กระทั่งถึงคอนโดหรู ก็ถูกเขาจูงมือเดินเข้าล๊อบบี มีพนักงานอยู่แค่คนเดียว ตาปรือๆ คล้ายง่วงเต็มที ปริยกรชอบเวลานี้มาก และอยากให้มีคนแค่ไม่กี่คน จะได้ไม่ต้องพร้อมใจกันมองตามเหมือนทุกครั้ง
ส่วนคนเป็นเจ้าของห้องนั้น กลับไม่ได้ใส่ใจอะไร มากกว่าอยากไปให้ถึงห้อง
“คุณไปอาบน้ำก่อนดีกว่า ดูสิ! เหนื่อยจนหน้าซีดหมดแล้ว”
ปริยกรอยากจะถามเรื่องอาการป่วยของเขา แต่ก็เหนื่อยเกิน เลยคว้ามือถือมาโทรบอกแม่เพื่อให้สบายใจก่อนเป็นอันดับแรก
“กำลังพาเพื่อนมาหาหมอนะจ๊ะแม่จ๋า เสร็จแล้วเดียร์จะนอนกับเพื่อนเลย พรุ่งนี้ถึงจะกลับจ้ะ”
พอแม่รับคำแล้วก็สบายใจหายห่วง แม้จะรู้สึกผิดที่โกหกแต่ก็ไม่มีทางเลี่ยง มือถือยัดใส่กระเป๋าสะพายตามเดิม ก่อนจะเดินเข้าห้องเอาไปวางไว้บนโต๊ะเครื่องแป้ง คว้าของใช้ทุกอย่างเดินเข้าห้องน้ำ เปิดจากุซซี่แล้วลงไปนอนเอาค้นคอพาดขอบอ่างอยู่นิ่งๆ เพราะเหนื่อยกับงานจริงๆ
“เดียร์! เสร็จหรือยัง เป็นอะไรหรือเปล่า”
กระทั่งได้ยินเขามาเคาะประตูเรียก ถึงได้รีบอาบน้ำแล้วแต่งตัวออกไป ก็เห็นเขามีเพียงเสื้อคลุมหุ้มกายไว้ นั่นบอกได้ว่าเขาไปอาบอีกห้องแล้ว
“หิวมั้ย! ในตู้เย็นมีผลไม้กับขนมสองสามอย่าง”
เขาเอ่ยเสียงนุ่ม สองแขนรวบร่างเล็กมากอดไว้หลวมๆ พวงแก้มนุ่มถูกเขาหอมอย่างแผ่วเบา หญิงสาวส่ายหน้าเป็นคำตอบและท่าทีก็ยังคงเหมือนคนเหนื่อยอ่อนอยู่ดี
“งั้นก็นอนเลยนะ”
คนบอกไม่รออะไร แต่รีบช้อนเอาร่างเล็กๆ ขึ้นแล้วพาตรงไปหาเตียงหนานุ่ม คนถูกอุ้มนั้นได้แต่แอบคิดในใจว่ากว่าจะได้นอน ก็ต้องพลีกายให้เขาเชยชมก่อนอีก แม้คืนนี้ใจไม่อยากให้ใครมาเกาะแกะ แต่ก็ไม่อาจจะเลือกได้ ในเมื่อหน้าที่มีให้ต้องทำ
แผ่นหลังนุ่มถูกวางลงบนเตียง มีเขาตามไปติดๆ ผ้าห่มผืนหนาถูกดึงขึ้นมาคลุมสองกายเอาไว้ ริมฝีปากอิ่ม ถูกก็ลงไปจูบเบาๆ รวมทั้งพวงแก้ม จมูก หน้าผาก ก่อนเขาจะยิ้มน้อยๆ แล้วเอ่ย
“ฝันดีนะ”
ไฟหัวเตียงถูกเขาปิดพรึบลง กายกำยำของเขาไม่ได้ทำอะไร นอกจากยกแขนแข็งแรงมาโอบกอดอีกกายไว้ ปริยกรส่งยิ้มในความมืดให้ด้วยความขอบคุณ อยากเดาว่าเขารู้ว่าเธอเหนื่อย เลยงดกิจกรรมที่ทำร่วมกันมาทุกครั้งที่ได้พบกัน แค่อีกใจก็คิดว่าเขาเองก็คงเหนื่อยเช่นกัน
เพียงแค่หยุดคิดเท่านั้น หญิงสาวผู้ถูกใช้งานมาตั้งแต่เมื่อคืนก็หลับสนิทในทันที ทิ้งให้อีกคนยังลืมตาโพรงอยู่ในความมืด นอนฟังเสียงหายใจสม่ำเสมอของคนในอ้อมแขนเท่านั้น
แม้สามคืนที่ห่างกัน จะทำให้เขาคิดถึงและต้องการเธอมากแค่ไหน แต่พอรู้ว่าเธอเหนื่อยเท่านั้น เขาก็ไม่คิดจะทำอะไร เพียงแค่อยากให้หลับสบายไปจรดเช้าในห้องนอนเย็นๆ แบบบนี้มากกว่า
จากเหตุการณ์ตรงหลังบ้านที่เขาเห็น แม้จะไม่ใช่ระยะใกล้ แต่ก็ได้ยินถ้อยคำของสองแม่ลูก และแม่บ้านร่างอวบได้ไม่ผิดเพี้ยน ทำให้อดสงสารไม่ได้ และไม่เข้าใจ ว่าทำไมปรีชาถึงได้ปล่อยให้ลูกกับเมีย
ถูกคนใช้ในบ้านกระทำราวกับเป็นพวกเดียวกันด้วย เป็นพ่อและผัวประสาอะไร ข้อสงสัยต่อไปก็คือ ปรีชากับอังคณารู้บ้างไหม ว่าสองแม่ลูกถูกกระทำแบบนั้น
ถ้าจะให้เดา เขาคิดว่าปรีชาอาจจะไม่รู้ หรือรู้ก็คงไม่ละเอียด หรือไม่มีเวลาได้ใส่ใจ ส่วนว่าที่แม่ยายของเขานั้น เขาเดาไม่ออก เพราะดูภายนอกแล้วเป็นคนใจดีมีเมตตา ไม่น่าจะปล่อยให้สองแม่ลูกถูกรังแกได้ขนาดนั้น แต่
‘เมียหลวงกับเมียน้อยที่ไหนในโลกจะถูกกันวะไอ้ปาล’
เขาแย้งอยู่ในใจ ต่อให้อังคณาดีเริดประเสริฐศรีแค่ไหน ก็ต้องเขม่นหรือไม่พอใจเมียน้อยอยู่ดี และต่อให้เป็นเมียคนรับใช้มาก่อน อยู่คนละระดับก็ตาม ขึ้นชื่อว่าผัวก็คงไม่มีใครอยากแบ่งให้ใครใช้เป็นแน่
นั่นทำให้เขาเดาได้ว่า ที่ผ่านมาเนิ่นนาน สองแม่ลูกก็คงจะอยู่บ้านนั้นในแบบที่ไม่สบายทั้งกายและใจนัก
เขาทิ้งความคิดเรื่อยเปื่อยเอาไว้แค่นั้น แล้วก้มลงไปสูดดมแก้มนุ่มแผ่วเบา ก่อนจะยิ้มบางๆ แล้วเบียดกายเข้าใกล้อีกกาย ก่อนจะหลับไปด้วยความเหนื่อยอ่อนไม่แพ้กัน ลืมความหิวกระหายในรสรักไปแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัวด้วยซ้ำ
ตื่นอีกทีก็ใกล้หกโมงแล้ว มองคนข้างๆ ยังเห็นว่าหลับสบายอยู่ อยากจะนอนกอดร่างนุ่มนิ่มต่อแทบตาย แต่วันนี้ตารางงานแน่นเอี๊ยด เลยต้องรีบลุกไปอาบน้ำทันที และแม้จะพยายามจะไม่ทำเสียงดังแค่ไหน เพราะอยากให้คนบนเตียงนอนต่อ ทว่าเจ้าของใบหน้าสวยก็สะดุ้งตื่นขึ้นจนได้
พอรู้ว่าเขาเข้าไปอาบน้ำ และคงจะรีบไปทำงานแล้ว ก็รีบลุกไปคว้าผ้าเช็ดตัวกับข้าวของอื่นๆ มานั่งรออยู่บนเตียง จะได้รีบออกไปพร้อมเขาเลย แม้จะอยู่กับเขามาร่วมสองเดือน
แต่ก็ไม่เคยอยู่ห้องนี้เพียงลำพังสักครั้ง และไม่รู้ว่าอยากจะอนุญาตให้อยู่บ้างไหม เลยคิดว่าจะรีบกลับบ้านไปนอนต่อ เพราะยังไม่หายเหนื่อยสักเท่าไหร่
“ตื่นแล้วเหรอ”
คนเดินพ้นประตูออกมา มีเพียงผ้าขนหนูพันท่อนล่างไว้เอ่ยถาม แล้วตรงไปยังตู้เครื่องแป้งเป็นอันดับแรก ส่วนคนนั่งรออยู่ก็เอ่ยเสียงนุ่มไปหา
“ค่ะ”
แล้วรีบหอบทุกอย่างเข้าห้องน้ำ จนคนอยู่หน้ากระจกถามไม่ทัน เลยไปเปิดตู้ เลือกเสื้อผ้ามาใส่อย่างคนใจเย็น เพราะคอนโดอยู่ใกล้ที่ทำงาน ไม่จำเป็นต้องรีบร้อนมากมายนัก
“คุณจะกลับแล้วเหรอ”
ปาลเอ่ยเสียงนุ่ม ขณะสวมเสื้อเชิ้ตแต่ยังไม่ได้ติดกระดุม เพราะเห็นร่างเล็กๆ ออกมาในสภาพเรียบร้อยแล้ว
“ค่ะ”
ส่วนคนถูกถามก็เดินไปยืนอยู่หน้ากระจกบ้าง ปาลเลยก้าวเข้ามาหา คว้าตัวเล็กๆ กอดไว้ ริมฝีปากหยักได้รูป จูบลงไปตรงเรือนผมสลวยและติ่งหนู