ประเสริฐยิ่ง!

4606 คำ
‘บัดซบ!นางพลาดท่าเสียทีเจ้าคนบ้าหน้าด้านเช่นจ้าวไห่เฉิงอีกแล้วนะ!’ เซียวหมิงเยว่ไม่เคยรู้สึกว่าตนเองเป็นสตรีโง่งมได้เท่าวันนี้มาก่อน อันที่จริงนับจากนางก้าวมาเป็นผู้แทนเจ้าสาวตัวจริงเช่นคุณหนูหลิ่วทั้งสองนั่นเลยที่นางรู้สึกว่าตนเองโง่แล้วก็โง่เล่าเกรงว่าให้นางไปกินปลาจนหมดมหาสมุทรคงยากจะฉลาดมากปัญญาเท่าทันคนเช่นจ้าวไห่เฉิงไปได้เสียเป็นแน่ “อื๊ม!” ...ตุ๊บ...ตุ๊บ...ตุ๊บ.... นานเข้าเขาไม่หยุดจุมพิตคนที่ยังด้อยประสบการณ์เลยรู้สึกคล้ายนางจะขาดใจตายจึงต้องทุบคนหนังหนาเป็นสัญญาณว่าหากเขาไม่หยุดจูบ นางคงตายมันตั้งแต่จับสลากได้เขามาเป็นสามีในยามเช้าแรกหลังพิธีวิวาห์นี่แหละบ้าบอบัดซบอันใดเช่นนี้! “เหล่ากง...ท่านคิดแผนร้ายสังหารภรรยาอยู่ใช่หรือไม่? ...” คนหอบหายใจพยายามจะเรียบเรียงพูดจาต่อว่าออกไปให้อีกฝ่ายนึกเสียบ้างว่าเขามิสมควรข่มเหงนางด้วยจุมพิตพิฆาตภรรยาเช่นนี้ทั้งเอ่ยความออกไปปนเปกับความอับอายล้วนมีมากล้นแต่เวลาเช่นนี้นางกลัวตนเองตายมากกว่าจะอายไปไกลหลายร้อยลี้แล้วยิ่งต้องมาเผชิญกับความรู้สึกแปลกๆ ที่เริ่มก่อตัวตรงท้องน้อยจากนั้นก็พลันขยายลามเลียลงไปที่ซอกหลืบลี้ลับของสตรีจึงทำให้นางคิดว่าตนเองคงใกล้ย่ำแย่เต็มกลืน ...เจ้าอย่าติดโรคมากราคะเชียวนะเซียวหมิงเยว่... "ใส่ความ...ท่านพี่ก็เพียงช่วยชี้แนะตามที่เหล่าโผร้องขอเท่านั้นเอง...อา..." ริมฝีปากอุ่นขยับตอบแต่ปลายจมูกนั้นไถลกดเน้นย้ำลงไปตามซอกคอของนางจนเซียวหมิงเยว่สยิวเลยดิ้นหนีแต่ก็ไม่อาจหลุดพ้น นางก็เคยได้ฟังว่าทหารค่อนข้างกินจุทว่า...นี่มันตะกละมิใช่กินดุ! "ปะๆ ปล่อยนะเจ้าค่ะ...ถ้าจะทำแบบนั้นอีก...เกรงว่าเสี่ยวเยว่คงมิอาจตามใจ่เหล่ากงได้คือ....ยังเจ็บอยู่เลย...โอ๊ย...กัดลำคอเสี่ยวเยว่ด้วยเหตุอันใด...จ้าวไห่เฉิงท่านนี่มัน...จอมหื่นหมื่นราคะ!...เสี่ยวเยว่ตัวเท่านี้ท่านได้โปรดเมตตาด้วยเถิด..." นางมิได้กล่าวเกินจริงนางตัวเล็กนิดเดียว ที่สำคัญนางเพิ่งผ่านครั้งแรกมาไม่ครบสิบสองชั่วยามบาดแผลยังสดและใหม่สาหัสอย่างยิ่ง หากอรุณรุ่งมาเยือน ในยามเฉินต้องไปทำพิธียกน้ำชาสภาพเจ้าสาวหลังพิธีแต่งงานเดินขาห่างเป็นเป็ดขาพิการนางจะเอาใบหน้าเท่าฝ่ามือไปวางไว้ที่ตรงใดกัน? “หื่นกระหายกับภรรยานั้นหาใช่สิ่งผิดมันคือเรื่องธรรมชาติระหว่างสามีภรรยา ถ้าเหล่ากงนั้นไปหื่นกระหายกับสตรีอื่นนั่นสิจึงกล่าวว่าเป็นสิ่งผิดอย่างมหันต์!” ‘โอ๊ย!...เขาช่างเป็นบุรุษผู้แสนจะหนังหนาและหน้าทนอันใดเช่นนี้’ "เหล่ากง...เสี่ยวเยว่ไม่ไหวจริงแท้นะเจ้าค่ะ" จนปัญญาเข้านางจึงอ้อนวอนด้วยน้ำเสียงชวนเห็นใจเรื่องมารยานี้มันอยู่ในกระแสโลหิตเซียวหมิงเยว่มากความสามารถอยู่แล้วทว่า...กับไร้ผลต่อคนหมื่นราคะเช่นจ้าวไห่เฉิงไปจนสิ้น!...บิดาแมวมันเอ๊ย... "อืม...ก็กล่าวไปแล้วว่าเหล่ากงนั้นก็เพียงจะชี้แนะภรรยาล้วนมิคิดโหดร้ายเด็ดขาด...นิดเดียวนะ...นะ" ไม่พูดเปล่าท่านรองแม่ทัพหนุ่มแห่งหลางหยินเซ่อนั้นยังเริ่มลูบไล้ไปทั่วกายอรชรจนพบเจอเข้าปทุมถันช่องดงามเข้าจนสำเร็จ เมื่อได้แตะต้องจุมพิต ไปทั่วกายหอมกรุ่น จ้าวไห่เฉิง มีหรือจะอดใจไหว เขาค่อยๆ ขยับผ่อนกายคนตัวเล็กแล้วพลิกให้กายกำยำของตนเองคร่อมทับอยู่ด้านบนมือไม้นั้นก็ลูบไล้บีบขยำไปจนทั่ว จริงแท้เขาก็ไม่คิดจะรังแกนางเลยแต่พอได้กอดได้หอมที่คิดว่าจะหักใจไหวก็พลันหัวใจเหลวเป็นน้ำอยากแต่จะแทรกกายหลอกรวมเป็นหนึ่งเดียวกับภรรยาเหลือเกินยิ่งได้ชิมรสหวานจากเนื้อกายสาวจากที่คิดจะอดใจรอรองแม่ทัพใหญ่จึงถูกเจ้าก้อนราคะครอบคลุมกลืนกินสติอันดีไปจนสิ้น เมื่อพบเจอกลิ่นตัวหอมกรุ่น ก็กระตุ้นอารมณ์ปรารถนาของเขาจนลุกโชนขึ้นไปหมดแล้วในบัดนี้ “ไม่!...จ้าวไห่เฉิง...คนผีทะเล...ข้าเจ็บ...อื้อ...” ...เปล่าประโยชน์จะใช้มารยากับคนเช่นรองแม่ทัพจ้าวผู้นี้หรือที่แท้นางจะขาดคุณสมบัตินางร้ายสิ้นไร้มารยาหญิงไปจนสิ้นแล้วกันแน่จึงมิเคยใช้มันได้ผลกับเจ้ากระทิงเปลี่ยวเกรี้ยวกราดผู้นี้เลยสักครา... “ไม่ไหวจริงหรือ? ....” ...ความหวังสว่างโดยพลัน... "เจ้าค่ะ...เจ็บ...ตรงนั้นมาก...ไม่ไหวเด็ดขาด...ไม่ไหวไปสักหลายเดือนเลยเจ้าค่ะ...นะ...นะเจ้าค่ะ....เหล่ากง...เมตตาเสี่ยวเยว่ด้วยเถิด..." น้ำเสียงหวานหงุงหงิงดังลูกแมวน้อยขี้อ้อนงอแงน่ารักนั้นย่อมมากมายจากที่แอบรักเด็กสาวมานานถึงสองฤดูหนาว บัดนี้ได้มาสัมผัสแนบชิด วิถีชีวิตข้าวใหม่ปลาหอมล้วนเป็นเช่นนี้เองจ้าวไห่เฉิงเพิ่งจะซาบซึ้งก็วันนี้ "เช่นนั้นก็...เหล่ากงนั้นมีเรื่องเล็กน้อยให้เจ้าช่วยจะได้หรือไม่เล่า" คนมากไปด้วยเล่ห์กลย่อมยากจะสละสันดานเดิมดิบเถื่อนทิ้งไปได้ประหนึ่งสุนัขป่าห่อกายตนเองด้วยหนังของกระต่ายตัวนุ่มนิ่มน่ารักมาล่อลวงเด็กน้อยให้หลงกลให้ในสุดท้ายก็ถูกเขาจับกลืนลงท้องอยู่ดี “ช่วย.. ช่วยอันใดเจ้าค่ะ?” แล้วก็เป็นไปดังกลอุบายร้อยเล่ห์หมื่นกลเข้าจนสำเร็จ “เดี๋ยวเหล่ากงจะเป็นสามีที่ดีจะสั่นสอนให้แก่เหล่าโผเอง...นะ...” กล่าวจบเขาก็โน้มใบหน้าลงมาหาพร้อมกับเอาปลายจมูกของเขามาแตะกับปลายจมูกของนาง ย่อมแน่แท้ว่ากระต่ายเนื้ออ่อนนางย่อมมิอาจต้านทานสุนัขป่าหิวโซกายเล็กจึงเริ่มตัวสั่นไหวไปด้วยความไม่วางใจ อีกฝ่ายก็เลย มีทั้งความกลัวเจ็บทั้งความอับอายแถมยังไม่คุ้นชินกับคนแปลกหน้าที่อยู่ๆ ก็มาจับนางรวบหัวรวบหางกินกลางทั้งตัวเสียจนกระดูกก็ดูท่าเขาจะไม่คายนางทิ้งเสียอย่างนั้นเป็นใครไม่กลัวล้วนแปลกแล้ว ...เป็นสาวโสดอยู่เดียวดายยังไม่ทันเต็มอิ่มสวรรค์ก็ช่างหางานให้นางนั้นลำบากเสียจริง!... จ้าวไห่เฉิงมิอาจมองเห็นแววตาของนางในความมืดมิดได้แต่ภาพความทรงจำเมื่อครั้งแรกที่เขาเปิดผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวแล้วพบเข้ากับดวงตากลมโตซึ่งเป็นสีน้ำตาลอ่อนสุกใสที่ได้มองเห็นช่างตราตรึงใจเขาจนยากจะลบเลือนภาพของความวาววามเหมือนมีดาวเต้นระยิบระยับอยู่ในดวงตาทรงดอกท้อ นี้ช่างยิ่งมองก็ยิ่งรู้สึกถึงไฟปรารถนาที่กำลังหลอมละลายเขายิ่งภาพวันแรกในอดีตที่เคยพบนางมาซ้อนทับเขาก็ยิ่งเจียนจะคลั่งตายแล้วกับความเสน่หานี้ จนสุดท้ายเขาก็แทบจะอดใจไม่ไหวที่จะไม่กลืนนางลงท้องซุกซ่อนนางเอาไว้มิอยากเปิดเผยความงดงามนี้เผื่อแผ่ไปถึงบุรุษทั้งใต้หล้าได้ชื่นชมความงดงามเช่นที่เขาพบพานอีกต่อไป ...ไหนใครมันช่างกล่าวว่าหากได้'กิน'สตรีที่ตนพึงใจหมายตาแล้วก็จืดจางหมดความเสน่หาหา... นี่เขาเพียงได้'กิน'ก็แทบคลั่งตายอยากกินและกลืนกิน นางจนกายอรชรนี้ลงท้องไม่เหลือซากให้จงได้เช่นนี้เล่า คิดแล้วจ้าวไห่เฉิงนั้นก็ค่อยกดริมฝีปากของตนเองแตะทาบแผ่วเบาก่อนจะค่อยๆ เพิ่มความหนักแน่นของจุมพิตให้ค่อยเริ่มเพิ่มพูนระดับความเร่าร้อนและรุนแรงขึ้นตามอารมณ์หวามไหวไฟปรารถนาที่ร้อนระอุปะทุเดือดแทบจะเผาผลาญเจ้าสาวมือใหม่...ฮูหยินจ้าวผู้เยาว์และแสนจะไร้เดียงสาลงเสียเดี๋ยวนี้แล้ว "อื้อ..." ...คนชั่ว!ใช้จุมพิตล่อลวงข้าอีกแล้วนะ!!!... เซียวหมิงเยว่คิดด้วยสติอันเลือนราง เนื่องจากนางถูกต้อนเสียทุกทางไม่ว่าจะเป็นจุมพิต ฝ่ามือบุรุษนามจ้าวไห่เฉิงช่างร้ายกาจจนวูบหนึ่งเด็กสาวที่เคยคิดว่าตนเองสามารถจะดูแลตนเองได้รู้สึกหวาดกลัวบุรุษเช่นรองแม่ทัพจ้าวจนกายของนางนั้นยิ่งพาลสะท้านเพิ่มพูนมากล้น เพิ่งรู้ว่าสุดท้ายนางนั้นเป็นเพียงเด็กสาวโง่งมนางหนึ่งที่ มิอาจหลบหนีหรือหลุดพ้นไปจากกรงเล็กและคมเขี้ยวของหมาป่าสีเงินไปได้เลยหากเขาจงใจล่อลวงนางในยามใดแล้วละก็ เซียวหมิงเยว่เริ่มมืดมนอย่างถึงแก่นจะหันไปทางใดก็ล้วนสิ้นไร้หนทางหากในยามนี้นางไร้สติขัดขืนบางทีมิใช่เพียงร่างกายที่จะเพราะหากความจริงเปิดเผยชีวิตสาวใช้ไร้สกุลจะถูกขุนนางยิ่งใหญ่เช่นอัครมหาเสนาบดีหวงรั่วไห่กำจัดทิ้งปิดปากมิให้เรื่องอับอายขายหน้าที่บุตรชายคนรองของเขาถูกเจ้าสาวทอดทิ้งล้วนมิใช่สิ่งยากเย็นเลย เพราะสำหรับสกุลหวงต่อให้พวกเขาเอาผิดแล้วคิดปิดจวนสกุลหลิ่วด้วยโทษหนักสักข้อหายังมิใช่เรื่องที่จะทำมิได้เช่นนี้นอกจากเพลิงสวาทที่รองแม่ทัพใหญ่ล่อลวงเด็กสาวไม่เดียงสาจนเซียวหมิงเยว่นางหลงเตลิดไปในบางคราวแล้วคำว่า'มนุษย์ล้วนรักตัวกลัวตาย'มันก็'กล่อม'ให้เด็กสาวไม่อยากยินยอมก็จำใจโอนอ่อนก็ในเวลานับจากนี้ไปจะอยู่ก็ได้จะตายก็ดีมีเพียง'จ้าวไห่เฉิง'เพียงหนึ่งเดียวที่จะพลิกปฐพีขีดเส้นให้นางเป็นไปทั้งสิ้น! ...ไม่ยินยอมเขาผู้ใดจะรับประกันถึงศีรษะกับร่างกายของนางว่ามันจะยังอยู่ด้วยกันไปจนถึงวันพรุ่งนี้... เช่นนั้นในยามที่มือร้อนร้ายของคนตัวโตเริ่ม ปลุกเร้าอารมณ์พิศวาสของนางหนักมือขึ้นเซียวหมิงเยว่ก็มีหนทางเลือกเดียวนั่นก็คือคล้อยตามยังดีอยู่บ้างที่คราวนี้จ้าวไห่เฉิงเขาไม่รีบร้อนเหมือนครั้งแรก บุรุษผู้นี้เขาเริ่มจะค่อยเป็นค่อยไปทะนุถนอมและชี้นำสั่งสอนนางอย่างที่เขากล่าวไว้จริง จ้าวไห่เฉิงนั้นเขาค่อยๆ เดินไปอย่างมีจังหวะหวังให้นางได้รู้ว่าการร่วมรักนั้นมันมีมากกว่าที่นางได้รับเมื่อช่วงหัวค่ำซึ่งเป็น'ครั้งแรก'ที่ไม่ค่อยน่าประทับใจเท่าใดจ้าวไห่เฉิงรู้ดี ...ก็เขาอดทนถนอมทั้งกายและทั้งในเอาไว้เพื่อนางมาถึงสองปี...สองปีเชียวนะที่อดอยากปากแห้งอยู่เพียงชายแดน ในค่ายทหารที่มีแต่ม้ากระมังที่เป็นเพศเมีย... เสื้อตัวโตของเขาถูกถอดแล้วโยนไปอย่างไร้ทิศทางนำหน้านางไปครู่ใหญ่ตั้งแต่ก่อนที่รองแม่ทัพจ้าวนั้นเขาจะจับนางจูบจนลืมทิศหลงทางนั่นแล้วบัดนี้จึงถึงคราวอาภรณ์ของนางบ้างที่ถูกปลดเปลื้องแล้วก็มีชะตากรรมเดียวกันกับเสื้อของเขาเช่นกันคือถูกเหวี่ยงตามลงพื้นไปอย่างไร้ทิศทาง ...นิสัย!... ก่อนที่มือของเขาจะจับมือของนางชักนำให้เริ่มต้นลูบไปตั้งแต่ใบหน้าของเขาลากเรื่อยลงมาเนิบช้าคล้ายจงใจให้นางหัวใจวายตายก่อนวัยอันควรจนลงมาเผชิญหน้ากับ'อาวุธสังหาร'เจ้ามังกรขนาดเขื่อง ที่กำลังผงกหัวหงึกหงักทักทายมือของนาง สาวน้อยถึงกับดวงตาเบิกโพลงต่อให้มืดจนมองเห็นเพียงแค่เงาของกันและกันแต่การสัมผัสมันทำลายขวัญกำลังใจของเซียวหมิงเยว่อาจจะมากกว่าการมองเห็นก็เป็นไปได้เช่นนั้นแล้วนางจึงพยายามจะดึงฝ่ามือน้อยของตนเองหนีแต่เจ้าคนหน้าด้านหน้าทนเช่นข้าวไห่เฉิงหรือจะยอมหรือก็หาไม่ ...บัดซบอันใดเช่นนี้... กลัวตายก็กลัวยังต้องมาเจ็บ...เอ่อตัวไม่เลิกราสวรรค์มันเถิดมิทราบว่าชาติใดนางเคยไปเป็นชู้กับพระสนมของเทียนตี้หรือไรไยจึงส่งนางมาเผชิญกรรมหนักไม่พอ...ยังกำไม่รอบอีกด้วย! “ทำตามเหล่ากงสั่งสอนเถิดนะ...เหล่าโผ...อย่าดื้อดึงไปเลยนะเจ้าเหล่ากงนั้นกำลังชี้แนะเจ้าอยู่เห็นหรือไม่เล่าคนดีของเหล่ากง" ...ไม่เห็น!...แต่ล้นมือเลย...บัดซบเกินจะรับไหวเสียจริง... -____- พอท่านรองแม่ทัพหนุ่มเอ่ยกระซิบแผ่วเบาเซียวหมิงเยว่ก็ตะโกนเถียงก็แต่เพียงในใจออกไปสุดเสียง ก็ผู้ใดมันจะกล้ากันเล่า ส่วนจ้าวไห่เฉิงผู้ไม่สนสี่สนแปดเมื่อก้มลงไปเอ่ยคำที่ข้างใบหูขาวสะอาด ดังนั้นจึงเผลอเม้มริมฝีปากจนเจ้าของถอยร่นหนีไม่เป็นกระบวนเพราะทั้งเสียวซ่านและจั๊กจี้ไปพร้อมกัน “โอ๊ย!...หยุดก่อน...อื้อ” นางพยายามจะท้วงแต่คนรู้ทางก็เร่งปิดปากจนร้องเสียงคล้ายโดนตบตีด้วยจุมพิตดูดดื่มอีกครั้ง พร้อมกับเริ่มค่อยๆ ชักนำฝ่ามือน้อยซึ่งออกจะหยาบกระด้างไปสักหน่อยด้วยมือของตนเอง ‘อา... รู้สึกดีเป็นบ้าเลยเชียว’ ท่านรองแม่ทัพหนุ่มผู้ไม่เคยคลั่งใคร่สตรีใดจนถึงขนาดต้อง'ก่อกวน'กันตลอดทั้งราตรีเช่นนี้อย่างมากหนึ่งครั้งเขาก็ลาจากแล้วแต่กับ'เหล่าโผตัวเล็ก'ผู้นี้ยิ่งสัมผัสกลับยิ่งกระหายยิ่งแตะต้องกลับยิ่งสุขแสนอย่างไม่เคยเกิดมาก่อนกับวัยหนุ่มที่มิได้ขาดแคลนสตรีบำเรอเช่นรองแม่ทัพจ้าวเลยสักครา แต่นี่แค่เพียงเขานำพาฝ่ามือน้อยแสนหยาบกระด้างเพราะคงทำงานหนักมานับจากนางรู้ความ อันแสนจะเก้กังและเงอะงะแสนดื้อดึงขัดขืนกันอยู่ตลอดเวลาทว่าทุกสัมผัสของ'ตัวเล็ก'นั้นช่างทำให้เขาเร่าร้อนและตื่นเตลิดไปกับเพลิงเสน่หาเจียนคลั่ง! “พะ...พอหรือยังเจ้าค่ะ” ก็ยิ่งนางถูกชักนำกระชากกระชั้นรูดรัดขึ้นลงท่อนลำแกร่งนั้นกลับยิ่งแข็งขึงตึงแน่นจนฝ่ามือเล็กยิ่งกำมันไม่รอบยิ่งเขาเพิ่มความเร็วระรัวเจ้ามังกร'ดื้อ'นั้นกลับยิ่งแข็งขึง...โอ๊ย!...มือนางจะหักหรือไม่เล่าเหล่ากง?!... “ยัง...ยังไม่พอ...ทำอีก...มันดีมาก...อา...เช่นนั้นแหละเหล่ากง...อา...ซี้ด...สัมผัสมัน...มังกรน้อยมันเป็นของเจ้าแล้ว ช่วยเอ็นดูมันสักหน่อยเถิด...ตัวเล็กของเหล่ากง...อาดี...ดีอย่างยิ่ง...” กล่าวจบแล้วจ้าวไห่เฉิงก็กดจุมพิตตั้งแต่ใบหน้านวลระเรื่อยลงมาถึงหน้าอกอวบอิ่มเมื่อเจอผลอิงเถาสีระเรื่อและแสนจะหวานฉ่ำเขาก็ละเอียดชิมอย่างใจเย็นไม่เร่งร้อนมูมมามเช่นเมื่อช่วงหัวค่ำที่ผ่านมาอีก เพียงครู่ต่อมาท่านรองแม่ทัพหนุ่มผู้มีร่างกายใหญ่โตก็จับเอวคอดกิ่วยกขึ้นมานั่งหันหน้ามาเผชิญกับเขา จัดท่าทางให้เหมาะสมแนบสนิทเพื่อง่ายต่อการดื่มชิมผลอิงเถาจิ๋วทั้งสองได้สะดวกขึ้นที่สำคัญท่านี้ ทั้งคู่แนบชิดจนแทบหลอมรวมโดยที่คนตัวเล็กนางจะไม่ถึงขั้น'บอบช้ำหนัก'เช่นเมื่อช่วงหัวค่ำที่ผ่านมา “โอ๊ะ! ไม่...ไม่เอาแล้วนะ...เสี่ยวเยว่กลัวเจ็บ” ถึงจะรู้ว่าสิ้นหนทางจะหนีแต่...มันเจ็บมากนางกลัว!...เซียวหมิงเยว่จึงพยายามถอยห่าง จากมังกรยักษ์ทันที ทว่ามีหรือหญ้าอ่อนเข้าปากโคดุแล้วมันจะคายออกมา “เอาเถิดนะ...เหล่ากงนั้นบอกแล้วเช่นไรว่าจะสั่งสอนเหล่าโผเองรับรองว่าจะเจ็บน้อยลงนะ...นะ...ตัวเล็ก” 'ท่านมิใช่ผู้เจ็บนี่นา' เซียวหมิงเยว่นางยังคงขัดขืน...ได้แค่เพียงในใจเท่านั้น เพราะความเป็นจริงนั้นมันช่างบีบคั้นรัดรึงให้นางต้องโอนอ่อนผ่อนตามหากรักชีวิตของตนเองอยู่น่ะนะ “เมื่อช่วงหัวค่ำคล้ายกับว่าเหล่ากงก็กล่าวล่อลวงเสี่ยวเยว่ว่าเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้นแต่....” ...บิดาแมวมันตายนางเจ็บดังถูกมีดกรีดแยกร่าง!... คนเจ็บเจียนตายเผลอตัวลืมกายเข้าอีกจนได้จากที่นางคิดว่าจะ'ยอม'ไปก่อนเลยดิ้นรนขัดขืนไม่ร่วมมือด้วยโดยง่ายก็มันเจ็บแทบตายนี่นา... ...ทว่าหมาป่ากำลังหิวโซจนหน้ามืดมีหรือจะปล่อย'เสี่ยวทู่ป๋าย'กระโดดหนีออกจากกรงเล็บไปโดยง่าย... ผู้มากประสบการณ์ใช้มือบังคับจับสะโพกงอนงามยกขึ้นในระดับที่เหมาะสม แล้วจึงจับให้'ตัวเล็ก'ใช้ส่วน'นั้น'ค่อยกลืนกินตัวตนของเขาเข้าไปด้วยจังหวะเนิบช้าระแวงระวังเพราะเขาย่อมจะรู้ว่ากิริยาท่าทางนี้เป็นการหลอมรวมที่นางจะเจ็บน้อยสุดแล้ว ซึ่งคนตัวเล็กผู้มิอาจหลบหนีกรงเล็บและคมเขี้ยวหมาป่าได้พ้นนางก็ระบายความเจ็บตึงนั้นด้วยการจิกลงไปบนหัวไหล่กว้างทั้งสองข้างโดยแรงอย่างตั้งใจจะให้เขาเจ็บร่วมไปกับนางด้วยยิ่งเขาบังคับจับกดเอวเล็กลงไปมากเท่าใดนางยิ่งกลัวเจ็บเลยเกร็งตัวมากตามไปด้วยและนางเกร็งความเจ็บจึงยิ่งมากจนน้ำตาเม็ดโตไหลริน “เหล่าโผคนดีเจ้าอย่าเกร็งสิ...สูดหายใจลึกๆ...ไปช้าหน่อย...เช่นนั้นแหละ คนดี มันจะเจ็บน้อยลงแน่นอน...เชื่อเหล่างเถิดนะ” ...เหอะ!!... 'ท่านมันจอมหลอกลวงแห่งเป่ยเหลียงผู้ใดจะเชื่อกันเล่า!' คนโมโหผสานไปกับความกลัวนางจึงไม่ทันฟังให้ดีถึงน้ำเสียงทอดอ่อนปลอบโยนซึ่งหากพวกเหล่าทหารในค่ายมาได้ยินได้ฟังรับรองว่าย่อมนึกไปถึงภาพเหี้ยมโหดหน้าดุบึ้งตึงผสานไปกับน้ำเสียงโหดร้ายเมื่อยามอยู่ในค่ายและคงต้องถึงขนาดได้ล้างหูกันวุ่นวายเพราะคาดว่าพวกตนอาจหูพิการเข้าเสียแล้ว แต่แค่เพียงมือร้ายส่งลงไปบดเบียดเกสรน้อยของบุปผากลางกายของนาง เพื่อจะช่วยให้คนตัวเล็กนั้นกลับมามีอารมณ์พิศวาสตื่นเตลิดไปกับเขาอีกครั้งก็ได้ผลเป็นไปดังกลอุบายร้ายเซียวหมิงเยว่ฝังปลายเล็กจิกลงบนหัวไหล่กำยำสุดแรงทว่าคราวนี้มีใช่ความเจ็บหากแต่เป็นความเสียวซ่านรุนแรงเท่านั้น “อ๊ะ!” น้ำเสียงอุทานที่หลุดออกมาจากริมฝีปากนางนั้นเจ้าของได้ฟังเองยังล้วนอับอายนางจึงพยายามกัดริมฝีปากตนเองเอาไว้ไม่ยอมให้เผลอส่งเสียงอันน่าละอายนั้นออกมา อีกแต่จ้าวไห่เฉิงนั้นชอบและอยากจะฟังอีก เขาจึงไม่รอช้ากดเอวคอดกิ่วนั้นด้วยมือเพียงข้างเดียวพร้อมกับขยับสะโพกสอบของตนเองอัดสวนขึ้นไปจนถลำลึกเข้าไปในช่องทางที่คับแคบแน่นหนึบ "โอ๊ะ!" เพราะภายในยังนั้นยังคงคับแคบพอถูกเติมเต็มจนล้น ถึงไม่เจ็บมากเท่าครั้งแรกอย่างที่สาวน้อยกลัวทว่ามันก็ทั้งแน่นและทั้งจุกเสียดไปหมดแต่คนมากประสบการณ์ก็พาตัวตนเข้าไปในร่างน้อยจนหมดได้ในท้ายที่สุด “เห็นหรือไม่เห่ากงนั้นมิได้เป็นคนชอบหลอกลวงผู้ใด” ...แต่ท่านมันชั่วร้ายกว่านั้น... “โอ๊ะ!....ซี้ด...แสบนะเหล่าโผคนดี” คนหนังหนาเสแสร้งร้องว่าตนเองเจ็บหนักหนาเมื่อถูกสิบนิ้วกางแล้วข่วนเต็มแรงก็อย่างว่าเขาหนังหนาย่อมไม่เจ็บทว่าเป็นห่วงคงจะเป็นนิ้วน้อยทั้งสิบที่จะเจ็บมากกว่า ...ผลัวะ!... ฟาดกำปั้นเข้ากกหูซ้ายเขาไปหนึ่งครั้งแล้วนางจึงพาใบหน้าเล็กของตนเองซุกหนีกิริยานั้นแน่แท้ว่าคล้ายนางคงจะอับอายทว่าจะมีผู้ใดรู้แจ้งเท่าเซียวหมิงเยว่ว่าที่ทำไปทั้งสิ้นนางก็เพียง...ขอแก้แค้นสักนิด...เพียงได้ทำบ้างสักนิดก็ยังดี... ส่วนฝ่ายจ้าวไห่เฉิงนั้นถึงรู้ทันแต่ก็ไม่ว่าอะไรนางเพราะเห็นใจอยู่ที่ถูกเขาจับกินก่อกวนชวนสงสารแต่ก็เท่านั้น...สงสารนางก็อีกส่วนแต่ย่อมสงสารตนเองมากกว่า เพราะกว่าจบพบเจอสตรีที่ตนเองถูกใจจนอยากสร้างครอบครัวด้วยตั้งแต่สองหนาวก่อนจะให้เขาใจเย็นรอจ้าวไห่เฉิงมิใช่บุรุษแสนดีถึงเพียงนั้น เมื่อบัดนี้โอกาสลอยมาอยู่ตรงหน้าจะให้ปล่อยลอยหายผ่านไปอีกเช่นอดีตเขามันก็พวกถูกตาต้องใจหากแน่นอนล้วนมีแต่เพียงพุ่งเข้าชนแล้วจับกลับจวนขังลืมไม่ยอมปล่อยอีกเลยชั่วชีวิต “ทีนี้ลองมาขยับกันดูนะ...เหล่าโผนั้นอย่างกลัวอย่าเกร็ง” แล้วเขาคอย กระซิบบอกทุกการขยับขับเคลื่อนกับคอยชักนำให้ศิษย์ตัวน้อยนางเดียวที่เขายิ่งกว่าเต็มใจจะสั่งสอนได้ทำตามเขาไปอย่างเนิบช้าคล้ายจะใจเย็นทั้งที่ภายในนั้นเขาร้อนระอุเจียนคลั่ง! “อา! เช่นนั้นแหละเหล่าโผ...อืม...ดีแล้วขยับอีกคนดี” จากรองแม่ทัพบัดนี้จ้าวไห่เฉิงขยับฐานะตนเองมาเป็น'ซือฝู'มากเล่ห์ไปเสียแล้วเมื่อคนตัวเล็กขยับถูกใจเขาจึงออกปากชมศิษย์ดีไม่ว่างเว้น จากที่ในยามแรกนางนั้นกึ่งกล้ากึ่งกลัวและกึ่งอับอายแต่บัดนี้ร่างน้อยเริ่มขยับสะโพกไปตามธรรมชาตินั้นสร้างบุรุษมาเคียงคู่สตรี ยิ่งเขาส่งเสียงคล้ายจะทรมานมากเซียวหมิงเยว่นางก็ยิ่งรู้สึกว่าบัดนี้ตนเองเป็นต่อซึ่งความรู้สึกนี้ล้วนยากจะเกิดและเมื่อมันได้บังเกิดขึ้นสาวน้อยผู้มีชะตาชีวิตมิชัดแจ้งแน่นอนจึงขอยึดเอาความรู้สึกเหนือกว่านี้เอาไว้แม้จะเพียงเล็กน้อยนางก็อยากซึมซับเก็บเอาไว้สักครา ยิ่งในแต่ละครั้งที่นางขยับโยกกายกำลังกลับยิ่งสะท้านไหวผสานไปกับเสียงคำรามในลำคอเล็ดลอดออกมากลับ ยิ่งทำให้นางฮึกเหิมลองขยับจังหวะให้เร็วขึ้นถึงความเจ็บจะยังมีแต่ก็น้อยลงไปมากแล้ว แต่ถึงนางจะเจ็บมากกว่านี้แต่การทำให้เขาดูทรมานกับเสียงเหมือนคนใกล้จมลงในน้ำ เซียวหมิงเยว่นางก็ยินดีเจ็บเพื่อเอาคืนคนชั่ว!ยิ่งนึกไปถึงเมื่อช่วงหัวคำที่นางถูกพิษร้ายโดยแท้เจ้าคนบ้าหน้าทนกลับไม่เห็นใจไม่พอยังไม่ปรานีนางอีกด้วยเขากลับลงมือเหี้ยมโหดถึงมิใช่การข่มขืนแต่ก็เป็นการบังคับใจและใช่เล่ห์กลร้ายล่อลวงนางเช่นนี้หากนางคิดสนองคืนความทรมานไปบ้างนางผิดหรือไรเล่า?! ซึ่งเด็กน้อยก็ยังคงเป็นเด็กน้อยจะไปหาญกล้าเท่าทันเล่ห์กลบุรุษย่อมยากแล้วเช่นนั้นยิ่งนางขยับแรงและเร็วเท่าไหร่ ท่านรองแม่ทัพหนุ่มก็ยิ่งสุขจนล้นหัวอกและเขายิ่งลงมือเสแสร้งแสดงส่งเสียงคล้ายทรมานสาหัสทั้งที่ความจริงเสียวซ่านจะแบบระเบิดกาย แต่คน'ซื่อ'นางเข้าใจไปเองว่าเขาคงทั้งเจ็บและทรมานเช่นนางแน่แท้จึงมีเรี่ยวแรงเท่าใดจึงใส่ลงไปไม่เก็บออม! หนักเข้านางถึงขนาดใจกล้าจนผลักหน้าอกกว้างของจ้าวไห่เฉิงให้นอนราบลงไปกับบนพื้นเตียง โดยมีนางอยู่ด้านบนขยับโยกไหวพร้อมปลายเล็บที่ไม่ยาวอันใดทั้งสิ้นแต่นางล้วนลงแรงข่วนไม่มีเว้นคาดว่าคงได้ร่องรอยลายยิ่งกว่าเสือลายพาดกลอนเลยทีเดียว ...อา...เสี่ยวมาวป่าของเขานางช่าง...ร้ายกาจเกินไปแล้ว... ทว่าจากที่ในคราแรกเซียวหมิงเยว่นางคิดเพียงจะทรมานคนบัดนี้มิคาดว่าเจ้าตัวกรรมนั้นกลับร้ายกาจมีขายาวเกินไปหรือไรไยจึงสนองคืนนางเร็วไวอย่างยิ่งเพราะนางขยับแนบนั้นกลับยิ่งเสียวซ่านปนหวานผสานสุขจนยิ่งเผลอกายลืมใจขยับโยกไหวรุนแรงไปตามอารมณ์เร่าร้อน เช่นนั้นเมื่อด้านบนขยับโยกกดคลึงด้านล่างก็ขยับประสานแทรกลึกกันอย่างลงตัวจนคนตัวเล็กนางก็ชักจะเลือนรางไปหมดว่าจากแต่เดิมเพียงอยาก'เอาคืน'ท่านรองแม่ทัพหนุ่มเพียงอย่างเดียว หากแต่สุดท้ายและไยเป็นตัวนางเองที่คล้ายจะเริ่มจะทรมานเสียวซ่านสะท้านทรวงไปเสียได้ ...นางไม่สมควรเล่นกับไฟเลย... สุดท้ายเมื่อจ้าวไห่เฉิงนั้นจะหลุดการควบคุมเสียเอง จึงพลิกกลับให้คนตัวเล็กนางสลับกลับลงไปอยู่ด้านล่างแทนที่ตนเองพร้อมปลุกเร้านางด้วยการพยายามบดบี้ขยี้เกสรสวาทไปด้วย เพื่อส่ง'เหล่าโผ'ของเขาให้พบเจอกับสายรุ้งที่ปลายขอบฟ้าเสียก่อน เพราะครั้งต่อไป...และต่อไปนางจะได้ไม่กลัวที่จะมีราตรีวสันต์ร่วมกันกับเขาอีก จวบจนเมื่อเขาสัมผัสได้ถึงช่องทางรักที่เริ่มบีบรัดรุนแรงจนแก่นกายชายแทบขยับต่อไปไม่ได้อีก รวมถึงนิ้วมือเล็กทั้งสิบของคนตัวน้อยเริ่มลงแรกจิกเล็บที่ถูกตัดแต่งจนสั้น แต่ก็จิกข่วนไปที่ตรงส่วนใดบนร่างกายขอเขาแต่ละรอยนั้นก็แสบจี๊ดไปทุกที่อยู่ดี แล้วก็ตามมาด้วยเสียงกรีด แสนหวานกับร่างที่บดเบียดจนแทบกลืนหายไปกับหน้าอกของเขาเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าเขาทำสำเร็จส่งนางไปเยือนแดนเซียนเรียบร้อยแล้ว เขาจึงเผลอยิ้มออกมาด้วยความภูมิใจที่ได้มอบสุขสมครั้งที่สองอันแสนประทับใจให้ฮูหยินตัวเล็กได้สำเร็จ แล้วเขาเองที่ทรมานเพราะอยากปลดปล่อยสายธารแห่งชีวิตเข้าไปฝากฝังภายในกายนี้เต็มทนแล้ว จึงเร่งขยับจังหวะร้อยรัดตอกอัดสะโพกสอบแบบไม่ยั้ง สุดท้ายก็ตามนางไปติดๆ เช่นกัน กว่าเสียงหอบหายใจของเขาจะกลับมาปกติก็ผ่านไปครู่ใหญ่ แต่ร่างหนากลับยังไม่ยอมถอดถอนตัวตนของเขาออกมา แถมยังทำท่าจะหลับไปกับหน้าอกอวบขาวดังซาลาเปาอวบอั๋นชวนชิมของนางเข้าอีกด้วย “โอ๊ย!...ลงไปเจ้าค่ะ...เสี่ยวเยว่แบนติดที่นอนแล้ว” เสียงเล็กจากคนใต้ร่างอุบอิบประท้วงเอาบ้าง ก็ถ้าเขาหลับเช่นนี้นางก็ได้แบนเป็นปลาหมึกแห้งเท่านั้นนะสิ ทว่าจ้าวไห่เฉิงนั้นมีหรือจะขัดใจตนเอง “ฮืม... ขออยู่แบบนี้อีกนิดนะ สัญญาจะไม่ทับหรอก แค่รู้สึกดีตอนได้นอนหนุนซาลาเปาอวบๆ คู่นี้เท่านั้น” กล่าวเขาก็ขยับขึ้นมาจุมพิตที่ริมฝีปากนางโดยเร็วหนึ่งครึ่งแล้วกลับไป'ฟัด'ซาลาเปาสองก้อนของนางประหนึ่งเขาคือเจ้าของส่วนนางนั้นมีหน้าที่แค่แบกมันเอาไว้เท่านั้น ...ประเสริฐยิ่ง!... ชีวิตของสาวใช้เช่นนางจะประเสริฐไปดังนี้ถึงเมื่อใดกัน?!
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม