริงๆไอ้น้องเวร
“แล้วที่มาบอกกูคือยังไง เขาท้องหรือไง” ผมถามกลับอย่างใจเย็น
“ไม่ใช่นะเฮียผมป้องกันอยู่แต่แค่ไม่รู้ว่าจะถูกใจเขาหรือเปล่าเพราะมันเป็นครั้งแรกของผม” ไอ้โอ๊ตพูดขึ้นอีกครั้ง
จริงๆตอนแรกผมก็ไม่อยากคิดว่าไอ้โอ๊ตน้องชายของผมจะแบบนี้หรอก ไอ้โอ๊ตมันต่างกับผมริบหรี่ มันออกแนวเด็กนักเรียนเนิร์ดๆ เรียบร้อย อ่อนโยน ส่วนผมสถุนหมาตามแบบที่เคยบอกไว้นั่นแหละ จะเรียกมันอีกอย่างว่ายังไงนะ ฮอตเนิร์ดหรือเปล่า ก็คงใช่ เพราะแม่งเล่นตั้งแต่สิบห้า
“มึงไม่รู้แล้วกูจะรู้ไหม ตอนมึงเอากันกูไม่ได้ไปเอาด้วย” ผมตอบกลับไปทันทีเพราะเรื่องนี้ผมไม่ได้ไปรู้กับมัน
“โห่เฮีย ให้คำปรึกษาดีๆหน่อยดิวะ นี่น้องนะ” มันพูดขึ้นอีกครั้ง จริงๆไอ้โอ๊ตมันเป็นคนพูดเยอะและจะพูดแค่ตอนอยู่กับผมกับป๊าเท่านั้น ถ้ากับคนอื่นมันจะเป็นคุณชายพูดน้อยโดยทันที
“กูเห็นว่ามึงเป็นน้องไงเลยไม่ซัดหน้ามึง เสียเวลากูฉิบหาย จะบอกให้นะถ้าผู้หญิงมันร้องมันเสียวมันก็ดีหมดแหละ ครั้งแรกก็กังวลแบบนี้ เอาบ่อยๆเดี๋ยวมึงก็มีประสบการณ์ขึ้น” ผมพูดขึ้นอย่างใจเย็น อยากรีบคุยรีบจบแล้วเข้าห้องไปคุยกัยเลิฟสักที
“โอเค ไว้สงสัยอะไรจะมาปรึกษาอีกแล้วกัน ดูท่าเหมือนไม่อยากคุย”
“เออ ! ไม่อยากคุย กูจะคุยกับเมีย มึงอะขัดฉิบหาย”
“เฮียปั้นเนี่ยนะ จะมีเมีย เลิกคั่วสาวให้ไอ้ก่อน”
“ไอ้สัส”
❤️
เปิดตัวน้องชายคนเล็กของบ้าน