“สาแวะไปถามลุงชิดมาเลยรู้ว่าถึงคุณเมฆจะไม่ได้เข้าโรงแรมแต่ก็ยังต้องทำงานต้องทำกายภาพบำบัดเป็นประจำทุกวัน”
“ฉันไม่ได้ทำกายภาพฯ แล้ว!!”
“ทำ! ต้องทำสิคะ” วารสาเถียงหน้าตาเฉย “ในเมื่อคุณเมฆให้สาเป็นคนดูแลสาก็ต้องดูแลคุณทุกอย่าง สาโทรฯ นัดให้แล้วค่ะจะมีคนเข้ามาตอนบ่ายโมงตรง”
ต้นแขนกำยำกำแน่นจนเส้นเลือดเด่นชัดขึ้นมา เขากัดฟันกรอดๆ มองแม่ตัวยุ่งสายตาอาฆาต
ไม่สนใจสายตานั้นวารสาก้าวเท้าสั่นๆ เข้าไปใกล้เตียงอีกครั้ง ยื่นมือไปให้เขาจับ เขาหลุบสายตามองเล็กน้อย หล่อนหวังเหลือเกินว่าเขาจะยอมเอื้อมมาจับกุมมือหล่อนเหมือนเดิม
“ลุกได้แล้วนะคะสาเตรียมน้ำไว้ให้อาบเรียบร้อย มาค่ะ สาช่วยพยุง”
มือหนาข้างขวาเอื้อมเข้ามาใกล้ให้วารสาได้อุ่นใจ แต่ในวินาทีสุดท้ายเขาก็ปัดมือหล่อนทิ้งอย่างไม่สนใจใยดี
“ไม่ต้องยุ่ง! ฉันลุกเองได้”
“…”
รอยยิ้มอ่อนหวานเลือนหายไป
หญิงสาวมองดูเขาพยุงกายขึ้นจับวอร์คเกอร์ช่วยเดินพยุงตัวเองไปยังห้องน้ำ ทุกครั้งที่หมายมั่นจะเข้าไปช่วยพยุงเขาก็จะปัดมือทิ้งทุกครั้ง
วารสาน้อยเนื้อต่ำใจจนน้ำตาเอ่อคลอแต่ก็มักจะฝืนยิ้มฝืดๆ ตื้อตามเข้าไปดูแลเขาข้างใน
พวงแก้มนวลแดงแปร๊ดยามต้องช่วยเขาถอดเสื้อผ้า มือไม้ค่อนข้างเก้กัง แอบนับหนึ่งถึงร้อยในใจไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบ เขามีรูปร่างค่อนข้างสมบูรณ์แบบแม้จะไม่มีซิคแพคแต่กล้ามแขนก็ยังพอทนแทนได้ คาดว่ามันคงมาจากตอนที่เขายังเดินไม่ได้แล้วใช้มือสองข้างพยุงรับน้ำหนักตัวเอง
การอาบน้ำค่อนข้างทุลักทุเลแต่ก็ผ่านไปได้ สมราคาคุยเพราะวารสานั้นศึกษาจากอินเทอร์เน็ตเกือบทั้งคืนเพื่อมาดูแลเขาโดยเฉพาะ ศึกษาวิธีดูแลจรดการทำกายภาพบำบัด
“ไม่คิดเลยว่าหนูสาจะมาอยู่ที่นี่” เสียงหนึ่งอุทานมาแต่ไกล
วารสานั่งอยู่บนชุดรับแขกริมระเบียงในยามบ่ายหันไปมองต้นเสียงพอเห็นเป็นคุณเต็มเดือนก็ยกมือขึ้นไหว้ ไม่ได้ตอบคำถามเชิงสงสัยนั้นรอคอยคุณเต็มเดือนนั่งลงฝั่งตรงข้าม
“หนูสาอยู่ที่นี่ตั้งแต่เมื่อคืนแล้วเหรอจ๊ะ” สีหน้าตอนถามค่อนเคร่งเครียด คิ้วสวยขมวดนิ่งเห็นเส้นคิ้วเรียงกันสวยงามบอกให้รู้ว่าเจ้าของนั้นเพิ่งไปสักคิ้วสามมิติมาไม่นานนัก
คุณเต็มเดือนเป็นคนสวยแม้อายุจะเข้าเลขสี่แล้วแต่ความสวยยังไม่สร่าง สมกับที่มัดใจนายเมฆินทร์นักธุรกิจพันล้านได้ในช่วงหลายสิบปีก่อน
“ค่ะ สาอยู่นี่ตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว”
“แล้วตาเมฆว่ายังไงบ้าง”
“ก็ไม่ได้ว่าอะไรค่ะสาแค่ขอดูแลเขาเท่านั้น”
“แล้วได้เจอหนูปัดหรือยัง”
นี่คือสิ่งที่คุณเต็มเดือนกลัวและค่อนข้างอึดอัดใจกลัวปาริฉัตรจะไม่พอใจอีกทั้งยังกลัวว่าการมาของวารสาจะกลายเป็นปัญหาใหญ่ของอัศวเมฆินทร์
เรียวปากอิ่มเม้มแน่นขณะหลุบสายตามองมือของตนเอง ในใจร้อนรุ่มเกลียดชังที่รอบข้างมีแต่คนพูดถึงปาริฉัตรแล้วมองข้ามตนเองราวกับไม่มีความสำคัญอะไรให้จดจำ
“เจอแล้วค่ะ”
“...”
“สาจะไม่ไปจากที่นี่หรอกนะคะคุณเดือนอย่าเหนื่อยไล่เลย หรือต่อให้คุณปัดหรือคุณเมฆเป็นคนไล่สาก็ไม่ไป”
“รักตาเมฆมากเหรอ...”
“ค่ะ” วารสาหนักแน่นในคำตอบช้อนสายตาขึ้นมาสบประสานกับคุณเต็มเดือน บอกต่อ “...สามาทวงคุณเมฆคืน”