“อืมๆ ๆ”
“งั้นเต้ยเข้าไปดูกระเป๋าเลยนะครับ”
“โอเค ขอบคุณมาก”
เต้ยค้อมตัวเล็กน้อยตอนเดินหน้าเจ้านายหนุ่มไป เพื่อรื้อกระเป๋าหลายใบที่นอนรออยู่ในห้อง เป็นการช่วยงานเบื้องต้นให้แม่บ้านในระดับหนึ่งก่อน
“เข้างานกันเถอะ ป่านนี้คุณแม่บ่นหาแย่แล้ว”
พอลงมาชั้นล่างแล้วเห็นผู้ช่วยรออยู่ จักรภัทรก็เอ่ยด้วยท่าทีเร่งรีบและรู้สึกผิด เพราะจะสามทุ่มแล้ว แต่ลูกคนโตเจ้าของงานยังไม่ออกไปทักทายแขกเลย ทว่าผู้ช่วยกลับมีท่าทีไม่เป็นทุกข์เป็นร้อนนัก
“ไม่บ่นหรอกครับ เพราะผมบอกคุณท่านแล้ว ว่าคุณเกียร์ยังไม่ได้นอนเลย เสร็จจากลูกค้าก็รีบบินมา คุณท่านถึงไม่ให้ใครไปตามไงครับ”
“เหรอ ขอบคุณมาก”
จักรภัทรยิ้มน้อยๆ ให้ผู้ช่วยที่มักจะรู้งาน รู้กาลเทศะเสมอมา แล้วเดินนำไปหน้าบ้าน สวมรองเท้าในมือ ก่อนจะตรงไปยังสนามหญ้า มีโต๊ะตั้งเรียงรายอยู่ร้อยกว่า ผู้คนมาร่วมงานมากหน้าหลายตา แม่กับน้องสาวทั้งสอง ยืนรอรับแขกอยู่ซุ้มเข้างานเรียบร้อยแล้ว
“มาแล้วเหรอจ๊ะลูกชายแม่”
จารุณี ส่งเสริมสกุลไทย ในชุดราตรียาวสีขาวสะอาดตา มองลูกชายเดินมาพร้อมผู้ช่วยคู่ใจ ก็ส่งเสียงนุ่มกับยิ้มสว่างไสวมาหา บ่งบอกว่ามีความสุขกับวันพิเศษของตัวเอง
“สุขสันต์วันเกิดครับคุณแม่ ของขวัญจากลูกชายคนโตครับ”
จักรภัทรยื่นมือไปรับกล่องของขวัญจากเนติมาส่งให้แม่ ก่อนจะเข้าไปโอบกอดแม่ แล้วยอมให้แม่หอมแก้มซ้ายที ขวาที ท่ามกลางสายตาของผู้คนในงานต่างมองมาหา รวมทั้งน้องสาวทั้งสองของเขา ที่กำลังต้อนรับแขกแทนแม่อยู่ไม่ห่างด้วย
“ขอบใจจ้ะลูกชายแม่ คุณหญิงกับหลานๆ มาพอดี งั้นก็มาช่วยแม่ต้อนรับ กับถ่ายรูปกับคุณหญิงก่อนสิจ๊ะ แล้วค่อยเข้างาน”
เขายกมือไหว้คุณหญิงที่แม่หันไปมองด้วยท่าทีนอบน้อม แล้วรับไหว้หลานสาวสวยใสทั้งสอง ที่เดินตามคุณหญิงมา ก่อนจะทักทายกันด้วยท่าทีคุ้นเคยไม่น้อย เพราะเจอกันในงานสังคมต่างๆ บ่อยครั้ง
“สองสาวมาถ่ายรูปเร็วสิจ๊ะ”
คุณหญิงในชุดไหมสีขาวกวักมือเรียกหลานสาว ในชุดสีเดียวกันด้วยท่าทีกระตือรือร้น แถมยังผลักให้หลานยืนเบียดกับลูกชายคนโตของเจ้าภาพอีก
และแม้ตั้งใจจะถ่ายรูปคู่กับคุณหญิงเท่านั้น แต่เอาเข้าจริงๆ จักรภัทรก็ต้องยืนให้แขกคนอื่นที่ต่างพาลูกสาวหรือไม่ก็หลานสาว มาร่วมงานอยู่นานเกือบครึ่งชั่วโมง
“แม่ฝากเกียร์ช่วยดูแลหนูอ้อนด้วยนะจ๊ะ มาช่วยตั้งแต่เมื่อวานแล้ว ไม่รู้ตอนนี้อยู่ไหน วีกับซีเห็นน้องมั้ยจ๊ะ” จารุณีหันไปหาลูกสาวทั้งสอง ขณะกำลังคุยกับเพื่อนๆ อยู่ไม่ห่างจากซุ้มทางเข้านัก
“เมื่อกี้บอกว่าจะไปเข้าห้องน้ำนะคะคุณแม่”
จารุกร ส่งเสริมสกุลไทย ลูกสาวคนเล็กในวัยสามสิบเอ็ดหันมาบอกแม่ แล้วรีบหันไปคุยกับเพื่อนต่อ
“ออกมาแล้วนะซี เราเห็นเดินไปคุยกับเชฟอยู่ทางโน้น พี่เกียร์ลองเดินดูตรงแถวรถจัดอาหารสิคะ เผื่อจะอยู่แถวนั้น”
จารวี ส่งเสริมสกุลไทย น้องสาวคนกลางในวัยสามสิบสองบอกน้องสาวที่ห่างกันแค่ปีเดียว แล้วหันไปบอกพี่ชายคนโตของบ้านต่อ ก่อนจะเดินตรงไปกวักมือเรียกกลุ่มเพื่อน ที่เพิ่งพากันเดินมาถึง จักรภัทรไม่ได้คิดจะทำตามคำน้องแต่อย่างใด เพราะมีแขกเหรื่อมากมายในงานให้ต้องเข้าไปทักทายอยู่แล้ว
“ไม่ต้องไปแล้วล่ะลูก โน่นๆ หนูอ้อนมากับคุณอ้วนแล้วล่ะ”
จารุณีชี้บอก ลูกชายเลยต้องหันไปยังทิศทางมือของแม่ ก็เห็นเจ้าของรูปร่างผอมเพรียว สูงร้อยเจ็ดสิบในชุดราตรีลูกไม้สีขาวสั้นระดับเข่า รองเท้าส้นสูงสีเดียวกัน ช่วยส่งให้หญิงสาวสวยสง่าได้อย่างดี ส่วนตัวเสื้อที่เป็นแขนกุดนั้น ก็ดูเรียบร้อย เหมาะกับงานกลางแจ้งไม่น้อย และกำลังเดินมาคู่กับแม่มา
“สวัสดีครับคุณน้า”
จักรภัทรรีบยกมือไหว้ปราณี ตั้งตรงธรรม หรือหญิงที่แม่เขาจะเรียกว่าคุณอ้วนจนติดปาก แม้จะเป็นเพื่อนกันมาไม่น้อยกว่าสี่สิบปีแล้วก็ตาม แต่ทั้งสองต่างก็ใช้สรรพนามเรียกกันว่า ‘คุณ’ แบบนี้ไม่เคยเปลี่ยนแปลง
“สวัสดีค่ะคุณเกียร์ เป็นยังไงบ้าง ไปยุโรปคราวนี้ ได้ลูกค้ามากี่ร้อยคนคะ”
“ไม่ขนาดนั้นครับคุณน้า”
ปากก็ตอบคนที่เขาเรียกน้าไป ส่วนมือนั้นก็ยกรับไหว้ ปณิตา ตั้งตรงธรรม สาวสวยวัยยี่สิบเจ็ดปี ที่ยกมือไหว้เขาด้วยความนอบน้อม แล้วยิ้มบางๆ ให้ แต่ไม่ได้เอ่ยอะไร เพราะผู้ใหญ่คุยอยู่เลยไม่อยากแทรก
“คุณอ้วนกับหนูอ้อนกินอะไรกันหรือยังคะ เห็นเดินช่วยนั่นนี่ตลอด กล้วยเกรงใจจังเลยค่ะ”
“คุณกล้วยไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ เราสองแม่ลูกได้ช่วยงาน ท้องก็อิ่มแล้วล่ะค่ะ นี่อ้วนก็กำลังจะมาบอกว่าเชฟกลัวอาหารไม่พอ เพราะแขกมาเกินที่แจ้งไว้หลายโต๊ะ เลยจะให้ทางโรงแรมจัดอาหารมาสำรองไว้อีก คุณกล้วยจะว่ายังไงคะ”
“ตามสบายเลยค่ะคุณอ้วน ขอบคุณมากเลยที่เป็นหูเป็นตาให้ มีอะไรหรือเห็นอะไรไม่พอ ก็จัดการตามแต่จะเห็นสมควรเลยค่ะ กล้วยอยู่รับแขกตรงนี้ ก็ไม่มีเวลาไปมองอะไรอีก อุ๊ยต๊าย! ท่านผู้หญิงมาแล้วค่ะ ขอตัวนะคะ ยัยวีกับยัยซีไปช่วยแม่ต้อนรับท่านเร็วๆ ลูก”
จักรภัทรมองแม่ที่แม้จะหกสิบแล้ว แต่ยังหุ่นผอมเพรียว กวักมือเรียกสองสาวให้ตามไป แล้วก็หันมายิ้มให้สองแม่ลูก ที่ต่างมองไปยังแขกซูเปอร์วีไอพีของแม่เป็นตาเดียวกัน
“งั้นน้ากับน้องอ้อนจะไปบอกเชฟก่อนนะคะ คุณเกียร์จะได้เข้างานสักทีค่ะ เห็นเมื่อกี้คุณจักรถามหาอยู่แน่ะค่ะ”