หลายเดือนก่อน
เสียงหัวเราะใสๆ ดังมาจากในครัว โดยต้นเสียงมาจากหญิงสาวตัวเล็กในชุดเสื้อยืดสีครีมกับกางเกงขาสามส่วนสีดำ รูปร่างหุ่นนาฬิกาทราย หากแต่ดูบอบบางราวกับจะแตกหักได้ทุกเมื่อ ใบหน้าหวานใสระบายไปด้วยรอยยิ้มแสนบริสุทธิ์ เป็นรอยยิ้มที่ใครเห็นเป็นต้องหลงรัก นัยน์ตากวางดำขลับเหมือนกับสีผมที่ยาวลงมาเพียงประบ่า ล้อมกรอบใบหน้าเรียวเล็กให้ดูหวานขึ้น จมูกโด่งเป็นสันน้อยๆ กับริมฝีปากแดงจิ้มลิ้มน่าเอ็นดู
เจ้าของความงดงามอันแสนบริสุทธิ์นั้นยังคงวุ่นอยู่กับการทำอาหาร โดยมีลูกมือเป็นสาวใช้หลายคน รอยยิ้มน้อยๆ ก็ยังขยับตลอดเวลา ทำให้บรรยายกาศรอบตัวเธอมีแต่ความสดใสทำ จึงไม่แปลกที่จะเป็นที่รักใคร่ของใครหลายๆ คน
ในระหว่างที่เจ้าตัวกำลังยุ่งอยู่กับการเตรียมอาหารเพื่อต้อนรับผู้มีพระคุณ หญิงสาวจึงไม่ได้สังเกตว่ามีคนบางคนกำลังแอบมองดูอากับกิริยาของเธอตลอดเวลา เขาคนนั้นก็คือ อดิราช อิศรวัฒน์ ผู้ที่ชุบเลี้ยงหญิงสาวมากับมือ หลังจากที่ภรรยาผู้จากไปของเขาได้ฝากฝังให้เขาเลี้ยงดูเธออย่างดี ซึ่งเขาก็ได้ทำตามคำขอนั้นอย่างไม่มีขาดตกบกพร่อง
อดิราชได้ตั้งชื่อให้เธอว่า ฟ้าใสเหมือนกับท้องฟ้าที่สดใสราวกับท้องฟ้าของฤดูใบไม้ผลิ และไม่ผิดหวังเมื่อเธอได้เติบโตเป็นหญิงสาวที่แสนน่ารัก ทั้งการศึกษา รวมถึงกริยามารยาท ฟ้าใสไม่เคยทำให้เขาต้องเป็นกังวลเลยแม้แต่น้อย และไม่นานมานี้เธอขอให้เขาช่วยในเรื่องการเปิดร้านเบเกอร์รี่คาเฟ่ ซึ่งเขาก็เต็มใจช่วย เพราะรู้ว่าฟ้าใสมีฝีมือด้านการทำขนมเป็นอย่างมาก บางครั้งเหล่าขนมหวานในโรงแรมของเขาก็เป็นฝีมือของลูกสาวของเขาเองด้วยซ้ำ
ผิดกับเจ้าลูกชายที่จากบ้านเกิดเมืองนอนไปถึงยี่สิบปีเต็ม เขาส่งลูกชายไปเรียนต่อที่อังกฤษตั้งแต่อายุสิบปี หลังจากที่ภรรยาของเขาเสียชีวิต
อัคนีลูกชายของเขาก็แทบจะเปลี่ยนไปราวกับคนละคน ทั้งโมโหร้าย มีนิสัยหยาบกระด้าง และใจร้อน ทำให้เขาตัดสินใจส่งลูกชายคนเดียวไปเรียนต่อที่โรงเรียนประจำในอังกฤษหวังว่าจะได้รับการดัดนิสัยเสียๆ พวกนั้นทิ้ง แต่เปล่าเลย อัคนีขยันสร้างปัญหาให้เขาไม่เว้นแต่ละวัน มีเพียงแค่สิ่งเดียวที่ลูกชายเขาทำได้ดีคือการเรียนที่สามารถเรียนจบด้านบริหารอย่างที่เขาต้องการด้วยคะแนนสูงสุด แต่อัคนีก็ไม่ยอมกลับมาบ้านของตัวเองเสียที แม้ว่าเขาจะเอ่ยปากด้วยตัวเองก็ตาม
ใช่ว่าเขาจะไม่รู้ว่าอัคนีใช้ชีวิตอย่างไร แต่เขากลับพยายามไม่ใส่ใจ จนกระทั่งวันนี้เลขาของอัคนีได้โทรมาบอกว่าอัคนีก่อเรื่องใหญ่ถึงขั้นมีปัญหากับคนเก่าแก่ที่ดูแลบริษัท ทำให้เขาต้องเรียกตัวกลับด่วนก่อนที่เรื่องจะบานปลายไปมากกว่านี้
และด้วยความต้องการอยากให้ลูกชายของตนได้ลงหลักปักฐานมีความมั่นคงในชีวิตสักที อดิราชจึงตั้งใจจับคู่ให้ลูกชายเสีย เผื่อว่ามีครอบครัวแล้วจะได้ลดความบ้าระห่ำลงได้บ้าง อีกทั้งเขายังหวังจะว่าได้อุ้มหลานก่อนที่จะไม่มีโอกาส หากทว่าผู้หญิงที่อัคนีควงออกงานนั้น กลับไม่เข้าตาสักคน และคนที่เข้าตากลับมีเพียงแค่คนเดียวคือฟ้าใส แม้จะดูเห็นแก่ตัวไปบ้าง แต่ก็คิดไม่ออกเลยว่าจะมีใครที่พอจะขัดเกลาเจ้าลูกใจร้อนคนนั้นได้เท่าหญิงสาวคนนี้อีกแล้ว
ใบหน้าหวานกำลังขึ้นริ้วสีแดง ขอบตาร้อนผ่าว จมูกโด่งนิดๆ แทบจะกลายเป็นสีแดงเหมือนสีของริมฝีปากจิ้มลิ้ม ขณะที่สาวใช้กำลังมองมาอย่างสงสาร
“คุณหนูคะ ปั้นว่า ปั้นหั่นเองดีกว่ามั้ยคะ” เสียงของสาวใช้นามว่าปั้นที่ยืนดูอยู่ข้างหลังเอ่ยขึ้น หลังจากที่เห็นคุณหนูของตนกำลังร้องไห้เพราะกำลังหั่นเจ้าพริกที่มีกลิ่นฉุนจนขึ้นจมูก ถ้าใครไม่ระวังก็อาจจะร้องไห้เพราะแสบตาอย่างคุณหนูน้อยของบ้านก็เป็นได้
“ไม่ค่ะ... ฮึก... ฟ้าทำเอง ฮึก วันนี้ยัยฝันจะมาหาตอนเย็นๆ พี่ปั้นช่วยไปดูให้ทีนะคะ ฮึกๆ” เสียงหวานใสสะอึกขณะที่บอกสาวใช้พี่เลี้ยงของตน เธอแสบตามากแต่ก็ต้องหั่นเข้าพริกพวกนี้ให้เสร็จ เพราะวันนี้เป็นวันที่อดิราชออกจากโรงพยาบาล หลังจากที่ท่านล้มในห้องน้ำ ทำเอาคนในบ้านแทบหัวใจวายตาม หญิงสาวเลยตั้งใจจะทำอาหารต้อนรับ แต่เป็นเพราะต้องทำอาหารกึ่งรสจัด การหั่นพริกเลยทำให้เธอต้องอยู่ในสภาพนี้
“ได้ค่ะ ปั้นจะไปดูให้นะคะ ถ้าคุณหนูไม่ไหวเรียกปั้นหรือนังปิ่นได้เลยนะคะ” ปั้นทิ้งท้ายให้ปิ่นที่เป็นฝาแฝดของตนคอยดูแลคุณหนูน้อยของบ้าน ก่อนที่ตนจะเดินไปนั่งรอที่หน้าบ้านตามที่คุณหนูบอก
ฟ้าใสหั่นพริกเสร็จแล้วจึงเดินไปล้างมือให้สะอาด จากนั้นล้างหน้าที่เต็มไปด้วยคราบน้ำตาเหมือนคนที่ผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก ฟ้าใสเรียนจบด้านโภชนาการมาโดยตรงด้วยความชอบส่วนตัวและอดิราชก็ชอบอาหารที่เธอทำให้มาก เธอจึงตั้งใจทำอาหารมื้อนี้อย่างสุดความสามารถเพื่อต้อนรับเขา
หญิงสาวนึกขอบคุณอดิราชอยู่เสมอที่เลี้ยงเธอมาอย่างดี ไม่ว่าเธออยากทำสิ่งใดเขาก็สนับสนุนเธออย่างเต็มที่ และเมื่อไม่นานมานี้อดิราชได้มอบของขวัญวันเกิดให้เธอ เป็นร้านเบเกอร์รี่คาเฟ่เล็กๆ ตั้งอยู่ในทำเลทองคำ ทำให้เธอไม่ต้องรับเงินรายเดือนจากตระกูลอีกต่อไป
แต่กระนั้นฟ้าใสก็ยังคิดว่าหากเขาร้องขอสิ่งใดจากเธอ เธอก็จะตอบแทนด้วยความยินดี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่หนักหนาสาหัสเพียงใดก็ตาม
“คุณหนูคะ น้ำเดือดแล้วค่ะ” เสียงของปิ่นดังขึ้นเมื่อคุณหนูบอกให้เธอคอยดูน้ำในหมอ
“ปิ่นช่วยเอาปลาใส่ลงในหม้อก่อนแล้วค่อยตามด้วยกุ้งนะจ๊ะ” เสียงหวานบอก ขณะที่เธอกำลังง่วนอยู่กับการทำอาหาร ใส่ใจทุกอย่างไม่ให้ขาดตกบกพร่อง อาจจะเป็นเพราะนิสัยที่ถูกอบรมมาอย่างดีโดยแม่นมแม้น ที่สอนให้เธอเป็นคนที่มีระเบียบ ว่านอนสอนง่ายจนดูเหมือนคนหัวอ่อนที่มักจะถูกหลอกเอาง่ายๆ แต่ถึงกระนั้นเธอก็ยังมีผู้พิทักษ์ประจำตัวอย่าง ปลายฝันเพื่อนสาวคนสนิทที่เติบโตมาด้วยกัน
ปลายฝันเป็นสาวแกร่งที่มีนิสัยแก่นเซี้ยว ไม่ได้อ่อนหวานเหมือนชื่อและหน้าตาเลยแม้แต่น้อย โดยปลายฝันจะเป็นคนปกป้องเธอมาตั้งแต่เด็กๆ และหวงแหนเธอมากราวกับพี่น้องคลานตามกันมา ทำให้โตมากลายเป็นสาวแกร่งสุดห้าวที่ผู้ชายยังขยาด แถมยังดื้อเหมือนม้าพยศ จนคนเป็นยายอย่างแม่นมแม้นต้องปวดหัวอยู่บ่อยๆ เพราะกลับบ้านทีไรต้องมีแผลทุกที
แต่ตอนนี้ปลายฝันเป็นถึงวิศวกรโยธาที่ควบคุมการก่อสร้างขนาดใหญ่ เป็นคนที่มีชื่อเสียงในวงการเป็นอย่างมาก แม้ว่าจะเป็นหญิงสาวตัวเล็กๆ แต่ด้วยท่าทางน่าเกรงขามประกอบกับความรู้ความฉลาดของเธอทำให้ปลายฝันเป็นที่ยอมรับ และสามารถคุมคนงานเป็นร้อยๆ คนได้
จนบางครั้งฟ้าใสก็รู้สึกอิจฉาที่ไม่อาจเป็นได้อย่างเพื่อนของตนเอง เธออยากจะเข้มแข็งอย่างปลายฝันบ้าง แต่ไม่ว่าจะพยายามเลียนแบบเท่าไหร่ สุดท้ายกลับกลายเป็นผู้ถูกปกป้องอยู่ดี ทั้งที่อยากจะออกไปเผชิญกับโลกภายนอกแต่ก็ต้องกลับมาอยู่ในกรงเพราะกลัวอันตราย อยากจะตีปีกบินไปได้อย่างอิสระ แต่ดูเหมือนว่าปีกจะยังแข็งแรงไม่พอที่จะกระพือออกไป