“ก็นิดหน่อยแหละ เราไม่อยากทิ้งสิ่งที่ชอบนี่นา”
“หยกนี่ก็โฟกัสผิดจุดอีกแล้วนะ แทนที่จะไปโฟกัสบุคคลปริศนาที่มาส่งเลลา ไหงกลายเป็นว่าไปโฟกัสรุ่นรถซะได้" เฮลก้ามุ่ยหน้าเมื่อเห็นว่าทิศทางบทสนทนาไม่เป็นไปดั่งความต้องการ
เลลาสบตากับหยกแก้วอย่างรู้กันแล้วหัวเราะออกมาเบา ๆ
ทั้งสามเดินออกจากลิฟต์พร้อมกับคุยเรื่องอื่นอย่างออกรสออกชาติ เมื่อเห็นว่าศาสตราจารย์ยังไม่มาไม่ถึงห้องเลคเชอร์ ก็ไปจับกลุ่มนั่งคุยกันอยู่ที่ด้านหลังห้องซึ่งเป็นที่ประจำ
ช่วงเวลาที่ได้อยู่กับเพื่อน ๆ เป็นเหมือนเมจิกไทม์ของเลลา ที่เธอจะไม่มีเวลาไปคิดถึงเรื่องที่ทำให้เครียดและเลลาไม่อยากยอมรับเลยว่าอีกช่วงเวลาที่ทำให้เธอรู้สึกเหมือนอยู่ในเมจิกไทม์ก็คือ…
การมีดามิทรีเข้ามาวุ่นวายในชีวิตนั่นแหละ
ให้ตายเถอะ หัวใจนี่มันไม่รักดีเลยจริง ๆ
…
การเลคเชอร์วิชาเอกจบลงด้วยเวลารวมทั้งสิ้น 3 ชั่วโมง ทั้งเลลา หยกแก้ว และเฮลก้ารู้สึกเหมือนตัวเองโดนสูบวิญญาณออกจากร่าง ทั้งสามคนเดินหมดเรี่ยวแรงเข้าไปในลิฟต์พร้อมกับเพื่อน ๆ อีกหลายคน
“เฮ้! ขอไปด้วยคนสิ มีที่ว่างหรือเปล่า?” เสียงของหนุ่มผิวสีน้ำผึ้งคนหนึ่งดังขึ้นด้วยภาษาอังกฤษสำเนียงเอเชียจ๋า คนในลิฟต์ขยับให้ ทำให้เขาเข้ามาได้
“โจนส์ ถ้าเป็นฉันฉันจะไม่เข้าเบียดเสียดในลิฟต์แบบนี้หรอกนะ" เฮลก้าบ่นอุบ
โจนส์ คือเพื่อนร่วมคลาสของทั้งเลลา เฮลก้า และหยกแก้ว เขาเป็นหนุ่มตะวันออกกลางที่ไปอยู่ไทยตั้งแต่อายุ 5 ขวบ นั่นทำให้โจนส์เป็นอีกคนที่ใช้ภาษาไทยได้คล่องไม่ต่างจากเจ้าของภาษา ซึ่งจากทั้งหมด 28 คนในเซคชัน ก็มีแค่พวกเขา 4 คนที่ใช้ภาษาไทยเป็นภาษาหลักในการพูดคุยกันยามว่าง
“ฉันอยากลงไปซื้อบัตเตอร์เค้กแสนอร่อยกิน เวลาแบบนี้พวกป.ตรีน่าจะถล่มซื้อจนเหลือไม่กี่ชิ้นแล้ว แน่นอนว่าถ้าเหลือชิ้นสุดท้ายฉันจะไม่เหลือให้เธอได้ซื้อหรอกเฮลก้า~" โจนส์แลบลิ้น พร้อมกับประตูลิฟต์ที่เปิดออก จึงรีบวิ่งออกไปทันทีราวกับขนมหวานชิ้นนั้นเป็นของล้ำค่าราคาหลายร้อยดอลล่าร์
“นี่! ฉันก็อยากกินบัตเตอร์เค้กเจ้านั้นเหมือนกันนะ!” เฮลก้าวิ่งตามออกไปบ้าง เลลากับหยกแก้วมองตามหลังอย่างขำ ๆ แล้วก็เดินกึ่งวิ่งตามไป
ที่โรงอาหารใต้ตึกคณะบริหารธุรกิจของมหาวิทยาลัยนานาชาติ KING LONDON เต็มไปด้วยนักศึกษามากมายหลายคณะ ต่างทั้งเชื้อชาติ สีผิว เพศสภาพ และภาษาที่ใช้พูด เลลารู้สึกเวียนหัวไปหมดเมื่อต้องมาอยู่ท่ามกลางดงผู้คนมากมายขนาดนี้
“นายจะซื้อบัตเตอร์เค้กไปอะไรเยอะแยะเนี่ย!” เสียงเฮลก้าแว้ดมาแต่ไกล ตอนนี้พวกเขาค่อย ๆ พาตัวเองออกมายืนที่ตรงทางออกแล้ว เนื่องจากเป็นบริเวณที่คนน้อยที่สุด “เอาไปถมที่หรือไง!”
“เปล่า ฉันจะเอามาให้หยกกับเลลาต่างหาก" โจนส์ลอยหน้าลอยตาพร้อมกับยื่นถุงบัตเตอร์เค้กกลิ่นหอมฉุยไปให้เลลาและหยกอย่างที่ตนพูด
“ขอบคุณนะโจนส์" หยกแก้วยิ้มหวานให้เหมือนเช่นทุกครั้ง
“ไม่เป็นไรครับ เรายินดีให้นะ"
“แต้งกิ้ว แต่ทีหลังเหลือไว้ให้เฮลก้าด้วยนะ เรากลัวว่าจะมีคนตายเพราะไม่ได้กินบัตเตอร์เค้ก" เลลาพูดขำ ๆ ซึ่งโจนส์เองก็รับมุขไปด้วยว่า
“คนที่ตายน่าจะไม่ใช่ยัยนั่นหรอก เป็นฉันมากกว่า โอ๊ย! อย่ารัดคอสิยัยนี่!”
ความหิวทำให้เลลาแกะถุงบัตเตอร์เค้กกินเป็นคนแรก ตามด้วยหยกแก้ว ที่แบ่งครึ่งให้เฮลก้ากินด้วย ความรีบทำให้มีรอยเค้กเปรอะอยู่ที่ขอบริมฝีปาก และนั่นคงระคายตาของเพื่อนชายมาก โจนส์จึงเอื้อมมือมาเพื่อเช็ดออกให้
“เราขอโทษนะเลลา ปากเลอะน่ะ" นิ้วโป้งหนาของเพื่อนหนุ่มค่อย ๆ บรรจงเช็ดครีมออกจากมุมปากให้ โดยการกระทำทั้งหมดนั้นตกอยู่ในสายตาของใครคนหนึ่งที่ยืนพิงเสามองอยู่แต่แรก และร่างสูงโปร่งนั้นก็ไม่อยู่เฉยอีกต่อไป
“ทิชชู่” มือหนายืนซองทิชชู่มาคั่นกลางระหว่างโจนส์และเลลา
“…”
“…”
ทุกคนตกอยู่ในอาการอึ้งไม่ต่างกันไม่เว้นแม้แต่ชายชาตรีอย่างโจนส์
ดามิทรีในตอนนี้ไม่ใช่ไซบีเรียนอีกต่อไปแล้ว เขาดูเหมือนหมาป่าที่พร้อมจะกระชากเนื้อสิ่งมีชีวิตทุกชนิดที่เข้ามารุกรานหรือวุ่นวายกับพื้นที่ของตน เฮลก้าและหยกแก้วมองเขาตาค้าง ก่อนที่สาวออสซี่จะเป็นคนแรกที่ทักออกมา
“นี่มันคนที่ยืนข้างเธอในรูปนี่!”
“โห หน้าตาดีเกินไปหรือเปล่าคุณเนี่ย"
เลลาหัวจะปวดกับสถานการณ์นี้ แต่แล้วก็ต้องเบาใจเมื่อเห็นว่าดามิทรีระบายรอยยิ้มให้กับเพื่อนของเธอทุกคน หลังจากวางทิชชู่ลงในมือเลลาเรียบร้อยแล้ว เขาก็ถอดแว่นสีชาออก
“สวัสดีครับ กัปตันครับ เป็นพี่ชายของน้องเพิร์ล แล้วก็ตอนนี้เป็นผู้ปกครองของเลลาอยู่ ยินดีที่ได้รู้จักครับทุกคน"
ออร่าความเป็นไซบีเรียนมิตรเอ่อล้นฟุ้งกระจายออกมาจากรอยยิ้มนั้น แหงล่ะ ก็เขาหน้าตาดีเหมือนเทพอะพอลโลนี่ หล่อสะอาดเหมือนอาบน้ำวันล่ะสิบรอบน่ะ นี่ถ้าหล่อแบบเทพแอรีส เทพสงครามล่ะก็ โจนส์คงโดนฆ่าด้วยสายตาไม่เหลือแล้วล่ะ
“ชื่อกัปตันนี่เอง ทำไมไม่บอกตั้งแต่เมื่อวานล่ะเลลา" เฮลก้าเป็นคนแรกที่ยื่นมือออกไป “ฉันเฮลก้าค่ะ เป็นคนออสเตรเลียแต่เรียนภาษาไทยมาจากเพื่อน ๆ เพิร์ลก็เคยสอนภาษาไทยให้ฉันนะคะ"
“โอ้ คุณนี่เอง สาวออสซี่ที่เพิร์ลเคยพูดถึง ยินดีที่ได้พบกันครับ" ดามิทรีส่งมือไปเช็คแฮนด์อย่างเป็นมิตร
“ส่วนผมโจนส์ครับ คุณผู้ปกครองของเลลา แล้วก็เป็นคุณพี่ชายของเพิร์ล”
ดวงตาสีน้ำเงินเข้มฉายแววดุแวบเดียว ก่อนจะรีบจับมือโจนส์มาเช็คแฮนด์ก่อน “ครับ สวัสดีครับคุณโจนส์ หนุ่มตะวันออกกลางใช่ไหม? เพิร์ลเคยบอกผมว่ามีเพื่อนสนิทห่าง ๆ อยู่คนนึงที่เป็นหนุ่มตะวันออกกลาง ยินดีที่ได้พบกันครับ"
ดูเหมือนแรงที่ใช้จับมือจะมากเกินควร โจนส์ถึงได้ใบหน้าเหยเกขนาดนั้น
“หยกแก้วค่ะ" หยกแก้วแนะนำตัวสั้น ๆ พร้อมทั้งใช้สองมือประสานกันไว้เรียบร้อยที่ชายพก เป็นการบอกอ้อม ๆ ว่าไม่ขอเช็คแฮนด์
“ยินดีที่ได้พบกันครับ เพิร์ลเคยพูดถึงคุณหยกอยู่บ้างเหมือนกัน" ดามิทรีแจกรอยยิ้มให้กับเพื่อนของเลลาอย่างถ้วนทั่ว ก่อนจะถูกโจนส์ชวนคุยเรื่องอาชีพนักบิน เพราะอานยาเคยพูดถึงพี่ชายให้ฟังว่าเป็นนักบิน
เลลายืนกอดอกมองดามิทรีที่ดูเข้ากันได้ดีกับกลุ่มเพื่อนของตนก็เผลอยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว ไม่ใช่หมาป่าดุร้ายอย่างที่คิดไว้ตอนแรกแฮะ..
ส่วนเรื่องแนะนำตัวว่าเป็นผู้ปกครองของเลลา อันนี้ไว้คิดบัญชีทีหลังแล้วกัน
เลลาขบเขี้ยวเคี้ยวฟันอยู่ในใจ ก่อนจะเดินตามหลังเพื่อน ๆ ไปหาที่นั่งคุย โดยที่มือของตนถูกดามิทรีจับเอาไว้ขณะที่เดินไปยังม้านั่ง
ถ้าโวยวายตอนนี้ต้องโดนเพื่อน ๆ ซักแหงเลย ฉวยโอกาสได้ถูกเวลาจริง ๆ
คนตัวเล็กกว่าบ่นอุบอยู่ในใจ
จะยอมให้จับมือวันนึงก็แล้วกัน เจ้าไซบีเรียน