“คุณป้าก็สวยเหมือนกันค่ะ”
“อุ๊ย! ลูกสาวแม่ปากหวานจังเลย แล้วเมื่อไหร่แม่จะได้เอาไปอยู่บ้านด้วยสักทีล่ะลูก แม่อยากได้หลานจะแย่แล้วนะจ๊ะ”
อลิยาไม่ได้ตอบอะไร เพียงแค่ยิ้มอย่างเอียงอายแล้วหันไปมองคู่หมั้นเท่านั้น เนตรนิตย์รู้ว่าแซวหนักไปหน่อย เลยรีบเปลี่ยนเรื่อง
“ว่าแต่ป้าหิวแล้ว เราเข้างานกันดีกว่านะคะ”
“ค่ะคุณป้า แอลจัดโต๊ะไว้ให้ตรงใกล้ๆ โต๊ะคุณแม่เลยค่ะ แล้วถ้าคุณป้าจะย้ายไปนั่งโต๊ะเดียวกับคุณแม่ก็ได้นะคะ แต่กว่าคุณแม่จะช่วยคุณพ่อต้อนรับแขกเสร็จก็คงดึกค่ะ คุณป้านั่งกับพี่ปาลและทุกคนไปก่อนก็ได้นะคะ”
“จ้ะ ไปกันเร็วสองหนุ่ม”
เนตรนิตย์หันมากวักมือเรียกลูกชายกลางกับลูกชายเล็ก ที่เอาแต่ก้มมองมือถือ โดยไม่คิดจะสนใจใครหรืออะไรทั้งนั้น
“แล้วคุณลุงล่ะคะ”
อลิยาเพิ่งคิดขึ้นได้เลยเอ่ยเสียงเรียบนุ่มออกมา
“คุยธุระอยู่ทางโน้นจ้ะ เดี๋ยวเสร็จแล้วคงจะตามมา”
“เหรอคะ ว่าแต่พี่ปาลจะนั่งโต๊ะเดียวกับคุณป้ามั้ยคะ”
“ครับ”
ปาลรับคำแค่สั้นๆ พอเข้าถึงประตูงานก็ส่งของขวัญให้สองพ่อลูก แล้วยืนถ่ายรูปเป็นที่ระลึก ก่อนจะถูกอลิยานำไปนั่งยังโต๊ะที่จัดเอาไว้ แม้จะรู้จักครอบครัวคู่หมั้นมานาน แต่สำหรับเขาแล้วก็เป็นไปแบบผิวเผิน ไม่ได้เข้ามาคลุกวงในเหมือนแม่
เลยไม่ค่อยรู้จักคนในงานสักเท่าไหร่ มีเจอคนรู้จักให้เข้าไปทักทายบ้าง แต่ก็น้อยเต็มที น้องชายทั้งสองคนนั้นยิ่งไม่ต้องพูดถึง เพราะอยู่คนละวงการเลยไม่รู้จักใคร ได้แต่นั่งหงอยดูการแสดงบนเวที
“คุณป้ากับพี่ปาลจะทานอะไรคะ แอลจะไปตักให้”
อลิยาแสดงความเป็นเจ้าภาพออกมา แม้หน้างานจะเห็นแม่หันมามองบ่อยครั้ง เพราะอยากให้ออกไปช่วยต้อนรับแขก
“แอลลี่ไปช่วยคุณลุงกับคุณป้าต้อนรับแขกเถอะครับ”
ด้วยความที่ สองพ่อสองแม่ของทั้งสองบ้านอายุเท่ากัน ลูกของแต่ละบ้าน เลยเรียกว่าลุงกับป้าเหมือนกัน
“ทางนี้พี่จัดการเอง”
และปาลดูออกเลยรีบบอกโดยไม่ต้องคิดนาน
“นั่นสิจ๊ะ ไปเถอะลูก ไม่ต้องห่วงหรอก ทางนี้ป้ามีตั้งสามหนุ่ม รับรองป้าไม่อดจ้า”
“ค่ะ งั้นเสร็จแล้วแอลจะรีบกลับมาคุยด้วยนะคะ”
“เดี๋ยวผมกับเจ้าสองตัวนี่จะไปหาอะไรมาให้แม่นะครับ”
จากนั้นเขาก็ลุกขึ้น เพราะรู้ว่าน้องคงไม่อยากนั่งนิ่งๆ แน่ เลยพาเดินไปยังไลน์อาหารแบบบุฟเฟต์ เครื่องใช้ไม้สอยนั้นชั้นดีไม่ต่างจากโรงแรมระดับหน้าดาว แต่เขาพอรู้มาจากแม่ว่าบ้านนี้เวลาจัดงานนั้น
ส่วนใหญ่จะทำอาหารเองไม่ได้จ้างใคร นอกจากคนในบ้านตัวเอง บ้านของอลิชาลูกสาวคนโตที่แต่งงานออกเรือนไปแล้ว แต่ก็ไปๆ มาๆ อยู่
ไม่รู้ทำไมเขาถึงพยายามกวาดสายตาเพื่อมองหาใครบางคน ที่คาดหวังว่าจะอยู่ในงานนี้บ้าง แต่ใจก็รู้อีกว่าไม่มีทางที่เมียหลวงอย่างคุณป้าอังคณาจะให้บ้านเมียน้อยมายุ่งแน่ เขาถอนหายใจออกมาเบาๆ ด้วยความผิดหวัง
“เดินเร็วๆ หน่อยสิยะ แขกยืนรออาหารอยู่นะ”
แต่หูได้ยินเสียงนี้ดังขึ้นจากมุมต้นไม้ สูงพอท่วมหัวไม่ห่างจากไลน์อาหารนัก เขาหันไปมองก็เห็นร่างผอมบางกำลังอุ้มถาดสแตนเลสสี่เหลี่ยม มีเส้นสปาเกตติอยู่เต็ม ไม่บอกก็รู้ว่าหนักแค่ไหน เขาอยากเข้าไปช่วยแทบแย่
“อ้าว! มาแล้วก็เทลงถาดเดิมสิ หรือไม่ก็เปลี่ยนเอาถาดเก่าออก เอาอันใหม่วางไว้แทน แล้วก็รีบๆ เข้าไปยกมาอีก ของกินขาดตั้งหลายอย่าง ทางโน้นด้วย”
แต่พอเห็นร่วงอ้วนอวบของแม่บ้านหน้าดุ ใช้สายตาจิกคนเดินตามหลังมานั้น
“พี่ปาลเอาสลัดให้แม่นะ ปริมจะเอาสปาเกตติเอง”
บวกกับน้องชายมาสะกิดบอก ทำให้เขาชะงักนิดหนึ่ง พอหันกลับไปก็เห็นร่างเล็กๆ เดินประคองถาดเปล่าเดินกลับทางเก่าแล้ว
“พี่ปาล เค้ากินนิดๆ หน่อยๆ แล้วก็จะออกไปพร้อมปริมเลยนะ”
น้องคนกลางก็มากระซิบบอก แล้วใช้สายตาเรียกให้เดินกลับไปที่โต๊ะ เมื่อได้ของกินตามต้องการแล้ว เขาเลยจำต้องเดินตาม ระหว่างนั้นก็พยายามใช้สายตามองหาร่างเล็กๆ ในกางเกงยีนส์กับเสื้อยืดพอดีตัวไม่หยุดหย่อน ไม่นานก็เห็นอุ้มถาดอาหารอะไรสักอย่างไปวางไลน์อาหารอีกฟากของงาน
จากนั้นก็ถูกแม่บ้านร่างอวบ ทำตัวเสมือนเป็นเจ้านาย คอยชี้นิ้วสั่งให้ไปทำนั่นนี่อยู่เรื่อย แม้เขาจะไม่ได้ยินว่าบอกอะไร แต่ดูก็รู้ว่าถูกใช้ให้ไปทำนั่นนี่ไม่หยุด
เขาพยายามมองหาปรียา คนที่เขาได้ยินชื่อมานานปีแต่ไม่เคยเห็นหน้าคร่าตาสักครั้ง แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่เห็นอยู่นั่นเอง
‘คงป่วยแล้วนอนอยู่บ้านมากกว่า’
เขาเดาว่าคงจะเป็นอย่างนั้น แล้วก็ให้แปลกตัวเองไม่น้อย ที่รู้จักคนบ้านนี้และมาบ้านนี้หลายครั้ง แต่ไม่เคยอยากรู้เรื่องของสองแม่ลูก ที่มักจะถูกพูดถึงบ่อยๆ เลยรีบโยนความผิดไปให้คำว่า ‘สงสาร’ ตามเดิม เพราะลึกๆ แล้วเป็นคนขี้สงสาร ยิ่งเห็นผู้หญิงตัวเล็กๆ ไร้ทางเลือกในชีวิตเขายิ่งสงสารหนัก
“หนูแอลลี่นี่ ยิ่งดูยิ่งสวยสง่าแล้วก็น่ารักนะปาล ดูสิ! ช่วยพ่อแม่ต้อนรับแขกไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเลย...”
และอีกหลายต่อหลายคำชมที่แม่เขาสรรหามาเอ่ย เรียกได้ว่าตั้งแต่เข้างานมากระทั่งใกล้เลิก มีเพียงแขกสนิทกับเจ้าภาพเหลือไม่กี่โต๊ะเท่านั้น ที่เขากับแม่ต้องแยกไปนั่งรวมกับคนอื่น
น้องทั้งสองนั้น อาศัยช่วงการแสดงที่ไฟเปิดแค่สลัวๆ ออกจากงานไป เขาเลยย้ายไปนั่งกับพ่อรวมกับนักธุรกิจคนอื่น แม่นั่งกับอังคณาและเพื่อนๆ
“ผมขอตัวเข้าห้องน้ำแป้บนะครับพ่อ”
เขาลุกขึ้นทันที เมื่อสายตาเหลือบเห็นร่างเล็กๆ เดินมาเมียงมองไลน์อาหารที่ถูกเมินจากแขกจนหมดสิ้นแล้ว
“พี่ปาลจะไปไหนคะ”
อลิยานั่งอยู่กับเพื่อนๆ เอ่ยถามเมื่อเขาเดินผ่านโต๊ะ
“ไปเข้าห้องน้ำครับ”
แรกทีเดียวเขาเห็นว่าหญิงสาวทำท่าจะลุกตาม แต่พอเขาบอกก็แค่ส่งยิ้มให้ เขาเองก็ยิ้มบางๆ ให้ แล้วเดินตรงเข้าบ้าน