บทที่ 1
"คุณต้องการอะไร?"
ในสภาพสับสนงุนงง จอย ซัลลิแวน ได้ยินเสียงพูดผสมอารมณ์หงุดหงิดของผู้ชายคนหนึ่ง
หญิงสาวพยายามลืมตาที่ปวดระบมขึ้นมา มองเห็นชายร่างสูงกับสีหน้าเย็นชา
ตอนนี้เขายืนอยู่ข้างเตียง กำลังมองสำรวจเธอ
เห็นชัดว่าเขาเพิ่งอาบน้ำเสร็จ มีหยดน้ำใส ๆ ไหลผ่านร่างกำยำของเขาลงไปจนถึงผ้าเช็ดตัวที่พันอยู่รอบเอว
จอยรู้สึกรวดร้าวไปทั่วร่างจนต้องทำหน้านิ่ว แค่นี้ก็ชัดพอแล้วว่า เกิดอะไรขึ้นระหว่างเบ็นกับเธอ
ทันทีที่กวาดสายตามองไปรอบตัว เธอรู้สึกตกใจกับฉากอันคุ้นตา
เธอตายไปแล้วไม่ใช่เหรอ?
ทำไมเธอมานอนอยู่ที่นี่?
เมื่อเบ็นเห็นว่าอีกฝ่ายไม่ได้สนใจไยดีตนเอง ชายหนุ่มก็ทำหน้านิ่วคิ้วขมวดทันที
เขาคว้าแขนของเธอที่อยู่นอกผ้าห่มพร้อมกับดึงตัวจอยขึ้นมา แล้วพูดอย่างเย็นชาว่า “นี่คุณจะแกล้งทำเป็นหูหนวกงั้นสิ แต่เมื่อคืนผมได้ยินใครบางคนครวญครางอย่างถึงใจเชียวละ!”
ทันทีที่ได้ฟังวาจาเสียดสีของเขา จอยก็ออกแรงสู้ด้วยความโมโห ทั้งที่เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น
อย่างไรก็ตาม เธอแน่ใจว่าเธอเคยพบเขาคนนี้และเคยมีประสบการณ์ทุกอย่างร่วมกันเหมือนกับที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ตอนนี้
แต่เธอรู้สึกงงว่าเหตุใดทุกอย่างจึงดูเหมือนฉากในภาพยนตร์ที่ถูกฉายซ้ำใหม่ ทำไมเรื่องทั้งหมดจึงเกิดขึ้นซ้ำอีกครั้ง?
จากนั้นเธอก็เริ่มนึกถึงความทรงจำในชีวิตเก่าเมื่อตอนที่เธอถูกชายคนรักรัดคอหมายจะฆ่า ทั้งที่เธอเองก็ยอมให้เขาหมดทุกอย่าง ความทรงจำนั้นทำให้เธอหัวเสียขึ้นมาทันที เธอจึงมองเบ็นซึ่งอยู่ตรงหน้าด้วยสีหน้าชิงชังรังเกียจ
“ในบรรดาผู้ชายทั้งหมดที่ฉันเคยนอนด้วย คุณห่วยที่สุดบนเตียง! คุณคิดว่าฉันต้องการอะไรจากคุณอีกล่ะ”
เมื่อเบ็นได้ยินดังนั้น สีหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นเย็นชาสุด ๆ
ทว่าในไม่ช้าริมฝีปากยู่ของเขาก็ตวัดเป็นรอยยิ้มยียวน
หญิงสาวมองรอยยิ้มกวนอารมณ์บนใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาแล้วถึงกับตะลึง แต่แล้วอึดใจต่อมา เธอก็ต้องหวีดร้องกับสิ่งที่เบ็นทำ
"ว๊าย-"
เมื่อเบ็นดึงผ้าห่มผืนบางออกจากร่างของเธอ รอยช้ำทั่วร่างปรากฏให้เห็นในทันที
เขายิ้มเยาะขณะมองดูคราบเลือดแห้งบนผ้าปูที่นอน
เมื่อรับรู้ถึงความหมายที่แฝงอยู่ในสีหน้าของเขา จอยก็ตกใจ หญิงสาวพยายามเก็บอาการและพูดว่า "โรงพยาบาลนี้ทำศัลยกรรมคืนความสาวให้ผู้หญิงได้ดีเชียวละ ดีกว่าโรงพยาบาลก่อนหน้านี้เยอะเลย"
ชายหนุ่มได้ฟังแล้วก็เลิกคิ้ว และใช้มือบีบใบหน้าอ่อนเยาว์ของจอย
จังหวะที่เขาโน้มตัวเข้ามาใกล้ เสียงทุ้มลึกและเย้ายวนของเขาทำให้หัวใจของจอยเต้นตึกตัก
“สาวน้อย ปากดีแบบนี้ระวังจะเจอดีเข้าสักวัน”
อันที่จริงเขารู้อยู่แล้วว่าเธออ่อนใสไร้เดียงสาเพียงใดเมื่อคืนนี้
หญิงสาวรู้สึกปวดสองแก้มที่โดนมือของเขาบีบ เธอสะบัดศีรษะเพื่อจะสลัดมือนั้น พร้อมกับเอื้อมไปคว้าเสื้อผ้าที่กระจัดกระจายอยู่ข้างเตียง
การพูดคุยกับผู้อื่นในสภาพเปลือยเปล่าไม่ใช่วิสัยของเธอ
“อย่าพูดจางี่เง่าดีกว่า เราสองคนก็โต ๆ กันแล้ว ปล่อยมันไปเถอะ”
อย่างไรก็ตาม พอเธอเอื้อมไปหยิบเสื้อผ้า เบ็นก็คว้ามันมาและปาทิ้งในทันที
“ปล่อยมันไปเหรอ คุณคิดว่าผมเป็นใคร”
จอยเป็นงงกับคำพูดนั้น แต่ไม่ช้าเธอก็สงบจิตสงบใจและยิ้มออกมา
“ทำไมเหรอ? คุณต้องการให้ฉันรับผิดชอบเรื่องนี้ จะให้ฉันขอแต่งงานกับคุณงั้นสิ”
เบ็นไม่พอใจกับสิ่งที่เธอพูด เขายื่นมือออกมารวบคอหญิงสาวในทันที บังคับให้เธอมองจ้องตาเขา
“ลูกแมวป่า ซ่อนกรงเล็บไว้จะดีกว่า ไม่งั้นผมจะดึงมันออกมาให้ดู”
สุ้มเสียงเย็นชาของเขาทำให้จอยตัวสั่น
ปฏิกิริยาตอบสนองโดยไม่รู้ตัวเช่นนั้นทำให้เบ็นพอใจ
“ดีใจที่รู้ว่าคุณกลัว ฟังนะ คุณไม่ใช่คนที่จะมาตัดสินใจเรื่องระหว่างเรา”
จอยอึ้งไป รู้สึกราวกับกำลังจะเกิดเรื่องไม่ดี
"คุณต้องการอะไรจากฉัน?"
แต่เบ็นไม่ตอบคำถามของเธอ ชายหนุ่มกระชากผ้าขนหนูออกและหยิบเสื้อผ้าขึ้นมาจากพื้น เขาสวมเสื้อผ้าต่อหน้าจอยอย่างไม่ตะขิดตะขวงใจ
เมื่อเห็นจอยเบือนศีรษะหนีด้วยความเขินอาย เบ็นยิ้มออกมาด้วยความชอบใจ
ส่วนหญิงสาวมองเห็นเขาสวมเสื้อผ้าอย่างว่องไวจากทางหางตา ตอนนี้ เธอรู้สึกว่ารูปร่างสง่าผ่าเผยและหน้าตาหล่อเหลาทำให้เขาดูเหมือนเจ้าชายสูงศักดิ์ผู้เจนโลก
ถึงอย่างนั้นเธอก็รู้แน่แก่ใจว่าเขาไม่ใช่เจ้าชาย แต่คือปีศาจร้ายบ้าตัณหา!
ทันทีที่สวมเสื้อผ้าเสร็จ เบ็นก็หยิบโทรศัพท์ที่ดูก็รู้ว่าเจ้าของจะต้องเป็นผู้หญิง แล้วกดหมายเลข เมื่อได้ยินเสียงโทรศัพท์อีกเครื่องดัง เขาก็ยิ้มอย่างพอใจ
“จำไว้ให้ขึ้นใจ! ผมชื่อเบ็น พาดิลลา ผู้ชายเพียงคนเดียวของคุณในตอนนี้!”