“คุณปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ..”
เลลาขยับตัวหมายจะฝืนเอาตัวเองออกจากอ้อมกอดของหนุ่มมือไม้ปลาหมึกที่กำลังบุกรุกพื้นที่ส่วนตัวของตนอยู่ แม้ใจจริงอยากจะโวยวายมากแค่ไหน แต่เลลาก็คิดว่าการรบกวนเวลาส่วนตัวของคนอื่นไม่ใช่เรื่องดีนัก เธอจึงได้แต่กางเล็บขู่ สู้ด้วยการกระทำมากกว่าการใช้เสียง
โฉมหน้าของนางฟ้าแม่ทูนหัวที่เธอสำคัญผิดไปคือดามิทรี พี่ชายของอานยา เพื่อนสนิทสุดรักที่เธอเจอหนล่าสุดในงานแต่งงาน ตลอดทั้งคืนนั้นเธอพยายามหาร้อยแปดวิธีหลบหน้าเขา แต่ก็ไม่คิดว่าจะมาพลาดท่าเสียทีให้บนเครื่องบินอีกแล้ว!
“ผมยังไม่ได้ทำอะไรคุณเลยนะ เมื่อกี้คุณก็ทำสีหน้าเหมือนชอบไม่ใช่เหรอที่ผมหอมแก้มแล้วก็จูบหน้าผากน่ะ…บี๋ขาอย่าปากแข็งสิคะ" ดามิทรีเปิดโหมดยียวนสลับกับออดอ้อนจนเลลาตามไม่ทัน
“ฉันไม่ได้ชอบสัมผัสของคุณนะคะคุณกัปตัน ฉันก็แค่…” เลลาหุบปาก ริ้วแดงเผยชัดบนแก้มอย่างห้ามไม่อยู่
จะให้เธอตอบออกไปได้อย่างไร ว่าเธอน่ะ คิดว่าเขาคือนางฟ้าแม่ทูนหัว
ความเชื่อแบบเด็กอมมืออย่างนั้น พูดออกไปมีหวังต้องโดนล้อแน่ ๆ!
“เขินจนหน้าแดงเลยเหรอครับ หื้ม ชอบก็บอกว่าชอบสิ ทำไมบี๋ขาต้องปากแข็งด้วยคะ มาให้หอมอีกทีนึงเร็วตอนอยู่ในงานแต่งน้องเพิร์ลหลบหน้าพี่จังเลยนะคะ"
“ฉันไม่ใช่น้องคุณนะ!” เลลารวบรวมแรงที่มีผลักดามิทรีอย่างแรง จนร่างซวนเซไปชนกับประตูเสียงดับตุบ! เสียงนั้นดังถึงขั้นที่ผู้โดยสารห้องด้านข้างซุบซิบถามกันใหญ่ว่าเกิดอะไรขึ้น
“Sorry!” เลลาตอบพร้อมกับมองดามิทรีที่ยังไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมาจากประตูด้วยความโมโห“เห็นไหมว่าคุณมากวนฉันแล้วมันรบกวนคนอื่นน่ะ มีหน้าที่ขับเครื่องบินก็ขับไปสิ จะมาวุ่นวายกับผู้โดยสารแบบฉันทำไมนักหนาเนี่ย..”
“…” ดามิทรีนิ่งเงียบ เงียบจนเลลาเริ่มใจคอไม่ดี
“..คุณกัปตันคะ คุณไม่ต้องมาเล่นละครเลยนะ ฉันไม่เชื่อลูกไม้ตื้น ๆ ของคุณหรอก ลุกขึ้นได้แล้วค่ะ กลับไปเถอะ ฉันอยากนอนแล้ว" เลลากอดอก เหลือบมองคนที่ยังนั่งนิ่งอยู่เป็นระยะ จนกระทั่งเห็นว่ามือหนาของเขาค่อย ๆ ยกขึ้นกุมบริเวณศีรษะตัวเอง
“ผมเจ็บ..”
ตัวต้นเรื่องที่ผลักชายหนุ่มไปหาประตูเริ่มวิตก “คุณกัปตัน คุณได้แผลหรอคะ..เมื่อกี้ฉันไม่ได้ผลักแรงเลยนะ ขอฉันดูหน่อย"
เลลาลนลานไปจับที่มือหนานั้นเพื่อดึงออก หมายจะดูรอยฟกช้ำ ภาวนาไม่ให้มีเลือดตกยางออก เพราะเธอไม่รู้ว่าจะรับผิดชอบคนเจ้าเล่ห์แบบนี้ไหวหรือเปล่า
แต่ยังไม่ทันที่จะได้เห็นแม้แต่รอยปูด เอวบางใต้ชุดนอนสีทองก็ถูกรวบเอาไว้ด้วยแขนของดามิทรีอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว
“จับได้แล้ว เพราะผมรู้ว่าคุณคงไม่เชื่อลูกไม้ตื้น ๆ ก็เลยต้องใช้ลูกไม้ลึก ๆ หน่อย โอ๊ย บี๋ขา เจ็บจังเลยค่ะ” คนถือไพ่เหนือกว่ายิ้มเริงร่า ใบหน้าหล่อเหลานั่นช่างกวนใจเลลาเหลือเกินจนไม่สามารถมองได้นาน
“คุณหลอกฉัน! ปล่อยเดี๋ยวนี้เลยนะ ไม่งั้นฉันจะร้องโวยวายจริง ๆ ด้วย ปล่อย!”
เสียงผู้โดยสารห้องข้าง ๆ เตือนให้เงียบเสียง เลลาจึงรีบหยุดคำพูดของตนเอาไว้ พอเงยหน้ามองก็เห็นดามิทรียิ้มยียวนอยู่ “ถ้าบี๋ขาไม่เงียบ พี่จะปิดปากบี๋ขาด้วยปากนะคะ เอามั้ย?”
“คนลามก คุณเป็นอะไรของคุณเนี่ย ทำไมต้องมาวุ่นวายกับฉันด้วย ฉันเป็นผู้โดยสารนะ ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้"
“ไม่ปล่อย" ดามิทรีลอยหน้าลอยตาตอบ พร้อมกับขโมยหอมแก้มนวลอีกหนึ่งที
“คุณ!”
“ชื่นใจจัง" เขาพูด รอยยิ้มยังไม่จางหายไปจากใบหน้า “ผมอยากนั่งอยู่ตรงนี้กับคุณเพราะเป็นห่วง เห็นคุณสีหน้าไม่ค่อยดีตั้งแต่ขึ้นมาบนเครื่อง แถมยังกินยาเข้าไปอีก ผมช่วยนวดขมับให้ดีไหม? คุณจะได้ผ่อนคลาย หลับสบายตลอดไฟลต์”
“ฉันจะหลับสบายก็ต่อเมื่อคุณออกไปนั่นแหละ ปล่อยฉันได้แล้ว"
“ไม่ คุณไม่ให้ผมนวดขมับให้ก็ได้ แต่ผมจะนอนอยู่ตรงนี้ ซักครึ่งชั่วโมงก็พอ ปวดตามาก ๆ เลยครับ หัวก็ปวด มีใครก็ไม่รู้ผลักผมใส่ประตูเมื่อกี้" ดามิทรีเล่นบทลูกหมาหูลู่หางตกน่าสงสาร แต่ในสายตาของเลลากลับมองว่านั่นคือหมาจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ที่พร้อมตลบหลังขย้ำเธอต่างหาก
“สมควรแล้ว มีอย่างที่ไหนเข้ามากอดมาหอมคนกำลังหลับอยู่ คุณไม่ต้องมาเล่นลิ้นเลยนะ ออกไปได้แล้ว ที่นั่งก็แคบแค่นี้ คุณจะมานอนกับฉันทำไม!”
“แคบที่ไหน ผมนอนได้สบายดีออก นอนกันเถอะครับ ถ้าเราสองคนยังคุยกันต่อ ต้องมีผู้โดยสารคนอื่นรำคาญแน่ ๆ" ดามิทรีกระซิบ พร้อมกับแต้มริมฝีปากลงจูบหน้าผากเนียน “ถือว่าผมมาขออาศัยพักพิงที่นั่งของคุณนะครับ ผมฝากผู้ช่วยให้มาตามไว้แล้ว แค่ครู่เดียวเท่านั้นแหละครับ"
เลลากรอกตา ถอนหายใจแรง ๆ อย่างคนหมดคำจะเถียง “คุณนี่มันดื้อด้านไม่มีใครเกินจริง ๆ คุณกัปตันอยากนอนก็นอน ฉันก็ง่วง ซวยจริง ๆ เลยที่ฉันมาเจอคุณเนี่ย"
“แต่การเจอคุณในวันนี้ของผมถือเป็นโชคดีนะครับ" ดามิทรีพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง พร้อมกับสบตาเลลาไปด้วย
หัวใจของหญิงสาวเต้นผิดจังหวะอย่างห้ามไม่อยู่ เลลารีบหลบตา ขยับตัวนอนให้ตัวเองสบายที่สุด ติ๊ต่างว่าร่างหนา ๆ ของหมาป่าเจ้าเล่ห์นี่เป็นหมอนข้างชั่วคราว ฤทธิ์ยาแก้แพ้ที่ยังคั่งค้างทำให้เธอไม่มีฤทธิ์มาพอที่จะต่อสู้กับคนอย่างดามิทรีได้
เมื่อเห็นว่าเลลานอนหลับไปอีกรอบ ดามิทรีก็ยิ้มออกมาด้วยความพึงพอใจ พร้อมทั้งกระชับกอดร่างบางแน่นยิ่งขึ้น
“กู๊ดไนท์ค่ะ บี๋ขา" เขากระซิบทิ้งท้าย พร้อมทั้งจูบขมับคนในอ้อมกอดหนึ่งทีแล้วหลับตาลงบ้างเพื่อพักสายตา ความจริงแล้วดามิทรีก็แค่อยากหาเวลามากอดนางฟ้าที่ตนเฝ้าฝันถึงนับตั้งแต่ที่พบกันครั้งแรกให้หนำใจก็เท่านั้น
…
“บี๋ขา ตื่นได้แล้วนะคะ"
เสียงเรียกฟังไม่ได้ศัพท์ปลุกเลลาขึ้นจากภวังค์ เธอรู้สึกเหมือนตัวเองติดอยู่ในความฝันที่ยาวนาน ในฝันนั้นมีพี่ชายของเพื่อนสนิทอย่างอานยาอยู่ด้วย โชคร้ายเกินไปหน่อยถ้าหากดามิทรีที่มากอดมาหอมเธอในฝันเป็นความจริง
แอร์โอสเตสทำไมเสียงเข้มจังนะไฟลต์นี้…หรือจะเป็นสจ๊วต?
“ขี้เซาจังเลยนะคะ บี๋ขาของพี่"
ทันทีที่ลืมตาขึ้น เลลาก็ได้สบเข้ากับดวงตาสีน้ำเงินเข้มน่าดึงดูด
ไม่ใช่ความฝันหรอกเหรอเนี่ย!
“นี่คุณ!”