ซีรีส์ เมียของเสือ
เรื่อง เสือร้ายพ่ายเมียเด็ก
ตอนที่ 4 เมื่อเสือคิงส์อยากเป็นอมตะ
คิงส์ได้ระบายเอ่ยทุกสิ่งอย่างออกไปให้ไทน์กับบลูเพื่อนสนิทฟัง แต่คำพูดของเพื่อนที่บอกว่าคิงส์ชอบเด็ก หลงเด็ก แพ้ทางเด็กอย่างโบตั๋นไปแล้ว ทำคิงส์ชะงักกับความรู้สึกตัวเอง ยกเหล้าถังอย่างซึมๆ จนไทน์และบลูสังเกตได้
“ ถูกทักว่าชอบเด็ก หน้าหง่อยเป็นหมาป่วยเลยเหรอว่ะ ”
“ ไอ้บลูมึงก็พูดแรงไป เห็นใจเสือคิงส์หน่อยสิว่ะ มันตั้งตัวไม่ทันว่าตัวเองกำลังมีความรัก ”
“ พวกมึงเลิกพูดเพ้อเจ้อได้แล้ว กูไม่ได้ชอบอีเด็กนั่น ”
“ พวกกูจะรอดู ”
“ ………… ”
เด็กโบตั๋นมันเก่งจริงๆ ไม่ได้ทำอะไรเลยด้วยซ้ำแต่สามารถทำคิงส์ให้เหม่อและหง่อยได้ด้วยในเวลาเดียวกัน คิงส์จ้องมองโบตั๋นที่เหมือนมีแรงดึงดูดให้ละสายตาไม่ได้ จนโบตั๋นเข้ามาเสิร์ฟที่โต๊ะคิงส์อีกครั้ง ผสมเหล้าถังอย่างถนัดมือ เติมน้ำแข็งก่อนจะเดินออกไปจากโต๊ะ แต่…
หมับ…
“ มึงเป็นผู้หญิง ” คิงส์จับแขนโบตั๋นชะงักไว้ ก่อนจะเอ่ยถาม
“ ลุงมองตั๋นไม่ชัดเหรอคะ ? ”
“ !!! ” อยู่ๆเด็กโบตั๋นก็เลื่อนหน้าเข้ามา จมูกแทบจะชนกัน ทำคิงส์ใจเต้นแรงแทบทะลุหน้าอกออกมา
“ ลุงมองตั๋นชัดรึยังคะ ? ”
“ อะ…อืม ”
“ ลุงแก่แล้ว ตัดแว่นใส่ได้แล้วนะคะ จะได้มองชัดขึ้น ”
“ กูยังไม่แก่ ”
“ แก่ค่ะ ลุงมีตีนกาแล้ว ”
“ ……… ” โบตั๋นไม่พูดเปล่า ชี้ที่หางตาของคิงส์ด้วย ทำคิงส์เลิ่กลั่กไม่ไหว
“ ตั๋นว่าลุงเมาแล้วนะคะ ”
“ กูไม่ได้เมา ”
“ แต่ลุงหน้าแดงนะคะ ”
“ ………. ” คิงส์เลิ่กลั่ก ที่ทำไทน์กับบลูกลั้นขำไม่ไหว จนคิงส์ต้องรีบดึงสติตัวเองกลับมาเคร่งขรึมไว้
“ ลุงปะ… ”
“ หยุดเรียกกูว่าลุง กูไม่ใช่ลุงมึง ”
“ ลุงไม่ให้ตั๋นเรียกว่าลุง จะให้ตั๋นเรียกลุงว่าอะไรคะ ”
“ กูชื่อคิงส์ ”
“ ค่ะ…ลุงคิงส์ ”
“ กูบอกว่ากูไม่ใช่ลุงมึงไง ! ”
“ ไอ้เหี้*คิงส์ตะหวาดใส่เด็ก ” ไทน์เอ่ยทักขึ้นเตือนสติคิงส์
“ เรียกอะไรก็ได้ ไม่ต้องใส่ลุง ”
“ ค่ะ…เหี้*คิงส์ ”
“ อีโบตั๋น !! ”
“ ฮ่าๆๆ ” ทำไทน์กับบลูขำกร๊าก หัวเราะขำกลิ้ง ทำคิงส์ถึงกับหัวร้อน แต่โบตั๋นกลับทำหน้าใสๆอย่างไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรกับเค้า
“ เรียกกูว่าเฮียคิงส์ มึงออกเสียงให้ถูกด้วย ฮ.นกฮูก เฮียๆ ”
“ ค่ะ เฮียคิงส์ ”
“ เออ ” กว่าจะเอ่ยเรียกชื่อคิงส์ได้ เล่นเอาคิงส์เหนื่อยถึงกับถอนหายใจ
“ เฮียคิงส์คะ ? ”
“ อะไร ”
“ ตั๋นจะไปทำงานค่ะ ”
“ ก็ไปสิ ”
“ แต่เฮียคิงส์จับแขนตั๋นไว้ ตั๋นไปไม่ได้ค่ะ ”
“ ……… ”
“ อ้าวเฮียคิงส์ จับแขนน้องไม่ปล่อยเลย ” ไทน์เอ่ยแซว
“ เฮียคิงส์อย่าขี้ลืมสิ ” บลูเอ่ยแซวอีกคนด้วยท่าทางกลั้นจำไว้
“ เฮียคิงส์มองไม่ค่อยชัดแล้ว ยังขี้ลืมด้วยเหรอคะ ไม่ต้องน้อยใจนะคะ ตั๋นไม่โกรธตั๋นเข้าใจ มันเป็นอาการของคนแก่ค่ะ ”
“ มึงรีบไปได้แล้ว ”
“ ค่ะเหี้*คิงส์ ”
“ กูชื่อเฮียคิงส์ ”
“ ค่ะเฮียคิงส์ ”
“ ฮ่าๆๆ ” คิงส์ถึงกับเอามือกุมขมับ หัวปวดตึ๊บเลย คุยแค่ไม่กี่ประโยคแต่ทำถึงทำกับเหนื่อยราวกับวิ่งสามสิบกิโลเมตรมา
“ น้องโบตั๋นน่ารักดีว่ะ ขำเป็นบ้า เหมาะกับมึงดี ” บลูเอ่ย
“ กูว่าน้องโบตั๋นคนนี้แหละที่จะปราบเสือคิงส์ ” ไทน์เอ่ย
“ พวกมึงจะให้กูกินพาราวันละกระปุกรึไง คุยแค่นี้กูยังปวดหัวตึ๊บ ต้องคุยทุกวันกูไม่ตายห่าสมองเอ๋อไปเลยรึไง ”
“ ฮ่าๆๆ ”
ไทน์กับบลูถึงกับพากันขำหัวเราะน้ำตาไหล มีแต่คิงส์ที่ขำไม่ออกเมื่อคิดถึงประโยคที่ได้สนทนากับเด็กโบตั๋น คุยกับแคร์ผู้เป็นน้องสาวยังว่าเหนื่อยแล้ว แต่แคร์ถึงกับเป็นแค่เศษธุลีดินขี้ประจิ๋วเลยเมื่อเจอกับอีเด็กโบตั๋นคนนี้ ทั้งเอ๋อทั้งมึนได้ใจ คิงส์ถึงกับคิดไม่ตกว่าเอ๋อและใสซื่อแบบนี้จะใช้ชีวิตในสังคมเมืองที่เลวร้ายรอบด้าน ผู้คนเอาแต่ใส่หน้ากากเข้าหากันแบบนี้ได้ยังไง…
“ เฮียคิงส์ เพื่อนเฮียคิงส์ทั้งสองคนรับอะไรเพิ่มบอกตั๋นได้นะคะ ” โบตั๋นเอ่ยเมื่อเอาเครื่องดื่มมาลงเพิ่มเติม
“ เพื่อนกูชื่อไทน์กับบลู ”
“ ค่ะ…ไทน์กับบลูจะรับอะไรเพิ่มไหมคะ ? ”
“ อีโบตั๋น มึงต้องเรียกเฮียไทน์ เฮียบลูเหมือนกู ไม่ใช่เรียกสนิทเทียบเท่าเพื่อนกูแบบนี้ ”
“ แล้วทำไมเฮียคิงส์ไม่บอกให้ละเอียดล่ะคะ ”
“ นี่กูผิด ” คิงส์ชี้หาตัวเอง
“ ค่ะ เฮียคิงส์ผิด ถ้าบอกว่าให้เรียกเฮียไทน์ เฮียบลูตั้งแต่แรก ตั๋นก็เรียกได้แล้วค่ะ ตั๋นเข้าใจง่ายๆอยู่แล้ว ”
“ เฮ้อ ! ” คิงส์ถึงกับถอนหายใจที่ฟังโบตั๋นแล้วเหนื่อยมาก ตนได้พูดเอ่ยแค่สามคำแต่โบตั๋นใส่มาเป็นชุด จะตอบอะไรออกไปก็คิดไม่ทัน ได้แต่ถอนหายใจยาวๆออกมา แต่ก็ต้องปวดหัวอีก เมื่อ…
“ อะไร ? ”
“ ยาดมค่ะ ”
“ ให้กูทำไม ? ”
“ เฮียคิงส์ถอนหายใจเหมือนคนจะเป็นลม ตั๋นให้ยืมยาดมของตั๋นค่ะ ”
“ …….. ”
“ ดมสิคะ อาการคล้ายจะเป็นลมจะได้ดีขึ้น ”
“ ดมสิว่ะไอ้คิงส์ ”
“ เอ้า สูดเข้าไปสิว่ะ ”
“ ฮ่าๆๆ ” บลูกับไทน์ถึงกับเก็บอาการไม่อยู่ในความเอ๋อของเด็กโบตั๋น หัวเราะเสียงดังออกมา ดั่งเช่นดูตลกคณะหนึ่งอยู่
“ กูไม่ได้เป็นลม กูปกติ กูแข็งแรงดี ”
“ เหรอคะ ”
“ เออ ”
“ ค่ะ ตั๋นเข้าใจแล้ว ”
“ มะ…มึงมองอะไร ? ” คิงส์ถึงกับกระอึกกระอักเสียงสั่นไหว เมื่ออยู่ๆเด็กโบตั๋นก็จ้องหน้าขมวดคิ้วมองตนไม่วางตา จนทำคิงส์แอบประหม่า
“ หน้าเฮียคิงส์คุ้นๆจังค่ะ เหมือนตั๋นเคยเห็นที่ไหน ” นั่นแสดงว่าที่เคยเจอกันหลายครั้ง เด็กโบตั๋นจำคิงส์ไม่ได้เลยสักนิด คิงส์จำต้องกำจัดความประหม่านี้ออกไป
“ แก็งเสือขั้นเทพมึงเคยได้ยินไหม ? ”
“ ไม่ค่ะ ”
“ ไม่รู้จักชื่อแก็งกู มึงไปอยู่ไหนมาว่ะ ”
“ ตั๋นอยู่ที่ห้องเช่าค่ะ ”
“ ฮ่าๆๆ ” ไทน์กับบลูหัวเราะจนโบตั๋นขมวดคิ้วสงสัย
“ กู ไอ้ไทน์ ไอ้บลู แก็งเสือขั้นเทพ ชื่อแก็งกูโด่งดัง มึงคงเคยผ่านหูมาบ้าง ”
“ ทำไมต้องชื่อว่าเสือคะ ? ”
“ ดุดัน ล่าเหยื่อเก่งไงว่ะ ” อย่างน้อยคิงส์ก็สามารถตอบคำถามเอาชนะเด็กโบตั๋นได้ประโยคนึง
“ เข้าใจยากนะคะ ชื่อแก็งคนขั้นเทพตั๋นเข้าใจง่ายกว่าอีกค่ะ ”
“ ……… ” อยู่ๆเด็กโบตั๋นมาเปลี่ยนชื่อแก็งให้ซะแล้ว ทำคิงส์ถึงกับพูดไม่ออก อ้าปากเหวอ ต้องเอามือกุมขมับ
“ มึง…ไปเอาผลไม้มาเพิ่มดิ ”
“ ได้ค่ะเฮียคิงส์ ”
“ ถึงกับต้องรีบไล่ทางอ้อมเลยเหรอว่ะ ” บลูเอ่ยขึ้นทันทีเมื่อโบตั๋นเดินออกไป
“ เออดิว่ะ พูดแต่ละทีกูสะดุ้งแทบตกเก้าอี้ ”
“ แต่น้องโบตั๋นคนนี้ ทำมึงมึนและเขินได้ในเวลาเดียวกันนะ ” ไทน์เอ่ย
“ อย่าเรียกว่าเขิน เรียกว่ามึนอย่างเดียวเถอะ เหี้*เอ้ย…แทบต้องไปรับยาคนบ้าแดก ”
“ ฮ่าๆๆ ”
มึนแล้วมึนอีกกับเด็กโบตั๋นคนนี้ แต่ความมึนของมันไม่อาจทำให้คนอื่นกลัวได้ เพราะหน้าตาน่ารักยิ้มเก่งโลกสดใส บวกกับรูปร่างที่อวบอั๋นน่าหมั่นเขี้ยวทำให้มีแต่คนอยากเข้าหา
“ น้องคนสวย ไปเสิร์ฟโต๊ะพี่หน่อยสิ ” ผู้ชายคนนึงท่าทางจะเป็นเพื่อนของเพื่อนแคร์เข้าไปยืนดักหน้าโบตั๋น
“ คงไม่ได้ค่ะ ตั๋นรับผิดชอบแค่โต๊ะโซน B ค่ะ ”
“ แต่พี่อยากให้น้องไปเสิร์ฟหนิ ” ผู้ชายจับแขนโบตั๋นเหมือนจะลวดลาม ทำคิงส์ถึงกับลืมตัว
“ ใจเย็นไอ้เสือ ” บลูจับแขนชะงักคิงส์
“ รอดูเหตุการณ์ไปก่อน ” ไทน์เอ่ย
“ ………… ”
“ จะปล่อยมือจากแขนตั๋นดีๆ หรือให้ตั๋นตะโกนบอกคุณแคร์ว่ามีคนมารยาททรามอยู่ในงานคะ ”
“ ………… ” ผู้ชายคนนั้นถึงกับเลิ่กลั่กปล่อยมืออกจากแขนโบตั๋น
“ งานนี้มีแต่คนมีฐานะ แต่ไม่คิดว่าจะมีคนฐานะสถุนเลยนะคะ ถ้าพี่ต้องการใช้นิสัยเมื่อกี้ ตั๋นแนะนำให้ไปสถานบริการค่ะ ถูกกฎหมายและมีมารยาทด้วยค่ะ ”
“ ……….. ”
“ เก็บคำแนะนำไปใช้ด้วยนะคะ จะได้มีมารยาทมากขึ้น ”
“ ……….. ” ผู้ชายคนนั้นถึงกับหน้าเหวอรีบเดินออกไปทันที
“ เป็นไง…น้องโบตั๋นมึง ไอ้ผู้ชายคนนั้นถึงกับไปไม่เป็น ” ไทน์เอ่ย
“ กูเพิ่งรู้ว่าความเอ๋อของมันก็มีประโยชน์ ”
“ หลงแล้วหลงอีกเหรอว่ะ ” บลูเอ่ยถาม
“ เออ ”
“ ไอ้เสือคิงส์หลงเด็กแล้ว ”
“ ไอ้บลูมึงก็ไปว่ามัน ไอ้คิงส์มันแค่อยากเป็นอมตะ ”
“ ฮ่าๆๆ ”
คิงส์ยังคงเฝ้ามองเด็กโบตั๋นอย่างไม่วางตา ด้วยความสวย ความน่ารักสดใส ความเอ๋อที่ดูเหมือนจะฉลาดซะด้วย ไหนจะรูปร่างอวบอั๋นแน่นๆ น่าฟัด น่าหมั่นเขี้ยว ทำคิงส์แอบหลงอย่างไม่รู้ตัว จนต้องยอมรับว่าแอบหลงโบตั๋นไปแล้วจริงๆ…
“ จะไม่ขอช่องทางคุยต่อเหรอว่ะ ” ไทน์เอ่ยถาม
“ ทำไมต้องขอ ”
“ จะปล่อยเด็กไปว่างั้น ” บลูเหน็บขึ้นมา
“ กูเสือคิงส์ มีแต่ผู้หญิงอยากได้ เรื่องอะไรกูจะเข้าหามั่น อีโบตั๋นสิที่ต้องเข้าหากู ”
“ มึงอย่าลืมนะ ว่าข้าวแกงไม่ได้สนใจกู ตัวกูเองที่ตามจีบ ”
“ ……….. ” คำพูดของไทน์ที่เอ่ยถึงภรรยาที่หายไปทำคิงส์ชะงัก
“ แล้วมึงก็คงลืม ว่ากูต่างหากที่ตามจีบเซียมซี เฝ้าคอยตามอยู่นมนานกว่าจะจีบติด ”
“ ………. ” คำพูดของบลูที่เอ่ยถึงภรรยาของตนที่ตามหาไม่เจออีกคน ทำคิงส์ต้องหันไปมองโบตั๋นด้วยสายตาที่แฝงความรู้สึกบางอย่าง
“ ผู้หญิงที่ชอบ มักจะไม่สนใจเรานะเว้ย ” ไทน์เอ่ย
“ ถ้าชอบก็จีบสิ ” บลูเอ่ยอีกคน
“ กูชอบอิสระ อีโบตั๋นมันไม่ใช่สำหรับกู กูแค่หลงความสดใส กูไม่ได้ชอบมัน ”
“ คิดงั้นจริง ? ” บลูถาม
“ แต่ถ้ามึงคิดอย่างนั้นก็ดีนะเว้ย น้องโบตั๋นวัยกำลังสดใส จะได้มีอนาคตที่ดี ไปเจออะไรดีๆที่ดีกว่ามึง ”
“ ……… ” คำพูดของไทน์ทำคิงส์ยกเหล้าขึ้นดื่มกลบเกลื่อนความรู้สึก
จบงานแต่คิงส์กลับไปจบ ภาพของโบตั๋นคอยตามหลอกหลอนเอาออกจากหัวไม่ได้ ไม่อยากคิดถึงแต่เหมือนกลับพยายามคิด ทางเดียวที่จะเจอเด็กโบตั๋นได้คือต้องถามข้อมูลจากแคร์ ผู้เป็นน้องสาว
“ เฮียถามถึงน้องคนนั้นทำไม ? ” แคร์ถามพี่ชายที่แบกร่างมาหาตนที่โรงแรมด้วยน้ำเสียงแกมเอาเรื่องพอสมควร
“ กูอยากรู้ช่องทางติดต่อจ้างงาน ”
“ งานอะไร ? ”
“ นี่มึงเป็นกรมสรรพากรไง ”
“ ฉุนกลบเกลื่อน เฮียคิดอะไรชั่วๆอยู่ใช่ไหม ? ” แคร์ลุกจากเก้าอี้เข้ามาชี้หน้าพี่ชายเพื่อจับผิด
ผั้ว…
“ โอ๊ยเฮีย ! ” คิงส์ตบหัวแคร์ที่พยายามจับผิดตน
“ กูเห็นทำงานดี จะจ้างงานต่อ มึงก็คิดไปเรื่อย ”
“ ใครจะไปรู้ เฮียชั่วจะตาย ”
“ ไอ้แคร์ ! ”
“ แคร์ไม่มีข้อมูลหรอก จ้างผ่านเพื่อน มาคุยกันหน้างานแค่นั้น ”
“ แล้วมึงก็ถามเพื่อนมึงดูสิว่ะ ”
“ ต้องรออีกหลายวัน เพื่อนเป็นแอร์มันไปบินต่างประเทศ ”
“ ………… ”
จบข่าว สุดท้ายคว้าน้ำเหลวตลอด ไม่ได้อะทั้งนั้น เกือบอาทิตย์ที่คิงส์รู้สึกอารม์เหมือนคนเบื่อโลก อะไรก็ไม่ได้ดั่งใจไปหมด ทำงานก็เหมือนคนไม่มีกะจิตกะใจโฟกัสอยู่ที่งาน
“ เห้อ… ”
“ เฮียไม่สบายรึเปล่าคับ ? ” ที ลูกน้องเอ่ยถามเจ้านาย เมื่อเห็นคิงส์ถอนหายใจเสียงดังจนเป็นห่วง
“ กูเบื่อว่ะ ”
“ กาแฟเย็นๆสักแก้วไหมคับเฮีย ? ” ขม ลูกน้องคนสนิทอีกคนเอ่ยถามเจ้านาย
“ ก็ดี พวกมึงอยากกินอะไรก็ซื้อมา ”
“ คับเฮีย ”
ดูดกาแฟเอาให้ตาค้าง เอาให้กระปรี้กระเปร่าให้อารมณ์เซ็งๆเบื่อๆนี้หาย กาแฟช่วยให้อาการดีขึ้นมานิดนึง จนแคร์ สามีและคาเตอร์หลานสุดที่รักของคิงส์มาหาที่บริษัท
“ มีไรว่ะ ? ”
“ คาเตอร์มีฉีดวัคซีน อยากให้เฮียไปด้วยนะสิ ”
“ ก็ไปสิ ”
“ เร็วเลยนะคับเฮียคิงส์ ” โต้งสามีของแคร์เอ่ยแซว
“ เร็วสิว่ะ หลานกูทั้งคน ”
“ มีแค่หลาน มีลูกเองได้แล้วนะเฮีย ”
“ ไอ้แคร์ มึงลอกคราบใส่ผัวมึงเหรอว่ะ ปากหมาเหมือนกันหมด ”
“ ผมแค่อยากเห็นเฮียคิงส์มีเมีย รักจึงแซวหรอกคับเฮีย ”
“ ช่วยเกลียดกูบ้างก็ได้มั้ง ถ้าจะรักกูขนาดนี้ ”
คิงส์นั่งรถไปกับคาเตอร์หลานรัก แคร์กับสามีขับรถตามหลัง จนมาถึงโรงพยาบาลที่คิงส์ทำหน้าที่ลุงพาหลานไปฉีดวัคซีน กอดปลอบหลานตลอดด้วยความรัก ตบท้ายด้วยพาหลานไปหาของกินที่หลานชอบ แม้ลุงอย่างคิงส์จะไม่ชอบแต่สามารถนั่งกับหลานได้
“ เฮียคิงส์เลี้ยงใช่ไหมคะเนี่ย ” แคร์เอ่ยถามพี่ชายอย่างรู้งาน เมื่อทานใกล้จะเสร็จ
“ เออ ”
“ คาเตอร์…ลุงคิงส์น่ารักไหมคับ ”
“ น่ารักคับ เยี่ยมๆสองนิ้วเลยคับ ” คาเตอร์ชูนิ้วหัวแม่มือทั้งสองข้างให้คิงส์ที่ทำลุงอย่างคิงส์ยิ้มแก้มแทบปริ
เช็กบิลจ่ายค่าอาหาร มีขนมขบเคี้ยววางขายหน้าร้าน คาเตอร์เดินไปเลือกตามประสาเด็ก แคร์เดินตามคาเตอร์ไปกับคิงส์ โต้งสามีของแคร์ไปเอารถที่จะแยกย้ายกันที่ร้านอาหารเลย
“ ลุงคิงส์ ผมเอาอันนี้ด้วยนะคับ ”
“ เอาเลย เลือกเอาได้เลยคับ ”
“ อันนี้ก็น่ากินนะคาเตอร์ ”
“ แม่มันอยากแดกเองแล้วมั้ง ไม่ใช่ลูก ”
“ เลี้ยงแม่มันด้วยนะลุงคิงส์ ”
“ รำคาญ ”
คิงส์เดินไปจ่ายเงิน แต่เมื่อหันกลับมาเป็นจังหวะที่คาเตอร์ที่มีขนมอยู่ในมือเดินไปหน้าร้าน มีสุนัขเดินพุ่งเข้ามาท่าทางไม่ค่อยสู้ดี คิงส์รีบเดินไปที่หลานแต่สุนัขตัวนั้นไวกว่าเข้ามาจะกัดคาเตอร์
“ โอ๊ย !! ”
“ !!!! ” คิงส์ตกใจเห็นเต็มสองตา เมื่อมีผู้หญิงเข้ามากอดคาเตอร์ไว้ทำให้โดนสุนัขตัวนั้นกัดแทน สุนัขตัววิ่งหนีไป
“ เจ็บตรงไหนไหมคับ ”
“ ไม่คับ...ลุงคิงส์ แม่แคร์ พี่สาวมีเลือดคับ ” แคร์รีบวิ่งไป เมื่อผู้หญิงคนนั้นหงายหน้ามาทำคิงส์ตกใจเพราะผู้หญิงคนนี้คือเด็กโบตั๋น โบตั๋นโดนสุนัขกัดเข้าที่แขนเลือดโชกเลย
“ แคร์…คาเตอร์ตกใจ พาคาเตอร์กลับไปก่อน กูจัดการเรื่องนี้เอง ” แจ็ค
“ ได้เฮีย ” แคร์พาคาเตอร์ที่ตกใจเสียขวัญหน้าเสียออกไป คิงส์ถอดเสื้อแจ็คเก็ตตัวเองเอามาพันแขนโบตั๋นไว้ที่เลือดไหลโชก
“ ไปขึ้นรถกูจะพาไปหาหมอ ”
“ ค่ะ ”
“ เจ็บมากรึเปล่า ? ” คิงส์เอ่ยถามขณะพาโบตั๋นไปที่คลินิกของทิวส์ น้องชายของไทน์
“ เจ็บค่ะ ”
“ ไม่ไงมาไงถึงมาอยู่ที่ร้านนั่นได้ ”
“ ร้านอาหารตั๋นก็ไปทานอาหารสิคะ เฮียคิงส์ถามไม่คิดเลย แก่แล้วชอบลืมอีกแล้วใช่ไหมคะ ไม่เป็นไรตั๋นเข้าใจค่ะ ”
“ ………. ” คิงส์ถึงกับหันมองหน้าเด็กโบตั๋นด้วยสายตาเอือมๆ ที่ตนแค่ถามนิดเดียวแต่กลับโดนเหน็บกลับมาจนได้
“ มึงกลัวเลือด กลัวเข็มรึเปล่า ? ” คิงส์เอ่ยถามอีกครั้งเมื่อเลี้ยวเข้าคลินิก
“ ไม่กลัวค่ะ ”
“ ดี ”
“ ตั๋นกลัวแค่ความเสียใจค่ะ ไม่ชอบเสียใจเลยค่ะ ”
“ ความเสียใจใครๆก็ไม่ชอบ ไม่เห็นแปลก ”
“ ใช่ค่ะ ตั๋นปกติไม่ได้แปลก เฮียคิงส์ต่างหากที่ดูไม่ค่อยปกติ ชอบสงสัยเรื่องง่ายๆ แถมยังชอบลืมบ่อยอีก ต้องทานวิตามินดีเยอะๆนะคะ ตั๋นเป็นห่วง ”
“ มึงช่วยห่วงแขนตัวเองก่อนไหม ”
“ ทำไมต้องห่วงคะ ถึงมือหมอก็แปลว่าปลอดภัย เห็นไหมคะ…เรื่องง่ายๆที่เฮียคิงส์คิดไม่ได้อีกแล้ว เห้อ…ตั๋นล่ะเหนื่อยอธิบายเฮียคิงส์จริงๆเลยค่ะ ”
“ ……….. ” พูดจบโบตั๋นก็เปิดประตูลงจากรถ ปล่อยให้คิงส์ที่เหมือนยังคงมึนยังกับชีวิตตัวเองตอนนี้อยู่
ก็อกๆๆ
“ เฮียคิงส์ลงมาสิคะ หมออยู่ข้างในนะคะ แก่แล้วลืมทุกอย่างจริงๆ ตั๋นไม่อยากแก่แบบเฮียคิงส์เลย ”
“ อี…อี… ”
“ ตั๋นไปนั่งรอข้างในนะคะ ” พูดจบก็เดินไปเลย
“ อีเด็กผี มึงไม่ได้ใสๆ อีโบตั๋นอีเด็กอสรพิษ ”