" ไซมึ้งยอดรัก ท่านยอดเยี่ยมเหลือเกิน "
นางพูดด้วยเสียงอ่อนระโหย พลางประกบจูบมันดูดดื่ม
โดยเกาฉีเยี่ยนก็ปล่อยเลยตามเลย แลกลิ้นเป็นพัลวัลดั่งคู่รักดื่มน้ำผึ้งหวานหอม
ก่อนมันจะค่อยๆ หย่อนกายลงไปนอนกอดก่ายนางกับพื้นหญ้า ทั่งที่ท่อนลำยังแช่ค้างอยู่ในโยนีนาง
แต่แล้วประมุขลู่พลันต้องรู้สึกแปลกประหลาด เมื่อจะยันกายขึ้นนั่ง นางรู้สึกอ่อนล้าสิ้นพลัง จนไม่มีแม้แต่แรงจะยกแขนขึ้น
" เอะ!...นี่ข้าเป็นอะไรไป? ...เจ้าดูดพลังปราณข้ารึ ? "
นางร้องแตกตื่นสีหน้าหวาดหสั่นอย่างไม่อาจปกปิด
" ดูดพลังปร่ณอันใดข้าไม่รู้จัก ท่านอย่ากล่าวหากันซิ!...หรือว่าได้ข้าแล้วจะฆ่าปิดปาก…แหมท่านนี่อำมหิตนัก "
… ชายหนุ่มยังคงปากดี ทั้งๆ ที่เพทภัยเข้าใกล้แค่เอื้อม
เมื่อสี่สาวชุดดำเคลื่อนขยับเข้ามาดูอาการประมุขด้วยดาบเงาวับในมือ
" ท่านประมุข!...ท่านเป็นอะไรไป? "
ทั้งสี่ต่างกรูกันมาพร้อมช่วยประคับประคองประมุขลู่ขึ้นนั่ง
" รีบคร่ากุมตัวโสโครกนี้โดยไว มันไม่ใช่ไซมึ้งปุกป้าย! "
สิ้นเสียงสั่งของนาง ทั้งสี่สาวพลันขยับดาบ จ้องเขม็งไปหามัน
ทว่ายังเชื่องช้ากว่าชายหนุ่มไปครึ่งก้าว เพราะมันวิ่งโทเท้ง เตลิดเข้าป่าไปตั้งแต่ประมุขลู่ยังพูดไม่จบความ
" ตาม! "
หนึ่งในสามสาวตะโกนลั่น พร้อมเพรียงกับสี่เงาร่างทะยานลอยตัวป่านแมกไม้ ตามชายร่างเปลือยที่วิ่งละลิ่วไปราวเหินบิน….
…ร่างล้อนจ้อนของชายหนุ่มวิ่งกระเซอะกระเซิงไปอย่างไรทิศทาง
ทั้งๆ ที่ท่อนเอ็นมันแข็งโด่ ตั้งเป็นลำฟาดหน้าขาไปทุกแรงวิ่ง จนมันรู้สึกหงุดหงิดกับร่างกายตน
" เจ้าจะแข็งขึ้นมาทำไมในเวลาหน้าสิ่วหน้าขวานเช่นนี้! "
...มันบ่นงึมงำกับตัวเอง ทั้งที่ยังออกแรงวิ่งไม่ยั้ง
มันไม่เพียงงงงันกับองคชาติที่แข็งขันผิดเวลา ชายหนุ่มยังงงงันกับพลังปราณของตนที่เหมือนจะล้นปริ่มมากกว่าเก่า จนวิชาตัวเบาของมันลอยละลิ่วรวดเร็วอย่างไม่เคยฝึกปรือถึงขั้นนี้มาก่อน
ถึงจะงงแต่ก็ยังเผ่นพลิ้วสุดกำลัง กระทั้งร่างมันถูกสกัดให้ล้มขม้ำด้วยตะข่ายดักปลาผืนใหญ่
" โอ้ ย ย ย!....โอ้ ย ย ย!..."
มันร้องลั่นขณะเกลือกกลิ้งไปกับพื้น ดึงตะข่ายที่รัดร่างอย่างตื่นตะหนก ใจคิดถึงแต่พรรคบุปผาทมิฬ ที่คงดักเล่นงานมันเข้าแล้ว
" เฮอ เฮอ เฮอ. ปลาล้อนจ้อนตัวใหญ่ติดตะข่ายเข้าแล้วท่านอาจารย์! "
เด็กหนุ่มเฮอเฮอ ลอยละลิ่วจากยอดไม้เข้ามาหาชายหนุ่มด้วยรอยยิ้มระรื่น
" เป็นเจ้าอีกแล้วรึเด็กน้อย เอาแต่จับตัวข้าซ้ำๆ ซากๆ คาดหวังเงินทองเพิ่มหรือไร? "
เกาฉีเยี่ยนขมวดคิ้วกล่าว หวังต่อรองกับมันเมื่อรู้ว่าที่แท้ของสองศิษย์อาจารย์ เป็นเพียงเงินทองนอกกาย
" เงินทองเหมือนความรักนั้นละคุณชายเกา ยิ่งมีมากยิ่งอบอุ่น "
ผู้กล่าววาจาคือแมวราตรีเฒ่า ที่ส่งเสียงมาจากลำธารน้ำสายยาวทางด้านขวาห่างไปไม่ถึงสิบเซียะ ที่แท้เกาฉีเยี่ยนวิ่งมาจนเกือบถึงคลองน้ำสายใหญ่แล้ว ยังพอมองเห็นตาเฒ่าผายผอมยืนอยู่บนแพไม้ มันกำลังโบกไม้โบกมือด้วยใบหน้ายิ้มแฉ่ง จนเห็นเหงือกแดงกร่ำ
" ถัาเป็นเช่นนั้นประเสริฐยิ่ง ท่านว่าตระกูลเกาของข้ากับพรรคบุปผาทมิฬ ผู้ใดมีทรัพย์สินมากกว่ากัน? "
" ใยถามง่ายดายเช่นนั้นเล่าคุณชายเกา ต่อให้เป็นทารกก็ล่วงรู้ว่าตระกูลเการ่ำรวยเป็นรองเพียงพระคลังแห่งวังหลวงเท่านั้น "
...ชายชรากล่าวด้วยแววตาเป็นประกาย คล้ายเข้าใจเจตนาชายหนุ่มแล้ว
" ถ้าเช่นนั้น เราก็สมควรทำการค้ากันสักคราดีหรือไม่ รับรองย่อมให้ผลประโยชน์มากกว่าค้าขายกับประมุขลู่แน่ "
" ฮ่า ฮ่า ฮ่า…ท่านคิดว่าชีวิตท่านมีราคาเท่าใดกันคุณชายเกา "
" ย่อมมีมูลค่าสูงกว่าสี่สิบตำลึงทองแน่ "
ชายชราตาลุกวาว เมื่อได้ยินจำนวนเงินที่มันกล่าว ทว่ายังไม่ทันได้ตอบคำมัน พลันบังเกิดเสียงเด็กหนุ่มเฮอเฮอสอดแทรกเข้ามาก่อน
" ถ้าชีวิตท่านมีราคาสี่สิบตำลึงทอง แล้วเสื้อผ้าท่านเล่า มีราคาเท่าใด? "
เด็กหนุ่มกล่าวหน้าทะเล้น พลางชูห่อผ้าที่คล้องไหล่ให้ชายหนุ่มเห็น
" แสบสันทั้งศิษย์ทั้งเฒ่าทั้งเด็กเลย! คิดจะรีดทรัพย์สินให้ข้าเหลือแต่ตัวหรือไร? "
" เฮอ เฮอ.. ตอนนี้ท่านก็เหลือแต่ตัวอยู่แล้ว ใยต้องรีดไถอีกเล่า? " มันหัวร่อพอใจ
ขณะที่เกาฉีเยี่ยนได้แต่นั่งชิดเข่าหนีบของลับอย่างอึดอัดขัดเคือง แต่เพราะสถานการณ์บีบคั้น เลยต้องตอบเอาใจมันไป
" สมควรมีราคาชิ้นละสิบตำลึงทองเป็นไร! "...
" ยอดเยี่ยมยิ่ง ยอดเยี่ยม!...ข้ามีทั้งเสื้อนอก เสื้อใน ทั้งรองเท้า กางเกง….ครานี้นับว่าข้าร่ำรวยแล้ว " มันโลดแล่นมาหาชายหนุ่มด้วยใบหน้าดีใจยิ่ง
แต่ยังไม่ทันได้ยื่นห่อผ้าให้ชายหนุ่ม มันมีอันพลิกตัวกลับ หลบเลี่ยงอาวุธลับที่สาดสัดเข้าใส่
" โจรชั่วตามเรากลับไปพบประมุขเดี๋ยวนี้! "
...สี่สาวชุดดำพุ่งทะยานมากลางอากาศ พร้อมปล่อยอาวุธลับสิบกว่าดอก
เฮอเฮอตีลังกาหลบเลี่ยงไปว่องไวยิ่ง ส่วนเกาฉีเยี่ยนที่ยังตะลึงลาน กลับถูกแมวราตรีโผเข้ามาคว้าตัวมัน แล้วพุ่งละลิ่วลงไปยังแพที่จอดนิ่งในธารน้ำ
" ตาเฒ่าแมวราตรี! เหตุใดเจ้าช่วยเหลือมัน เจ้าอยู่ข้างเดียวกับพวกเรามิใช่รึ! "
" ฮ่า ฮ่า ฮ่า…การค้ากับพวกเจ้าปิดการขายไปแล้ว ครานี้มีลูกค้าใหม่ต้องดูแลแล้ว! "
มันกล่าวพลางจ้วงไม้ไผ่ลงน้ำ ส่งแพให้ลอยล่องไปตามสายน้ำไหล
" ตาเฒ่าบัดซบ! "...หนึ่งในแม่นางชุดดำตะโกนแวด พลางกระโจนร่างตามไป
ทว่ากับถูกเฮอเฮอคว้าตะปบแขนไว้ จนแขนเสื้อนางขาด เผยให้เห็นผิวขาวอมชมพูระเรื่อ
" ท่านอาจารย์รีบไปทำการค้าให้เสร็จสิ้น แล้วอย่าอมส่วนแบ่งข้าละ " เด็กหนุ่มร้องก้องพลางเร่งรุดกระบวนท่าขวางกั้นทั้งสี่สาวเป็นพัลวัล