บทที่ 2 ฉันต้องทำยังไง

967 คำ
ฉันเดินออกมาจากร้านกาแฟด้วยจิตใจที่ห่อเหี่ยว หมอปั้นคงไม่อยากช่วยฉัน ใช่สิใครจะอยากผูกมัดกับคนที่ไม่ได้รักกันล่ะ ฉันก้าวขาขึ้นมานั่งบนรถ ปิดประตู สตาร์ทเครื่องยนต์ เปิดเพลงดัง ๆ ร้องไห้ให้ลืมโลก ไม่เป็นไรอีกตั้งเจ็ดวัน ฉันต้องหาได้สิ ผู้ชายสักคนที่จะมาเป็นผัว แต่การนอนกับใครสักคนมันไม่ใช่เรื่องง่าย ถ้ามันง่ายฉันคงมีไปตั้งนานแล้ว ไอ้ผัวที่ว่าเนี่ย เสียงกรีดร้องของโทรศัพท์ดังขึ้น พอหยิบมาดูรู้ว่าเป็นแม่ของฉันเอง ฉันก็ยิ่งร้องไห้หนักว่าเดิม “แม่จ๋า ฮือ ฮือ” “เมญ่า แม่ดีใจด้วยเรื่องหนูกับหมอปั้น” “ดีใจอะไรแม่” “ก็หมอปั้นโทรมาบอกว่าพรุ่งนี้จะพาผู้ใหญ่มาสู่ขอ” “ปั้นว่างั้นเหรอแม่ ฮือ ฮือ” ฉันดีใจมาก อยากได้ผัวจนตัวสั่นเป็นอย่างนี้นี่เอง ฉันตั้งสติสักพักก่อนกลับเข้าไปหาหมอปั้น แต่พยาบาลบอกว่าหมอปั้นเข้าผ่าตัดช่วยอาจารย์หมอ เป็นเคสใหญ่ด้วย ฉันเลยขอนั่งรอในห้องพักของเขา ซึ่งพยาบาลที่นี่รู้จักฉันเป็นอย่างดี “เมญ่า เมญ่า” “ปั้น” นั่งรอเขาจนหลับ รู้สึกตัวอีกทีตอนได้ยินเสียงคนคุ้นเคยเรียก นี่ฉันหลับไปตอนไหน แล้วนี่กี่โมงแล้ว ไม่เย็นแล้วเหรอ “มานอนอะไรตรงนี้” “มารอปั้น ขอบคุณนะที่ช่วย จริง ๆ ปั้นไม่ต้องแต่งงานกับญ่าก็ได้ แค่อยู่ด้วยกันถ้าผ่านช่วงนี้ไปได้ญ่าก็คงไม่เป็นไรแล้ว แล้วเราค่อยแยกกันก็ได้” “ฉันบอกแม่ไปแล้ว” ปั้นพูดขึ้นมาเบา ๆ “ถ้าอย่างนั้นญ่าสัญญาว่าอีกหนึ่งปี ญ่าจะหย่าให้ปั้นนะ” “อือ” พอได้ยินคำตอบรับเรื่องหย่าของหมอปั้นทำให้ฉันใจแป้วยังไงชอบกล “งั้นญ่ากลับบ้านก่อนนะ” “หิวข้าว พาไปกินข้าวหน่อยสิ” เออ จริงสิ เขาคงยังไม่มีเวลากินข้าวเลยสินะ ฉันเองก็หิวแล้วเหมือนกัน “ได้ เดี๋ยวญ่าเลี้ยงเอง” ฉันกับหมอปั้นแวะร้านอาหารไทยแถวหน้าโรงพยาบาล เพื่อจะรับประทานอาหารเย็นกัน จากนั้นเราก็แยกย้ายกันกลับบ้าน เช้าวันรุ่งขึ้น หมอปั้นมาพร้อมพ่อแม่อย่างนายแพทย์ปกรณ์และคุณหญิงลักขณา พร้อมทั้งเถ้าแก่ที่มาสู่ขอตามประเพณี งานแต่งของเราถูกกำหนดขึ้นในอีกสามวันข้างหน้า ซึ่งจะจัดอย่างเรียบง่ายภายในครอบครัวของเราเท่านั้นไม่มีการเชิญแขกข้างนอก เพราะว่าเป็นงานที่ค่อนข้างรีบ โดยปั้นให้เหตุผลว่าเดี๋ยวค่อยจัดงานฉลองอีกที ซึ่งพ่อแม่ทั้งสองฝ่ายก็เห็นด้วย เพราะพ่อกับแม่ฉันก็รู้เรื่องดวงของฉันเป็นอย่างดี ท่านทั้งสองอยากให้ฉันไปอยู่กับหมอปั้นเสียวันนี้เลยด้วยซ้ำ เพราะรู้สึกกังวลใจเป็นอย่างมาก สามวันต่อมา เราจัดงานหมั้นตอนเช้า บ่ายแต่ง มีแขกมาร่วมงานไม่ถึงสามสิบคน ส่วนมากก็เป็นญาติสนิททั้งสองฝ่าย งานดำเนินไปอย่างเรียบร้อย ฉันกับหมอปั้นแทบจะไม่ได้คุยกันสักเท่าไหร่ เพราะเราต่างก็เกร็ง ๆ และยังตื่นเต้น “แม่กับพ่อ ขอให้ปั้นและเมญ่ารักกันไปนาน ๆ นะลูก หนักนิดเบาหน่อยก็ให้อภัยกันนะ” “ขอบคุณค่ะ / ขอบคุณครับ” ฉันกับปั้นกล่าวขอบคุณพ่อแม่เรา ในพิธีส่งตัวเข้าหอ เข้าหอใช่ค่ะ ฟังไม่ผิดค่ะเข้าหอจริง ๆ ตอนนี้เราสองคนอยู่กันสองต่อสอง ตึก ตึก ตึก เสียงหัวใจฉันเต้นไม่เป็นจังหวะเลย “ถอดชุดได้ไหม หรือจะให้ช่วยถอด” เป็นคำถามแรกจากสามีฉัน หลังจากที่ต่างฝ่ายต่างเงียบกันอยู่นาน “ญ่าถอดได้ค่ะ” ฉันไม่คิดว่าอาการแบบนี้จะเกิดขึ้นอีก ถึงเราจะสนิทกันตั้งแต่มัธยม แต่ทุกครั้งที่ใกล้กัน ฉันก็อดเขินปั้นไม่ได้สักที ยิ่งตอนนี้ยิ่งเขิน ยิ่งรู้ว่าผู้ชายคนนี้กำลังจะเป็นผัวฉัน โอ๊ย...ทำยังไงดี “งั้น ปั้นไปอาบน้ำก่อนนะ” “จ้ะ ปั้นอาบก่อนเลย” หมอปั้นใช้เวลาอาบน้ำประมาณยี่สิบนาที เขาออกมาพร้อมผ้าเช็ดตัวผืนเดียวที่มัดปมตรงเอวไว้ เอ่อ...หมอปั้นเอาเวลาไหนไปทำซิกซ์แพ็ก หุ่นน่ากินมาก ปกติเห็นใส่แต่เสื้อกาวน์ ไม่คิดว่าภายใต้เสื้อกาวน์จะดีงามขนาดนี้ ฉันรีบเข้าไปอาบน้ำกลัวว่ายืนอยู่ตรงนี้แล้วจะอดใจไม่ไหวจับหมอปั้นกินก่อนเวลาอันควร ฉันใช้เวลาอาบน้ำค่อนข้างนาน เพราะว่ากว่าจะล้างเครื่องสำอาง สระผม เป่าผมเสร็จก็กินเวลาเป็นชั่วโมง พอออกมาจากห้องน้ำ หมอปั้นก็หลับไปแล้ว คงเพราะเราสองคนตื่นตั้งแต่ตีสี่เพื่อเตรียมตัว ทำให้เหนื่อยด้วยกันทั้งคู่ ฉันเดินไปข้างเตียงค่อย ๆ ก้าวขาขึ้นเตียงเพราะไม่อยากให้คนข้าง ๆ ตกใจตื่น “เมญ่า ทำไมอาบน้ำนานจัง” อ้าว นึกว่าหลับ “พอดีญ่ามัวแต่ล้างเครื่องสำอางกับเป่าผม ปั้นนอนเถอะ ญ่าก็ง่วงแล้ว” “ไม่ได้ต้องเป็นผัวก่อน ไม่งั้นเดี๋ยวแก้ดวงไม่ได้” นั่นคือคำพูดของหมอปั้น...เอ่อ คุณหมอเชื่อเรื่องนี้ด้วยเหรอ ไหนตอนนั้นบอกว่าไร้สาระไง แต่ปากฉันก็ตอบรับเขาแต่โดยดี ก็ฉันมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะจริงไหม “อือ”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม