บทที่ 1 ทางรอดเดียว

654 คำ
ฉัน...เมญ่าผู้เลอโฉม การันตีด้วยตำแหน่งดาวมหาวิทยาลัย สมัยที่ฉันเรียนมหาวิทยาลัย บอกเลยว่ามีคนจีบเป็นร้อย แต่ด้วยความที่ตั้งใจเรียนและการเรียนที่เคร่งเครียดตลอดห้าปีของเภสัชกรไม่ใช่เรื่องง่าย หลังจากจบมาสองปีฉันก็ต้องทำงานอย่างหนักในบริษัทผลิตยารายใหญ่ของประเทศ ซึ่งก็เป็นบริษัทของคุณพ่อฉันเอง จนล่วงเลยมาตอนนี้ฉันอายุจะเข้ายี่สิบห้าปีในอีกหนึ่งสัปดาห์ข้างหน้า แต่ความซวยมันไม่เข้าใครออกใคร เมื่อฉันดวงซวยไม่หยุดหย่อน เมญ่า..แกต้องทำตามที่หมอดูบอกจริงเหรอ “เมญ่า ระวัง” โครม กว่าจะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร...เสียงมอเตอร์ไซค์ที่เสียหลักก็พุ่งมาทางฉันที่กำลังตกตะลึงขยับตัวไม่ได้ ฉันคิดว่าครั้งนี้ฉันคงไม่รอดหรือไม่ก็เจ็บหนักแน่ ๆ แต่แล้วก็มีมือของใครบางคนดึงฉันมากอดและหลุดพ้นจากการโดนชนแบบเฉียดฉิว “เมญ่า เจ็บตรงไหนรึเปล่า” “หมอปั้น” ใช่ค่ะ ผู้ชายหล่อเหลาหน้าตาดีเหมือนลูกครึ่งคนนี้คือหมอปั้น หรือนายแพทย์ปุณกรณ์ รัตนโภคิณ เพื่อนสนิทของฉันตั้งแต่เรียนมัธยม นอกจากหน้าตาหล่อเหลาขั้นเทพอย่างพระเอกเกาหลีแล้ว ยังเป็นคุณหมอ และยังเป็นลูกชายเจ้าของโรงพยาบาลยักษ์ใหญ่ของประเทศ นอกจากนี้ยังเป็นลูกค้ารายใหญ่ของบริษัทของครอบครัวฉันด้วย “ญ่าไม่เป็นไร ปั้นล่ะ” “ปั้นไม่เป็นไร ทำไมเดินเหม่อ ไม่ระวังรถเลย ถ้าปั้นไม่อยู่ตรงนี้ญ่าได้ไปเฝ้าเทวดาบนสวรรค์แน่” “ญ่ามีเรื่องเครียด ๆ น่ะ คือช่วงนี้ญ่าดวงไม่ดี เอ่อ อาจถึงฆาตด้วยนะปั้น” “บ้า!..ไร้สาระ! เมญ่า เธอเรียนเภสัชมาจริงไหม ทำไมถึงเชื่อเรื่องงมงายแบบนี้” ฉันว่าแล้วว่าปั้นต้องไม่เชื่อ แล้วแบบนี้ปั้นจะยอมช่วยฉันไหม “ปั้นไม่เชื่อเหรอ งั้นญ่าจะเล่าให้ฟัง” ฉันใช้เวลากว่าสามสิบนาทีเล่าให้หมอปั้นฟัง ตอนแรกหมอปั้นก็ฟังไปหัวเราะไป พอตอนหลัง ๆ เริ่มหัวเราะไม่ออกแล้วนั่งหน้านิ่ง โดยเฉพาะตอนสุดท้ายที่ฉันพูด “ยังไงญ่าก็ต้องมีผัวก่อนยี่สิบห้า แต่มันเหลือเวลาแค่เจ็ดวันเอง ปั้นมีคนแนะนำให้ญ่าไหม” “ไม่มี ไร้สาระ” ปั้นยังคงทำหน้าเหมือนไม่พอใจ ฉันเอื้อมมือไปจับมือปั้น สูดลมหายใจเข้าเต็มปอด รวบรวมความกล้าแล้วพูดออกไป “เอ่อ ปั้นช่วยเมญ่าหน่อยได้ไหม อีกแค่อาทิตย์เดียวเอง ญ่าไม่รู้เลยว่าจะไปใครหาที่ไหนแล้ว” หมอปั้น...อย่ามองหน้าเมญ่าแบบนี้สิ เมญ่ากลัว...ถึงหมอปั้นจะหล่อดูดี แต่เวลาโมโหก็สุดจะน่ากลัว ฉันเคยเห็นหมอปั้นต่อยไอ้รุ่นพี่ที่มาลวนลามฉันในผับเมื่อตอนอยู่ปีหนึ่งได้ดีทีเดียว ถึงเรื่องมันจะนานแล้วก็เถอะ แต่ภาพนั้นก็ยังติดตาฉันไม่หาย “อย่างน้อยนอนกับเพื่อน ก็ยังดีกว่าไปนอนกับใครที่ไม่รู้จักใช่ไหมปั้น” ฉันยังคงหว่านล้อมหมอปั้นต่อไป แต่หมอปั้นก็ยังนั่งนิ่ง ๆ ไม่ตอบอะไร “เอ่อ ถ้าปั้นลำบากใจ ก็ไม่เป็นไร ญ่าตายไปปั้นก็คงไม่เสียใจ” เสียงตัดพ้อน้อยใจของฉันคงทำให้เขาใจอ่อนบ้าง “เมญ่า ธุระเธอหมดแล้วใช่ไหม ฉันต้องไปดูคนไข้ต่อ” หมอปั้น ไม่ใจอ่อนเลย ฉันหน้าชาด้วยความอาย “เอ่อ หมดแล้วค่ะ” ฉันเดินออกมาจากร้านกาแฟด้วยอารมณ์บอกไม่ถูก ฉันถูกปั้นปฏิเสธใช่ไหม ฉันเป็นผู้หญิงหน้าไม่อายมาเสนอตัวขอให้เขาเป็นผัว แต่เขาก็ไม่สนใจ...บ้าที่สุด
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม