บทที่ 10

854 คำ
  อย่างไรก็ตาม มันเป็นหนึ่งในวิธีที่จะเก็บเธอไว้ให้อยู่กับเขา แล้วทำไมจะไม่ทำล่ะ?   ขณะเดียวกัน ทันทีที่จอยได้ยินว่าเบ็นยื่นข้อเสนอจะแต่งงานกับเธอ หญิงสาวโกรธจัดจนอยากจะทุบโทรศัพท์ของตัวเองให้แหลกเป็นชิ้น ๆ   เขาหมายความว่าอย่างไรที่บอกว่า เขาไม่ใช่คนใจง่าย? เขาคือคนใจง่ายสติเพี้ยนชัด ๆ!   เขาต้องการแต่งงานกับคู่นอนชั่วคืน! แบบนั้นไม่เรียกว่าคนใจง่ายหรือไง?   แถมยังบอกอีกว่าเขาไม่ใช่เด็ก ๆ แล้ว ทุเรศที่สุด! แล้วทำไมเขาอยากจะกินหญ้าอ่อนล่ะ? ช่างเป็นผู้ชายที่ไร้ยางอายสิ้นดี!   แม้ว่าจอยจะโกรธแสนโกรธจนต้องกัดฟัน แต่เธอก็ไม่กล้าด่าว่าเขาทางโทรศัพท์   หญิงสาวหน้าแดงเรื่อขณะฟังเบ็นพูดเองเออเองอย่างไร้ยางอายว่า "ใช่เลย! เราจะไปจดทะเบียนสมรสกันทันทีที่ผมว่างในอีกสองสามวันนี่แหละ!"   จอยกำลังจะปฏิเสธ แต่อีกฝ่ายวางสายไปแล้ว   เธอดูโทรศัพท์มือถือ และได้แต่หวังว่าเรื่องทัั้งหมดนี้เป็นแค่ความฝัน   คุณปู่บิลลี่นั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นชั้นล่าง มองเห็นหลานสาวออกมาจากห้องนอนด้วยสีหน้าเศร้าหมอง ชายชราถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงเป็นใยว่า “นอนหลับสบายดีไหม จอย”   จอยไม่ได้อยู่ที่นี่มานาน บิลลี่คิดว่าเธอคงรู้สึกผิดที่ผิดทาง และอยากนอนพักให้นานขึ้น ด้วยเหตุนี้เขาจึงสั่งบรรดาสาวใช้ไม่ให้รบกวนหลานสาว   อย่างไรก็ตาม กลับกลายเป็นว่ามันไม่ได้ช่วยอะไร เพราะจอยยังคงดูอ่อนเพลียอยู่ดี   เมื่อได้ยินสุ้มเสียงห่วงใยของคนเป็นปู่ จอยก็ยิ้มให้อย่างสุภาพและนั่งลงข้าง ๆ ชายชรา จากนั้นเธอหยิบแอปเปิลที่ล้างแล้วมากิน   “ค่ะ คุณปู่ เมื่อคืนหนูหลับสบายมาก” สบายเสียจนเธอนอนเกินเวลา   “ดี ปู่จะให้ซาบรินาไปเตรียมอาหารเช้าให้หลานก็แล้วกัน”   เมื่อเอ่ยถึงอาหารเช้า จอยรีบโบกมือและพูดว่า "ไม่เป็นไรค่ะ คุณปู่ หนูกินแค่แอปเปิลก็พอ"   เธอจำได้ไม่ลืมว่าตัวเองเคยอ้วนแค่ไหนในชีวิตเก่า และมันเป็นเพราะคาร์ลี ซัลลิแวน   แม้ว่าสาเหตุหนึ่งมาจากอาหารเสริมที่คาร์ลีแอบเติมลงไปในอาหาร แต่จอยก็ยังรู้สึกหวาดระแวงนิด ๆ อยู่ดี   อย่างไรก็ตาม เมื่อบิลลี่ได้ยินจอยบอกว่าไม่อยากกินอาหารเช้า ใบหน้าของเขาก็เคร่งเครียดขึ้นมาทันที   "หลานจะอดอาหารเช้าได้ยังไง เดี๋ยวก็หิวโซกันพอดี!"   จอยรู้ว่าคุณปู่เป็นห่วง หญิงสาวจึงยอมเชื่อฟัง เอาเป็นว่าเธอค่อยกินให้น้อยลงหลังจากมื้อนี้ก็แล้วกัน   ขณะที่ซาบรินากำลังเตรียมอาหารเช้า บิลลี่ถามจอยเกี่ยวกับแผนการของหลานสาวหลังจากเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัย   อันที่จริงจอยตัดสินใจได้แล้วตอนเธอย้ายกลับมาเมื่อบ่ายวานนี้   “คุณปู่คะ มหาวิทยาลัยของหนูอยู่ไกลจากบ้านเรา หนูก็เลยตัดสินใจว่าจะพักอยู่ที่มหาวิทยาลัย แต่ไม่ต้องกังวลหรอกนะคะ หนูจะกลับมาทุกสัปดาห์เลย”   ในชีวิตเก่า จอยไม่ได้อยู่ดูแลคุณปู่ตอนท่านป่วย และไม่ได้อยู่ดูใจท่านในวาระสุดท้าย   เธอรู้สึกเสียใจกับเรื่องนี้ ดังนั้นเมื่อเธอมีโอกาสอีกครั้งในชีวิตที่สอง เธอจะให้คุณค่ากับเวลาทุกนาทีที่ได้อยู่ร่วมกับบุคคลสำคัญในชีวิตของเธอ   ยิ่งไปกว่านั้น เธอไม่อยากใช้ชีวิตปัจจุบันอยู่แต่กับความเศร้าเสียใจ   อันที่จริง คุณปู่บิลลี่ไม่ได้ติิดใจเลยว่า จอยจะคอยอยู่ดูแลเขาหรือไม่   ชายชราคิดว่าในเมื่อจอยโตแล้ว เธอก็ต้องมีเพื่อนฝูงของตัวเอง ดังนั้นการที่จอยไม่ได้อยู่ดูแลเขาตลอดเวลาก็ไม่ใช่ปัญหาแต่อย่างใด   อย่างไรก็ตาม เรื่องที่่บิลลี่เป็นกังวลมากกว่าก็คือ จอยยังแอบชอบเด็กหนุ่มที่ชื่อโคบี ฮาร์วีย์ อยู่หรือเปล่า   ชายชราเคยได้ยินเรื่องเกี่ยวกับโคบีมาบ้าง เขาเป็นหนุ่มหล่อเหลาและมีความสามารถ แถมยังฉลาดและเก่งกาจอีกด้วยเพราะเขาก่อตั้งบริษัทพัฒนาเกมของตัวเองตั้งแต่อายุยังน้อย   อย่างไรก็ตาม บิลลี่รู้สึกว่าโคบีออกจะอวดเก่งและยังเอาแน่เอานอนไม่ได้ ยิ่งไปกว่านั้น พ่อหนุ่มคนนี้ยังไม่จริงจังกับการก่อร่างสร้างตัว   ดังนั้น ถ้าโคบีจะแต่งงานกับจอยในอนาคต ชายชราอาจจะไม่เห็นดีด้วย   “นี่ จอย ตอนนี้หลานก็โตแล้ว หลานจะได้พบเจอผู้คนและสิ่งรอบข้างที่ถูกใจมากมาย ปู่จะไม่พูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนั้นอยู่แล้ว แต่สิ่งเดียวที่หลานต้องจดจำไว้ก็คือ เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ทุกสิ่ง”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม