“ข้าวหอมว่าเมื่อกี้คุณลุงคุณป้าดูแปลกๆ ไปนะคะแววตาเศร้าชอบกลเหมือนมีเรื่องหนักใจ คุณวินเห็นไหมคะ”
พูดเร็วไม่ได้ขอบปากตึงไปหมด สองหนุ่มสาวนอนบนเตียงเดียวกันใบหน้ามีแผ่นมาส์กหน้าแปะทั้งคู่ โทษฐานที่เขาเข้ามากวนขอนอนด้วยหล่อนก็เลยแปะเจ้านี้ใส่หน้าซะเลยต่อมหื่นจะได้ลดๆ ลงบ้าง
ในมือจับโทรศัพท์ไว้มั่นเล่นเกมเมามันแต่ก็ไม่ลืมสนทนากับคนรัก “คิดมากน่า เมื่อกี้คุณแม่ยังทำตาขวางด่าพี่ฉอดๆ อยู่เลย”
“ข้าวหอมเห็นจริงๆ นะคะไม่ได้คิดมากไปเอง”
“คุณแม่อาจจะเครียดเรื่องทริปยุโรปก็ได้ ไม่รู้จะใช้บริการทัวร์ของบริษัทไหนดีเพราะทัวร์เจ้าประจำไกด์ทำแสบไว้”
“ท่านจะคิดมากเพราะเรื่องพวกนี้เหรอคะ”
“อย่ามองข้ามเชียว นี่เรื่องใหญ่เลยนะสำหรับคนชอบเที่ยวแบบคุณพ่อคุณแม่พี่” ร้องโวยวายตามเกมในหน้าจอสุดท้ายก็เกมโอเวอร์ “เยส! คะแนนรวมแซงหน้านายธันอีกแล้วงานนี้ต้องแชร์อวด”
ฐานิดาส่ายศีรษะ บ่นอุบอิบไม่ให้เขาได้ยิน “โตจะแย่ยังจะมาเล่นเกมแข่งกันเป็นเด็กๆ ไปได้”
“ลองเล่นไหม?”
“ไม่ค่ะ”
“น่านะ ลองเล่นหน่อยเดี๋ยวจะติดใจโหลดมาเล่นแทบไม่ทัน” ชายหนุ่มจัดการยัดโทรศัพท์ใส่มือแฟนสาว กดเข้าเกมให้แล้วคอยบอกคอยสอนจนหล่อนสามารถเล่นเองได้
“สนุกไหม”
“สนุกค่ะแต่ข้าวหอมเมื่อยปลายนิ้ว”
“จบเกมเดี๋ยวพี่นวดให้”
“ใจดีอีกแล้ว แต่คราวนี้ไม่มีรางวัลให้หรอกนะคะ” สายตายังสนใจเกมในหน้าจอลุ้นตามตัวโก่งเข้าใจอารมณ์ของคนติดเกมก็ตอนนี้ แทบจะไม่อยากละสายตาจากหน้าจอมองใครทั้งนั้น
“ว้า เกมโอเวอร์แล้ว”
ในวินาทีนั้นเองเมื่อมองหน้าคนรักถึงเห็นว่าเขาจ้องมองตนเองตลอดตาแทบไม่กะพริบ “มองอะไรคะ”
ฐานิดาเขินเล็กน้อยทำซ่ายื่นมือไปให้เขานวดตามคำบอกเล่าก่อนหน้าแต่พอเขาจะนวดจริงๆ กลับเป็นหล่อนเองที่ยันกายลุกขึ้นนั่งบนเตียงดึงแผ่นมาส์กออกจากหน้าตนเองและชายหนุ่ม
ปลายนิ้วเล็กจิ้มลงบนแก้มสาก จิ้มเล่นแบบนั้นไม่รู้เบื่อ “โอ้โห มาส์กเขาดีจริงๆ ทำแป๊บเดียวหน้าหล่อออร่าจับเชียว”
“เดี๋ยวเถอะ กวนพี่ใหญ่เลยนะ”
“ไว้มามาส์กหน้ากับข้าวหอมบ่อยๆ นะคะ”
“ได้เลย” รับปากแล้วแสร้งอ้าปากหาวนอน “ง่วงนอนจังเลย ขอนอนก่อนนะฝากปิดไฟด้วย” ว่าจบก็หลับตานอนทันที
“ไม่ได้ค่ะอย่ามาทำเนียน ลุกขึ้นไปล้างหน้าแล้วกลับไปนอนห้องตัวเองเลย ลุกกกกกกก” คนตัวเล็กฮึดสู้พยายามงัดแขนก็แล้ว งัดขาก็แล้วเขาก็ไม่ยอมลุกดื้อจะขอนอนด้วยตลอด ตัวหนักเหมือนพ่อหมีลากยังไงก็ไม่ขยับ สุดท้ายก็ถอดใจเดินลงจากเตียงไปหยิบผ้าชุบน้ำสะอาดมาเช็ดหน้าให้กลัวเขานอนไม่สบาย
“อยากนอนบนเตียงก็เชิญค่ะข้าวหอมลงไปนอนบนพื้นก็ได้” หล่อนบ่น สะบัดค้อนใส่คนแกล้งหลับ หันหลังเดินหนีทว่ากลับถูกท่อนแขนแข็งแรงเกี่ยวรัดเอวคอดไว้ทำให้เสียหลักล้มลง
“อุ๊ย…” หล่อนพยายามลุกขึ้น
“พี่ขอโทษ เจ็บมากไหม” ยามเอ่ยขอโทษไม่ได้รู้สึกอย่างนั้นชัวร์ร้อยเปอร์เซ็นวัดได้จากความระยิบระยับของแววตา
“จุกมากกว่าค่ะ คุณวินรีบกลับไปนอนห้องตัวเองเถอะนะคะ ข้าวหอมกลัวมีคนมาเห็น”
“ระเบียงห้องนอนเราติดกันก้าวนิดเดียวก็ข้ามได้แล้วไม่ต้องกังวลหรอก พี่จะกลับห้องก่อนข้าวหอมตื่นแล้วก็สัญญาว่าคืนนี้จะไม่ล่วงเกินไปมากกว่ากอดและจูบ ทีนี้จะนอนลงได้หรือยัง”
“แต่ว่า...” ดวงตาหล่อนกลอกลอกแลกไปมา
ชวินทร์ทำเหมือนที่นี่เป็นห้องนอนตัวเองจัดการปิดไฟครบทุกดวงแล้วทำหน้ามึนกลับมานอนกอดคนรักแน่น “ไม่มีแต่อะไรทั้งนั้น นอนเถอะนะคนดีคนเก่งของพี่” ชายหนุ่มกระซิบพลางขยับกายเข้าสวมกอดคนตัวเล็กใช้จมูกดันจมูกหล่อนเล็กน้อย จุ๊บเบาๆ
“ค่ะ” ฐานิดาพยักหน้ารับนอนหลับในที่สุด
สี่ทุ่ม... ตายังสว่าง
ห้าทุ่ม... ตาก็ยังสว่าง ต่างจากคนข้างๆ ที่หลับตั้งแต่สิบนาทีแรก บ้าชะมัด! ชวินทร์ข่มตานอนไม่หลับคอยจ้องมองดวงหน้าจิ้มลิ้มนานกว่าค่อนคืนตาค้างจากอารมณ์ร้อนรุ่มที่เกิดในช่องท้อง
ไม่คิดไม่ฝันมาก่อนว่าคนอย่างเขาจะต้องมาอดทนกับเรื่องแบบนี้ มีผู้หญิงสวยๆ นอนอยู่ในวงแขนใกล้แค่ปลายจมูกแต่ทำอะไรไม่ได้ไปมากกว่ามองและแอบฉวยโอกาสสูดกลิ่นหอมเย้ายวน
อารมณ์ในตอนนี้เหมือนกินกระทิงแดงผสมกาแฟปิดท้ายด้วยของเปรี้ยว กินลงไปแล้วจี๊ดแทบไม่อาจข่มตาให้หลับได้
นับแกะก็แล้วนับเลขเป็นภาษาไทยภาษาอังกฤษก็แล้วไม่ได้ผลสักทาง นัยน์ตาคมคายมองผ่านดวงหน้าเร้าอารมณ์ไปยังนอกหน้าต่าง พระจันทร์เต็มดวงแผดแสงสีนวลมาถึงในห้องนอนเชียว
แอบสัมผัสสักนิดได้ไหมนะ?
ไม่ ไม่ควร! น้องจับได้ทีหลังมีหวังไม่ให้นอนด้วยอีกแน่
ชวินทร์สะบัดใบหน้าไล่ความคิดนั้น เบนสายตามองคนที่นอนหลับไม่รู้เรื่องแล้วก็อ่อนอกอ่อนใจ
“หลับสบายเชียวนะ เฮ้อ...” ตัดอกตัดใจวางมือโอบคนตัวเล็กเข้ามาแนบอกใกล้มากยิ่งขึ้นทว่าน้องครางประท้วงพยายามพลิกกายไปอีกทาง อากัปกิริยาละเมอเหมือนรำคาญเขาซะงั้น
ชวินทร์ลุกขึ้นกึ่งนั่งกึ่งนอนชะเง้อคอข้ามไปมองคนตัวเล็ก วางมือเหมาะเจาะบนหัวไหล่บอบบางจะจับให้กลับมานอนซบอกเหมือนเดิม มีจังหวะหนึ่งท่อนแขนดันทะลึ่งไปโดนทรวงอกหล่อนเข้า เขาถึงกับสะดุ้งรีบท่องนะโมในใจสามจบปราบมารในกายไม่ให้ตื่น
มือหนาลูบหน้าอกข้าวซ้ายแรงๆ ให้ลดความตื่นเต้นลงมา เช็ดเหงื่อกาฬที่ไหลพลั่กๆ หลับตาแน่นดับจินตนาการติดเรตในหัว
ใจเย็นๆ น้องยังไม่รู้ตัว
ชวินทร์สูดลมหายใจเข้าลึกหลายนาทีกว่าจะสามารถควบคุมจังหวะหัวใจและมือสองข้างที่สั่นเทาได้
“อืม... ไม่ค่ะ จะกินพิซซ่า...” คนตัวโตหันขวับมองนึกว่าฐานิดาตื่น ที่ไหนได้ ละเมอ! ไม่ไหวเลยดันละเมอเรื่องของกินซะได้
กายกำยำล้มตัวลงนอนอีกครั้งรวบเอวคอดเล็กรั้งเข้ามาแนบแผ่นอกกำยำ ตัวสั่นเล็กน้อยไม่อยากทำอะไรอย่างที่ใจต้องการ แต่... ขอชื่นใจชื่นชมร่างหล่อนนิดๆ หน่อยๆ คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง
“ขอโทษนะที่รักไว้พรุ่งนี้พี่จะพาไปกินพิซซ่า” มือหนาวางทาบบนเอวคอดเล็กหลับตาแน่นขณะตลบชุดกระโปรงเบาบางขึ้นสูง น่าเสียดาย ปกติแอบเห็นหรอกว่าน้องชอบไม่ใส่บราเซีย์เข้านอนแต่คืนนี้กลับสวมใส่ซะมิดชิดราวกับรู้ทันความคิดว่าเขาต้องขอนอนด้วย
ชวินทร์พลิกกายขึ้นด้านบนมาคอยลุ้นการแกะของขวัญ ตลบชุดนอนขึ้นมาวางเหนือทรวงอกในขณะเดียวกันก็เหงื่อตกแอบลอบมองปฏิกิริยา ถือว่าโชคดีที่หล่อนขี้เซาไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร
ลอบกลืนน้ำลายอึกใหญ่ลงลำคอ กลั้นหายใจสอดมือลงใต้แผ่นหลังบอบบางปลดตะขอเล็กปลดปล่อยทรวงงดงามให้เป็นอิสระ วินาทีแรกที่ได้ยลโฉมแบบเต็มตาชวินทร์ถึงกับอ้าปากค้าง มวลความต้องการมากมายมหาศาลแล่นลงไปรวมกันในจุดนั้น
คนตัวโตหยัดกายขึ้นตั้งตรงกวาดสายตามองภาพงดงามเบื้องล่างเก็บไว้ในความทรงจำว่าครั้งหนึ่งเคยแอบทำอะไรแบบนี้ ร่างกายหญิงคนรักงดงามปานนางฟ้านางสวรรค์ ดวงหน้า ผิวพรรณ รูปร่างรวมถึงหน้าอกหน้าใจ ทุกอย่างในตัวหล่อนทำเขาให้คลั่งแทบบ้า สูดลมหายใจฟุตฟิตหลายครั้งไม่รู้ว่าเลือดกำเดาไหลหรือเปล่า
ชวินทร์สบถหลายต่อหลายครั้งด่าความหื่นของตัวเอง ใช้สองมือโอบประคองสองเต้างดงามอย่างทะนุถนอมลุ่มหลงในความอวบอิ่มและกลิ่นกายหอมยั่วตัณหาราคะ เขาหลุดเสียงครางมือไม้สั่นไปหมดเพราะมือสั่นนี่แหละทำให้เขาเผลอนวดคลึงหนักมือจนคนตัวเล็กส่งเสียงครางฮึมฮัมในลำคอประท้วงพยายามพลิกกายหนี
เขาตกใจจนต้องรีบหยุดมือหยุดการกระทำก่อนจะเคลื่อนกายขึ้นไปกอดและกล่อมหล่อนให้นอนหลับ เฮ้อ! เกือบซวยไหมล่ะ
แตะริมฝีปากลงบนหน้าผากนวลก่อนเลื่อนลงมายังต้นคอหอมกรุ่น อดใจไม่ไหวก็ขบเม้มฝากรอยรักไว้ให้เป็นของขวัญ ปัดป่ายปลายลิ้นเปียกชื้นมายังทรวงอกใหญ่เกินตัวครอบครองหล่อนไว้ทั้งริมฝีปาก โอ้ว... ให้ตายเถอะ เขาตื่นเต้นจนจะบ้าอยู่แล้ว
....................
ฝากนิยายด้วยนะคะ