ต้องกลับลั่วหลาง จางลั่วชิงย่อมรู้สึกเศร้าอยู่ไม่น้อย รถม้าวิ่งเหยาะไปเรื่อยๆ ตามเส้นทาง กระทั่งออกจากเขตซินเกียงได้ไม่นาน รถม้าก็หยุดลงเสียอย่างนั้น จางลั่วชิงคิดจะเลิกม่านดูเสียหน่อยว่าถึงที่ใดแล้ว ทว่าซู่เสวียอี้ที่นั่งอยู่ข้างๆ รั้งแขนนางเอาไว้ สีหน้าของจางลั่วชิงคล้ายมีคำถามว่าทำไมหรือ ซู่เสวียอี้ “เจ้าปิดตา ข้าจะพาไปดูอะไรบางอย่าง” จางลั่วชิงมองหน้าเขาด้วยประหลาดใจ แต่ว่าก็ยอมยกมือขึ้นปิดตาตนเองเอาไว้ ซู่เสวียอี้ประคองนางลงจากรถม้าอย่างระมัดระวัง จูงมือนางเดินไปข้างหน้าได้สิบก้าวก็หยุดลง จากนั้นค่อยบอกให้ลืมตาได้ จางลั่วชิงเอามือออก ร้องว้าวด้วยความตื่นเต้น ภาพตรงหน้าคือสวนดอกเหมยกว้างใหญ่ไพศาล สวยงามจนไม่อาจหาคำใดมาบรรยาย หญิงสาวตาโต อ้าปากค้าง “คงเป็นที่ที่พี่ใหญ่เคยบอก งดงามเหลือเกินเจ้าค่ะ” สายลมวูบหนึ่งพัดผ่าน กลีบเหมยปลิวว่อน จางลั่วชิงกางแขนกว้าง หมุนตัวไปมาอย่า