แสงแดดสาดส่องเข้ามากระทบเปลือกตาจนต้องควานมือเปะปะหาหมอนมาปิดทว่าข้างกายกลับไม่มีหมอนอย่างเช่นเคย อัศวเมฆินทร์ลืมตาข้างหนึ่งขึ้นมองรอบเตียงก็เห็นว่าหมอนอีกใบตกแอ้งแม้งอยู่บนพื้น ช่างมัน ง่วงจะแย่ยังนอนไม่เต็มอิ่มเลย
ผ้าห่มนี่แหละตัวช่วยชั้นดี เขายกขึ้นมาคลุมโปงนอนหลับต่อไร้แสงอะไรมารบกวน
“…”
อากัปกิริยาขี้เซาเหมือนเด็กสามขวบไม่อยากตื่นไปโรงเรียนนั้นค่อนข้างขัดตาผู้ดูแลคนใหม่เป็นอย่างมาก
เช้านี้ผู้ดูแลมือใหม่คนสวยอยู่ในชุดกางเกงยีนขาสั้นกับเสื้อยืดสีขาวแสนธรรมดายืนมองชายคนรักขี้เซานอนต่อทั้งที่ตอนนี้เกือบเก้าโมงเช้าแล้ว
วารสาพอจะรู้คิวงานเขาจากลุงชิดที่ว่าแม้เขาจะไม่ได้ไปโรงแรมเองแต่ก็จะมีช่วงเวลาที่เลขาฯ ของคุณเต็มเดือนเอางานมาให้ทำที่นี่ส่วนแม่ว่าที่คู่หมั้นของเขานั้นมักจะมาแค่ช่วงบ่ายถึงช่วงเย็นๆ ของทุกวันเพราะต้องทำงาน ค่อนข้างหึงหวงแต่ก็ไม่แสดงออกมาให้ใครเห็น รีบแยกจากลุงชิดมาเตรียมอาหารเตรียมน้ำไว้ให้อัศวเมฆินทร์ได้นอนแช่หลังรู้มาว่าเขาผ่าตัดแล้วสามารถเดินเหินได้เหมือนคนปกติเก้าสิบเปอร์เซ็นเพียงแต่เขาประชดชีวิตไม่ยอมเดิน
คุณเต็มเดือนจ้างนักกายภาพบำบัดมาดูแลเขาก็ไม่ยอมรับบอกหายดีเดินเองได้แล้ว เหอะ! หล่อนกลับคิดว่านักกายภาพบำบัดไม่ใช่คำตอบนักคุณเต็มเดือนน่าจะส่งจิตแพทย์มาพบเขามากกว่า จะได้หายขาดจากโรคใจปอดนี้สักที
“คุณเมฆคะ สายแล้วนะตื่นเถอะค่ะ” รุดกายเข้าไปปลุกทว่าชายหนุ่มไม่ยอมตื่นเพียงครางประท้วง
“ฮื่อ…”
“คุณเมฆคะ”
ยื่นมือออกไปเขย่าแขนเขาเบาๆ
เขาเฉย หล่อนเลยต้องเขย่าแรงมากขึ้น ทว่า…
“ว้าย!!”
วารสาหวีดร้องลั่นเมื่อคนที่คิดว่ายังไม่ตื่นดึงผ้าห่มลงมาเอื้อมมือกอดรัดเอวคอดรุนแรงส่งผลให้เสียหลักทิ้งกายลงมาบนแผ่นอกกำยำ มิหนำซ้ำเขายังกอดหล่อนแน่นเลิกคิ้วขึ้นท้าทาย
นัยน์ตาคู่สวยเบิกกว้างห่อปากเป็นรูปตัวโอวางทาบสองอุ้งมือบนแผ่นอกเพื่อยันกายขึ้น
“คุณเมฆปล่อยสานะคะเดี๋ยวใครมาเห็นเข้า”
“อุตส่าห์เข้ามาอ่อยถึงในนี้จะปล่อยให้โง่ทำไม” เขาดูแคลนด้วยน้ำเสียงและสายตา
เรียวปากสวยเม้มแน่นพอกันกับพวงแก้มนวลร้อนผ่าวจนต้องกลอกสายตามองไปทางอื่น เจ็บอะไรก็ไม่เท่าเจ็บใจที่ถูกคนที่ตัวเองรักดูถูกดูแคลน
อดทน…
หากยังอยากดูแลเขาต้องอดทนเข้าไว้นี่เพิ่งก้าวแรกเท่านั้นเอง
วารสาบอกกับตัวเอง จัดการขุดหลุมฝังทุกความรู้สึกก่อนส่งรอยยิ้มบางๆ ยวนยั่วเขา
“สาแค่จะมาปลุกคุณเมฆเท่านั้นเพราะเห็นว่าสายแล้ว ไม่ได้เข้ามาอ่อยค่ะ รู้แล้วก็ปล่อยสาสิคะ หรือคุณเมฆแค่แกล้งพูดยั่วในใจคิดอยากให้สาอ่อยจริงๆ”
“ผู้หญิงบ้า!”
เขาถลึงตาใส่ ค่อนข้างร้อนตัวรีบปล่อยท่อนแขนทั้งสองออกจากเอวเล็ก ออกจะเสียดายเล็กน้อยที่แม่คนตัวหอมยันกายลุกจากเตียงแทบจะในวินาทีนั้น เสี้ยววินาทีเห็นหล่อนนิ่วหน้าเหมือนเจ็บอะไรสักอย่างแต่มันก็เท่านั้น เขาไม่คิดใส่ใจหรือแสดงความเป็นห่วงออกนอกหน้านอกตาอยู่แล้ว
“…”
“ยืนยิ้มบ้าบออะไรอยู่คนเดียว ออกไปเลยนะอีกชั่วโมงค่อยเข้ามาใหม่ฉันอยากนอนต่ออีกสักงีบ”
“ไม่ได้ค่ะ” ยิ้มหวานเช่นเคยอยู่ในท่วงท่าการยืนแสนเรียบร้อยทำให้อัศวเมฆินทร์ชักจะหัวเสีย ดวงหน้าหล่อเหลางอหงิกผมเผ้าชี้ฟู แต่ไม่ว่าจะดูในอิริยาบถไหนเขาก็หล่อเสมอในสายตาของวารสา
แน่สิ… สำหรับผู้หญิงแล้วแฟนตัวเองย่อมหล่อเสมอ