“ออยมีแฟนไหม หรือสามี หรือมีศัตรูอะไรที่ไหนรึเปล่า เช่นว่าไปแย่งแฟนใครเข้าจนแฟนเขาตามมาทำร้ายน่ะ”
“แฟนหรือสามีน่ะไม่มีหรอกค่ะ แต่ถ้าอาจจะไปแย่งของใครเขามา อันนี้ก็คงมีบ้าง ก็แหม...คุณโอมก็น่าจะเข้าใจพวกเรานะคะ พวกเราไม่ได้คิดอะไรจริงจังกับความสัมพันธ์แบบนั้นอยู่แล้ว ถูกใจใครก็จูงมือกันไปหาความสุขข้างนอก เอาเสร็จก็จบกัน เจอกันอีกครั้งก็เป็นเพื่อนเป็นคนรู้จักกันไป เว้นเสียแต่ว่าผู้ชายคนนั้นเซ็กซ์เจ๋งจริงก็อาจจะมีรอบสองรอบสาม หรือทุกครั้งที่เจอหน้า แต่เสร็จแล้วก็คือจบ ไม่ได้คบกันจริง ๆ จัง ๆ” น้ำเสียงของหญิงสาวฟังดูไม่ยี่หระกับเรื่องแบบนี้แม้แต่น้อย
“แล้วมีใครที่เคยตามมาหึงหวงจนทะเลาะตบตีกันบ้างไหม”
ชายหนุ่มถามโดยพยายามนึกถึงความเป็นไปได้ต่าง ๆ อันเป็นสาเหตุให้คนหนึ่งคนแค้นเคืองกันจนสามารถลุกขึ้นมาคร่าชีวิตของคนอื่นได้
“แทบไม่มีเลยค่ะคุณโอม อย่างที่บอกไปว่าพวกเราก็แค่สนุกกันบนเตียง แต่พอออกมาข้างนอกเราก็คุยกันเรื่องทั่วไป ถ้าคนไหนมากับแฟนเราก็ไม่ยุ่งด้วยอยู่แล้ว แต่ถ้าแฟนของพวกเขากลับไปก่อนก็ว่าไปอย่าง” หญิงสาวตอบเขาอย่างไม่แยแส ราวกับว่าเรื่องที่พวกเธอทำนั้นไม่ใช่เรื่องผิดอะไร
“แล้วมีคนคลั่งออยบ้างไหม เช่นว่าหลงหัวปักหัวปำน่ะ”
พชรหันมาจ้องหน้าแนนนี่ เห็นเธอทำท่าครุ่นคิดกับคำถามของเขาเมื่อครู่ ขณะที่แนนนี่นั้นเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยเมื่อใบหน้าของผู้ชายคนหนึ่งลอยขึ้นมาในห้วงความคิด
“พอจะนึกออกแล้วค่ะ เมื่อก่อนผู้ชายคนนี้เขาเคยคบหากับยายออยแบบจริง ๆ จัง ๆ เลยนะ แต่ก็เลิกกันไปเป็นปีแล้ว ตอนนี้ก็เป็นเพื่อนกันคุยกันปกติ” หญิงสาวทำท่ายักไหล่เพราะเห็นว่าไม่น่าจะใช่คนที่ชายหนุ่มสงสัย แต่พชรกลับไม่คิดอย่างนั้น เขาถามขึ้นทันทีด้วยความตื่นเต้น
“ใคร! แนนนี่”
พชรจ้องหน้าหญิงสาวเขม็ง ก่อนหันมองไปตามนิ้วเรียวยาวของเธอที่ชี้ลงไปยังบูธดีเจที่กำลังเปิดเพลงอยู่ด้านล่าง
“นั่นไงคะ เขาเป็นหนึ่งในทีมดีเจของคุณ ผู้ชายคนนั้นคืออาร์ม”
นายตำรวจหนุ่มนั่งอ่านรายงานจากตำรวจนอกเครื่องแบบที่เขาให้ไปหาข้อมูลเกี่ยวกับคดีของหญิงสาวที่ถูกฆ่าตายที่คลับของน้องชายว่าเกี่ยวข้องกับคดีที่เขากำลังให้ความสนใจอยู่ในขณะนี้หรือเปล่า เขารู้สึกว่าข้อมูลที่ได้รับมาจัดว่าน่าสนใจไม่น้อย เห็นทีเขาคงต้องไปเที่ยวที่คลับของน้องชายดูบ้างสักครั้ง
สารวัตรหนุ่มเอารายงานผลชันสูตรทางการแพทย์มาเทียบกับข้อมูลที่ได้รับจากลูกน้อง อ่านไปอ่านมาเริ่มรู้สึกว่าชักเข้าเค้าเข้าไปทุกทีว่าน่าจะเป็นคดีฆ่าตัดตอน ทว่าข้อมูลอีกหลายจุดที่ได้มาก็ขัดแย้งกันอยู่ว่าไม่ใช่เรื่องยาเสพติด ประเด็นการฆ่าเพราะเรื่องชู้สาวเขาก็ไม่อยากตัดไปเสียทีเดียวเพราะค่อนข้างเป็นไปได้ เนื่องจากผู้ตายเป็นสาวสวยทรงเสน่ห์ ทั้งยังร้อนแรง และมีผู้ชายมากหน้าหลายตาที่วนเวียนเข้ามามีสัมพันธ์ลึกซึ้งด้วย ไม่เว้นแม้แต่เจ้าน้องชายตัวดีของเขา
มีร่องรอยการร่วมเพศก่อนตาย แต่ไม่ใช่การข่มขืน...
ข้อนี้ไม่แปลก เพราะพชรก็พูดออกมาเองว่าสนุกกับเจ้าหล่อนถึงสองชั่วโมงก่อนจะกลับบ้าน
ในเลือดมีสารเสพติดจำพวกเมตแอมเฟตามีนเป็นจำนวนมาก...
นี่ก็เป็นเรื่องที่เขาไม่แปลกใจเท่าไร ทุกวันนี้นักเที่ยวส่วนใหญ่มักนิยมเสพย****์กันจนกลายเป็นเรื่องโก้หรูไปแล้ว
แต่ที่น่าแปลกคือทำไมกระเป๋าถือของผู้ตายถึงไม่ได้อยู่ข้างตัว แต่กลับไปพบในกองขยะในสภาพกระจัดกระจายเหมือนถูกรื้อค้นจนทั่วราวกับต้องการหาอะไรบางอย่าง เพราะมีคราบเลือดติดเต็มกระเป๋าด้านใน แต่กลับไม่มีลายนิ้วมือของบุคคลที่น่าสงสัยเลยนอกจากผู้ตาย และเพื่อนในกลุ่ม
ที่น่าสนใจยิ่งกว่าก็คือในกระเป๋าผู้ตายมีย****์อยู่ในซองซิปล็อกขนาดเล็กซุกซ่อนอยู่ในตลับแป้ง ถ้าผู้หญิงคนนี้ถูกฆ่าเพราะเรื่องยา หรือโดนตัดตอนจริง ๆ ยาก็น่าจะหายไปด้วย แต่นี่ยายังอยู่ครบ อีกทั้งตลับแป้งไม่โดนสัมผัสจากคนร้ายอีกด้วยเพราะไม่มีคราบเลือดติด
“หรือคนร้ายจะไม่รู้เรื่องย****์อะไรนี่เลย แล้วจะรื้อกระเป๋าหาอะไร” สารวัตรหนุ่มนั่งขบคิดจนหัวคิ้วแทบจะชนกัน เหลือบมองนาฬิกาเห็นว่าใกล้ได้เวลาผับเลิกแล้ว จึงเดินไปพยักหน้าให้ลูกน้องเป็นอันรู้กันว่าได้เวลาทำงานกันอีกครั้ง
ทันทีที่เห็นกลุ่มคนที่เดินเข้ามาในคลับแห่งนี้ ชายหนุ่มร่างสูงโปร่งหน้าตาดีที่ยืนประจำอยู่ตรงบูธดีเจก็รู้โดยสัญชาตญาณทันทีว่าภัยกำลังจะมาถึงตัว ถึงแม้คนกลุ่มนั้นจะไม่ได้สวมเครื่องแบบของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ แต่คนที่คร่ำหวอดอยู่ในวงการมานานอย่างเขามองปราดเดียวก็รู้แล้ว
ชายหนุ่มล้วงหยิบอะไรบางอย่างใต้โต๊ะวางเครื่องเสียง เพียงแค่เขาดึงมันเล็กน้อย ถุงซิปล็อกทึบแสงก็หลุดติดมือมาทันที เขารีบรวบมันไว้ในอุ้งมือแล้วยัดใส่มือหญิงสาวที่ยืนเปิดเพลงอยู่ข้างกันโดยไม่ให้เป็นที่ผิดสังเกต ก่อนจะหันไปพูดโดยไม่มีเสียง
“ฝากด้วยนะมิว”
หญิงสาวพยักหน้าให้เขาเล็กน้อย ไม่ได้พูดอะไรออกมาด้วยรู้ดีว่าต้องทำอย่างไร เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่อาร์ม เพื่อนชายที่เธอแอบหลงรักจะขอร้องให้ช่วยเอายาไปซ่อน ซึ่งเธอก็ยินยอมทำให้แต่โดยดีไม่มีปริปาก รู้ทั้งรู้ว่าเขาไม่เคยคิดรัก แต่ไม่ว่าเขาจะใช้ให้ทำเรื่องเสี่ยงแค่ไหน เธอกลับยอมทำให้เขาได้ทุกอย่าง
มิวเดินกำถุงซิปล็อกขนาดเล็กไว้แน่น ตรงดิ่งไปยังห้องล็อกเกอร์สำหรับพนักงาน เหลียวมองซ้ายขวาอย่างระแวดระวัง เมื่อเห็นว่าไม่มีใครจึงเอื้อมมือสอดเข้าไปตรงด้านหลังของตู้ล็อกเกอร์แล้วแปะถุงซิปล็อกไว้กับผนังด้านหลัง โชคดีที่กาวสองหน้ายังมีความเหนียวอยู่บ้าง มันจึงแปะติดเข้ากับพื้นผิวตรงนั้นได้อย่างง่ายดาย
หญิงสาวไม่รู้ตัวเลยว่าทุกการกระทำของตนนั้น ตกเป็นเป้าสายตาของใครบางคนที่แอบซุ่มดูอยู่เงียบ ๆ ตรงมุมมืดของห้องโดยใช้ตู้ล็อกเกอร์เป็นที่กำบัง ชายหนุ่มคนนั้นรอจนกระทั่งเห็นเธอเดินออกจากห้องเขาจึงเดินเข้าไปตรงบริเวณที่เธอเพิ่งทำลับ ๆ ล่อ ๆ เมื่อครู่ จากนั้นจึงสอดแขนของตนเองเข้าไปแล้วดึงกลับมาพร้อมกับอะไรบางอย่าง
เขายิ้มอย่างพอใจเมื่อเห็นสิ่งของในมือ เขารู้แล้วว่าดีเจหนุ่มคนนั้นซ่อนของอย่างไร แต่เอาเถอะ คราวนี้เขาจะปล่อยให้รอดตัวไปก่อน คราวหน้าเขารับรองได้เลยว่าไอ้หนุ่มหน้าอ่อนนั่นต้องไม่รอดเงื้อมมือเขาแน่!
มิวเดินกลับเข้ามายืนประจำที่ของตนเคียงข้างชายหนุ่มที่ฝากของให้เอาไปซ่อนเมื่อครู่ อาร์มหันมามองหน้าหญิงสาวแล้วเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย เห็นเธอยิ้มตอบกลับมา ใบหน้าหล่อใสนั้นจึงยิ้มกว้าง ก้มลงไปกระซิบข้างหูของหญิงสาวอย่างแผ่วเบาทำเอาหัวใจของสาวน้อยแทบละลาย
“ขอบใจนะมิว ถ้าไม่ได้มิว อาร์มก็ไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใคร”
ชายหนุ่มทำทีเป็นมองสบกับนัยน์ตาคู่หวานที่เปิดเปลือยความรู้สึกของหญิงสาวอย่างสื่อความหมาย ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าผู้หญิงตรงหน้าคิดกับเขาอย่างไร แต่เพราะมิวไม่ใช่สเปกของเขา เขาจึงไม่สามารถตอบรับความรู้สึกของเธอได้ อย่างไรเขาก็ให้ได้แค่ความเป็นเพื่อนเท่านั้น
มิวนั้นถึงแม้จะทำงานกลางคืน ทว่าความอ่อนเดียงสา ความไร้จริตจะก้านที่เหล่าผีเสื้อราตรีควรจะมี เธอกลับไม่มีเลยแม้แต่อย่างเดียว ใบหน้าก็สวยใสน่ารักดี แต่เธอไม่เหมาะสมกับคนอย่างเขา เขาไม่ปรารถนาจะให้ผู้หญิงดี ๆ อย่างเธอต้องมาเสี่ยงคุกเสี่ยงตะรางไปกับเขาด้วย แค่ที่เขาหลอกใช้เธอทุกวันนี้ก็มากเกินพอแล้ว แต่ถ้าจะให้เขาหลอกว่ารัก หลอกคบหาเพื่อหวังเซ็กซ์จากเธอเล่น ๆ นั้น เขาทำไม่ลง