พระรามล้มตัวนอนลงบนโซฟาตัวใหญ่ยกแขนมาก่ายหน้าผากแล้วหลับตาโดยที่ไม่รู้เลยการกระทำและคำพูดมีผลต่อความรู้สึกของน้องชาย พระลักษณ์สูดลมหายใจเข้าลึกๆมองพี่ชายด้วยความหนักใจแล้วเดินเข้าห้องนอนถอดเสื้อผ้าแล้วอาบน้ำเย็นจัดให้สบายตัวมากขึ้น
มายไม่เคยพูดว่าเป็นอะไรกับพี่ชายแต่ก็อดสงสัยไม่ได้ว่ามีเรื่องอะไรให้โกรธกันถึงขนาดไม่อยากได้ยินชื่อทั้งที่พระรามก็ตามหาตัวอยู่ ถ้าไม่ใช่คนรักกันแล้วเป็นอะไรกันวะ! เขาไม่อยากจะเอาใจลงไปเล่นในความสัมพันธ์ที่ต้องแย่งกับพี่ชายตัวเองแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ารู้สึกดีกับมายจริงๆ
ความรู้สึกที่เกิดขึ้นมันเป็นเรื่องผิดพลาด!
"แม่งเอ้ย!!" มือใหญ่ต่อยผนังห้องน้ำไปหนึ่งทีระบายอารมณ์ที่อึดอัดแต่ไม่รู้ว่าจะทำยังไงดี
ก๊อกๆๆ
"เห้ยลักเป็นไรรึเปล่าวะ?" พระรามเคาะประตูถาม
"กูไม่เป็นไรหรอกมึงนอนก่อนเลย!" ถ้าบอกว่าไม่อยากเห็นหน้ามันจะได้ไหมละ
"ชักว่าวผิดจังหวะเหรอวะ?"
"ไอ้เหี้ย!!"
"งั้นกูนอนก่อนนะพรุ่งนี้ต้องทำธุระแต่เช้า"
เสียงพระรามเงียบลงไปคงเพราะไปนอนแล้วแต่เขานี่สิจะข่มตาหลับได้ยังไงละในคืนนี้ จำได้ก่อนที่พระรามจะมายังรู้สึกว่าอารมณ์ดีกว่านี้หลายเท่าแต่ตอนนี้กลับร้อนรนอึดอัดไปหมดแล้ว
พระลักษณ์อาบน้ำเสร็จเดินออกมาแล้วถอนหายใจมองพี่ชายที่หลับสนิทแล้ว พรุ่งนี้ต้องเจอว่าที่คู่หมั้นเขาไม่รู้ว่าจะรับมือยังไงดี พ่อก็พยายามยัดเยียดมาให้เหมือนไม่รู้จักลูกชายตัวเองว่าเป็นคนยังไงแล้วพี่ชายที่บอกว่าจะช่วยก็คงช่วยแค่ปากส่วนการกระทำไม่มีหรอก!
หายไปเป็นอาทิตย์โผล่มาก็ถามเรื่องมาย!
เขาควรจะเอายังไงดี?
ณ ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่มายมาก่อนเวลาที่นัดไว้เพราะรู้สึกอยากจะเปลี่ยนสีผมสักหน่อย เธออยากได้สีบลอนด์ทองเอาให้ทุกคนตะลึงกันไปเลยแล้วจะซื้อชุดใหม่ๆไว้ใส่ไปทำงานส่วนชุดเก่าก็คงจะฝากเพื่อนขายในอินสตาแกรมเหมือนเดิม
เธอไม่เคยทำผมสีบลอนด์เลยสักครั้งอย่างมากก็เป็นสีน้ำตาลแค่นั้นเอง อยากจะรู้เหมือนกันว่าจะดูดีขึ้นรึเปล่า
"รบกวนตัดหน้าม้าบางๆด้วยนะคะ"
"ได้ค่ะน้องมาย"
"ขอบคุณค่ะพี่แว๋ว" ร้านทำผมร้านนี้เพื่อนเธอเป็นเจ้าของเองแล้วในตอนแรกที่เปิดเธอก็มาช่วยบ่อยๆจนสนิทกับช่างทำผม แล้วปรกติเธอจะมาใช้บริการที่นี่เป็นส่วนใหญ่หรือบางครั้งก็มานั่งเล่นกับเพื่อนเฉยๆ
เดิมทีผมเธอดำมากขัดกับสีผิวขาวเหลืองจนรู้สึกว่าเด่นไปแต่ถ้าทำผมสีบลอนด์ทองแล้วคงจะรู้สึกว่าผิวสว่างมากแน่เลยแต่ก็ดีนะเหมือนหลอดไฟเคลื่อนไหวได้!
ผ่านไปเกือบสี่ชั่วโมงก็ทำผมเสร็จแล้วม้วนเป็นลอนใหญ่ยาวเกือบถึงเอวรับกับหน้าม้าบางๆจนรู้สึกว่านี่ไม่ใช่ตัวเธอแต่เป็นตุ๊กตาต่างหากละ!
"สวยมากน้องมายงั้นพี่ขอถ่ายรูปส่งให้น้องกุลดูก่อนนะ"
"ได้ค่ะพี่แว๋ว"
หลังจากถ่ายรูปส่งให้เพื่อนแล้วลงรีวิวให้ร้านก็ถึงเวลาออกไปใช้เงินเพิ่ม วันนี้คือวันเกิดของเธอพี่หมอกเลยซื้อกำไลสวยหรูที่ขายหมดภายในเวลาไม่นานเป็นของขวัญให้ส่วนพี่เฟรมเลี้ยงเมื่อคืนแล้วยังจะเลี้ยงหนังวันนี้ก่อนจะไปทำงานที่เมืองนอกอีกสองอาทิตย์ถึงจะกลับ
เธอเดินดูของเรื่อยๆจนไม่ระวังชนกับผู้หญิงอีกคนและผู้ชายหน้าคุ้นเคยมาก
"อุ้ย!! ขอโทษค่ะ" พี่ลักมากับแฟนเหรอแล้วไหนว่าไม่มีใครไง...โกหกกันนี่หว่า!
"ไม่เป็นไรค่ะฉันเองก็ไม่ได้ระวัง" ผู้หญิงอีกคนตอบ
พระรามยืนนิ่งมองคนที่สวยมากจนแทบจำไม่ได้แต่ว่าเขาไม่สามารถจะทำอะไรได้ในไม่อย่างนั้นมีปัญหาตามมาแน่ที่ทำได้ในตอนนี้คือเดินไปกับน้ำหวานเพื่อไปกินอาหารกันแล้วค่อยไปกินกันต่อ!
เขาสลับตัวกับน้องชายตามที่มันบอกเพราะไม่อยากจะอยู่กับว่าที่คู่หมั้นตามลำพัง
"น้ำหวานพี่ขอเข้าห้องน้ำก่อนแล้วจะตามไปนะครับ" พระรามพูดด้วยน้ำเสียงอบอุ่นแล้วยิ้มกว้างให้กับว่าที่คู่หมั้นน้องชายที่จัดว่าสวยมากแต่เอาแต่ใจตัวเองสุดๆสบายใจ
"งั้นหวานสั่งอาหารรอนะคะแล้วรีบมานะ"
"ครับ พี่ไปไม่นานหรอก" พระรามยิ้มกว้างแล้วรีบเดินไปทางร้านเสื้อผ้ามองหามายเห็นว่าเธอกำลังจ่ายเงินถึงได้รีบเดินไปหา
"มาทำอะไรคนเดียว?"
"แล้วพี่…"
"พี่ชื่อพระลักษณ์ครับไม่ใช่พระราม พี่เป็นน้องชายฝาแฝดน่ะ"
"โอเค แล้วเมื่อกี้แฟนเหรอ?"
"แค่น้องสาวน่ะแฟนพี่…"
"มายขอตัวนะคะมีนัดกับพี่หมอก"
"เดี๋ยวสิมาย พระรามมันอยากเจอนะวางไหม?"
"ฝากบอกพี่รามด้วยนะคะ"
"อะไรเหรอครับครับ?"
"จะไปตายไหนก็ไปซะ!!" เธอรับของแล้วรีบเดินหนีออกมาทันทีก่อนจะหามุมหลบไม่ให้เขาตามตัวเจอ เธอไม่ต้องการจะคุยกับคนเลวแบบนั้นอีกแล้วมันเสียเวลาเสียความรู้สึกเปล่าๆ
พระรามรีบตามออกไปแต่ก็ไม่เห็นจนน่าสงสัยว่าหายตัวไปได้รึไงไวขนาดนี้แต่ก่อนจะคิดอะไรได้เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น น้ำหวานโทรตามแล้ว! เขาไม่รับสายแต่เดินไปหยิบของผู้หญิงแล้วจ่ายเงินจากนั้นก็ไปที่ร้านอาหารนี้ก็คงจะมีข้ออ้างที่หายมานานแล้ว
เขาต้องได้คุยกับมายแบบส่วนตัวกว่านี้!
มายเดินไปหน้าโรงหนังเห็นพี่หมอกกับพี่เฟรมยืนถือขนมและน้ำรออารมณ์หงุดหงิดก็หายไปเป็นปลิดทิ้ง เธอต้องใช้วันเกิดตัวเองให้มีความสุขที่สุดแล้วคืนนี้ก็ต้องไปทำงานก่อนที่พวกเราจะพักผ่อนหนึ่งอาทิตย์ไปทะเลกัน
แค่คิดถึงเสียงคลื่นก็รู้สึกมีชีวิตชีวาขึ้นมาแล้ว!
"เล่นเอาซะพี่เกือบจะจำไม่ได้เลยนะมาย!" เฟรมมองน้องสาวเพื่อนในลุคที่แปลกตาแค่กลับสวยมากได้อย่างไม่น่าเชื่อ
"นานๆทีจะทำสีผมก็เอาให้สุดไปเลยสิ พี่หมอกว่าไงมายสวยรึเปล่า?" พี่ชายเบะปากใส่ก่อนลูบหัวเธอเบาๆแล้วเปลี่ยนมาโอบไหล่พาเข้าโรงหนังเพราะถึงเวลาแล้ว
นี่จะไม่ชมกันจริงๆเหรอว่าเธอสวย!
"ของขวัญถูกใจไหมมาย?” กำไลข้อมือราคาครึ่งแสนเชียวนะนั่นแถมยังขายหมดไวมากในประเทศของเรา เขาใช้เวลารอตั้งนานกว่าจะได้มาเพราะส่งตรงจากต่างประเทศแล้วขนส่งมีปัญหานิดหน่อยด้วย
"ถูกใจมากเลยแล้วพี่หมอกเห็นรึยังว่าแด๊ดกับมัมให้อะไรมาย?" ไม่ได้อยากอวดนะแค่อยากให้รู้เฉยๆ
"อะไรละพี่ไม่เห็นรู้เลย" พ่อแม่ไม่พูดสักคำตอนที่เขาถาม
มายยิ้มกว้างแล้วล้วงกระเป๋าสะพายหยิบกุญแจรถหรูราคาเกือบสิบล้านขึ้นมาโชว์พี่ชายก็อ้าปากค้างทำตาโตใส่อีก ของขวัญปีนี้ชิ้นใหญ่มาก! เธอจะถ่ายรูปอวดวันนี้แหละแล้วช่างภาพมือหนึ่งก็ไม่ใช่คนอื่นคนไกลเลย
พี่เฟรมไงเล่าถ่ายรูปเก่งมาก!
"ขับมาด้วยใช่ป่ะมาย?"
"อื้ม! ไว้ดูหนังจบแล้วไปขับรถเล่นกัน"
"แน่นอนครับน้องสาว!"
“ปีนี้แด๊ดเล่นใหญ่จนมายตกใจตอนโทรมาบอกให้ไปเซ็นรับของแล้วสภาพตอนนั้นก็พึ่งตื่นด้วย!”
“ทำไม เอ๋อแต่เช้าเหรอ?”
“จะเหลือเหรอพี่หมอก! เมื่อคืนดื่มไปน้อยๆซะที่ไหนแล้วนอนเกือบเช้าอีกตื่นมาตอนนี้ได้ก็บุญแล้ว!”