เบาะยังว่าง อยากมีคนข้าง ๆ เป็นบี๋ขา#2

1268 คำ
ทันทีที่ลืมตาขึ้น เลลาก็ได้สบเข้ากับดวงตาสีน้ำเงินเข้มน่าดึงดูด ไม่ใช่ความฝันหรอกเหรอเนี่ย! “นี่คุณ!” “ตื่นมาก็โวยวายเลยนะ อีกเดี๋ยวแอร์จะมาเสิร์ฟมื้อเช้า ประมาณหนึ่งชั่วโมง เครื่องจะแลนด์ดิ้งแล้ว ทานมื้อเช้าให้อร่อยนะครับ ผมแวะมาบอกด้วยความเป็นห่วง” “คุณจะเป็นห่วงอะไรฉันนักหนาเนี่ย เลิกยุ่งกับฉันได้แล้ว" เลลาผลักไหล่ของคนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ให้ลุกขึ้น ซึ่งคราวนี้ดามิทรีไม่ได้ขัดขืนมาก เขายืนขึ้นเต็มความสูง แล้วขยิบตาเป็นการบอกลาโดยไร้เสียง คิดว่าตัวเองหล่อมากมั้ง แต่ก็หล่อจริง ๆ แฮะ เหมือนเทพอะพอลโลเลย… “เลลา!” หญิงสาวรีบเรียกสติตัวเองแล้วส่ายหัวแรง ๆ ไม่ปล่อยให้ความคิดหลงใหลเพ้อเจ้อนั้นวนเวียนอยู่ในหัวนาน เธอมองตามแผ่นหลังกว้างก็เห็นว่าดามิทรีเดินไปเทคแคร์ผู้โดยสารชั้นเฟิสต์คลาสนี้อย่างเป็นกันเองและทั่วถึง ทำตัวแบบคนปกติก็เป็นนี่นา.. หญิงสาวคิดในใจ แต่แล้วก็ต้องดึงสติกลับมาอยู่กับตัวเอง เมื่อแอร์โฮสเตสสาวมาเสิร์ฟอาหารมื้อเช้าบนเครื่องให้กับเธอ … การเดินทางอันยาวนานกว่า 12 ชั่วโมงเป็นอันสิ้นสุดลง เลลาที่เดินทางด้วยตัวคนเดียวในตอนนี้เปลี่ยนจากชุดนอนของสายการบินเป็นเสื้อฮู้ดสีดำคู่กับกางเกงยีนส์เรียบร้อยแล้ว อากาศที่ลอนดอนยังไม่เย็นมาก เธอรวบผมให้ตึงเป็นหางม้าเพื่อความคล่องแคล่วทะมัดทะแมง และไม่ลืมที่จะฉีดสเปรย์น้ำแร่บนใบหน้าเพื่อเพิ่มความสดชื่นอีกด้วย ขณะที่กำลังจะเดินออกจากเครื่องตามที่แอร์โฮสเตสสาวผายมือ เธอก็เหลือบไปเห็นดามิทรี กำลังช่วยมาดามผมสีดอกเลาคนหนึ่งดึงกระเป๋าเดินทางออกจากช่องแคบ “แหม คุณกัปตันนี่ก็ใจดีกับดิฉันตลอดเลยนะคะ ไม่เสียแรงที่ดิฉันบินทีไรก็ต้องนึกถึง SP AIRLINE เป็นอันดับหนึ่งตลอด" หญิงวัยทองในชุดสีฉูดฉาดพูดพร้อมทั้งลูบแขนดามิทรีไปด้วย เธอใช้ภาษาอังกฤษสำเนียงแปลกแปร่ง แท้จริงคงเป็นชนชาติที่เลลาไม่รู้จักมักคุ้นอย่างแน่นอน “ก็มาดามเป็นผู้โดยสาร VVIP คนสำคัญนี่ครับ ขอบคุณนะครับที่เลือกบินกับ SP AIRLINE ขอให้เที่ยวพักผ่อนในลอนดอนอย่างมีความสุขนะครับ เหวอ!” ขณะที่กำลังคุยอยู่กระเป๋าเดินทางหนักอึ้งของผู้โดยสารอีกคนก็ตกลงมาจากช่องนั้นเข้าเต็มลาดไหล่กว้างของดามิทรี เลลาเบิกตากว้างด้วยความตกใจ ขาข้างหนึ่งก้าวออกหมายจะเข้าไปช่วยด้วยความเป็นห่วง แต่ก็หยุดไว้เสียก่อน “เป็นอะไรมากหรือเปล่าคะคุณกัปตัน! ตายจริง ต้องมาเจ็บตัวเพราะดิฉันซะแล้ว" มาดามที่คุยกับดามิทรีอยู่แต่แรกถามด้วยความเป็นห่วง ทว่าเจ้ากระเป๋าเดินทางอีกอันที่ตกลงมานั้นกลับตวาดลั่นด้วยภาษาบ้านเกิดของตนที่เลลาฟังปราดเดียวก็รู้ว่านั่นเป็นภาษาจีน หญิงสาวชั่งใจว่าควรเข้าไปช่วยในเรื่องนี้ดีหรือไม่ แต่เมื่อเห็นว่านั่นไม่ใช่ธุระกงการอะไร เลลาจึงหันหลังกลับรีบเดินออกไปแทน แม้ภายในใจจะรู้สึกเป็นห่วงมากแค่ไหน แต่คนเจ้าเล่ห์อย่างดามิทรี เว้นระยะห่างไว้คงดีที่สุด ขอให้เราเจอกันแค่ไฟลต์นี้ก็พอนะคะ …คุณกัปตัน เลลาภาวนาในใจ หวังว่าทุกอย่างจะราบรื่นดีโดยไม่มีอะไรมารบกวนอีก … “บี๋ขา ให้พี่ไปส่งนะคะ เบาะยังว่าง อยากมีคนข้าง ๆ เป็นบี๋ขาที่สุดเลยค่ะ" ดูเหมือนพระเจ้าจะไม่รับฟังคำภาวนาในใจของเลลาเลยแม้แต่น้อย ดามิทรีขับรถคันหรูราคาหลายล้านมาดักหน้าของเธอเอาไว้ พร้อมทั้งร้องเรียกเสียงดัง “คุณจะตามฉันไปถึงไหนเนี่ยคุณกัปตัน ฉันกลับเองได้" “ผมเป็นห่วง เห็นคุณอาการไม่ดีตั้งแต่บนเครื่อง คงจะปวดหัวน่าดู ให้ผมไปส่งคุณนะครับ คุณพักอยู่ที่ไหน บอกมาได้เลย ถนนทุกเส้นบนลอนดอนผมรู้เส้นทางหมด มาครับ เดี๋ยวผมไปส่งนะ ผมกลัวคุณเป็นอันตราย กลับกับผมปลอดภัยแน่นอนครับ" ดามิทรีเดินตรงปรี่เข้ามาหมายจะคว้าเอากระเป๋าเดินทางของเลลาไป เธอจึงรีบดึงออกให้พ้นมือ “ฉันนัดกับเพื่อนไว้แล้วว่าจะให้เพื่อนมารับ คุณกลับไปที่พักของคุณเถอะ ฉันกลับเองได้” “ผมสัญญาเลย ถ้าคุณให้ผมไปส่งวันนี้ ผมจะไม่ยุ่ง จะไม่วุ่นวายอะไรกับคุณอีกแน่นอน" ใบหน้าหล่อเหลาฉายแววออดอ้อนเต็มขั้น “นะครับ คุณเลลา" “…” เลลาจิ๊ปากอย่างขัดใจ รู้สึกหวั่น ๆ กับข้อเสนอนั่นเหลือเกินเธอไม่รู้ว่าเขาจะมาไม้ไหนอีก “เป็นอันว่าตกลง มาครับ กลับบ้านกัน" คนตัวสูงกว่าเดินไปลากกระเป๋าของเลลาเพื่อยกขึ้นรถโดยไม่ไถ่ถามความสมัครใจซ้ำสอง เลลากรอกตามองฟ้าเป็นรอบที่สิบของวันขณะที่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาส่งบอกเพื่อนว่าไม่ต้องมารับตนแล้ว LLthe1st : หยกไม่ต้องมารับเราแล้วนะ พอดีมีคนรู้จักจะไปส่งเราน่ะ LLthe1st : ขอโทษจริง ๆ LLthe1st : (สติ๊กเกอร์แมวยกมือไหว้) Lovelyyokkaew : คนรู้จัก? Lovelyyokkaew : ใครหรอเลลา เลลาเดินขึ้นไปนั่งบนรถคันหรู มองดามิทรีพับแขนเสื้อเชิ้ตของตนขึ้นอย่างคล่องแคล่ว แล้วก้มหน้าพิมพ์ตอบกลับ LLthe1st : เอาไว้เราเล่าให้ฟังทีหลังนะ เรื่องมันยาวมาก “คุณจะแวะซื้ออะไรก่อนไหมครับ" ดามิทรีถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน เขาดูผ่อนคลายมากขึ้นเมื่อได้อยู่ในชุดนักบิน แต่ถึงกระนั้นเลลาก็ยังมองสารถีจำเป็นคนนี้เป็นจิ้งจอกเจ้าเล่ห์อยู่ดี “ไม่ค่ะ รีบไปส่งฉันเลยดีกว่า" เธอว่าพลางกดแมพในรถให้ปักหมุดลงที่บ้านชั้นเดียว บนถนนเบเกอร์สตรีท ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัย KING LONDON ที่เธอเรียนอยู่ “โอ้ คุณพักอยู่ใกล้กับ ม.KING LONDON เหรอครับ เรียนที่นั่นแน่เลย เพิร์ลเคยพูดถึงให้ฟังอยู่บ่อย ๆ" ดามิทรีชวนคุยเพื่อทำลายความเงียบในรถ แต่เลลาก็เลือกที่จะหันมองทัศนียภาพของเมืองผู้ดีผ่านกระจกแทนการตอบคำถามนั้น “คุณอารมณ์ไม่ดีเหรอครับที่ผมอยากไปส่งแบบนี้" น้ำเสียงหงอยลงนั่นทำให้เลลาต้องตัดใจจากการมองตึกรามบ้านช่อง หันมาให้ความสนใจกับคนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ แทน “เปล่าหรอกค่ะ…ทำไมคุณต้องทำแบบนี้ด้วย เข้ามายุ่งวุ่นวายกับชีวิตฉันทำไม" “ผมแค่เป็นห่วง อยากอยู่ใกล้ ๆ อยากทำให้คุณยิ้มได้ คงไม่เป็นการรบกวนจนเกินไปใช่ไหมครับ?” ดามิทรีพูดโดยไม่ได้ละสายตามาจากการขับขี่ เป็นการแสดงให้เห็นว่าเขาห่วงความปลอดภัยบนท้องถนนมากกว่าจะหันมารุ่มร่ามหรือลวนลามเธอในสถานที่ที่หนีไม่ได้อย่างรถยนต์คันหรูแบบนี้ “…” รบกวนเหรอ? รบกวนใจต่างหาก เลลาตอบเสียงดังลั่นอยู่ในใจ เธอหันหน้าหนีซ่อนริ้วแดงบนแก้มให้พ้นสายตาคนเจ้าเล่ห์ เพราะไม่อยากให้ดามิทรีได้ใจ เป็นอะไรของเธอเนี่ยเลลา อย่าอ่อนไหวง่าย ๆ แบบนี้สิ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม