บทที่ 8

1168 คำ
“เอาน่า เรื่องไอ้สิงห์น่ะไม่ต้องห่วง ไม่ต้องไปถามคนอื่นให้วุ่นวายสงสัยอะไรก็มาถามฉันนี่ ไอ้สิงห์กับฉันอยู่ด้วยกันทุกวันจนคนคิดว่ามันเป็นเมียน้อยฉันไปแล้ว หรือถ้ายังไม่ชัวร์เจ้าตัวมันก็ยืนเก๊กท่าอยู่ตรงนั้นแล้วไง อยากรู้อะไรก็ถามมันเอาเองเลย” ญาติกามองจดสายตาที่แฝงไปด้วยความน้อยใจอยู่เต็มเปี่ยมตามรัฐศาสตร์ไป และมองอยู่จุดนั้นสักพักก่อนจะหลบสายตาไปเอง “นายสิงห์จะบอกเหรอคะ หญ้าเฝ้าถามตามตื๊ออยู่ทั้งวันยังไม่เห็นนายสิงห์จะสนใจ” “ก็มันเรื่องส่วนตัว เรื่องอะไรฉันจะต้องบอกแกวะไอ้หญ้าจอมจุ้นจ้าน” สิงห์คบว่าเรื่องมันชักจะชวนปวดหัวน่ารำคาญจนเกินไปแล้ว ใช่สิ... เรื่องส่วนตัวมากซะด้วย เป็นเรื่องที่ผู้ชายเอาไว้สนองตัณหาตัวเองโดยการส่งเสริมให้ผู้หญิงต้องไปทำอาชีพแบบนั้น ใช้ความได้เปรียบในทุกๆ ด้านเอารัดเอาเปรียบผู้หญิงเพื่อความสุขเพียงครั้งคราว ไม่ใช่เพราะคนสองคนหรืออาจหลายคนที่รักสนุกแต่ไม่คิดผูกพันอย่างนี้หรือไงที่ทำให้เธอและเด็กอีกหลายๆ คนต้องกำพร้า เกิดมาโดยไม่เป็นที่ต้องการ และก็ถูกทิ้งไว้หน้าวัดเหมือนหมูเหมือนหมาตัวนึง หญิงสาวหันกลับไปพูดกับนายอีกคน “ถ้าคุณหนึ่งจะใช้อะไรหญ้าก็ใช้มาเถอะค่ะ เดี๋ยวหญ้าไปทำให้” น้ำเสียงของญาติกายังไร้อารมณ์เช่นเดิม “ทำไมต้องเดี๋ยว ทำเลยไม่ได้หรือไง” มีกังวานส่ายหน้าน้อยๆ แล้วยิ้ม สามคนนี้ไม่รู้ว่าใครร้ายกว่ากัน โดยเฉพาะเรื่องฝีปาก สามีเธอชอบบอกว่าญาติกาแก่แดดแก่ลมเถียงคำไม่ตกฟาก แล้วยังชอบทำตัวเหมือนแม่ กะเกณฑ์จัดการไปซะทุกอย่าง สิงห์คบก็เช่นกัน แต่พอญาติกาไม่อยากต่อปากต่อคำด้วยก็รุมแกล้งรุมแหย่กันอย่างที่เห็น “หญ้าจะไปทำธุระส่วนตัวข้างนอกน่ะค่ะ” “ข้างนอกไหน” คำถามนี้เป็นของสิงห์คบ “เดี๋ยวหญ้าจะรีบกลับก่อนมืดนะคะ” ญาติกาเก็บปิ่นโตและกล่อง ทัพเพอร์แวร์ที่ล้างเรียบร้อยแล้วลงกระเป๋าผ้า ก่อนจะเดินออกไปอย่างไม่สนใจจะตอบคำถามใครอีก หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมองตึกขนาดประมาณทาวน์เฮ้าส์สองห้องนี่น่ะหรือคือที่ที่ลุงสุขบอกว่านายสิงห์มาใช้บริการอยู่หลายครั้ง แถมยังมีขาประจำเป็นตัวเป็นตนเจาะจงเลือกสาวที่มีชื่อว่า ‘เนื้อนวล’ มาให้บริการเท่านั้น ก็คงไม่ผิดแน่ เพราะด้านหน้าทางเข้ามีสาวสวยหลายคนรอคอยต้อนรับแขก และเป็นแขกผู้ชายเกือบทั้งหมดซะด้วย โดยที่ป้ายหน้าร้านบอกเอาไว้ว่าเป็นร้านนวดยี่สิบสี่ชั่วโมง ไม่รู้ว่าทำไมธุรกิจแบบนี้ถึงเปิดได้โจ๋งครึ่มเย้ยฟ้าท้าดินทั้งที่มันไม่ถูกกฎหมาย ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่ายเหมือนเอาหูไปนาเอาตาไปไหนกันซะหมดก็ไม่รู้ เธอไม่รังเกียจหรือแม้แต่จะกล่าวโทษผู้หญิงที่ต้องเลือกมาทำอาชีพนี้เพื่อหาเลี้ยงตัวเองและครอบครัว ทุกคนมีความจำเป็น โอกาส และเรื่องราวบีบคั้นในชีวิตที่ต่างกัน แน่นอนว่าเหรียญย่อมมีสองด้าน กับคนที่ทำเพราะรักสนุก งานสบาย ได้เงินง่ายก็มี ซึ่งเธอต้องรู้ให้ได้ว่าผู้หญิงของสิงห์คบจัดอยู่ในเหรียญประเภทไหน “ขอโทษนะคะหนูมาหา...” ไม่มีใครให้ความสนใจเธอสักคนเพราะเธอเป็นผู้หญิงนี่เอง และสภาพแวดล้อมที่นี่ยิ่งได้เข้ามาใกล้ๆ ยิ่งวุ่นวายจอแจจนต้องตะโกนคุยกันจึงจะรู้เรื่อง “เอ่อ ไม่ทราบว่ารู้จัก...” “หลีกทางหน่อยสิจ๊ะหนู ขวางทางแขกหมดแล้วเห็นมั้ย” ผู้หญิงผิวสีน้ำผึ้งคนนี้ใช้มือผลักเธอจนแทบกระเด็นเพื่อให้เลี่ยงไปอีกทาง “ด้านในก่อนเลยพี่ วันนี้มาคนเดียวเหรอจ๊ะ” “ถ้ามาหลายคนน้องลี่ก็ต้องเห็นแล้วสิจ๊ะ” ชายคนที่น่าจะเป็นลูกค้าต่อล้อต่อคำหญิงสาวที่ต้อนรับอยู่หน้าร้าน ซึ่งเธอได้ยินว่าเขาเรียกเจ้าหล่อนว่าลี่ ก็น่าจะแน่นอนแล้วว่าหญิงสาวคงไม่ใช่เนื้อนวล “ไปๆ ไปนั่งรอคิวเลือกหมอสาวๆ ข้างในก่อนพี่ วันนี้จะเอาคนไหนก็จิ้มจองได้เลย เดี๋ยวลี่ตามเข้าไปดูแลนะ” “อื้ม แล้วเด็กคนนี้ล่ะมีคนจองหรือยัง เด็กใหม่เหรอ พี่ไม่เคยเห็นหน้ามาก่อนด้วย ขาวๆ แบบนี้สเปกพี่เลย” ชายคนเดิมจ้องมาที่เธอ ก็พอเข้าใจได้ว่าชุดที่เธอใส่วันนี้มันออกจะล่อแหลมอยู่ไม่ใช่น้อย “ไม่ใช่หรอกพี่ เด็กที่ไหนก็ไม่รู้” “พี่คะหนูมาหาคุณเนื้อ...” ระหว่างที่เธอจะถามพี่สาวคนนี้อีกรอบก็มีอันให้ต้องสะดุดอีกครั้ง เมื่อมีเสียงกัมปนาทดังมาจากด้านหลังเธอ “ใช่เด็กคนนี้หรือเปล่าเจ๊” “โอ๊ย ใครมันจะไปจำได้ เพิ่งเห็นแวบๆ ตอนแม่มันเอามาขายเมื่อเย็นนี่เอง นังหนูนั่นมันก็ปราดเปรียวเหลือเกินละสายตาแป๊บเดียวหายไปแล้ว แต่คงใช่ละมั้ง คนนี้ก็สวย” “สวัสดีค่ะเจ๊” คนที่ถูกเรียกว่า ‘เจ๊’ มาพร้อมกับชายฉกรรจ์รูปร่างใหญ่โตราวกับยักษ์อีกสองคนขนาบข้าง พี่สาวคนที่ยืนอยู่ก่อนรีบเดินเข้าไปแตะข้อศอกในกิริยาพินอบพิเทา เจ๊แกยังคงดูวุ่นวายใจเพราะตามหาใครสักคนขนาดที่ไม่สนใจรับไหว้พี่สาวด้วยซ้ำ ญาติกาเดาว่าเจ๊อาจเป็นเจ้าของที่นี่ “อ้าว เฮ้ย !” แล้วอยู่ๆ ทำไมชายสองคนนี้ถึงเดินเข้ามาล็อกตัวเธอเอาไว้คนละข้างล่ะนี่ “เอายังไงดีเจ๊” “พาไปไว้ข้างหลังก่อน เดี๋ยวเจ๊ให้เนื้อนวลไปกล่อมอีกที ไม่รู้ว่าคิดหนีจริงหรือแค่เดินไวมาถึงก่อน” ชื่อ ‘เนื้อนวล’ ที่ได้ยินทำให้อาการขัดขืนของเธอหยุดลงได้ชะงัดนัก “แต่เดี๋ยวๆ ขอเจ๊ถามก่อน ขืนผิดตัวขึ้นมาจะยุ่ง” “นี่นังหนูฟ้าใช่หรือเปล่า ลูกแม่ฝนน่ะ” “ชะ... ใช่ค่ะเจ๊” ญาติกาไม่ลังเลที่จะสวมรอยเป็นเด็กชื่อฟ้าทันที เอาไว้ค่อยหาทางหนีออกมาตอนได้เจอผู้หญิงที่ชื่อเนื้อนวลแล้วก็น่าจะยังทัน แถมเจ๊เจ้าของที่นี่ก็ดูไม่ได้อยากจะบังคับหรือลักพาตัวเธอแต่อย่างใด ยังมีกะใจมาถามไถ่ไม่ใช่มัดมือชกซะทีเดียว จะน่ากลัวหน่อยก็ตายักษ์สองคนที่ขนาบข้างเธอไว้นี่แหละ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม