รักก็คือรัก

1568 คำ
"ได้... แต่เธอห้ามพูดกับผู้ชายทุกคน โดยเฉพาะไอ้จิงโจ้ ฉันเห็นนะตอนเลิกเรียน" "แค่พูดก็ไม่ได้นายจะบ้าหรือไง ฉันไม่ได้เป็นใบ้นะ อ๋อ... ที่แท้นายเดินตามฉันใช่ไหมถึงว่าทำไมรู้สึกแปลกๆ เหมือนกับมีใครมองตลอดเวลา ฉันนึกว่าผีซะอีก" "ผีที่ไหนจะหล่อขนาดนี้...ฮื้ม จุ๊บ! " "สิงโต... นายนี่เผลอไม่ได้เลยนะ" ฉันพูดพร้อมกับเอามือขึ้นมาปิดริมฝีปากเอาไว้ เพราะกลัวว่าสิงโตจะจูบมากกว่าจุ๊บ เพราะสัมผัสจากเขาทำให้ฉันถึงก็อ่อนระทวยมาแล้ว "ก็แฟนฉันน่ารักนี่นา ทำไมไม่ใส่กำไลที่คุณย่าเอาให้ พรุ่งนี้ใส่ไปมหา'ลัยด้วยนะ" "ฉันกลัวทำหายเลยไม่กล้าใส่ ฉันเก็บเอาไว้ใน ตู้เซฟอย่างดีเลยนะ" "แต่พรุ่งนี้เธอต้องใส่เข้าใจไหม" ผมแกล้งพูดเสียงเข้มออกไป "นายก็เอาแต่สั่งฉัน เผด็จการชะมัดเลย" ฉันพูดพร้อมกับทำแก้มป่อง ก่อนจะเปลี่ยนเป็นหน้ามุ่ยแทน เพื่อบ่งบอกให้สิงโตได้รู้ว่าฉันกำลังงอนเขาอยู่ให้รีบง้อด่วน "โอ๋... ไม่งอแงนะครับคนดี" เขาพูดพร้อมกับเอามือลูบที่เส้นผมของฉันไปมา ในขณะที่ดวงหน้าของเขาขยับเข้ามาใกล้กว่าเดิม ดวงตาคมกริบที่จ้องมองมาที่ฉันอย่างไม่กะพริบ เพื่อสื่อถึงความหมายดีๆ เขาจะรู้หรือเปล่าว่ากำลังจะทำให้หัวใจของฉันละลายอยู่แล้วในตอนนี้ ฉันไม่คิดไม่ฝันมาก่อนเลยว่า เหตุการณ์ในวันนี้จะทำให้ชีวิตของฉันได้กลับมาเจอกับสิงโตอีกครั้ง ในรั้วมหาวิทยาลัย มิหนำซ้ำเราทั้งสองยังตกลงปลงใจเป็นแฟนกันอีกด้วย ตอนนี้สิงโตดูแลเทคแคร์และเอาใจใส่ฉันดีมาก แต่คงต้องดูไปอีกนาน อาจจะเป็นแค่ช่วงโปรโมชั่นหรือเปล่า ฉันเองก็ยังไม่แน่ใจ "ทานเยอะๆ สิ ฉันทำสุดฝีมือเลยนะ" "แม่ขวัญเป็นคนสอนนายทำอาหารใช่ไหม อร่อยมากเลย" ฉันพูดพร้อมกับตักข้าวเข้าปาก สิงโตทำอาหารสองสามอย่าง ซึ่งฉันเป็นลูกมือคอยจับนู่นนี่ช่วยเขา ทำให้ฉันอดที่จะคิดถึงชีวิตในวัยเด็กไม่ได้ ฉันเคยนั่งร้องไห้เพราะโดนพี่ตุลาแกล้งกินไข่เจียวจนหมดจาน ก็ได้สิงโตนี่แหละทำให้รับประทาน ฉันยังจำช่วงเวลาเหล่านั้นได้ดีไม่เคยลืมเลือน "คุณย่าเป็นคนสอน ยิ้มอะไร" ผมรู้สึกแปลกใจ เมื่อกันยาเอาแต่จ้องมองมาที่ผม พร้อมกับรอยยิ้มพิมพ์ใจ ที่บอกได้เลยว่าใจของผมแทบจะละลาย "ยิ้มหน่อยไม่ได้หรือไงทำไมต้องดุด้วย" "ไม่ได้ดุสักหน่อย แค่จะบอกว่าห้ามไปยิ้มแบบนี้ให้กับใคร เก็บไว้ยิ้มให้ฉันดูคนเดียวก็พอเข้าใจไหม" กริ๊ง! กริ๊ง! กริ๊ง! "ใครมากดออดหน้าบ้าน" "สงสัยพี่ตุลาจะมารับฉันละมั้ง" ไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมบางครั้งฉันถึงเรียกตุลาว่าพี่ บางทีก็เรียกแค่ชื่อเฉยๆ เพราะเราสองคนเป็นฝาแฝดแล้วเกิดห่างกันไม่กี่นาที จึงไม่ใช่เรื่องแปลก ที่จะ เรียกกันว่าพี่หรือไม่เรียกก็ได้ "ไม่น่าจะใช่ตุลา นี่เพิ่งจะสิบแปดนาฬิกาเอง เหลือเวลาอีกตั้งสองชั่วโมง ตุลาคงจะไม่มาก่อน เวลาหรอกมั้ง" ผมพูดพร้อมกับทำสีหน้างงๆ ออกมาด้วยความแปลกใจ เมื่อกำลังมีลางสังหรณ์ว่าจะเป็นใครบางคน ที่ผมไม่อยากให้มาที่นี่หรือเปล่า "ออกไปดูสิ หรือว่าจะเป็นเพื่อนของนาย ฉันอิ่มแล้วนายอิ่มหรือยัง เดี๋ยวฉันจะเก็บจานไปล้าง แล้วจะขึ้นไปรอตุลาข้างบนนะ" ฉันรีบพูดขึ้นเพราะไม่อยากเจอใครในตอนนี้ ถ้าเกิดว่ามีใครมาเห็นฉันอยู่กับสิงโตเพียงลำพังภายในบ้านหลังนี้ แน่นอนเขาต้องรู้ถึงความสัมพันธ์ของฉันกับสิงโต ที่กำลังเริ่มต้นตกลงเป็นแฟนกัน ซึ่งฉันไม่ต้องการให้ใครรู้ "อิ่มแล้ว เดี๋ยวฉันขอไปดูก่อน เพราะปกติแล้วก็ไม่เคยมีใครมาหา ใครกันนะ มาในเวลานี้" ผมรีบพูดชี้แจงออกไปให้กันยาได้ทราบ เพราะกลัวว่าเธอจะเข้าใจผิด ซึ่งปกติแล้วผมไม่เคยพาใครมาที่บ้านหรอกนี้ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ แม้กระทั่งไผ่เขตแดนและเนตรดาวก็เคยมาเพียงครั้งเดียว และก็นานมากแล้วด้วย กริ๊ง! กริ๊ง! กริ๊ง!! "นายรีบออกไปสิสิงโต เสียงกริ่งดังอีกแล้ว เผื่อเขาจะมีธุระสำคัญกับนายก็อาจเป็นไปได้นะ" ฉันพูดขึ้นพร้อมกับรีบเก็บจานชามไปล้างในครัว เพราะกลัวว่าแขกที่มาเยือนจะพบกับฉันเข้า "อืม...ไปแล้วครับ" ผมกำลังชั่งใจว่าจะรับมืออย่างไรดี ถ้าหากคนที่มากดกริ่งหน้าบ้านนั้นคือเนตรดาว และเมื่อผมเดินออกมาจากบ้าน ก็ต้องถอนหายใจออกมาอย่างแรง เพราะรถที่จอดกับหญิงสาวในชุดนักศึกษา ที่ยืนอยู่หน้าบ้านผม นั่นคือเนตรดาวจริงๆ ด้วย "อ้าว...เนตรดาว ไปยังไงมาไงเนี่ย ฉันนึกว่าใครมากดกริ่งที่แท้ก็เธอนั่นเองมีอะไรหรือเปล่า" ผมเปิดประตูเล็กแล้วเดินออกไปพูดกับเธอ ผมเองก็ได้แต่หวังว่าเนตรดาวจะเข้าใจ ที่ผมไม่เปิดประตูใหญ่ให้เธอขับรถเข้ามาจอดในบ้าน "พอดีว่าเนตรลืมเอาสมุดเลคเชอร์ให้สิงโต ก็เลยเอามาให้ ซึ่งมีแต่เนื้อหาสำคัญที่อาจารย์บรรยายในวันนี้" เนตรดาวพูดพร้อมกับหยิบสมุด ส่งให้สิงโต ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยรอยยิ้มในขณะที่แววตาหวานหยาดเยิ้ม เพื่อแสดงออกให้ชายหนุ่มได้ทราบถึงความรู้สึกลึกๆ ภายในใจของเธอที่มีให้กับเขา แต่ชายหนุ่มกลับรู้สึกเฉยๆ เพราะหัวใจของเขามีเพียงแค่กันยาเท่านั้น "ขอบใจมากนะเนตรดาว" ผมรับสมุดจากเธอพร้อมกลับกล่าวคำขอบใจออกไป แต่เนตรดาวกลับยืนยิ้มแป้น เหมือนกับเธอนั้นกำลังรอให้ผมเชิญเข้าไปในบ้าน "ไม่เป็นไรหรอกเราเต็มใจ แล้วนายจะไม่ชวนเราเข้าไปดื่มน้ำในบ้านหน่อยเหรอ" ในที่สุดเนตรดาวก็เอ่ยคำนั้นออกมาเองอย่างไม่เกรงใจ เพราะจุดประสงค์ของเธอต้องการมาเจอสิงโต ซึ่งหญิงสาวอยากใกล้ชิดเขาให้มากที่สุด เพราะเธอเชื่อว่าความใกล้ชิดจะทำให้ ความสัมพันธ์ของเธอกับชายหนุ่มพัฒนาขึ้นมาได้ "เอ่อ... คือ... เราว่ามันไม่เหมาะถ้าใครรู้เธอจะเสียหายนะเนตรดาว เอาไว้วันหลังให้ไผ่แล้วก็เขตแดนมาด้วย แล้วเราค่อยเข้าไปคุยในบ้านมันจะเหมาะกว่า เธอคงไม่ว่าอะไรนะเนตรดาว" ผมพยายามพูดจาปฏิเสธออกไป เพื่อให้คนฟังรู้สึกดี เพราะอย่างน้อยเธอก็เป็นเพื่อนของผม "นายเป็นสุภาพบุรุษจัง แต่สมัยนี้ไม่มีใครเขาถือสากันแล้วแหละ ดูอย่างฉันสิ พักอยู่คอนโดกับเขตแดน แล้วยังอยู่ห้องเดียวกันอีก เพียงแค่แยกห้องนอนเท่านั้น ถ้าคนไม่รู้คงคิดว่าฉันกับเขาเป็นแฟนกันแน่ๆ " หญิงสาวรีบชี้แจงออกไปเพราะกลัวว่าสิงโตจะเข้าใจผิด เมื่อเธอกับเขตแดนสนิทกันมากถึงขั้น พักอยู่คอนโดเดียวกัน เพล้ง!! "เสียงอะไรสิงโต เหมือนมีคนทำจานแตกเลย" เนตรดาวพูดออกมาพร้อมชะเง้อชะแง้ เมื่อเธอกำลังสงสัยว่ามีใครอยู่ในบ้านสิงโตหรือเปล่า "อ๋อ... สงสัยจะเป็นเจ้าแมวแน่ๆ เลย ถ้าอย่างนั้นเอาไว้เจอกันที่มหา'ลัยพรุ่งนี้นะ เราขอเข้าบ้านไปจัดการเจ้าเหมียวก่อน" ตอนนี้ผมรู้สึกเป็นห่วงยัยตัวแสบ ไม่รู้ว่าซุ่มซ่ามแล้วทำจานแตก หรือว่าเธอกำลังเป็นอะไรหรือเปล่า "อืม...ก็ได้ แล้วเจอกัน เรากลับแล้วนะบ๊ายบาย" แม้ว่าเนตรดาวจะรู้สึกเสียดาย ที่เธออุตส่าห์ดั้นด้นมาหาเขาถึงที่บ้าน กลับโดนชายหนุ่มปฏิเสธออกมาอย่างสุภาพ แต่นั่นก็ทำให้เธอรู้ว่าเขาเป็นสุภาพบุรุษแค่ไหน ทั้งหล่อทั้งรวยแถมยังนิสัยดีแบบนี้ เธอไม่มีทางปล่อยให้เขาหลุดมือไปแน่ เมื่อเนตรดาวขับรถออกไป ทำให้ผมรีบปิดประตูแล้วเดินเข้าไปในบ้านทันที ไม่รู้ว่ายายตัวแสบ เป็นอะไรมากหรือเปล่า แต่พอเข้ามาในบ้าน ผมเดินเข้าไปในครัว กลับไม่พบเธอ สงสัยคงจะขึ้นไปบนห้องแล้ว เพราะกลัวว่าใครจะไม่เห็น ฉันรู้สึกหมั่นไส้ยายเนตรดาวอะไรนั่น เพราะเวลาที่หล่อนมองสิงโต สายตาชั่งหวานหยาดเยิ้ม ราวกับว่ากำลังอ่อยแฟนฉันอยู่ จึงแกล้งทำจานแตก ฉันรู้ว่ามันไม่ดีที่ทำให้ข้าวของเสียหายแบบนั้น แต่มันก็ได้ผลเกินคาด เพราะทำให้สิงโตรีบเข้ามาในบ้าน ส่วนเนตรดาวหล่อนก็ขับรถออกไปทันที
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม