อาบรัก คัมภีร์มาร

มารกระบี่ยอดรัก ... ( nc + )

เกาฉีเยี่ยนเสียวสะท้านจนขนลุกขนชัน

โพรงปากละมุนที่อ้าอมลำลึงค์มัน เร่งรูดเข้ารูดออก ปลุกเร้าให้ท่อนเอ็นเรียวยาวผงาดง้ำตื่นตัว

แม้มันจะถูกสกัดจุดหยุดยั้งการเคลื่อนไหว แต่เส้นประสาทจากปลายอวัยวะเพศ กลับถูกเรียวลิ้นรุกไล่จนผงาดง้ำพองคับปากนาง

นางทั้งดูด ทั้งเม้ม รูดรัวๆ ตรงหัวเงี่ยงให้เสียวซ่านไล่ลามไปถึงโคน ซ้ำมือน้อยยังเคล้าคลึงสองลูกอัณฑะจนหดเกร็ง

หยาดฝนจางจากฟ้ารุ่งสางไปแล้ว แต่ความฉ่ำแฉะกลับหลั่งรินในร่างกายไปทั่วทุกชีวิต แม้แต่สี่หญิงสาวชุดดำที่ได้แค่มอง ยังเกิดอานมณ์ถาโถมจากภาพที่พวกนางเห็น มันช่างเร่าร้อนกว่าโคจรลมปราณผ่านจุดตรงหน้าท้องหลายสิบเท่า

ประมุขลู่ผู้เป็นต้นเหตุแห่งความกระสันเสียว ยิ่งร่านราคะกว่าใครในบริเวณ

ริมฝีปากที่แตะสัมผัสท่อนเอ็นอันเป็นที่รัก พานางลอยละเมอเพ้อไปถึงอดีตอันหอมหวาน

รูปเงาของชายคนรักปรากฏขึ้นในห้วงใจอย่างใหลหลง

" ไซมึ้งไร้พ่ายยอดรัก! "...

นางพร่ำรำพันในอก ขณะถอนริมฝีปากจากท่อนเอ็นแข็งโด่ดั้งทวนทมิฬพร้อมออกศึก

นางลุกขึ้นยืนแล้วเร่งปลดเปลื่องเสื้อผ้าตน โดยไม่สนใจสี่ลูกพรรคที่ถลึงเหลือกตา มองนางด้วยหัวใจที่เต้นระรัว

" ไซมึ้งยอดรัก! …ท่านมาหาข้าแล้ว เป็นท่านแน่แท้จริงๆ ! ".

..นางพร่ำพรอดรำพัน ขณะพาร่างเข้าแนบประชิดกายชายหนุ่ม

ริมฝีปากนางจูบซอกไซ้ต้นคอ เรื่อยไล่ไปถึงใบหน้ามาจรดริมฝีปากบางเฉียบของเกาฉีเยี่ยน

….ใจประมุขลู่ตะเลิดเปิดเปิงไปกับรสสัมผัส ดั่งทอดกายกลับสู่อดีตอันหอมหวานในอ้อมกอดคนรัก

นางเห็นภาพในใจแจ่มชัด ตอนได้พบไซมึ้งปุกป้ายเมื่อสิบปีก่อน ครั้งนั้นนางอายุเพียง16 ยังเป็นคุณหนูใหญ่แห่งแม่ทัพตระกูลลู่

คุณหนูลู่ในยามนั้นทั้งดื้อรัน ถือดี ชื่นชอบวรยุทธดั่งชายชาญผู้หาญกล้า

เมื่อนางล่วงรู้ว่าจะมีการประลองกระบี่ของยอดฝีมือแห่งยุค นางจึงรีบเร่งควบม้าทั้งวันคืน มายัง ณ ลานประลองบนยอดเขาซงซาน ที่ซึ่งมีเหล่าชาวยุทธนับร้อย ยืนชะเง้อคอมองสองบุรุษในชุดขาวยืนตระหง่าน สง่างามบนเชิงหน้าผาคนละด้าน

สองจอมยุทธยืนแน่นิ่งอยู่นาน จนผู้เฝ้ามองเริ่มกระสับกระส่ายกับการรอคอย

กระทั้งคุณหนูลู่ร้องขึ้นด้วยความเดือดดาล

" นี่พวกท่านจะยืนให้แก่ตายกันไปข้างหนึ่งรึไง? "....

ไม่มีใครคาดคิดว่าเหตุผันแปร พลันเกิดขึ้นหลังเสียงร้องของนาง

เพียงพริบตาสองจอมยุทธลอยตัวขึ้นกลางอากาศ ประกายกระบี่คมวาวสองสายแลบผ่านราวสายฟ้าฟาด

จากนั้นหนึ่งชายชุดขาวพลันหัวขาดกระเด็นออกจากไหล่!... ทั้งร่างทั้งหัวพลันร่วงหล่นไปในหน้าผาลึกล้ำ ผู้คนรอบบริเวณต่างร้อง หือ อ อ …ด้วยความแตกตื่นตะลึงลาน

จะมีเพียงคุณหนูลู่ที่เฝ้ามองชายชุดขาวอีกคนที่พลิ้วกายลงมายังเชิงผาอีกด้าน มันสบัดกระบี่ให้โลหิตกระเซ็นจากคม แล้วเก็บกระบี่คืนฝัก จากนั้นมันจึงโลดแล่นไปราวเงาภูติพรายจางหายลับตา

มันคือไซมึ้งปุกป้าย จัดเป็นยอดฝีมืออันดับหนึ่งในแผ่นดิน แต่ด้วยนิสัยอันแปลกประหลาดของมัน ที่ไม่ใยดีกับการคบค้าสมาคมกับผู้คน จึงได้ฉายาว่า ' มารกระบี่ร้อยกามา '...

คุณหนูลู่ตราตรึงใจกับรูปลักษณ์สง่างามหล่อเหลา และเพลงกระบี่อันพิสดารล้ำลึก มีรึคุณหนูซุกซนอย่างนางจะปล่อยให้มันจากไปง่ายดาย

นางทุ่มเทท่าร่างวิชาตัวเบาตามมันไป ทั้งที่ไม่เห็นแม้แต่เงา แต่นางจดจำได้แม่นยำว่าทางลงเขามีทางเดียว นางจึงเร่งฝีเท้าไปตามทาง โดยปากก็ร้องตะโกนเรียกชื่อมันดังๆ หลายครั้งครา กว่าจะมีเสียงแว่วตอบจากทิศตะวันตก

คุณหนูลู่แย้มยิ้มเบิกบาน เมื่อได้ยินมันขานตอบ เด็กสาวรีบเร่งวิ่งไปตามทิศทางที่มาของเสียง แต่เมื่อนางวิ่งจนได้พบมัน นางพลันมีอันต้องชะงักค้าง ดวงตาเบิกโพรง

เพราะที่นางเห็นคือร่างเปลือยเปล่าของชายสูงใหญ่ กำลังชำระล้างกายกลางม่านน้ำตกพร่างพรม

ยิ่งเมื่อมันหันหลังกลับมามองนาง ทำเอาเด็กสาวได้เห็นมันถนัดถนี่ทุกสัดส่วน โดยเฉพาะท่อนลำแห่งความเป็นชาย ที่ยาวใหญ่เท่าท่อนแขนนาง

นางร้อนวูบวาบจนหน้าแดงซ่าน ร่างแข็งค้างไม่อาจกระดิกกระเดี้ย

" เจ้าเรียกหาข้าพเจ้าปาวๆ เหตุใดเมื่อเจอตัวจริงแล้วจึงนิ่งงันไป "

มันกล่าวด้วยรอยนยิ้มงดงาม ดั่งเทพบุตรจุตติ โดยไม่ทันให้เด็กสาวตอบคำ มันพลันกวักมือส่งพลังปราณดึงดูดเอาร่างบอบบางลอยละลิ่วจากพื้น ถูกดึงดูดข้ามผิวน้ำมายังน้ำตกที่มันยืนตะหง่านอยู่

แม่นางน้อยลอยดิ่งตรงมาเข้าอ้อมกอดมัน คล้ายดั่งขนนกปลิวละลิ่วเข้าอุ้งมือเซียน

" ท่านจะทำอะไรข้าพเจ้า! "

... นางร้องแตกตื่นพลางยันสองแขนไว้กับอกชายหนุ่ม

" ท่านตามข้ามาถึงเพียงนี้ ย่อมต้องอยากรู้จักข้าพเจ้ามิใช่หรือ…มาเถิดแม่นางน้อย มาทำความรู้จักกันให้ลึกซึ้งเถิด! "...

มันพูดพลางกระดกท่อนลำขนาดเขื่องตีหน้าท้องเด็กสาว จนนางวาบหวิวไปทั้งตัว

ไม่ทันที่นางจะขัดขืนใดๆ ริมฝีปากมันก็ตรงเข้าจุมพิตกับริมฝีปากน้อยๆ ลิ้นฉ่ำแฉะอันช้ำชองชอนไชเข้าไปตวัดโรมเลียในโพรงปากนาง จนเด็กสาวเคลิบเคลิ้มไปกับรสสวาทแรกสัมผัส

ยิ่งเมื่อมันจับมือนางให้ลงไปลูบคลำ ถอกชักท่อนลำอันใหญ่โต ใจนางดั่งเลื่อนลอยไปในแดนตัณหาแสนไกลโพ้น

ปานรูปผีเสื้อตรงโคนองคชาติมัน คล้ายจะพานางโบยบินสู่ชั้นฟ้าสุดปรายตา

มารกระบี่ร้อยกามาปร่นเปรอบำเรอรัก ให้เด็กสาวกระสันเสียวกลางธารน้ำตกอันเย็นฉ่ำ

จากอาการเขอะเขินในครั้งแรก ที่ถูกสอดใส่ในท่านอนบนโขดหิน เป็นท่าพื้นฐานที่นางเคยแอบดูคนรับใช้ร่วมรักกันในคอกม้า

แม้จะเจ็บจะขัดเคือง แต่ยอดนักรบอย่างนางก็กัดฟันรับแรงกระแทกกระทันอย่างอาจหาญ พวงอัณฑะที่กระทบกับผนังโยนี ส่งเสียงดัง ตับ ตับ ตับ…สะท้านสะเทือนคลอเสียงน้ำตก ราวดนตรีร่วมสลับบรรเลง

เรื่อยไล่ผ่านไปหลายกระบวนท่า เสร็จสมไปครั้งแล้วครั้งเล่า หากทั้งคู่ยังบรรเลงสวาทกันอย่างเหี้ยนกระหือรือจนฟ้าสาง…

จากนั้นทั้งคู่ต่างใจตรงกัน พบพานกันอีกหลายครั้งคราในป่าซงซาน…

ตราบกระทั้งไซมึ้งไร้พ่ายต้องประสบเภทภัย หนีหายไปจากยุทธภพ มันทิ้งเพียงจดหมายมาฝากฝังกับนางว่า มันสามารถถอดจิตฝังใจไว้กับร่างผู้อื่น ด้วยวิชา' เจตจำแลงแฝงวิญญาณ '

มารกระบี่ฝากฝังให้นางสืบเสาะหาร่างแฝง และคัมภีร์วิชาประจำกายมัน ให้ปลุกจิตมันตื่นขึ้นขึ้นอีกครา

ให้มารกระบี่ร้อยกามาคืนสู่ยุทธภพอย่างเกรียงไกร

….ปานรูปผีเสื้อบนองคชาติมันเป็นสิ่งยืนยันชัดเจน…

ไม่มีทางเป็นอื่นไปได้ !... นอกจากมันคือร่างสถิตของจิตคนรักนาง…

ประมุขลู่มั่นอกมั่นใจในสิ่งที่เห็น นางจึงปลดปล่อยอารมณ์เคล้าคลอปลุกสวาทปราถนาคืนชีพยอดรักของนาง

ซึ่งความชำนาจในกามกรีฑาของนางก็เลอเลิศเสียจนเกาฉีเยี่ยนเสียวกระสันไปทั้งกาย ท่อนลำมันแข็งโด่ ร้อนผะผ่าวราวกับจะระเบิดออกเป็นเสี่ยงๆ

หญิงร่านไม่ยอมให้ท่อนเอ็นระเบิดไปกับตา นางรีบยกขาเปิดกลีบโยนี ขยับแท่งเนื้อเรียวยาวค่อยแทรกเข้าร่องรูสวรรค์ที่ละน้อย ที่ละน้อย จนทั้งลำเอ็นมุดหายเข้าไปมิดด้าม

ซี ส ส ส ส….

ประมุขลู่ครางเสียงเครือ พลางเร่งซอยเอวกระเด้าแท่งทวนทั้งที่ยืนอยู่ขาเดียว โดยขาอีกข้างยกขึ้นเกี่ยวรัดสะโพกมันแน่น เปิดช่องทางให้ทวนสวาทพุ่งทะลวงเข้าออกได้ลึกล้ำ

"' ท่ากระเรียนเกี่ยวภุมรี… นับเป็นกระบวนท่ายากเย็น ที่มีแต่ยอดสตรีเท่านั้นถึงจะกระทำท่านี้ได้ ช่างเสียวซ่านนักท่านประมุขลู่!…."

เกาฉีเยี่ยนไม่วายร่ำร้องในใจ แม้จะรู้ทั้งรู้ว่าตนตกอยู่ในสถานการณ์คับขันยิ่ง

ทว่าสัญชาติบุรุษนักรัก ไหนเลยจะปล่อยให้โมงยามแห่งการเสพสมผ่านเลยไปโดยไม่ใยดี

แม้ร่างกายจะขยับไม่ไดี แต่สายตามันยังชอนไชไปทุกสัดส่วนเรือนร่างโฉมสะคราญ ที่กำลังเร่งซอยเอวราวจักรผัน

" อู๊ ย ย ย….ไซมึ้งยอดรัก ไซมึ้งของข้า ของท่านช่างยาวนักทะลวงไปถึงมดลูกแล้ว ซูส ส ส…เสียวววว.."

นางครวญครางปานใจจะขาด ขณะโยนีขมิบตอดลำลึงค์ที่ครูดเข้าครูดออก เร่งรัวจนหัวเงี่ยงชายหนุ่มเสียววูบวาบ พวงอัณฑะเกร็งหดขนลุกขนชัน

ชั่วแล่นแห่งความกระสันซ่าน ชายหนุ่มพลันรู้สึกถึงพลังปราณร้อนวูบวาบ ปะทะขึ้นจากแท่งองคชาติ แผ่กระจายไปตามเส้นชีพจรทั้งสิบสองสายทั่วร่าง ทั่วทุกจุดกลับคันคะเยอเหมือนร่างกายมันจะฉีกเป็นเสี่ยงๆ

อ๊ า ก ก ก ก!....

มันร้องลั่น พร้อมกับรู้สึกทุกจุดในกายมันคลี่คลายจนหมดสิ้น แต่แทนที่มันจะวิ่งหนีภัย มันกลับคว้าขาอีกข้างของนางยกขึ้น แล้วอุ้มร่างนางมาอยู่ ณ ตำแหน่งที่แท่งกระสันของมันท่วงแทงได้เต็มลำ

จากนั้นมันเป็นฝ่ายรุกราน เร่งกระเด้าไม่ยั้ง มันกระหน่ำแทงหนักหน่วงในท่า ' อุ้มนงคราญลอยเมฆา '

" อู๊ ย ย ย!....ไซมึ้งยอดรัก เป็นท่านจริงๆ …ท่านตื่นขึ้นแล้วใช่หรือไม่ ซี ส ส ส…"

นางร้องครางด้วยใบหน้าเปี่ยมสุขสำราญยิ่ง

ทว่าเกาฉีเยี่ยนเมามันเกินกว่าจะกล่าววาจาใด มันมุ่งมั่นทะลวงแทง ซอยรูสวรรค์ซ้ำๆ ย้ำๆ เด้งเอวไปเดินไป เหมือนจะอวดโอ่ท่วงท่าฝีมือให้สี่สาวชุดดำสะเทิ้มสะท้านไปทั้งใจ

โดยเฉพาะตัวประมุขลู่ที่ถูกกระหน่ำรัวอย่างไม่เคยประสบ ตัวนางยิ่งร้อนใจยิ่งร่าน เกร็งกระตุกด้วยความเสียวสะท้านไปทั้งตัว…

นางสุขสันต์หฤหรรษ์ จนไม่ทันระวังระไวว่าพลังปราณของนางกำลังถูกดึงดูดผ่านช่องโยนี เข้าสู่กายชายหนุ่มดั่งน้ำบ่าทะลัก

กว่าจะรู้ตัว น้ำกามก็พุ่งพวดเข้าร่องรูนางแล้ว ทันทีนั้น พลังปราณนางพลันถูกกลืนหายไปเกือบสิ้น

ร่างนางอ่อนระทวยซบหน้ากับอกเกาฉีเยี่ยน ราวสิ้นเรี่ยวแรง…