“ไม่ได้ ไม่อนุญาตให้ไปคนเดียว”
ปฏิเสธแทบจะในทันทีละมือละสายตามามองภรรยาสายตาเอาเรื่อง ก่อนก้มหน้าก้มตาทำงานต่อเหมือนก่อนหน้าไม่มีอะไรเกิดขึ้น หางตาแอบเห็นภรรยาสาวลุกขึ้นเดินปั้นปึ่งออกไปจากห้องทำให้เขาต้องรีบเซฟงานแล้วลุกขึ้นเดินตามหล่อนออกไป
โธ่... บอกว่าไม่อนุญาตก็ยังจะดื้อไป!
ลิฟต์เกือบปิดลงแล้วดีที่เขาพุ่งกายเร็วไปกดเปิดไว้ทันถึงได้เห็นหน้าตาบู้บี้ของภรรยามองมาตาเขียว นี่ถ้าไม่ติดว่ามีคนอื่นอยู่ในลิฟต์ด้วยเขาจะจับจูบซะให้เข็ด
เพลิงกัลป์เดินเข้าไปยืนซ้อนด้านหลังดึงหล่อนเข้าไปลึกอีกให้คนเข้ามาในลิฟต์อีกพลางกระซิบถาม “เคยมาภูเก็ตเหรอไงถึงได้เดินออกมาคนเดียวแบบนี้”
“วาก็แค่จะเดินเล่นแถวนี้ไม่ได้ไปไกลสักหน่อยค่ะ ถ้าคุณเพลิงไม่ว่างก็ไม่น่าต้องตามวามา” กระซิบตอบ
“เด็กบ้าเอ๊ย ถ้าเธอโดนฉุดไปปล้ำหรือไปฉุดคนอื่นมาปล้ำฉันก็โดนคุณย่าเพ่งกะบาลเอาน่ะสิ ทำอะไรไม่รู้จักคิด” โต้ตอบภรรยา ไม่ยอมให้หล่อนทำร้ายร่างกายโดยโอบกอดไว้วางมือรัดเอวคอดดึงเข้ามาแนบแผ่นอกกำยำ ไม่ได้จะลวนลามภรรยาตัวเองเลยแต่เพราะคนในลิฟต์ค่อนข้างเบียดต่างหากเล่า
วารยาทั้งโกรธทั้งเขิน ใช้ข้อศอกเล็กกระทุ้งแทงแผ่นอกกำยำ
“อย่ากอดแน่นสิคะวาอึดอัด”
“กอดแค่นี้ก็หวงตัวซะแล้ว ถ้าหากคืนนี้ฉันทำมากกว่านี้จะไหวเหรอวา”
“คุณเพลิง!”
“ชูว์! อย่าเสียงดังสิ”
เพลิงกัลป์ใช้ปลายนิ้วแตะริมฝีปากภรรยาไม่ให้อาละวาดในลิฟต์รอกระทั่งลงมาถึงชั้นหนึ่งก็จับมือภรรยาเดินออกพามาเดินเล่นหน้าโรงแรมแต่ไม่พาออกไปไกลกว่านั้น แดดร้อนจะตายเดี๋ยวผิวขาวๆ ของหล่อนจะคล้ำ
“วา ไปหาอะไรเย็นๆ ดื่มกันเถอะ ร้อนตับจะแตกแล้ว”
“ไม่ค่ะ อยากดื่มก็ไปดื่มคนเดียวสิ”
“อะไรของวาฮะทำไมเอาใจยากจัง นี่ฉันพยายามจะเป็นสามีที่ดีแล้วนะยังมีตรงไหนที่ไม่พอใจอีก ตั้งแต่แต่งงานมาฉันไม่ได้ชายตามองผู้หญิงคนไหนเลยไม่ได้ตะคอกใส่แรงๆ เหมือนเดิมเลย แล้ววายังจะต้องการอะไรกันแน่” ชักจะหงุดหงิดเพลิงกัลป์ยกมือเท้าสะเอวยืนมองหน้าภรรยาอย่างอยากเอาเรื่อง
“ไม่ใช่อย่างนั้นค่ะแต่แค่วาแค่ไม่เคยชินเท่านั้นก่อนหน้านี้คุณเคยดีกับวาซะที่ไหนล่ะคะ แค่วาเฉียดกรายเข้ามาให้คุณก็มองวาด้วยหางตา แต่พอตอนนี้มาแต่งงานกันคุณกลับทำตัวไม่เหมือนเดิม”
“อ๋อ ชอบให้ด่าแบบเดิมใช่ไหม”
“ไม่ใช่ค่ะ” หล่อนเริ่มจะหัวเสียระดับสิบ “วาไม่อยากคุยเรื่องนี้แล้ว วาขอไปเดินเล่นข้างนอกนะคะแล้วไม่ต้องตามมาก็ได้คุณเพลิงอยากไปเที่ยวไหนก็ตามสบาย”
“ไม่อนุญาต!”
“เอ๊ะ! คุณเพลิงปล่อยวานะคะ วาไม่ใช่นักโทษของคุณนะที่จะมาบังคับใจให้ทำอะไรตามที่คุณชอบแบบนี้ วาเป็นภรรยาคุณไม่ใช่ทาสในเรือนสักหน่อย!” หล่อนพยายามบิดข้อมือออกจากการจับกุมของเขาอย่างเอาเป็นเอาตาย โกรธที่เขาชอบพูดคำว่าไม่อนุญาตทั้งที่หล่อนไม่ได้จะขออนุญาตเขาสักหน่อยแค่บอกให้รับรู้เท่านั้นเอง
ทว่าขณะนั้นเองก็มีผู้ชายหน้าตาท่าทางดีคนหนึ่งเดินเข้ามาขัดจังหวะการทะเลาะกัน
“ขออภัยที่มาขัดจังหวะนะครับ”
“สวัสดีครับพี่ภาม”
ชายหนุ่มผู้มาขัดจังหวะนั้นเป็นคนที่เพลิงกัลป์รู้จักดีก็เลยยกมือไหว้ด้วยความเคารพ ส่งรอยยิ้มให้กว้างพอๆ กับภามินที่ยิ้มรับกว้างไม่แพ้กัน
เพลิงกัลป์สนิทกับชาติพยัคฆ์หรือพี่เสือมากซึ่งพี่เสือกับพี่ภามเป็นเพื่อนสนิทกันเลยทำให้รู้จักกันไปด้วย หากมาเที่ยวภูเก็ตเขาก็มักจะมาใช้บริการโรงแรมของภามินเสมอ อีกฝ่ายรับไหว้เขาจึงโอบเอวภรรยามายืนเคียงข้างเพื่อแนะนำทั้งสองให้ได้รู้จักกัน
“พี่ภามครับ นี่วาภรรยาของผมครับ วา นี่คุณภามนะหรือชื่อจริงชื่อภามิน คุณภามเป็นเพื่อนสนิทของพี่เสือแล้วก็เป็นเจ้าของโรงแรมนี้กับเกาะรังนก”
“สวัสดีค่ะ”
“สวัสดีครับน้องวา”
ภามินรับไหว้ภรรยาของน้องชายคนสนิท “วันงานแต่งเราไม่ได้คุยกันเลยนะครับ เป็นเกียรติมากที่ทั้งสองคนเลือกมาฮันนีมูนที่โรงแรมนี้มีอะไรขาดเหลือบอกพี่ได้เลยนะไม่ต้องเกรงใจ”
“ขอบคุณค่ะ”
วารยายิ้มอ่อนหวานให้ความมีน้ำใจของเขา
ภามินยิ้มรับ
“ตามสบายเลยนะทั้งสองคนพี่คงต้องขอตัวก่อน เมียใช้พี่ไปซื้อชาเขียวหายไปนานๆ เดี๋ยวระเบิดจะลง ช่วงนี้เมียพี่กำลังท้องด้วยอารมณ์แปรปรวนหนักมาก”
ว่าพลางชูแก้วชาเขียวยี่ห้อดังขึ้นมาประกอบคำพูดแต่ทุกคำที่เปล่งออกมาดูเขามีความสุขมากที่ได้เอ่ยถึงช่วงชีวิตที่ดีที่สุดของผู้หญิงคนหนึ่งที่มีเจ้าตัวเล็กอยู่ในท้อง
ตอนนี้ดารัณภรรยาของเขากำลังตั้งท้องลูกคนที่สองแถมยังเป็นเด็กผู้หญิงด้วยทำเอาคนเป็นพ่อปลื้มยิ้มไม่หุบเหงือกอยู่สามวันสามคืน จากเดิมที่รักเมียหลงเมียอยู่แล้วก็ยิ่งหลงหนักเข้าไปกันใหญ่
“ค่ะ/ครับ ขอบคุณมากครับ”
เข้าใจดีเชียวล่ะว่าภามินเป็นผู้ชายที่รักและแคร์ภรรยาตัวเองมากเพราะชาติพยัคฆ์ได้เล่าเรื่องราวชีวิตของภามินกับภรรยาให้เขารับรู้จนหมดเปลือก หลังแยกจากภามินเพลิงกัลป์พาภรรยามานั่งในร้านคอฟฟี่ช็อปเยี่ยงโรงแรม
...................
ฝากนิยายด้วยนะคะ