“ครับ เดี๋ยวผมอยู่รอไหว้ท่านผู้หญิงก่อนครับ ขอบคุณคุณน้ากับน้องอ้อนมากครับ ที่ช่วยดูแลงานให้คุณแม่ เลยต้องเหนื่อยกันถ้วนหน้าเลยนะครับ”
“อุ๊ย! ไม่เป็นไรหรอกค่ะ คนกันเอง ผลัดกันช่วย ผลัดกันเป็นแขกอยู่แบบนี้มาตั้งนานแล้วนี่คะ น้าชินแล้วค่ะ ไปกันจ้ะอ้อนป่านนี้เชฟคงรอคำตอบแล้วล่ะ”
“ค่ะคุณแม่”
เขายิ้มด้วยความขอบคุณจากใจจริง เพราะรู้ว่าทั้งสองมาช่วยแม่เขาตระเตรียมงานนี้ตั้งแต่ต้นแล้ว จากนั้นความสนใจในตัวสองแม่ลูกที่กำลังเดินจูงมือกันไปก็จบลง เมื่อถูกแม่กวักมือเรียกให้ไปต้อนรับแขกพิเศษอีกคน และแน่นอนว่า ท่านผู้หญิงก็พ่วงลูกสาวกับหลานสาวมาอีกสาม
“แหม! เหมือนงานประชันสาวๆ ยังไงยังงั้นเลยนะพี่เกียร์ ดูสิ! มองไปทางไหน มีแต่สาวๆ สวยๆ ทั้งนั้น คุณแม่นี่เข้าใจจัดงานจริงๆ แล้วพี่เกียร์เลือกได้หรือยังล่ะ ว่าจะเป็นคนไหน”
จักรพันธุ์ ส่งเสริมสกุลไทย ลูกชายคนเล็กของบ้านในวัยสามสิบ เดินมากระซิบอยู่ข้างกายพี่ชาย เมื่อถูกแม่เรียกให้มาไหว้แขกซูเปอร์วีไอพีด้วยเช่นกัน
“นายล่ะ! เหล่ใครไว้บ้าง”
พี่ย้อนด้วยใบหน้าเจือยิ้มน้อยๆ แม้จะรู้ว่าน้องแหย่เล่นก็ตามที เพราะเห็นพ้องตามคำน้องไม่น้อย ยิ่งปีนี้เขาสามสิบเก้าแล้ว ทั้งแม่ทั้งพ่อต่างก็ตั้งหน้าตั้งตารอ ว่าเขาจะตัดสินใจเลือกผู้หญิงคนไหนมาเป็นคู่ครองสักที จะได้มีทายาทไว้สืบสกุลต่อไป
เขาเองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ เพราะกำลังคัดสรรและเลือกเฟ้นอย่างเข้มข้นอยู่เงียบๆ โดยไม่ให้ใครรู้ รวมทั้งบันทึกลับของสาวๆ ที่เขามีไว้ในแล็ปท็อปด้วย ทุกครั้งหลังเสร็จจากงานเลี้ยง งานสังสรรค์รื่นเริงต่างๆ หรือหลังกลับจากเดต เขาจะเปิดมันขึ้นมา แล้วเพิ่มหรือลดคะแนนหญิงสาวที่เขาหมายตาไว้ทีละคนๆ
จากตอนเริ่มมีหลายสิบคนเมื่อต้นปีก่อน ตอนนี้ลดลงเหลือหลักหน่วยแล้ว คนมีคะแนนนำโด่งในรายชื่อ ก็คือเจ้าของเรือนร่างผอมบาง ที่กำลังเดินดูความเรียบร้อยในงาน ช่วยแม่กับน้องสาวของเขาอยู่นั่นเอง ครอบครัวตั้งตรงธรรม กับครอบครัวเขา รู้จักกันมาไม่ต่ำกว่าสี่สิบปีแล้ว
สืบเนื่องมาจากจักรภพ พ่อของเขา กับอังกูรพ่อของปณิตา รู้จักกันในฐานะลูกหนี้กับเจ้าหนี้ กล่าวคือ อังกูรขณะนั้นทำงานเป็นผู้จัดการธนาคารที่พ่อไปกู้เงินเพิ่ม ด้วยสถานการณ์อันร่อแร่ของพ่อ
ไม่ว่าจะไปหันหน้าเข้าหาธนาคารไหน ก็ได้รับแต่คำปฏิเสธ แต่พ่อกลับทำให้อังกูรเชื่อมั่นได้ จนปล่อยเงินกู้จำนวนหลายสิบล้านให้ แล้วยังช่วยแนะนำแผนการจัดการด้านการเงินให้อีก ทำให้ทั้งสองสนิทกันมาตั้งแต่นั้น
และถ้าจะให้เดาต่อ เขาเชื่อแน่ว่า สองพ่อจะต้องอยากให้เกี่ยวดองกันเป็นแน่แท้ เพียงแต่ไม่มีใครเอ่ยออกมาให้เขาได้ยินเท่านั้น เพราะพ่อแม่เขาเปิดกว้างให้ลูกทุกคน เรื่องการเลือกคู่ครอง จะไม่มีทางคลุมถุงชนเหมือนเมื่อก่อนแน่ๆ
แต่บ่อยครั้งจะเห็นพ่อแม่ คอยลุ้นให้เขาเลือกปณิตา เขาเองก็ไม่ได้ปิดกั้นสาวสวย ดีกรีนักเรียนนอกเลยสักนิด แม้อายุจะห่างกันถึงสิบสองปี แต่ปณิตาก็เป็นผู้ใหญ่เกินอายุ ขยันขันแข็งช่วยงานพ่อกับพี่ๆ บริหารกิจการด้านการส่งออก
นับตั้งแต่เรียนจบจากอังกฤษกลับมา แถมยังเปิดร้านดอกไม้ของตัวเอง แยกย่อยออกไปอีก แม้เขาจะไม่ได้เข้าไปคลุกคลีสักเท่าไหร่ แต่ก็รับรู้ข่าวคราวของหญิงสาวได้เนืองๆ จากทั้งพ่อและแม่ของเขา
เพราะเขายังไม่ได้แสดงออกให้ผู้คนรอบข้างเห็น ว่าจะคบใครจริงจัง ในเมื่อเป็นช่วงคัดสรร เขาก็จำเป็นจะต้องพบปะผู้หญิงมากหน้าหลายตา เพื่อดูนิสัยใจคอให้ได้มากที่สุด หลังจากตรวจดูเรื่องภูมิหลังด้านครอบครัวมาในระดับหนึ่งแล้ว
เขาจึงให้ความสัมพันธ์กับสาวๆ เหล่านั้นคงไว้แค่คนรู้จักมักคุ้นก่อน แต่เมื่อไหร่ที่คะแนนของสาวคนไหนนำโด่งจนเป็นที่พึงใจ นั่นล่ะทุกคนจะได้รู้ว่า เธอคนนั้นคือ
‘ว่าที่สะใภ้ใหญ่แห่งตระกูล ส่งเสริมสกุลไทย’
เขาอิจฉาพ่อเสมอมา ว่าเลือกคู่ชีวิตได้ดีเยี่ยม แม่ของเขานั้นดีจนไร้ที่ติ เรือนสามน้ำสี่ ตามโบราณว่าไว้ แม่มีครบถ้วนอย่างไม่ขาดตกบกพร่องเลย
แม้แม่อายุหกสิบแล้ว แต่ผมแม่ยังคงดกและเงางามเสมอๆ ส่วนสีผมที่ควรจะดำนั้น เขาก็ไม่ค่อยเคยเห็น เพราะเขามักจะเป็นสีน้ำตาลตามสมัยนิยมเสมอมา
เรื่องเรือนกายนั้น บอกได้คำเดียวว่าสาวรุ่นๆ ยังอาย เพราะแม่สามารถรักษาทรวดทรงองเอวได้ดีไม่หนีตอนสาวๆ เลย แม้จะมีลูกตั้งสี่คนแล้ว เรื่องเรือนนอนนั้น
เขาใช้บ้านหลังนี้วัดความสมบูรณ์แบบของแม่ เพราะสามารถดูแลความเรียบร้อยได้ดีเยี่ยม แม้บ้านจะอายุยี่สิบแปดปีแล้ว แต่ยังสวยเหมือนใหม่ไม่เปลี่ยนแปลง
ส่วนน้ำสี่นั้นแม่ก็จัดการได้ดีเยี่ยมไม่แพ้เรื่องอื่น เรียกว่าทุกเช้าพ่อและลูกทุกคนในบ้าน จะได้ดื่มน้ำตอนตื่นนอนเสมอๆ รวมทั้งน้ำผลไม้เพื่อสุขภาพ แม่ก็จะสั่งคนจัดไว้ให้ดื่มไม่มีขาดตกบกพร่องระหว่างเวลาทำงานด้วย
น้ำใช้ของลูกๆ แม่ก็ให้ความสำคัญไม่น้อย ด้วยการกำชับคนรับใช้ในบ้าน ให้คอยดูแลใส่เครื่องหอมลงในจากุซซี่บ่อยครั้ง เรื่องน้ำใจนั้น แม่จัดได้ว่าเป็นผู้มีจิตใจอันประเสริฐยิ่ง ทั้งกับบรรดาญาติทางแม่ ทางพ่อ กับเพื่อนสนิทมิตรสหาย กับคนรับใช้ ตลอดจนคนร่วมซอย แม่ก็มักจะเลี้ยงอาหารปีละหลายครั้ง
ยังไม่นับรวมคนตกทุกข์ได้ยาก คนด้อยโอกาส คนพิการ ที่แม่จัดตั้งสมาคมขึ้นเอง เพื่อไว้คอยช่วยเหลือเสมอมา การพูดจาของแม่นั้น ก็อ่อนหวาน ไพเราะเพราะพริ้งเสมอ ไม่บ่อยเลยที่เขาหรือคนในบ้านจะเห็นแม่ตะคอกใคร
เขากับน้องชาย เลยต่างพากันตั้งจิตอธิษฐานทุกครั้งเวลาทำบุญ ว่าขอคู่ชีวิตให้ได้เหมือนแม่ หรืออย่างน้อยๆ ก็ขอสักครึ่งของแม่ก็ยังดี และจนป่านนี้ เขาก็ยังไม่เจอคนแบบนั้นเลย
จะมีใกล้เคียงสุดๆ ก็คงจะเป็นปณิตานี่เอง แต่เขาก็ยังไม่อยากเผยให้เจ้าตัวรู้ เพราะอยากดูไปให้นานๆ ให้มั่นใจกว่านี้หน่อย อีกทั้งจะได้มีโอกาสดูคนอื่นๆ ไปด้วย ในเมื่อยังมีสิทธิ์เลือก ก็อยากใช้สิทธิ์ให้เต็มที่ก่อน