“โอ๊ยนังหนู อย่างนายสิงห์จอมเฮี้ยบเนี่ยนะจะซุกเมีย ป้าเห็นทำงานงกๆ ทุกวัน ออกไปนอกไร่ทียังนับครั้งได้เลย”
“จริงหรือจ๊ะป้าหมอน แต่นายยืนยันกับหนูเองเลยนะว่ามีแฟนแล้วน่ะ” ป้าหมอนก็คือป้าสายสมรเมียของลุงสุขสันต์ที่ขับรถไปรับเธอเมื่อวันก่อน
“หรือเราจะพลาดอะไรไปวะนังหมอน” คนนี้คือป้าบัวไรที่กำลังนั่งชันเข่าขึ้นมาข้างหนึ่งและจกส้มตำปูปลาร้าอยู่อย่างเมามัน
“จริงด้วยนังหมอนนังบัว นายสิงห์ของพวกเราออกจะหล่อเหลา มาดแมน หุ่นเซี้ยะขนาดนั้น ถึงหน้าจะดุไปหน่อย ยิ้มน้อยไปนิด แต่บึกบึนมาดแมนขนาดแก สาวที่ไหนเห็นก็น้ำลายหกกันทั้งนั้น ขนาดตอนข้าไปซื้อของที่ตลาดยังมีพวกแม่ค้าสาวๆ เทียวมาถามถึงนายสิงห์กันอยู่บ่อยๆ เล้ย”
คนที่พูดจาพอจะเข้าเค้าคนนี้คือป้ามยุรี ทั้งสามป้าถือเป็นคู่หูคู่ฮาตัวจี๊ดของไร่เลยก็ว่าได้ หน้าที่ประจำคือเป็นคนงาน รองลงมาคือเป็นแม่ครัว แต่งานหลักจริงๆ คือหอกระจายข่าวของลัดทานั่นเอง มีทั้งข่าวจริงบ้าง มั่วบ้างต้องใช้วิจารณญาณในการฟังให้ดี
“ว่าก็ว่าเถอะนังหนู ตอนนี้เอ็งเรียนจบเป็นสาวเต็มตัวแล้วนี่ แถมสวยขึ้นซะจนพวกป้าแทบจำไม่ได้เลยนะ”
“จริงนังรี่ ตอนที่นังหนูมันเดินเข้ามาข้าก็จำไม่ได้ เมื่อไม่กี่ปีก่อนยังเห็นวิ่งเล่นให้ทั่วไร่ แก้ผ้ากระโดดน้ำตูมๆ”
“อะไรกันจ๊ะป้า หญ้าเลิกแก้ผ้ากระโดดน้ำมาตั้งแต่สิบขวบได้แล้วมั้ง” ก็รู้อยู่หรอกว่าตัวเองสวย ขาว อึ๋มมากด้วย แต่พอมีคนมาชมตรงๆ แบบนี้มันก็อดจะรู้สึกดีหน่อยๆ ไม่ได้
และพอเริ่มเท้าความถึงความหลังพวกป้าๆ ก็สนุกกันใหญ่ จากที่เธอตั้งใจจะมาสืบเรื่องของสิงห์คบกลับกลายเป็นว่าต้องมานั่งร่วมวงจกข้าวเหนียวส้มตำและไก่อบปี๊บไปด้วย แต่จะว่าไม่ได้เรื่องได้ราวซะทีเดียวก็ไม่ถูก เมื่อลุงสุขสันต์เดินเข้ามาร่วมวงแซบด้วย
“มานั่งเลยตาสุข เดี๋ยวข้าไปตำมาให้อีกครก” ป้าสายสมรเรียกผัวแกมานั่งกินข้าวกลางวันด้วยกัน
“นี่ไงนังหนู ตาสุขแกมาแล้วมีอะไรอยากรู้ก็ลองถามดู พวกผู้ชายเขาทำงานด้วยกันมากกว่าพวกป้า”
พอป้าบัวไรเปิดทางให้ ญาติกาจึงไม่รอช้าที่จะซอกแซกถามทุกเรื่อง ทุกคนที่เข้าใกล้สิงห์คบได้ อันที่จริงรอไปถามจากรัฐศาสตร์หรือมีกังวานก็ได้ แต่เธออยากรู้ข้อมูลหลายๆ ทางเผื่อไว้ด้วย
‘รู้นายสิงห์ รู้ไอ้หญ้า รบร้อยครั้งชนะพันครั้ง เชื่อไอ้หญ้าเถอะ’
“ข้าบอกนังหนูมันไปแล้วนะว่านายสิงห์ไม่เคยมีเรื่องผู้หญิงให้เห็น ก่อนนังหนูมันจะไปเรียนที่กรุงเทพฯ ก็สั่งเสียไว้เป็นดิบดีว่าให้คอยเป็นหูเป็นตาให้หน่อย พวกข้าก็คอยสอดส่องอยู่ไม่ห่างนะ เลยมั่นใจว่าข่าวที่นังหนูมันได้มามั่วแน่ๆ”
ป้าหมอนกลับมานั่งร่วมวงพร้อมส้มตำครกใหม่ที่ไปโขลกมาให้ผัวแกโดยเฉพาะ
“ป้าหมอน ป้าบัว แล้วก็ป้ารี่น่ารักกับหญ้าขนาดนี้ไงจ๊ะ หญ้าก็เลยต้องหาของฝากติดไม้ติดมือมาให้” เรื่องของฝากเธอแจกจ่ายไปจนถ้วนทั่วทุกคนแล้ว ไม่ใช่เฉพาะป้าๆ ทั้งสามหรอก
“พวกเอ็งเป็นผู้หญิงจะไปรู้อะไร”
หูของเธอผึ่งขึ้นมาทันที ลุงสุขเปิดหัวข้อขึ้นมาแบบนี้แสดงว่าต้องมีอะไรในกอไผ่ชัวร์ !
“ลุงสุขหมายความว่ายังไงจ๊ะ บอกหญ้าที”
“อันนี้ลุงก็ไม่ค่อยแน่ใจหรอกนะ แต่ผู้ชายเราน่ะเรื่องอย่างว่าขาดได้ซะที่ไหน”
อืม... เธอเชื่อแล้วว่าขาดไม่ได้ เพราะแค่พูดถึงลุงสุขแกยังส่งสายตา
เจ้าเล่ห์กรุ้มกริ่มไปให้ป้าหมอนเมียแกกลางวงส้มตำนี่เลย แถมป้าหมอนยังทำตัวบิดไปบิดมา ขวยเขินออกหน้าออกตาเสียด้วย
“แล้วยังไงต่อล่ะฮึตาสุข” ป้าบัวถามแทนใจญาติกา
“ก็ถึงไม่ได้มีใครเป็นตัวเป็นตนให้เห็น แต่นายสิงห์ก็มีขาประจำคอยดูแลกันอยู่ ข้าว่านี่ละใกล้เคียงที่สุดแล้วที่นังหนูหญ้ามันได้ข่าวมา”
“ขาประจำ ? คอยดูแล ? มันยังไงเหรอจ๊ะลุง”
“ลุงบอกไม่ได้หรอก เรื่องส่วนตัวของนายสิงห์เขา”
“บอกหน่อยนะคะลุง หนูรับรองว่าจะไม่แพร่งพรายไปเด็ดขาดว่ารู้มาจากลุงสุข” ใจคอเธอยิ่งไม่ดีอยู่ด้วย นี่ก็แสดงว่าที่สิงห์คบพูดมานั้นมีมูล ผู้หญิงปริศนาคนนั้นมีตัวตนอยู่จริงๆ
‘ซ่อง’
ญาติกาคิดไม่ตกกับคำคำนี้ สิ่งที่ได้รับรู้มามันเหนือความคาดหมายของเธอไปมากเลยทีเดียว ถึงไม่ได้คาดหวังว่าชายในดวงใจจะบริสุทธิ์ผุดผ่อง รอคอยให้เธอโตพอจะเคียงคู่กับเขาได้ แต่พอได้มารู้มาฟังในเรื่องที่ไม่คาดคิดมาก่อน ก็บอกไม่ได้เหมือนกันว่าเธอควรจะรู้สึกยังไง
“เป็นอะไรไปฮึแก เดินคอตกกลับมาเชียว”
เธอเงยหน้ามองผู้ชายหน้าเข้มตอนที่เขาทัก เธอควรจะโกรธเขาดีมั้ย หรือไม่พอใจสิงห์คบในฐานะคนที่แอบชอบดีหรือเปล่า และสุดท้ายเสียงข้างในก็กู่ร้องตะโกนให้เธอทำใจซะ สิงห์คบไม่เคยแสดงออกว่าเห็นดีเห็นงามกับเธอ
สักครั้ง ในใจเขาคิดกับเธอเกินน้องสาวบ้างหรือเปล่าก็ยังไม่รู้เลย
“หญ้าแค่หิวข้าว”
“ไม่มีเหลือแล้วละ ช่วยไม่ได้ก็ไม่ยอมกินให้เสร็จก่อนค่อยออกไปตะลอนๆ เองนี่” เขาไม่รู้ว่าญาติกาเป็นอะไรถึงไม่ยอมต่อปากต่อคำเหมือนทุกที เลยตั้งใจยั่วโทสะเจ้าหล่อนโดยเฉพาะ
“เดี๋ยวหญ้าค่อยกินอีกทีตอนเย็นเลยทีเดียวก็ได้ค่ะ” ว่าแล้วญาติกาก็เดินเลี่ยงผ่านส่วนออฟฟิศเข้าไปถึงครัวเล็กๆ ด้านในซึ่งอยู่ห่างกันเพียงไม่
กี่เมตร เพื่อเก็บจานชามและปิ่นโตของเมื่อตอนกลางวัน
“แล้วไปทำอะไรมาตั้งหลายชั่วโมง เสร็จธุระแล้วใช่มั้ย ฉันจะได้ใช้แกไปทำเรื่องที่มีสาระบ้าง” รัฐศาสตร์ก็รู้สึกว่าน้องสาวไม่เป็นปกตินัก
“ยังไม่ได้เรื่องอะไรนักหรอกค่ะ หญ้ายังไม่ได้เจอพี่ปั้น” ปั้นคือคนงานหนุ่ม อายุอานามมากกว่าเธออยู่หลายปี และยังเป็นลูกน้องคนสนิทที่คลุกคลีอยู่กับสิงห์คบและรัฐศาสตร์มากที่สุดด้วย
“ฉันเพิ่งใช้มันไปซื้ออะไหล่แทรกเตอร์ในตัวจังหวัด กว่าจะกลับมาคงเย็นๆ โน่นแหละ”
“เหรอคะ”
เห็นท่าทางหงอยๆ ของยายตัวแสบรัฐศาสตร์ก็อดจะเป็นห่วงอยู่ลึกๆ ไม่ได้ ต่างจากสิงห์คบที่ยังคงยืนกอดอกนิ่งสังเกตการณ์อยู่ห่างๆ ไม่ได้ทักท้วงสิ่งใด