เลยต้องรีบทำ กลัวเขาจะหาว่าอุ๊บอิ๊บ ส่วนเขานั้นก็คว้ากุญแจรถ คีย์การ์ดมือถือ กับกระเป๋าสตางค์ยัดใส่กระเป๋ากางเกงยีนย์สีดำแบบรัดรูปนิดๆ
เผยให้เห็นช่วงขายาว กำยำ แข็งแรงได้ไม่ยาก เสื้อยืดพอดีตัวสีขาว ช่วยส่งให้เขาดูดีไร้ที่ติ แตกต่างจากหลายครั้งที่มักจะเห็นเขาใส่สูทผูกไท แถมตีหน้าขรึมนิดๆ มีมาดนักธุรกิจครอบคลุมเอาไว้ นี่จึงถือว่าเป็นครั้งแรก ที่ได้เห็นเขาในอีกแบบหนึ่ง ซึ่งน่ารักไม่น้อย
“สองสามคืนนี้ คุณมาอยู่กับผมได้มั้ย”
ระหว่างทางเขาก็เอ่ยขึ้นแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย ปริยกรไม่อาจจะปฏิเสธได้ จะด้วยหน้าที่หรือด้วยความต้องการภายใน ก็ยากจะบอกออกมาแน่ชัดได้ แต่ก็ห่วงแม่ขึ้นมาไม่น้อย หนึ่งกลัวแม่จะสงสัย กับสองกลัวแม่เป็นอะไรยามค่ำคืนหากจะต้องไม่ค้างที่อื่นติดๆ กัน
“กลางวันคุณก็กลับไปอยู่กับแม่ได้ ส่วนเย็นๆ ค่อยมาหาผม ถ้าไม่แน่ใจ คุณจะโทรถามแม่ก่อนก็ได้”
ปริยกรอึ้งในความอ่านใจคนเก่งของเขาไม่น้อย เลยควานหามือถือในกระเป๋ามากดโทรออกไปหาแม่ เพราะท่าทีเขาอยากได้คำตอบตอนนี้
“แม่จ๋า!...”
ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะโกหกแม่ ด้วยการหยิบยกเอาการทำงานมาอ้าง แต่นั่นก็เป็นเรื่องจริงเช่นเคย ปริยกรเลยได้ไฟเขียวจากแม่มาง่ายๆ
“ถ้างั้นคุณจอดตรงตลาดก็ได้ค่ะ”
มือบางชี้ไปยังตลาดเดิมเมื่อครั้งก่อน เพราะห่วงแม่ เลยอยากจะซื้ออาหารสำเร็จกับของสดไปเก็บไว้ในตู้เย็น ให้แม่มีไว้ทำกิน เผื่อแผ่ไปถึงสองลุงป้าที่ทำสวนด้วย จะได้ฝากให้คอยดูแลแม่ตอนตัวเองไม่อยู่อีกเช่นกัน
“สักสองทุ่มคุณไปรอผมร้านโน้นนะ เสร็จงานแล้วผมจะมารับ”
งานของชายหนุ่มนั้นก็คือ การพาพ่อแม่ไปกินข้าวกับครอบครัวของคู่หมั้นนั่นเอง
“เดียร์ไปรอที่ล๊อบบีคอนโดคุณก็ได้ค่ะ”
แม้จะไม่ชอบสายตาผู้คนในล๊อบบีที่คอยมองมาหาด้วยความสงสัยไม่น้อย แต่ปริยกรคงไม่กล้าเดินออกบ้าน โดยใช้ตรอกเปลี่ยวๆ ข้างบ้านมารอแน่ เพราะเขานัดสองทุ่ม ก็คงจะออกบ้านสักทุ่มตรงกะเวลาเดินกับมานั่งรออีก
“งั้นผมไปรับตรงตรอกข้างบ้านคุณก็แล้วกัน ไปถึงแล้วผมจะส่งไลน์บอก แล้วคุณค่อยออกมา”
แม้จะเป็นคนง่ายๆ แต่สิ่งหนึ่งที่ปาลไม่ชอบคือ มีคนขัดคำสั่ง
“อืม! ไม่เอาได้มั้ยคะ คือว่าเดียร์กลัวคนในบ้านเห็นค่ะ อีกอย่าง เดียร์บอกแม่ว่าต้องไปทำงาน ก็ต้องออกบ้านเร็วหน่อย สักห้าโมงครึ่งหรือหกโมง นั่งรถเมล์ก็คงชั่วโมงกว่าๆ ไปถึงคอนโดคุณ เดียร์จะนั่งรอที่ล๊อบบีค่ะ”
อีกคนทำตาโตเสียงแข็ง เพราะกลัวเป็นที่สุด ถ้าเรื่องนี้รู้ถึงหูแม่และคนบ้านใหญ่
“เฮ้อ!!! คุณนี่ดื้อจริง”
ชายหนุ่มถอนหายใจหนักๆ ออกมา แต่สุดท้ายก็เป็นฝ่ายยอม เมื่อจนด้วยเหตุผลของคนข้างๆ อีกทั้งเขาก็คงจะปลีกตัวออกมาเร็วกว่านี้ไม่ได้แล้ว เผลอๆ ก็อาจจะเลทด้วยซ้ำ
“งั้นคุณเอานี่ไว้ไปหาอะไรกิน ระหว่างรอผมก็แล้วกัน”
เขาส่งแบงค์สีเทาให้ห้าใบ ปริยกรมองแล้วทำตาปริบๆ แต่ไม่ยอมรับมา เพราะไม่คิดว่าเขาจะต้องจ่ายอะไรเพิ่มแล้ว ลำพังที่ให้เดือนและแสนนั้นก็มากพอแล้ว
“รับไปเถอะ ร้านอาหารในนั้นแพง อีกอย่างเงินเดือนของคุณจะได้เก็บไว้แบบเต็มๆ ไง ห้ามปฏิเสธ ไม่งั้นจะจูบตรงนี้เลยนะ โอเค๊!”
หญิงสาวยิ้มให้ด้วยความขอบคุณที่เขามีน้ำใจ ก่อนจะยกมือไหว้ รับเงินมายัดใส่กระเป๋ากางเกง แล้วออกจากรถเขาไปยืนรอส่งตรงบาทวิถีตามเดิม
แม้จะเหนื่อยมาตั้งแต่เช้า เพราะต้องตะลอนๆ ไปคุยกับคนนั้นคนนี้ตลอดทั้งวัน แต่ปาลก็จำต้องกลับเข้าออฟฟิศอยู่ดี เพราะมีเอกสารสำคัญให้เซ็นต่อจากผู้รออยู่ เขาบ่นเบาๆ เมื่อถูกรถคันหน้าป้าดเขามาแบบกระชั้นชิด
และดีใจที่วันนี้ขับรถเอง เลยไม่มีใครมาได้ยินกับเห็นท่าทีหัวเสียนี้ ปกติเวลาอยู่ที่ทำงานเขาจะขรึม ฟังมากกว่าพูด เพื่อให้ผู้ใต้บังคับบัญชายำเกรงตามที่พ่อคอนเอาไว้
“มีอะไรเอามาเร็วๆ เลยพี่แมว ผมเหนื่อย แล้วก็อยากกลับไปอาบน้ำก่อน”
เขาเอ่ยอย่างรวดเร็ว เลขาก็ลุกพรวดพราดทำตามอย่างเร่งรีบไม่แพ้กัน พอเข้าไปในห้อง เห็นกล่องของขวัญวางอยู่บนโต๊ะ เขาหันกลับมาหาคนหอบแฟ้มตามหลังด้วยความสงสัย
“ของขวัญวันเกิดคุณปรีชากับคุณอาร์มไงคะ”
เลขาหมายถึงลูกชายคนเล็กของปรีชา ผู้เป็นว่าที่พ่อตา และเขากำลังจะไปงานวันเกิดค่ำนี้ เขายิ้มให้อย่างขอบคุณ เพราะลืมไปเสียสนิท หรือพูดง่ายๆ ก็คือไม่ได้ใส่ใจเรื่องนี้เลย
แต่ไม่มีเวลามาก เขารีบรับแฟ้มมาอ่าน แล้วรีบจรดปลายปากกาลงมือชื่อไปในเอกสารกับเช็คหลายแฟ้ม จากนั้นก็มีเอกภพเข้ามารายงานและให้เซ็นเอกสารอีก กว่าจะได้ออกจากออฟฟิศก็ชั่วโมงครึ่ง
“เจอกันที่บ้านคุณปรีชาเลยนะปาล” เปรมผู้เป็นพ่อของเขาเอ่ยตอนเห็นหน้ากันตรงชั้นล่าง
“ครับ”
เขารีบไปหารถบึ่งกลับคอนโด ที่คนในครอบครัวรู้ว่ามี แต่ยังไม่เคยมาสักครั้ง เพราะมันเป็นพื้นที่ส่วนตัว เขาอยากจะทำอะไรก็ได้ แลกกับการยอมหมั้นและจะยอมแต่งงานกับอลิยา ผู้ซึ่งพ่อและแม่เห็นว่าเหมาะสมกับเขามากกว่าใคร และคงจะเป็นแม่ที่ดีของลูกเขาได้
รถญี่ปุ่นสีดำป้ายยังคงเป็นแดงอยู่ ฟิล์มปรอทนั้นช่วยปกปิดไม่ให้มองเห็นด้านในโดยง่าย ถูกเขาหันไปมองเมื่อจอดแลนด์โรเวอร์ไว้ข้างๆ อดคิดถึงคนเป็นต้นเหตุให้เขาต้องซื้อรถคันนี้เอามาไว้ไม่ได้ และมันก็ช่วยให้การขับไปรับเธอในตรอกเล็กๆ ได้ดีไม่มีใครสงสัย
กี่วันแล้วนะไม่เห็น ไม่ได้แนบชิด เขาคิดดีๆ ก็รู้ว่าเพิ่งจะห่างกันเช้าวันศุกร์เท่านั้น นี่เพิ่งเย็นวันจันทร์ แต่ทำไมรู้สึกเหมือนนานเป็นเดือน ชีวิตที่ยุ่งกับงานในบริษัท