หมับ!!
"ว้าย! นายสิงโต" ฉันร้องอุทานออกมาจนสุดเสียง เพราะไม่คิดว่าจังหวะที่ฉันกำลังจะเปิดประตูออกไปนั้น สิงโตได้เดินออกมาจากห้องน้ำพอดิบพอดี พร้อมกับรีบคว้าลงไปจับที่ข้อมือของฉันเอาไว้แน่น
"บอกให้นั่งรอที่เตียง จะออกไปไหน หรือว่าอยากให้ฉันทำโทษ หื้ม...ฮันแน่ ชอบแบบนี้ก็ไม่บอก มานี่เลยยัยตัวแสบ" ผมดีใจที่คำขู่ได้ผล แม้ว่าเธอกำลังจะเดินออกไปจากห้อง แต่ถึงยังไงเธอก็ไม่มีทางหนีผมพ้น ตราบใดที่ชุดของเธอ ยังคงอยู่ในเครื่องซักผ้า
"ปล่อยเลยนะสิงโต นายคิดจะทำอะไร มีแฟนอยู่แล้วนายจะมายุ่งกับฉันทำไม ถ้านายทำอะไรฉันแม้เพียงนิด ฉันจะฟ้องพ่อเสือฉันจะบอกแม่ขวัญทุกอย่าง รับรองว่าท่านทั้งสองต้องผิดหวังในตัวนายมากอย่างแน่นอน" ฉันพูดพร้อมกับพยายามถอยห่างร่างบึกบึนของเขา แต่นั่นเหมือนกับฉันกำลังโดนกับดัก เมื่อเขากำลังผลักฉันล้มลงไปนอนราบกับเตียง
"เธอบอกฉันมาใครเป็นแฟนฉัน เธอกำลังเข้าใจอะไรผิดอยู่หรือเปล่ากันยา สงสัยอะไรในตัวฉันก็ถามมา อย่าเก็บไปคิดเองออเองแบบนี้ ส่วนเรื่องพ่อแม่ฉันไม่ต้องห่วงหรอก ฉันเคลียร์ได้" เขาพูดพร้อมกับโน้มตัวเข้าหาฉัน ใบหน้าของเขาช่างดูหล่อเหลาจนน่าหลงใหล เวลาที่เขาเข้าใกล้ฉันกลับรู้สึกดีทุกครั้ง ไม่เหมือนกับผู้ชายคนอื่นต่อให้มีหน้าตาดีราวกับเทพบุตรลงมาจุติ ฉันกลับรู้สึกเฉยๆ
"สิงโตฉันว่านายไปใส่เสื้อผ้าก่อนดีไหม เดี๋ยวฉันจะไปทำมื้อเย็นให้ทาน นายบ่นหิวไม่ใช่เหรอ" ฉันพยายามพูดออกไปด้วยน้ำเสียงที่เป็นปกติที่สุด ทั้งที่ภายในใจ มันเต้นแรงแทบกระเด็นออกมาจากอกข้างซ้าย
"บอกมาก่อน ใครคือแฟนของฉันเหรอ...หื้ม" ผมพูดพร้อมกับเข้าไปคร่อมร่างอรชรของเธอเอาไว้ ในขณะนี้ใบหน้าของเราสองคนใกล้กันเสียจน แทบจะเห็นรูขุมขนเลยทีเดียว
"ฉะ..ฉาน...ฉันหมายถึงเนตรดาว" ฉันพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ตะกุกตะกัก เมื่อความใกล้ชิดแนบสนิทแทบจะเป็นเนื้อเดียวกันอยู่แล้ว มวลกล้ามเป็นมัดๆ ใบหน้าหล่อเหลาที่อยู่ในระดับสายตา กำลังจะทำให้หัวใจของฉันละลาย จนร่างกายอ่อนระทวยไปทั้งตัว โดยที่เขานั้นแทบจะไม่ต้องทำอะไรเลย
ฮ่า! ฮ่า! ฮ่า! เขาหัวเราะออกมาเสียงดัง ทั้งที่มันไม่ใช่เรื่องขบขันเลยสักนิด
"เนตรดาวเป็นแค่เพื่อน ไม่มีทางพัฒนาไปเป็นอย่างอื่นได้หรอก เพราะแฟนตัวจริงของฉัน นอนอยู่ตรงหน้า มันผิดไหมกันยาที่ฉันแอบหลงรักเธอมาตั้งนานแล้ว ถ้าเพื่อนรักคนนี้จะเผลอรักเพื่อน เธอจะเห็นด้วยหรือเปล่า เราพอจะเป็นแฟนกันได้ไหม" ฉันได้ยินทุกถ้อยคำอย่างชัดเจน แต่ในเวลานี้หูของฉันกลับอื้อไปหมด ไม่คิดไม่ฝันมาก่อนเลยว่าเขาจะมีใจตรงกันกับฉัน แถมเขายังยืนยันว่าเนตรดาวเป็นเพียงแค่เพื่อนเท่านั้น นั่นก็แสดงว่าหัวใจของฉันยังมีสิทธิ์ ที่จะรับเขาเข้ามาเติมเต็ม เมื่อสี่ห้องหัวใจยังคงว่างสำหรับรอเขาเสมอ
"สะ...สะ สิ สิงโต" เสียงหวานของกันยาที่เรียกชายหนุ่มออกมา ราวกับคนกำลังติดอ่าง ริมฝีปากเรียวเป็นรูปกระจับ ดวงตากลมโตของเธอที่มองมายังชายหนุ่ม ด้วยแววที่เป็นประกายระยิบระยับ ส่งผลให้เขานั้น อ่านใจเธอออก
"ฉันรักเธอนะกันยา" เสียงทุ้มที่กระซิบลงมาข้างหูของฉัน เหมือนกับโลกนี้กำลังหยุดหมุนทุกอย่างรอบตัวกลายเป็นสีชมพู สามปีที่ห่างกันมันทำให้ฉันรู้ใจตัวเองมากขึ้น แต่ไม่คิดว่าเขาจะมีใจตรงกันกับฉันแบบนี้มันรู้สึกดีมากๆ เลย
"สิงโต"
"ทำไมเรียกชื่อฉันบ่อยจัง... หรือกลัวว่าจะจำชื่อแฟนไม่ได้เหรอ หืม...เดี๋ยวให้แม่ไปขอนะ"
"นายจะบ้าเหรอ ถ้าทำแบบนั้นพ่อของฉันเอานายตายแน่ อยากเป็นศพหรือไง ถึงได้คิดจะทำอะไรบ้าๆ "
"กลัวที่ไหนกันล่ะ ถ้าไม่เข้าถ้ำเสือก็ไม่ได้ลูกเสือหรอกนะ สรุปแล้วเราเป็นแฟนกันนะ"
"อืม.." ฉันส่งยิ้มบางๆ พร้อมกับพยักหน้าให้กับเขา จังหวะนั้นเองริมฝีปากอ่อนนุ่มได้ทาบลงมาที่เรียวปากของฉันอย่างไม่ทันตั้งตัว
มือเรียวของกันยาได้ยกขึ้นไปดันอกแกร่งของสิงโตเอาไว้ ในขณะที่เขาจูบอย่างดูดดื่ม ปล่อยช่องว่างเอาไว้ให้เธอได้หายใจ เพียงแค่ชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้น ในเวลานี้ร่างกายอรชรได้อ่อนระทวย ไปกับสัมผัสที่ได้รับจากชายหนุ่ม
จูบแรกของเธอได้มอบให้กับสิงโตไปแล้ว เมื่อกันยาได้เผลอปล่อยให้เขาจูบตามอำเภอใจ เพราะร่างกายของเธอต้านทานความต้องการของหัวใจไม่ไหว ริมฝีปากหนายังคงดูดดึงขบเม้ม บดเบียดละเลียดชิมความหอมหวานจากริมฝีปากของเธอ ลิ้นร้อนอ่อนนุ่มกำลังสอดแทรกเข้าไปภายใน โพรงปากของกันยา หญิงสาวอ้ารับลิ้นร้อนด้วยความเต็มใจ เขาแตะกระหวัดปลายลิ้นสอดแทรกเข้าไปภายในโพรงปากของเธอ ทั้งสองโต้ตอบกันไปมาอย่างไม่มีใครยอมใคร เสียงจูบดังสลับกับเสียงเสียดสีของร่างกายที่เร่าร้อนขึ้นเรื่อยๆ จนสิงโตแทบจะคลั่ง
"อื้ม..." เสียงครางจากในลำคอของกันยาดังขึ้น ในขณะที่เธอพยายามดันชายร่างกำยำออกห่าง เมื่อจิตใต้สำนึกลึกๆ บอกว่าไม่ควรทำแบบนี้ เพราะถ้าบิดามารดารู้คงจะเสียใจมาก
"ยะ...อย่า ทำแบบนี้เลยได้โปรด" เมื่อเขาผละจูบออก ฉันได้แต่พูดจาขอร้องอ้อนวอนให้สิงโตหยุด แต่แววตาของเขากลับมองมาที่ฉันอย่างเป็นประกายไม่รู้สึกผิดเลยสักนิด
"ฉันไม่ทำอะไรเธอ มากไปกว่าจูบหรอกน่า... ยัยตัวแสบ"
"แต่นายก็ได้จูบแรกจากฉันไป" ฉันพูดออกไปพร้อมกับหลบสายตาคมของเขา ในเวลานี้ใบหน้าของฉันร้อนผ่าวและมันคงแดงเป็นลูกตำลึงสุกเมื่อต้องเสียจูบแรกให้กับเขาไป แถมยังทำเหมือนกับว่าตัวเองเต็มใจ ไม่ขัดขืนเขาเลยสักนิด
"จริงดิ! " ผมแกล้งพูดออกไปเหมือนกับไม่เชื่อ สิ่งที่เธอพูดมา จนกันยาหันกลับมามองค้อนผมด้วยแววตาที่น่ารัก
"ไอ้สิงโตบ้าลุกไปใส่เสื้อผ้าเลยนะ ฉันหิวข้าวแล้ว" ฉันพูดออกไปด้วยน้ำเสียงที่แข็ง ก่อนจะค่อยๆ แผ่วเบาลง เหมือนกับกำลังอ้อนคนรัก "เดี๋ยวทำให้ทาน เธออยากกินอะไร"
"อะไรก็ได้ฉันกินได้หมดแหละ"
"ถ้าอย่างนั้นกินฉันแทนได้ไหมล่ะ"
"ไอ้สิงโตบ้า ไปใส่เสื้อผ้าเดี๋ยวนี้! " คราวนี้ฉันตะเบ็งออกออกมาเสียงดังลั่น เพราะเกลียดแววตาเจ้าเล่ห์ของเขาที่มองมายังฉันอย่างหวานหยาดเยิ้ม
หมับ!!
"ขอนอนกอดแบบนี้สักพักจะได้ไหม คิดถึงสุดหัวใจ แต่ก็ไม่กล้ามาหา" ผมสวมกอดลงไปที่เอวคอดของเธอ ก่อนจะจับกันยาพลิกตะแคงใบหน้าเข้าหา
"สิงโต ที่มหา'ลัยนายห้ามบอกใครเรื่องของเราได้ไหม ฉันอยากให้เป็นความลับระหว่างเรา"
"เป็นแฟนฉันมันไม่ดีตรงไหนเหรอ... ถึงไม่อยากให้ใครรู้...ฮื้ม" ผมถามกันยาออกไป พร้อมกับเอามือลูบลงที่แก้มนวลของเธอเบาๆ ด้วยความรู้สึกรักสุดหัวใจ
"ฉันแค่ไม่ชอบให้ใครมาวุ่นวาย อยากให้โลกทั้งใบเป็นแค่ของเราสองคน อยู่ข้างนอกไม่จำเป็นต้องบอกใคร เราสองคนรู้อยู่แก่ใจมันก็เพียงพอแล้วไม่ใช่เหรอ" ฉันพูดออกไปจากใจจริง เพราะไม่อยากให้ใครเข้ามาวุ่นวาย โดยเฉพาะเนตรดาว ที่ทำตัวเป็นจงอางหวงไข่ ถ้าหากเขาจะรักและซื่อสัตย์กับฉัน ก็ไม่จำเป็นต้องประกาศให้โลกรู้ เพราะฉันไม่อยากใช้ชีวิตในรั้วมหา'ลัยเด่นกว่าใคร นั่นคือเหตุผลที่ฉันตัดสินใจนั่งรถเมล์มาเรียน