บทที่ 2

1127 คำ
“ผลนี้หรือ” นางเอ่ยถาม เซียนน้อยพยักหน้า ดวงตากลมโตสุกสกาววาววับด้วยความสนใจ ซึ่งเป็นเพราะตั้งแต่เกิดมาจากครรภ์มารดา เซียนน้อยยังไม่เคยพบเห็นผลท้อสีทองในเทวโลกมาก่อน เลี่ยงหรงเห็นดวงตาของเซียนน้อยเต็มไปด้วยความสนใจ จึงเอ่ยถามด้วยความใจดี “เจ้าอยากกินหรือ” เซียนน้อยพยักหน้ารัวเร็วอีกครั้ง คราวนี้กลิ่นหอมหวนของมันช่างเย้ายวนจนน้ำลายสอ เลี่ยงหรงยิ้มอย่างเอ็นดู ทว่ามีบางอย่างที่นางเอะใจ นางเป็นเพียงเซียนประจำต้นไม้ เหตุใดจึงเรียกนางว่าท่านเทพ นางแบมือและเสกผลท้อทองคำออกมาอีกลูก จากนั้นยื่นให้เซียนน้อยอย่างใจดี เซียนน้อยรับมาแล้วโค้งคำนับอย่างดีใจ “ขอบคุณท่านเทพขอรับ ข้าเพิ่งเคยเห็นมันเป็นครั้งแรก เจ้าสิ่งนี้เรียกว่าอันใดหรือขอรับ รูปร่างเหมือนผลท้อ แต่กลิ่นเหมือนน้ำผึ้ง สีก็เหมือนทองคำ!” คำถามด้วยความใคร่รู้ถูกส่งออกมาจากปากเล็กๆ รัวเร็ว ดวงตาสีนิลเป็นประกายยามจ้องมองผลท้อทองคำที่อยู่ในมือ เลี่ยงหรงหัวเราะเบาๆ อย่างเอ็นดู จากนั้นเอามือตบที่นั่งข้างๆ “มานั่งข้างๆ ข้าสิ แต่ข้าจะตอบคำถามของเจ้า หลังจากที่เจ้าตอบคำถามข้า” เซียนน้อยรีบมานั่งแต่โดยดี ทั้งที่เคยถูกสั่งสอนว่าห้ามคุยหรือรับของจากผู้อื่น โดยเฉพาะจากเทพชั้นสูงที่มารดาเคยกล่าวเตือนว่ามีแต่ความเย็นชาและเย่อหยิ่ง แต่ทว่าเขากลับสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นและอ่อนโยนจากเทพชั้นสูงผู้นี้ จนอยากเข้าใกล้และอยู่ด้วยนานๆ “ได้ขอรับท่านเทพ” เลี่ยงหรงยิ้มบางๆ “เช่นนั้นควรบอกข้าก่อนว่าเจ้ามีนามว่าอันใด” แก้มขาวของเซียนน้อยแดงปลั่ง หลังจากรู้ตัวว่าเสียมารยาทต่อท่านเทพแล้ว “ข้า ข้าน้อยมีนามว่าซือซิง เป็นเซียนชั้นต้นขอรับ ขอท่านเทพโปรดให้อภัยที่ข้าเสียมารยาท” ซือซิงกลัวถูกลงโทษจนถึงขนาดต้องกลั้นน้ำตาเอาไว้ ทว่าหลังจากถูกฝ่ามือเรียวบางแต่อบอุ่นของท่านเทพผู้นี้สัมผัส ก็รู้สึกผ่อนคลายลงทันที “นามของเจ้าน่ารักน่าเอ็นดูมาก” “ข้าขอถามนาม...นามของท่าน ได้หรือไม่ขอรับ” เซียนน้อยช้อนสายตามองอย่างเป็นกังวล กลัวว่าเขาจะล่วงเกิน เลี่ยงหรงยิ้มกว้างจนตาหยี ซือซิงน่ารักน่าเอ็นดูจนนางอยากจะพาไปเที่ยวเล่นชมสัตว์อสูรในป่าศักดิ์สิทธิ์สักสองรอบเลยทีเดียว ชักเริ่มเข้าใจความรู้สึกของพญามารว่ารู้สึกอย่างไรเมื่อได้พบเจอความน่ารักของนางเอกเสียแล้วสิ “ได้แน่นอน นามของข้าคือเลี่ยงหรง แต่เหตุใดเจ้าจึงเรียกข้าว่าท่านเทพ ข้าเป็นเพียงเซียนชั้นต้นเช่นเจ้า มิใช่ท่านเทพสักหน่อย” เลี่ยงหรงตอบพลางกัดกินเนื้อหวานของผลท้อทองคำในมืออย่างเอร็ดอร่อย ซือซิงเลิกคิ้วอย่างประหลาดใจเมื่อได้ยินเช่นนั้น เลี่ยงหรงคือเทพชั้นสูงอย่างแน่นอน เหตุใดนางจึงคิดว่าตัวเองเป็นเพียงเซียนชั้นต้น “ท่านเทพเลี่ยงหรง ท่านคือท่านเทพชั้นสูงนะขอรับ ปราณเทพของท่านบริสุทธิ์มากอย่างที่ท่านครูเคยสอน ข้าเองก็เพิ่งเคยพบเจอเทพชั้นสูงที่มีปราณเทพบริสุทธิ์เช่นนี้ ท่านมิได้อาศัยอยู่บนเทวโลกหรอกหรือขอรับ” เลี่ยงหรงเลิกคิ้ว จากนั้นหลบตาแล้วแสร้งมองไปทางงานเลี้ยงบุปผาแทน “ข้ามิได้อาศัยอยู่ที่นี่ ข้าเพิ่งตื่นจากห้วงฝัน” นางตอบเสียงแผ่วเบา จากนั้นก้มมองดูฝ่ามือของตัวเองอย่างสงสัย นี่นางคือเทพชั้นสูงอย่างนั้นหรือ พลังปราณของนางบริสุทธิ์ขนาดนั้นเชียว ไม่รู้มาก่อนเลยทั้งที่ตอนเกิดมาก็อยู่ในต้นท้อทองคำเพียงลำพัง ซ้ำยังใช้ชีวิตอย่างสันโดษมานับหมื่นปี นางรู้เพียงแค่เขานั้นแตกต่างจากเผ่ามาร และมิใช่ภูตหรือสัตว์อสูร มิเช่นนั้นนางคงจะก้าวผ่านประตูลับมามิได้ ต่อให้นางเป็นถึงเทพชั้นสูงจริงๆ แต่ก็คงจะเป็นเทพไร้ประโยชน์ในนิยาย การไม่ถูกกล่าวถึงก็พอจะทำให้นางรู้ว่าตัวเองนั้นไรตัวเขาที่สุดในบรรดาเทพชั้นสูงของเทวโลก ซือซิงมองท่านเทพผู้ใจดีด้วยท่าทางสงสัย จากนั้นแทะกินผลท้อทองคำในมืออย่างห้ามใจไม่ได้ เนื่องจากกลิ่นหอมหวนนี้เย้ายวนใจมากเกินไป หากท่านอาจารย์รู้ว่าเขาไม่มีความอดทนต่อสิ่งเย้ายวน คงถูกลงโทษให้ไปคัดพระสูตรจนไม่ได้เห็นเดือนเห็นตะวันเป็นแน่ ทว่าหลังจากกัดคำแรกไปเพียงไม่กี่อึดใจ เนื้อผลไม้ก็ถูกแทะจนเหลือเพียงแค่เมล็ดในชั่วพริบตาเสียแล้ว “อร่อยมากๆ เลยขอรับท่านเทพ ตั้งแต่เกิดมาสามร้อยปี ข้าเพิ่งเคยกินผลไม้ที่อร่อยเช่นนี้เป็นครั้งแรก!” ซือซิงเบิกตากว้างด้วยความตื่นเต้น จากนั้นมองเมล็ดในมือที่ค่อยๆ จางหายไป จึงเงยหน้ามองท่านเทพด้วยความอัศจรรย์ใจยิ่ง เลี่ยงหรงคลี่ยิ้มเอ็นดู วันนี้รู้สึกเหมือนว่านางจะยิ้มมากเกินไปจนแก้มแทบเป็นตะคริวเลยทีเดียว เป็นเพราะซือซิงน่ารักเกินไปต่างหาก จึงถือเป็นข้อละเว้น “ผลไม้นี้เรียกว่าผลท้อสวรรค์ทองคำ คงหาได้ไม่ยากในแดนเทวโลก” เสียงหวานกล่าว จากนั้นเสกผลท้อทองคำออกมาอีกหนึ่งลูกแล้วยื่นให้ซือซิง ซือซิงตาเป็นประกายเมื่อได้เห็นผลท้อทองคำอีกลูก เนื่องจากติดใจในรสชาติของมัน “ท่านเทพให้ข้าหรือขอรับ” เลี่ยงหรงพยักหน้า เมื่อซือซิงรับไปแล้ว นางจึงลูบศีรษะเล็กๆ ด้วยความเอ็นดู “ข้าให้เจ้าเป็นของขวัญ เพราะเจ้าเป็นสหายคนแรกของข้า” ซือซิงยิ้มกว้างเมื่อได้ยินเช่นนั้น “ถ้าเช่นนั้นข้ามาพบท่านบ่อยๆ ได้หรือไม่!” ใบหน้าของเลี่ยงหรงเจื่อนลงทันทีหลังจากได้รับความคาดหวังจากเด็กน้อย เพียงแต่นางไม่สามารถตอบรับความหวังนั้นได้ เนื่องจากนางไม่คิดจะอาศัยอยู่บนเทวโลก เป้าหมายหลังจากนี้มีเพียงสิ่งเดียวคือหลบหนีจากเรื่องราววุ่นวาย และใช้ชีวิตอย่างปุถุชนจนสิ้นอายุขัยเพียงเท่านั้น เลี่ยงหรงกล้ำกลืนตอบกลับ แต่กระนั้นก็มิได้ให้คำมั่นสัญญาแต่อย่างใด “หากมีวาสนาต่อกัน ก็หวังว่าจะได้พบกันอีก”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม