จางลั่วชิงไม่ค่อยมีอาการแพ้ท้องแล้ว ตอนนี้ท้องของนางเริ่มโตขึ้น กินข้าวได้มากขึ้น ผู้เป็นสามีเห็นดังนั้นจึงค่อยเบาใจ ทุกเย็นเมื่อซู่เสวียอี้กลับมา มักมีเซาปิ้งไส้เผือกและถังหูลู่ติดมือมาด้วยเสมอ ช่วงนี้จางลั่วชิงชอบกินสองอย่างนี้มากเป็นพิเศษ บางวันนางกินอิ่มแทนข้าวเสียด้วยซ้ำ ทว่าวันนี้ชายหนุ่มกลับไม่ได้แวะซื้อติดมือมา... เมื่อซิงชีเข้ามาบอกว่าซู่เสวียอี้กลับมาแล้ว หญิงสาวท้องโตจึงยิ้มแป้นตาเป็นประกาย รีบประคองท้องโตเดินอุ้ยอ้ายไปที่หน้าประตู ทันทีที่ร่างสูงของผู้เป็นสามีเดินเข้ามาใกล้ ปฏิกิริยาแรกที่จางลั่วชิงมีคือมองหาคือของกิน นางสำรวจอย่างถี่ถ้วนแล้วพบว่าวันนี้ไม่มี รอยยิ้มที่มีจึงค่อยๆ จางลง ดวงตาที่เป็นประกายจู่ๆ ก็หม่นแสง ซู่เสวียอี้เดินเข้ามาประคองภรรยา เห็นสีหน้าของนางดูบูดบึ้ง จึงเอ่ยถามเสียงอ่อนโยน “เป็นอะไรไปเล่า” จางลั่วชิงไม่พูดอะไร ซู่เสวียอี้คิดว่านางคงไม่สบายตัวกร