เมื่อทุกอย่างเข้าที่เข้าทางตามที่พรานอย่างย่าหยาจัดการ คีตะวันก็ได้พี่เลี้ยงเป็นเตชภณ นักวิเคราะห์ตลาดของบริษัทซึ่งเป็นผู้ชาย เพราะย่าหยาต้องการตัดความวุ่นวายเรื่องชู้สาวไปได้ เหยื่อของเธอต้องเตรียมพร้อมสำหรับเธอคนเดียวเท่านั้น
“อันนี้เป็นสถิติการส่งออกอันนี้ของภายในประเทศ แล้วนี่เป็นแค็ตตาล็อกรูปรุ่นต่างๆ นั่งดูไปก่อนนะเดี๋ยวพี่เคลียร์งานเสร็จจะสอนงานให้ งานนี้มันเร่งนิดนึง เราชื่ออะไรนะ”
“คิลครับ”
“โอเค พี่ชื่อภณนะ” เด็กหนุ่มพยักหน้ารับก่อนจะเปิดแฟ้มสถิติดู เขาค่อนข้างประหลาดใจกับยอดการขายนิดหน่อยเพราะก่อนที่จะเข้ามาฝึกงานประเมินที่นี่ไว้ต่ำมาก คิดว่าเป็นบริษัทกิ๊กก๊อกที่ไม่น่าจะมีรายได้มากนัก ที่มาก็เพราะอยากผ่านง่ายๆ
อีกอย่างฟังชื่อสินค้าก็ตลกดี 'ชุดนอนไม่ได้นอน' เขาไม่ได้คิดเลยว่ามันจะเป็นแบบนี้ เขาไล่ดูชื่อรุ่นแต่ละรุ่นเหมือนจะออกเสียงเป็นภาษาญี่ปุ่นแม้จะเขียนด้วยภาษาอังกฤษก็ตาม เพียงสายตามองภาพในแค็ตตาล็อกแต่ละภาพ แต่ละแบบของชุดนอนไม่ได้นอน บนร่างกายของหญิงสาวญี่ปุ่นหน้าตาน่ารัก สัดส่วนร่างกายที่น่าจับเหวี่ยงลงบนเตียงเสียจริง
สายตาที่มองกับความรู้สึกภาพในร่างกายปั่นป่วน รู้สึกตึงใต้กางเกงขึ้นมาดื้อๆด้วยความไม่ตั้งใจ คีตะวันนั่งตัวเกร็งเพราะบางอย่างกำลังปั่นป่วน เขารีบปิดแค็ตตาล็อกภาพสาวญี่ปุ่นสวมชุดนอนของบริษัททันที
“เป็นอะไร....” เตชภณถามขึ้นเมื่อเห็นท่าทางผิดปกติของน้องฝึกงาน แต่เมื่อสายตามองต่ำก็พบกับคำตอบทันที เป้ากางเกงที่โชว์ความเป็นชายที่คับแน่นทำให้คนที่มีอายุมากกว่าอมยิ้มทันที “ธรรมดา เดี๋ยวก็ชินเฉยๆ บางทีพี่ไม่ไหวต้องไปห้องน้ำ”
ผู้ชายด้วยกันก็เหมือนผีเห็นผี!! เตชภณรู้ทันทีว่านางแบบญี่ปุ่นในแค็ตตาล็อกเล่นงานหนุ่มฝึกงานเข้าแล้ว ผู้ชายร้อยทั้งร้อยเจอแบบนี้ก็แย่กันทั้งนั้น เมื่อภาพนางแบบสุดเซ็กซี่ที่สวมทับด้วยชุดนอนวาบหวิวโชว์สัดส่วนร่างกายโค้งเว้าที่กระตุ้นความเป็นชายอย่างที่สุด
“ผมอยากถามวิธีเปิดแค็ตตาล็อกครับ ชื่อรุ่นมันค่อนข้างเยอะ และแค็ตตาล็อกก็มีหลายเล่ม” เขาเบี่ยงเบนความสนใจจากเรื่องธรรมชาติของผู้ชายที่ไม่อยากยอมรับโต้งๆ ว่ารู้สึกเปลี่ยว
“นี่นะวันที่ผลิต ช่องนี้วันส่งออก แค็ตตาล็อกจะบอกอยู่ว่าเล่มนี้ของเดือนไหน ก็เทียบเอาจากวันส่งออกนะ.....บางรุ่นก็เทียบจากวันผลิต ดูๆ เอาก็แล้วกัน ลองวิเคราะห์จากยอดผลิตแล้วก็ยอดส่งออกก่อนก็ได้นะแล้วเขียนสรุปให้พี่” เด็กหนุ่มพยักหน้ารับ
เขาเข้าใจทุกอย่างดีเพราะก่อนหน้านี้ก็เคยฝึกงานมาแล้วจากบริษัทอื่น การวิเคราะห์ตลาดจึงถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่ได้ยากสำหรับเขา เรื่องที่ยากกว่านั้นคือดูรูปนางแบบพวกนี้ยังไงไม่ให้คิดอะไรเตลิดเปิดเปิงมากกว่า ถึงจะดูเป็นหนุ่มติสท์มาดนิ่งแต่เขาก็เป็นชายแท้ทั้งแท่ง เจอขาวๆ เนียนๆ แต่งตัวแบบนี้ไม่รู้สึกอะไรสิแปลกกว่า
“ฝากด้วยนะภณ...” เสียงของใครบางคนดังแทรกขึ้นมาจากด้านหลังทำให้คีตะวันตกใจเล็กน้อย เขารีบก้มตัวลงเพื่อพลางบางอย่างไม่ให้คนที่มาใหม่เห็นสิ่งที่กำลังลุกชัน
“ครับคุณหยา ตอนนี้ให้น้องลองดูสถิติส่งออก สถิติขาย แล้วก็สถิติผลิตไปก่อน เดี๋ยวผมเคลียร์งานของบ่ายนี้เสร็จจะอธิบายอีกที”
“อืม.... ไงโอเคไหมเราน่ะ” ย่าหยาหันไปหาชายที่เธอตั้งใจเดินมาหา เธอมองดูสีหน้าที่ดูผิดปกติของคีตะวันก่อนจะหลุบตามองลงไปที่แค็ตตาล็อกบนโต๊ะ แม้หน้าของเด็กหนุ่มจะดูนิ่งไร้ความรู้สึกแต่ตากลับกรอกไปมาซ้ายขวาอย่างมีพิรุธ
“......พยายามศึกษาอยู่ครับ” คีตะวันตอบเสียงเรียบควบคุมตัวเอง
“อืม......รุ่นนี้ไม่เห็นนานเลยนะ มีสีซิลเวอร์ไหมภณ” ย่าหยาแกล้งทำทีเป็นก้มลงไปเปิดดูแค็ตตาล็อกบนโต๊ะ เนินอกอวบขาวห่างจากหน้าเด็กหนุ่มเพียงไม่กี่คืบด้วยความตั้งใจ มันยิ่งสร้างความร้อนฉ่าให้กายหนุ่มอย่างควบคุมไม่ได้
“รุ่นไหนครับ...” ภณที่กำลังวุ่นอยู่กับงานเอ่ยถามทั้งที่ตายังคงจ้องอยู่ที่จอ ย่าหยาเองก็แกล้งทำเป็นมองแค็ตตาล็อกไม่ได้ระวังว่ากำลังมีคนแอบมองเนินอกที่จงใจยั่วอย่างตาเป็นมัน
“YamimuyaX1 (ยามิมูย่าเอ็กซ์วัน)”
“ไม่แน่ใจนะครับเดี๋ยวผมเช็กให้อีกที”
“ไม่เป็นไรจ้ะ แค่ถามดูพอดีมองๆ แล้วคิดว่าถ้าเป็นสีซิลเวอร์น่าจะสวยดี เห็นด้วยไหม...” คนถามหันไปหาเด็กหนุ่มฝึกงานที่เพิ่งจะหลบตาจากอกอวบของเธอ ก่อนจะเจอกับใบหน้านวลของเจ้าของคำถามที่ยื่นหน้าเข้ามาใกล้จนแทบจะติด
“เอ่อ...ครับ”
“ถ้ายังไงฝากดูด้วยนะ ขอตัวไปข้างนอกล่ะ เจอกันบ่ายนี้นะภณ ...ไปก่อนนะคิล” เมื่อรู้สึกว่ารุกหนักไปหน่อยย่าหยาจึงรีบถอยออกมาก่อนจะบอกลากับสองหนุ่ม
เธอออกจากบริษัทตรงไปหาลูกค้าที่นัดคุยกันข้างนอก ด้วยเธอเองก็ไม่ชอบการนัดพูดคุยกับลูกค้าที่ทำงานเท่าไหร่ ด้วยเพราะมันน่าเบื่อและเป็นทางการมากเกินไป มันไม่ทำให้เธอผ่อนคลายอย่างที่ควร
-ร้านกาแฟ-
หลังคุยกับลูกค้าเสร็จย่าหยาก็นัดคุยกับกันทิมาเพื่อนสนิทต่อ เธอเล่าเรื่องของเด็กฝึกงานให้เพื่อนฟังจนหมดเปลือก พร้อมถามความเห็นว่าควรทำยังไงต่อไป
“มันจะดูไม่ดีไหมวะ เด็กมันฝึกที่บริษัทเราด้วย คนจะมองมันว่าใช้เส้นสายหรือเปล่า” สาวอวบออกความเห็นตามเนื้อผ้า รู้ดีว่าเพื่อนเป็นสาวขี้เบื่อที่ไม่มีชายไหนเอาอยู่แน่ เธอชอบหว่านเสน่ห์กับเหยื่อที่ต้องการกินเท่านั้น นอกสายตาไม่เคยได้ย่างกรายแน่นอน
“ก็แอบไง มึงไม่เข้าใจคำว่าแอบเหรออ้วน!!”
“มึงจะถามกูทำไม ถ้าจะคิดเองเออเองแบบนี้”
“ก็กูอยากรู้ความคิดเห็นไง”
“อยากรู้ความเห็นที่เห็นด้วยน่ะสิ ไม่รู้นะ!! อีกอย่างเด็กมันจะเล่นกับมึงหรือเปล่า คนก่อนๆ ที่มึงซื้อได้เพราะมันเล่นกับมึง มึงก็เพิ่งบอกเองนี่ว่ามันเฉยมาก ไม่มีทีท่าหื่นใส่มึงเลยทั้งที่มึงยั่วมันแล้ว” กันทิมาใส่ไม่ยั้งเมื่อเห็นเพื่อนระริกระรี้อยากได้ใจจะขาด
“ก็มันอาจจะไม่ประสาก็ได้ไหม”
“อีย่า!!! เด็กมหา'ลัยปีสี่ !! เด็กมอหกมึงก็ควบมาแล้วไหมอะ!!”
“ก็รอดูไปเรื่อยๆ ใครจะไปรู้อาจจะเก็บอาการก็ได้” คนอยากได้ยังคงเถียงไม่หยุด “อาจจะยังไม่กล้าพอ แต่ถ้ากูรุกกว่านี้!!”
“คือเป็นตายยังไง....ก็จะเอาให้ได้งี้?”
“ค่ะ!! ไม่ได้ด้วยเล่ห์....ก็จะเปย์ด้วยเงิน” ย่าหยาว่าก่อนจะยกสมูทตี้สตรอว์เบอรีของโปรดขึ้นมาดูด นึกถึงตอนที่เดินเข้าไปเจอคีตะวันที่โต๊ะเมื่อเช้าแล้วมันเสียวซี๊ดขึ้นมาเลยเชียว
‘ไม่ใช่เล่นๆ เหมือนกันนะขนาดก้มตัวหลบ’ ย่าหยาแอบคิดในใจ เมื่อแอบมองเห็นแค่แวบๆ มันอลังการเอาเรื่องเหมือนกันในความคิดเธอ
‘รออีกนิดเถอะคิล มาดูกันหน่อยว่าจะนิ่งไปได้สักกี่น้ำ!!’
ตลอดทั้งเช้าภณยุ่งกับงานจนหัวหมุน เขาจึงไม่มีเวลาจะสอนอะไรให้กับคีตะวัน....มีเพียงกองเอกสารต่างๆ ที่ยกขึ้นมาให้เขาดูคร่าวๆ ซึ่งคีตะวันเองก็ตั้งใจศึกษาและอ่านเอกสารต่างๆ ที่พี่เลี้ยงส่งให้อย่างตั้งใจ ถึงจะบอกว่าไม่ได้สนใจอะไรนักแค่อยากฝึกให้จบๆ แต่ก็ควรจะได้อะไรกลับไปบ้างในชีวิต
จนเวลาพักเที่ยงของวันนั้นเอง พนักงานที่เห็นเด็กฝึกงานเดินอยู่กับภณในโรงอาหารต่างพากันจับกลุ่มพูดกันอย่างสนุกปาก บ้างก็ว่าเด็กเส้นเพราะได้เข้ามาโดยไม่ต้องรอผล บ้างก็ว่าเด็กเลี้ยงของย่าหยาเพราะความหล่อที่โดดเด่น
“นี่พี่ภณ แอบถามให้หน่อยสิน้องเขาเข้ามาได้ยังไงง้ายง่าย ผลยังไม่ออกเลยมาทำงานแล้ว” สาวออฟฟิศคนหนึ่งจากแผนกบัญชีแอบกระซิบถามหนุ่มร่างกำยำที่ยืนต่อแถวรอซื้อข้าวอย่างสอดรู้สอดเห็น
“ใครจะบ้าไปถามล่ะ แต่พี่ว่าเด็กมันเก่งมั้งคุณหยาเขาเลยอยากได้ นี่ว่าบ่ายนี้จะลองเชิงมันหน่อยเนี่ย” เตชภณตอบตามความคิดตัวเอง เขาไม่เห็นจะรู้สึกอะไรแบบนั้นเลย
ดูแฟ้มประวัติคีตะวันก็ไม่ใช่ธรรมดา มหา'ลัยออกจะมีชื่อเสียง เกรดก็ดีลุ้นเกียรตินิยมสบายๆ ผลงานเด่นๆ ประสบการณ์และคะแนนสอบ เห็นขนาดนี้เป็นใครก็อยากจะรับมาฝึกงานแล้วชวนเข้าทำงานทั้งนั้น
“ใช่เหรอ ไม่ใช่ว่าอยากจะ...กินน้องเขาหรอกนะ” แม่สาวออฟฟิศกระซิบประโยคท้าย
“พูดมั่วซั่ว...ระวังจะได้เปลี่ยนที่ทำงานนะ คุณหยาเขาเป็นคนแบบนั้นหรือไง” ภณกัดฟันแล้วพูดลอดไรฟันบอก
“โอ๊ย แต่งตัวล่อตะเข้ตะโขงแบบนั้นอะนะ กับผู้ชายก็ยิ้มแย้มแจ่มใส ทีกับผู้หญิงเถอะหน้าหงิกเป็นมะเหงก”
“ก็แกทำงานผิดตลอดจะให้เขายิ้มเหรอ ใครทำดีคุณเขาก็ดีนั่นแหละ ดูไอ้จิ๊บสิมันเคยโดนคุณหยาดุที่ไหน เพราะอะไร....ก็เพราะมันรับผิดชอบหน้าที่ของมันได้ไง แกน่ะอคติ”
“จ้า...หน้ามืดตามัวกันไปเถอะ ประธานหรือ...แต่งตัวแบบนั้น ใจคงอยากจะเป็นนางแบบถ่ายตัวเอง ใส่ชุดของแบรนด์ลงแค็ตตาล็อกจะแย่”
“พี่ว่าจริงๆ แล้วแกอิจฉาเขาใช่ไหม คุณหยาอายุสามสิบแล้วยังสวย เอ็กซ์กว่าแกที่เพิ่งจะเรียนจบเนี่ย..”
“พี่ภณ!! ไม่พูดกับพี่แล้ว ถามอะไรก็ตอบไม่ได้ เข้าข้างกันไปเถอะ ...หึยย!!” เป็นธรรมดาที่มีแสง ย่อมมีเงา มีคนรักเท่าภูเขาก็มีคนเกลียดเท่าพสุธา ร่างเล็กที่สอดรู้สอดเห็นเดินกระทืบเท้าจากไปด้วยความผิดหวัง เมื่อไม่ได้รับคำตอบที่เธออยากรู้แต่น้อย
“พี่ภณนั่งไหนพี่ เดี๋ยวผมไปนั่งรอ” เด็กฝึกงานเดินมาหาพี่เลี้ยงที่ยังคงยืนต่อแถวรอข้าว
“ตรงนั้นก็ได้น่ะ เห็นแก๊งพี่เสื้อคลุมสีส้มๆ ไหม นั่นแหละเข้าไปนั่งแล้วบอกมากับพี่ภณ เขาถามอะไรก็อย่าไปใส่ใจมากนะ ผู้หญิงก็แบบนี้” เตชภณบอกดักกับคีตะวันไว้ล่วงหน้า เขารู้ดีว่าหากไปร่วมวงนั้นอย่างไรเสียต้องมีใครสักคนถามขึ้นมาแน่ๆ
คีตะวันเดินไปยังกลุ่มคนที่พี่เลี้ยงบอกซึ่งทุกสายตาดูจะสนใจชายหนุ่มผู้มาใหม่เป็นพิเศษ ด้วยความหล่อ ส่วนสูง และผิวที่โดดเด่นกว่าใคร จึงได้รับความสนใจโดยที่เขาไม่ต้องทำอะไรเลย
“ขอนั่งตรงนี้นะครับ พี่ภณบอกให้มานั่งนี่” เด็กหนุ่มตรงเข้าไปถามอย่างเป็นมิตร
“อะๆ นั่งสิ แหมพนักงานใหม่เหรอ” สาวใหญ่คนหนึ่งผายมือเชิญพร้อมกับส่งรอยยิ้มต้อนรับ
“ผมเป็นเด็กฝึกงานครับ” คีตะวันตอบพร้อมกับนั่งลงริมสุดของโต๊ะ
“ก็คนนี้ไง ที่เขาว่ากัน” สาวผมสั้นแอบอิงไปกระซิบเพื่อน
“อ๋อ...” คีตะวันได้ยินเรื่องซุบซิบนี้มาก่อนแล้วเหมือนกันแต่พยายามไม่สนใจ เพราะคิดว่าตัวเองไม่ได้มีเส้นสายอะไรอย่างเขาว่า แล้วก็ไม่ได้ถูกประธานคนสวยสายแซ่บเลี้ยงดูตามข่าวลือด้วย แม้จะรู้สึกว่าตัวเองกำลังถูกอ่อยอยู่ก็ตาม แต่ถ้าไม่เล่นด้วยซะอย่างตบมือข้างเดียวยังไงก็ไม่ดัง
Line~
Line~
เสียงข้อความจากไลน์ดังขึ้นทำให้เด็กหนุ่มต้องละมือจากการกินข้าว
-YaHYhaa(ย่าหยา)-
-แอปเปิล-
แสดงชื่อผู้ส่งคนละข้อความ คีตะวันเลือกเปิดอ่านข้อความจากแอปเปิลก่อนด้วยความคุ้นเคย และความสนใจในตัวหญิงสาวอยู่เป็นทุน!!
แอปเปิล : อยู่ไหนอะ ว่างไหม
เขามองดูข้อความก่อนจะเหลือบมองข้อความสุดท้ายและวันที่ แสดงเวลาหนึ่งอาทิตย์ก่อน จริงๆ เขากับแอปเปิลก็ถือว่าคุยๆ กันอยู่แต่รู้สึกเหมือนว่าตัวเองคิดไปเองฝ่ายเดียวเพราะแอปเปิลดูไม่ทีท่าที่จะชอบเขากลับเลย
คีตะวัน : ไม่ว่าง เราอยู่ที่ฝึกงาน
แอปเปิล : อ้าว ได้ที่ใหม่แล้วเหรอ ดีอะ เรายังรอผลอยู่เลย
คิ้วคมขมวดหากัน ‘ยังไม่ประกาศผลอีกเหรอ’ รู้แบบนี้ยิ่งทำให้เขาคิดว่าสิ่งที่เขาลือกันดูน่าเชื่อไปกันใหญ่
คีตะวัน : เปล่า ก็ที่มาสัมฯ นั่นแหละ
แอปเปิล : อ้าวแล้วทำไมคิลได้แล้วอะ
คีตะวัน : เราก็ไม่รู้
แอปเปิล : โอเคงั้นไม่กวนแล้ว
ความรู้สึกที่ได้คล้ายกับการใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้ก็หายวับไปกับตา เขากดออกจากแชทแอปเปิลเปิดมาที่ย่าหยา รูปโปรไฟล์แซ่บปรอทแตกแบบไม่แคร์ใคร เด็กหนุ่มแอบคิดว่าไม่ใช้ไลน์ติดต่อกับลูกค้าบ้างเลยหรือไงกัน ทำไมถึงได้แหวกได้เว้าขนาดนั้น!!
ซึ่งคีตะวันคิดถูก....ไลน์นี้มีเพียงเพื่อนๆ และอดีตเด็กของเธอเท่านั้นที่มี รูปนี้ก็เพิ่งเปลี่ยนเมื่อไม่กี่นาทีก่อนจะทักมานี่เอง
ย่าหยา : คืนนี้ว่างไหม จะชวนไปเลี้ยงต้อนรับ
คีตะวัน : ผมมีนัดแล้ว ไว้โอกาสหน้านะครับ
เขาไม่ได้โกหกแต่นัดกับกลุ่มเพื่อนๆ หนุ่มโสดไว้ก่อนแล้วจริงๆ
คนชวนอ่านข้อความก่อนจะถอนหายใจด้วยความหงุดหงิด มือบางโยนโทรศัพท์ลงโซฟาอย่างไม่สบอารมณ์ ‘ทำไมมันถึงต้อนยากต้อนเย็นนักนะ อย่าให้มีโอกาสแล้วกัน!! แม่จะผลักให้ตกหลุมกับดักเลย!!’ เธอโวยวายในใจ