ตอนที่ 10 ห่วง?

1212 คำ
นับดาวจำต้องเงียบปากยอมรับที่เขาตำหนิมา เพราะเธอมันแค่ผู้อาศัยห้ามมีปากมีเสียง กระทั่งเราขึ้นมาถึงข้างบนกัน นับดาวรีบเอาของไปวางลงบนโต๊ะข้างกระเป๋านักเรียนกับถุงขนมของเธอที่อีกฝ่ายถือขึ้นมาให้ เห็นเขาเดินเข้าห้องนอนแล้วหายไป แต่ไม่นานก็กลับออกมาใหม่พร้อมผ้าเช็ดตัวผืนสีขาว รับรู้ว่าเขาจะอาบน้ำ "พี่อเล็กซ์จะทานอะไรหน่อยไหมคะ" ด้วยความที่เป็นผู้อาศัยก็อยากถามเจ้าของห้องก่อน เธอยังทานไม่อิ่มตั้งแต่ด้านล่าง ว่าจะนั่งทานต่อเดี๋ยวค่อยไปอาบน้ำ จึงอยากชวนเขาเพราะไม่แน่ใจว่าเขาทานอะไรมาหรือยัง "พอดีนับซื้อของกินมาเยอะเลยค่ะ" คนที่ว่าจะเดินเข้าห้องน้ำเปลี่ยนทิศทางมานั่งลงที่โต๊ะกินข้าวฝั่งตรงข้าม นับดาวก็รีบเอาอาหารสำเร็จรูปออกมาวางตรงหน้าให้เขาเลือกอย่างรู้งาน ท่ามกลางใจดวงน้อยเต้นตึกตัก พี่เขาเริ่มมีปฏิกิริยาที่ดีต่อเธอบ้างแล้ว "พี่อเล็กซ์อยากทานอะไรเลือกเลยค่ะ เดี๋ยวนับไปเวฟให้แป๊บเดียว" เพราะเธอสั่งให้พนักงานเวฟแต่ของเธอมาถ้วยเดียว อันที่เหลือจะเก็บไว้กินมื้ออื่นๆตอนหิว อเล็กซ์เลือกเป็นข้าวผัดปูก่อนจะนั่งกอดอกรอ นับดาวก็รีบวิ่งไปทำให้ ไม่ถึงห้านาทีกลับออกมาจากในครัวพร้อมขวดน้ำเปล่าขนาดเล็กในมือ ทั้งคู่นั่งทานข้าวเงียบๆ ในเวลาตีหนึ่งของคืน ในเมื่อเขาดูใจดีขึ้นบ้างเธอก็อยากสนทนาด้วยระหว่างมื้ออาหาร เราอยู่ด้วยกันน่าจะมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมากกว่านี้หน่อย "พี่คิมบอกว่าวันนี้เป็นเวรของพี่อเล็กซ์ที่ต้องนอนคลับ แล้วทำไมพี่อเล็กซ์ถึงกลับมานอนที่นี่คะ" นับดาวถามอย่างตั้งใจรอฟัง "ก็รู้นี่ว่ามันเป็นเวรของฉัน แล้วทำไมยังวิ่งแจ้นให้ผู้ชายมาส่งอีก" อเล็กซ์ตอบกลับเสียงเรียบก่อนจะตักข้าวขึ้นทาน ทำเอาคนที่ได้รับคำตอบกลับมาพิจารณาอย่างงงๆ หรือว่าเขาเป็นห่วงเธอ? "ฉันบอกเธอไปแล้วไม่ใช่เหรอว่าอย่าไปยุ่งกับไอ้คิมมันมากทำไมยังทำอยู่อีก" วางช้อนลงในถ้วยสำเร็จรูปเอามือกอดอก มองคนตรงหน้านิ่งๆ ทำเอานับดาวใบหน้าสลดลง "ก็นับ..ไม่รู้จะกลับยังไงนี่คะ นับไม่รู้ว่านับจะต้องไปนอนที่ไหนดี" "ฉันไม่ปล่อยให้ใครอยู่ในห้องของฉันคนเดียวตอนที่ฉันไม่อยู่แน่ๆ" อ๋อ..ที่แท้เป็นแบบนี้นี่เอง ไม่ใช่ว่าเขาห่วงเธอหรอก แต่เขากลัวข้าวของในห้องจะเสียหายมากกว่า "นับจะจำเอาไว้ค่ะ" ทั้งคู่นั่งทานข้าวกันต่อโดยที่ไม่มีใครเอ่ยอะไรขึ้นอีก ในห้องเงียบ ความประหม่าเกิดขึ้นจากฝั่งคนตัวเล็ก กระทั่งได้ยินเสียงเลื่อนเก้าอี้ "เดี๋ยวนับเก็บเองค่ะ" นับดาวรีบลุกจากเก้าอี้เมื่อเห็นว่าเขาอิ่มแล้ว เดินอ้อมไปยังฝั่งตรงข้าม ทำตัวเป็นผู้อาศัยที่ดีแล้วเอามันไปทิ้งถังขยะ อเล็กซ์เดินไปคว้าผ้าเช็ดตัวแล้วเข้าห้องน้ำ นับดาวก็กลับมานั่งทานข้าวตัวเองต่อเงียบๆ ปฏิเสธไม่ได้ว่ายามที่นั่งอยู่คนเดียวแล้วอดคิดถึงบ้านไม่ได้ ถึงบ้านจะไม่ใช่เซฟโซน แต่เธอก็อยู่มาตั้งแต่เด็ก ห่วงแม่ว่าจะได้กินข้าวกินปลาบ้างหรือยัง หรือมัวแต่เล่นการพนัน ถึงทำเธอน้อยใจแต่เธอก็ยังคงคิดถึงท่านอยู่ดี เมื่อทานต่อไม่ลงหญิงสาวเก็บส่วนนี้ปิดฝาแล้วเอาเข้าตู้เย็นไว้เพื่อกินต่อวันถัดไป กับข้าวที่เหลือเธอไม่เคยทิ้ง เพราะต้องประหยัดเลยทำให้ติดเป็นนิสัย จัดการเช็ดโต๊ะให้เรียบร้อย ไปนั่งย่อยอยู่บนโซฟาตัวใหญ่รอเวลาที่จะเข้าไปอาบน้ำ ระหว่างนี้จึงใช้ที่เช็ดเครื่องสำอางเช็ดใบหน้าออกเพื่อจะได้ไม่เป็นสิว ความที่ไม่มีห้องแต่งตัวจำต้องใช้พื้นที่ตรงห้องโถงบนโซฟาจัดการกับใบหน้า กระเป๋าเสื้อผ้าที่ได้มาก็เอาไปวางหลบตรงมุมห้องจะได้ไม่เกะกะทางเดิน แอรด.. ใบหน้าเรียวละสายตาออกจากกระจกในมือมองคนที่ออกมาจากห้องน้ำอัตโนมัติ ปฏิเสธไม่ได้ว่าเธอแอบมองรูปร่างของเขาก่อนจะดึงสายตากลับมาหากระจกในมืออีกครั้ง กระทั่งเขาเดินเข้าไปในห้องนอน จากนั้นเธอไม่รู้ความเคลื่อนไหวใดๆ ของเขาอีกเลย เดาว่าเขาคงขึ้นเตียงนอนหลับพักผ่อนไปแล้ว สาวน้อยจึงเร่งมือเพราะนี่ก็ดึกมากแล้ว ก่อนจะไปหยิบผ้าเช็ดตัวในกระเป๋าเสื้อผ้าแล้วเดินเข้าห้องน้ำ พร้อมอุปกรณ์อาบน้ำที่เธอถือติดมือมา ใช้เวลาไม่นานก็เดินออกมาแล้วไปเลือกเสื้อผ้าออกมาสวมใส่ ดีว่าเจ้าของห้องนอนหลับไปแล้ว ไม่อย่างนั้นเธอคงได้เอาเสื้อผ้าไปใส่ในห้องน้ำด้วยเพราะห้องโถงโล่งมาก "อุ๊ย!" แต่คนที่นับดาวคิดว่านอนแล้วเวลานี้กลับมายืนอยู่หน้าห้องนอนพร้อมทั้งเอามือกอดอกมองมาทางเธอ ทำให้หญิงสาวในชุดผ้าเช็ดตัวผืนเล็กบนตัวแถมข้างล่างยังสั้นมากต้องรีบหันหลังแล้วหยิบเสื้อผ้ามาสวมใส่ลวกๆ เวลานอนเธอไม่ใส่อะไรด้านใน แล้วยิ่งเวลานี้เนื้อตัวยังคงเปียกชื้นใส่ไปก็ไม่สบายตัว จึงได้ใส่เสื้อยืดสีดำตัวโคร่งแทน เสร็จแล้วเดินไปตากผ้า เธอเห็นประตูห้องน้ำถูกปิดลงไปเขาคงเข้าไปใช้ ถ้าเธอออกมาช้ากว่านี้มีหวังโดนหงุดหงิดแน่ ถึงชักโครกกับฝั่งเรนชาวเว่อร์จะอยู่คนละฝั่งกันแต่มันอยู่ในห้องเดียวกัน ห้องน้ำของเขามีครบทุกอย่างรวมอยู่ในนั้นพร้อมทั้งอ่างจากุชชี่ด้วย ดูหรูหราสุดๆ เสร็จแล้วนับดาวเดินกลับมานอน ใช้แขนเรียวเล็กหนุนแทนหมอน อากาศตอนนี้ไม่ได้หนาวสักเท่าไหร่ผ้าห่มจึงไม่จำเป็น ด้วยความเหนื่อยล้าจากการทำงานวันแรกทำให้คนตัวเล็กหลับไปภายในห้านาที มารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่มีอะไรลงมาทาบทับบนร่างกายของเธอแล้ว สัมผัสบนตัวมันคือผ้าห่มผืนหนาดีๆ นี่เองที่จะช่วยให้เธอหลบหลีกจากความหนาวเย็นของเครื่องปรับอากาศที่เขาเปิดมันทิ้งไว้ให้ ความมืดทำให้เธอไม่เห็นว่าเป็นใคร แต่คงไม่ต้องเดาเพราะห้องแห่งนี้มีเพียงเธอและเขาสองคน เพราะฉะนั้นจะเป็นใครไปได้ เรียวปากเล็กค่อยๆ คลี่ออกจากกันเล็กน้อย ก่อนจะดึงมันขึ้นมาห่มถึงช่วงคอ ไม่แค่นั้นยังมีหมอนซุกซ่อนอยู่ในผ้าห่มมาด้วย เห็นไหม เธอดูคนไม่ผิดจริงๆว่าพี่เขา..ใจดี
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม