You're my Baby!! Chapter 2.2

2257 คำ
    “หยังจารย์” ผมโผล่พรวดพราดเข้าไปในห้องของอาจารย์พรฤดีทันทีครับ รู้สึกว่าจะเป็น ม. ๖ นะที่เรียนแล็ปอยู่ ไม่สนเว้ย             “นี่บักเดี๋ยว มารยาทน่ะ สะกดเป็นไหม ครูสอนพี่เขาอยู่นะ”             “เป็น แต่บ่สน บ่มีแม่นบ่ ซั่นผมไปเด้อจารย์” สนใจที่ไหนล่ะ ผมรู้ล่ะ ว่าแกจะคุยเรื่องอะไร ก็จะเรื่องอะไรล่ะครับ ก็เรื่องเข้าค่ายนั่นไง             “เออๆ แป๊บนะคะนักเรียน ครูคุยกับไอ้นี่ก่อน”             “แบงค์มียาสูบบ่ ขอแน่ะ” ผมเดินไปหารุ่นพี่ทันที ผมไม่เคยเรียกพวกมันว่าพี่ครับ ก็มันเป็นหนึ่งในทีมฟุตบอล นักกีฬาแต่ทำตัวเอี้ยกันทุกตัวครับท่าน ขอบอก มันทำหน้าเหรอหรา เพราะรู้ว่าอาจารย์พรฤดีแกดุ แต่ผมไม่สนใจครับ เพราะผมแน่กว่ามัน             “บ่มีดอก มึงเป็นบ้าติ๊” มันกัดฟันพูดครับ ไรวะไอ้บ้านี่ เดี๋ยวเถอะมึง             “อะไรกัน มานี่เลยบักเดี๋ยว มึงนี่เหลือเกินจริงๆนะ เดี๋ยวกูจะบอกให้พ่อมึงจัดการเลยนะ อย่าซ่าให้มาก” พ่อผมในที่นี้หมายถึงอาจารย์เดชนะครับ ก็โค้ชทีมฟุตบอล และอาจารย์ปกครอง ที่ดุที่สุดในโรงเรียนนั่นล่ะครับ แต่อาจารย์พร ฤดีแกคงจะลืมไปว่าผมไม่กลัว เป็นไงล่ะ ขู่ใครไม่ขู่มาขู่ไอ้เดี๋ยวนะเว้ยเฮ้ย             “เดี๋ยวกูมาเอา” ผมยังไม่สนใจแกครับ แต่บอกไอ้แบงค์ไว้แล้วหันหน้าไปหาแก แกเดินออกไปนอกห้องรอผมแล้ว ทำไมต้องคุยนอกห้องแอร์ด้วยวะเนี่ยกูไม่เข้าใจ             “แม่งดูดเปลือง แต่บ่ซื้อเอง” อ้าวไอ้เชี่ยแบงค์บ่นครับ ผมหันขวับทันที พยักหน้าให้มัน ประมาณว่ามึงพูดอะไรวะ มันก็หลบหน้าไปทางอื่นทันทีครับ             “เรื่องไปเข้าค่ายน่ะ รู้แล้วใช่ไหมบักเดี๋ยว”             “ฮู้ครับ”             “คุณปลัดเขามีเมตตากับมึงมากนะ เขาไม่ให้พักการเรียน แต่ให้ไปเข้าค่ายกับอุรดิศ เดี๋ยวครูจะให้พี่สายใจไปด้วย กับพี่พงศ์ห้องหนึ่ง”             “ไปหยังสี่ห้าคนจารย์ ผมสละ”             “หยุด หุบปากเลย นี่เขาเมตตามึงนะ ยังจะมาสละอะไร” อ้าวนะยังพูดไม่ทันจบเลย             “สละไซเดอร์เด้จารย์ อีหยังเนี่ย ครับไปกะไป แต่ผมบ่รับประกันความปลอดภัย ของนักเรียนโรงเรียนอื่นเด้อจารย์” โดยเฉพาะไอ้หน้าจืดนั่นครับ มึงตายคาตีนกูแน่ๆ             “เอาสิบักเดี๋ยว คราวนี้มีแต่หัวกะทิ มาจากโรงเรียนทั้งหมดในภาคอีสาน ถ้ามึงจะกล้า ก็เอาเลยมีวิทยากรมาจากต่างประเทศ มึงกล้าทำก็เอาเลย” อ้าวขู่กันว่างั้น หนอยแน่ ผมไม่ตอบครับ เดินหนีไปทันที โว้ย หงุดหงิดเว้ย ไปเตะบอลดีกว่า แม่งหาบุหรี่ดูดก็ไม่มี             “มึงเอามาจั่กโตกะน่ะบักไม้” พอเห็นหน้าสัดไม้ผมก็ปรี่เข้าไปหามันครับ             “จารย์วัณด่ากู แม่งเอ้ย ทีมึงบ่เห็นว่าหยัง อีหยังวะบ่อยุติธรรม” มันบ่นครับ คือสัดไม้มันหล่อไม่มากนะครับ แต่ อ๊ะๆ ผมไม่เผาเพื่อนผมหรอกน่าอย่ามาอยากรู้ว่ามันหน้าตาเป็นยังไง ไม่มีทางบอกเว้ย             “เออ มึงอย่าคิดมาก เอามานี่กะน่ะ”             “กูลืมซื้อ มึงออกไปซื้อแน่ะ”             “เชี่ย เออๆ บ่มีกะบ่มี ไปเตะบอล” หงุดหงิดครับ จะซื้อได้ไงก็คุณนายแต๋วให้เงินมาจำกัด แม่ผมน่ะนะ ที่ว่าผมฉลาดแล้วแม่ผมคูณสองครับ ไม่มีเงินเหลือจะไปทำนั่นนี่หรอก อยากกินขนมบ้าง คุณนายแกบอกว่า โตแล้วจะกินทำไมขนม ไม่ใช่เด็ก ลิ้นจุกปากเลยสิผมน่ะ เอาเป็นว่าผมกับสัดไม้ก็เตะบอล วิ่งไล่บอลกันอยู่สองคนข้างสนามครับ ใครจะไปเล่นในสนามร้อนจะตายชัก             “โจ้เหรอ เค้าขอโทษ ก็ที่นี่มันไม่มีสัญญาณอ่ะ เนี่ยคิดถึงตัวเองจะตาย ตัวเองคิดถึงเค้าป่าว” หือ เสียงคุ้นๆครับ ผมทำท่าให้สัดไม้มันหยุดเล่น พอมันหยุดผมก็เงี่ยหูฟัง             “ไม่เลยตัวเอง ที่นี่ไม่เหมือนกับที่คิดไว้เลย มันร้อนมาก ต้นไม้ก็แดงๆ เด็กก็บ้านๆอ่ะ เค้าคิดถึงตัวเองจัง ไม่มี ใครจะมาหล่อ เค้าไม่ได้มองใครหรอกน่า ตัวเองอ่ะ อย่านอกใจเค้านะ” เฮ้ย นี่มันไอ้หน้าจืดนี่หว่า จากเท่าที่คุย อย่าบอกนะว่ามัน ฮ่าๆ อีแอบ เอ้ย ดีเลย กูจะแกล้งมึง กูว่าแล้วเชียว ไม่ค่อยพูดมีแต่มองมันต้องผิดปกติแน่ๆ ที่แท้ก็เป็นตุ๊ด ทักทายมันหน่อยครับ             “ปึ่ก เฮ้ย” ผมเตะลูกบอล ผ่าเข้าไปตรงกอดอกไม้ที่มันนั่งคุยโทรศัพท์อยู่นั่นล่ะครับ มันตกใจลุกขึ้นทันที             “อ้าว ไอ้เชี่ย มึงมาแอบทำไรตรงนี้วะ แม่งกูนึกว่าอีแอบที่ไหน” ผมทักทายก่อนครับ เดินตรงเข้าหามัน ตอนนี้สายตาผมมันคงเหมือนเสือเจอก้อนเนื้อมั้งผมว่านะ             “เตะมาทำไมตรงนี้” แหมนะ ออกสาวมาหน่อยเถ๊อะ กูอยากเห็น มาทำแอ๊บแมนใส่กูอีก แสรด เดี๋ยวเถอะมึง             “เฮ้ยบักไม้ ไปเก็บบอลให้กูแน่ะ ตัวเองอ่ะ” ผมล้อมันครับ แล้วยิ้มพราว มันยังนิ่งอยู่ อ้าวไม่อายเหรอวะ             “แค่นี้ก่อนนะตัวเอง” มันวางสายครับแล้วทำท่าจะเดินหนี             “เดี๋ยวตัวเอง” ผมปรี่เข้าหามันดึงแขนไว้ครับ คำว่าตัวเองนี่พยามทำเสียงให้มันอ่อนหวานมากที่สุด ขำตัวเองเหมือนกันครับ แต่ก็อยากจะแกล้งมัน             “อะไร” มันหันมาตวาดครับ โว้ ทำหน้าดุใส่กูด้วยเฮ้ย                 “มันเสียวเหรอวะ เวลาเอากันน่ะ” ผมยักคิ้วให้มันครับ คราวนี้แก้มมันแผ่สีแดงอมชมพูระเรื่อกระจายเต็มแก้มเลยครับ ฮ่าๆ ผมยังจ้องอยู่ คิดว่าจะแน่ ไอ้นี่อายก็เป็นเว้ย             “อยากรู้ทำไม” มันเหมือนไม่อยากจะตอบแต่ก็ตอบ แต่มันก็จ้องตาผม เหมือนกันนะครับ ไม่ยอมเว้ยเฮ้ยไอ้นี่             “สกปรก” ผมกัดฟันพูด ที่จริงไม่ได้อยากจะว่ามันแบบนี้นะ เอ้ย ผิดคอนเซ็ปส์ ผมไม่ใช่คนดีอะไรไง แต่ผมก็ไม่เคยดูถูกใคร แต่กับไอ้นี่ทำไมไม่รู้ ก็ดูมันจ้องหน้าผมสิครับไม่ยอมวางตา มันคนแรกเลยนะที่ไม่กลัวผมเนี่ย ยอมไม่ได้ไง เข้าใจป่ะเนี่ย             “สกปรกน่ะ ใจนาย ไม่ใช่ที่เราเป็น” ป๊าด ผมสะอึกไปเลยครับ มันสะบัดมือออกจากมือผม แต่นี่กูไอ้เดี๋ยวนะเว้ย จะมาสะบัดมือออกจากกูง่ายๆเหรอวะ ไม่มีทาง ผมรีบคว้ามือมันไว้อีกทันที             “มึงว่าไรนะ” ผมขึ้นเสียงครับ บีบข้อมือมันแรงๆ             “นอกจากใจสกปรก ยังหูตึงอีกเหรอ” อ๊อก จุกครับ ไอ้เชี่ยนี่ ผมกระชากมือมันให้เข้ามาหาตัว ตอนนี้มันหน้าอยู่ที่คอของผม             “อยากตายเหรอไอ้เตี้ย ปากหมานะมึง”             “อ๊ะ อาจารย์” มันทำตาโตครับ ผมรีบดันตัวมันออกทันที เพราะเพิ่งจะมีคดี พอผมดันตัวมันออกมันก็วิ่งทันที อ้าวเชี่ย ฉลาดมาตลอด มาเสือกโง่เอาตอนนี้เนี่ยนะกู หนอยแน่ ผมกำหมัดขึ้นทันที ไม่เคยมีใครท้าทายผมได้มากขนาดนี้ ไม่มี มันเป็นใครวะ ตายๆ มึงต้องตาย             “อิอิ กูเห็นเด้บักเดี๋ยว” สัดไม้ครับมันยืนมองดูอยู่             “สัด เดี๋ยวมึงสิได้แดกตีนกู ถ่ากูบ่ได้เหยียบหน้ามัน บ่แม่นกู บักเดี๋ยว” ผมเหมือนสั่งฟ้าสั่งลมให้เป็นพยานครับ โมโหจริงจังนะเว้ย ผมเดินขึ้นอาคารเรียนไปแล้ว โมโห เห็นใครก็เคืองตาไปหมด มึงคอยดูนะเว้ยมึง ตายแน่ๆ ตายศพไม่สวยด้วย             “มึงเอาเสื้อมาบ่บักแบงค์” พอตอนเย็นเลิกเรียน ก็ถึงเวลาซ้อมบอลล่ะครับ ผมมีความสุขที่สุดก็ตอนนี้ล่ะ แต่เสือกลืมเสื้อ เอามาแต่กางเกง ส่วนรองเท้าพันปี กับถุงเท้าร้อยปี อยู่ในห้องอาจารย์เดชครับ เวลานักเรียนคนอื่นเข้าไปห้องอาจารย์เดช จะทำหน้าเหมือนได้กลิ่นหนูตายกันทั้งนั้น ก็จากบรรดาพวกนี้ล่ะครับ ของผมนี่กลิ่นอ่อนสุดแล้วนะเว้ย อิอิ             “บ่เอามา เอามาโตเดียว”             “อ้าว เออกูถอดเสื้อกะได้วะ” ผมทำหน้าไม่พอใจ จะไม่พอใจใครล่ะ ก็ตัว ผมเองดิ แม่งรีบจนลืม แต่ไม่สนใจครับถอดเสื้อโชว์แม่งไปเลย เพราะผมจะมีสาวๆมากรี๊ดประจำ ก็อย่างที่บอกว่ามีเด็ก ม. ต้นที่มันแรดๆน่ะหลายคน             “ว้ายพี่เดี๋ยว หุ่นอื้มมากๆ พี่เดี๋ยวขา” เป็นไงครับ ผมบอกแล้ว ไม่แน่จริงผมไม่พูด ผมก็ทำเป็นไม่ได้ยินครับ วิ่งไล่บอลไปตามประสา แต่ไม่เข้าใจอีเด็กพวกนี้จริงๆนะ ทำไมมันไม่กลับบ้านกลับช่องวะ มาคอยกรี๊ดผู้ชายอยู่แบบนี้ ผมจะบอกตรงนี้เลยนะว่าถ้าให้เอาน่ะได้ แต่ให้จีบเป็นแฟนน่ะไม่มีทาง แต่พวกมันก็คงแค่อยากได้ผมล่ะมั้งผมว่านะ อ่านี่ผมดูมีค่าขึ้นมาทันทีเลยนะเนี่ย อิอิ             “บักเดี๋ยว วันพุธหน้าไปแข่งที่อุบลนะ หลังจากมึงกลับมาจากเข้าค่ายกับจารย์พรน่ะ” พอเลิกซ้อมประมาณห้าโมงอาจารย์เดชก็เอ่ยขึ้นครับ             “ไปโรงเรียนได๋จารย์”             “นารี” ซี๊ด แค่ได้ยินชื่อโรงเรียน ผมก็ขนลุกอยากไปมันคอนนี้เลยล่ะครับ นารีฯที่อุบล แต่ได้ข่าวว่ามันเป็นสหะไปแล้วนี่หว่า แต่ไม่เป็นไรสาวอุบลแจ่มๆเยอะแยะ เผื่อได้สักคนสองคน ฮ่าๆ ผมรีบไปที่โรงรถไปเอาคุณปู่ผมขับกลับล่ะครับ จุดหมายคือร้านผมนั่นล่ะ ต้องรีบไปช่วยที่บ้าน ไม่งั้นคุณนายแต๋วแพ่นกะบาลเอาตายแน่ๆ แต่พอขับคุณปู่ออกมาพ้นประตูโรงเรียน ก็เห็นไอ้หน้าจืดมันเดินอยู่ครับ เหมือนมันงงว่าจะไปทางไหนดี วันนี้มันวันของผมจริงๆ จอดรถดริฟฟ์ตัดหน้ามันทันที อ๊ะๆ อย่าคิดว่าคุณปู่จะทำไม่ได้ ผมดริฟฟ์มาหลายรอบแล้วเว้ย             “เฮ้ย” มันร้องครับ ตอนแรกทำหน้าตกใจ แต่พอเห็นผมมันต้องทำหน้าตกใจกว่า แต่ไม่เลย มันทำหน้าเซ็ง             “ทำไมทำหน้าแบบนั้นใส่กู วันนี้ล่ะกูจะชำระแค้น ไอ้เชี่ย” ผมรีบจอดคุณปู่ครับก่อนที่มันจะวิ่งหนีไปก่อน             “ความไร ไม่มีความ มีแต่ควายนะแถวนี้” ป๊าด สิบกว่ากระทงแล้วครับ ผมปรี่เข้าหามันทันที             “ปากดีนะมึง ปึ๊ก” ต่อยเข้าที่ท้องมันทันทีครับ แล้วผลักบ่ามัน             “โอ๊ย ต่อยทำไมอ่ะ”             “มึงด่ากูเหรอ มึงอยากตายเหรอ อีตุ๊ด” ผมตวาดออกไปครับ แล้วประชิดตัวมัน             “ด่ามันเจ็บเหรอ” อ้าวนะกล้าถาม ไม่เจ็บเว้ย แต่ไม่เคยมีใครด่ากูฟรีๆ             “ยังอีก” ผมกระชากบ่ามันขึ้นมาครับ             “ทีนายต่อยเรา เราก็เจ็บนะ แค่ด่า ให้เราต่อยคืนบ้างไหมล่ะ” พูดเชี่ยไรเนี่ยกูงง             “ไม่ต้องพล่าม วันนี้ล่ะ เลือดหัวมึงไม่ออก อย่ามาเรียกกูว่าไอ้เดี๋ยว ไอ้หน้าจืด ไอ้ตุ๊ด” ผมพลักบ่ามันแรงๆครับด้วยมือขวา มือซ้ายก็จับบ่าอีกข้างไว้ ดึงไปดึงมา             “โว้ยย จะต่อยก็ต่อยสิวะ ผลักทำไมเนี่ย เวียนหัวนะ” โว้ ผมตาค้างทันที นี่มันวอนมากๆครับ มันส่ายหน้าเหมือนว่าเวียนหัวจริงๆ ให้ตายเถอะ ผมไม่เคยเจอใครหน้ามึนเท่ามันมาก่อนเลยนะ ไม่กลัวผมไม่ว่าแต่หน้ามึนใส่นี่นะ มันเกินจะทนจริงๆ             “ปึ๊กๆ” “แอ่ก” มันตัวงอลงครับ แต่ผมดึงตัวมันเอาไว้ ไม่ให้มันลงนั่ง ไม่ได้ต่อยท้องนะ เพราะเดี๋ยวมันจะเป็นเหตุอีก ผมต่อยตรงหน้าอกมันแรงๆ มันไม่พูดอะไรครับก้มหน้า             “เป็นไง ท้าทายกูดีนักนะมึง” ผมกระชากให้มันมองจ้องหน้าผมเหมือนที่มันเคยทำ             “พอใจหรือยัง เราจะ จะรีบกลับบ้าน” เอ่อ งดบรรยายครับ สิ่งที่ผมเห็น ทำให้ผมปล่อยมือจากมันทันที ผมเคยต่อยใครต่อใครร้องไห้มาเยอะแล้วนะ แต่ไม่เคยเห็นแบบนี้เลยว่ะให้ตายเถอะ             “สำออยอีก อีตุ๊ด” แต่ผมปากสุนัขผมบอกแล้ว มันไม่ตอบครับมันเดินเซหนีไป ผมยืนนิ่งอยู่สักพักแล้วก็กลับบ้าน ทำไมกูไม่รู้สึกสะใจเลยวะ ทำไมได้ต่อยมันขนาดนั้นแล้ว กูไม่รู้สึกดีใจอะไรเลยเนี่ย ทำไมในใจมันเหมือนว่ามืดๆดำๆอยู่เลยวะเนี่ย เกิดอะไรขึ้นไอ้เดี๋ยว
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม