บทที่ 6

1202 คำ
“กลับมาอยู่ถาวรคราวนี้คิดไว้หรือยังจ๊ะว่าอยากจะทำอะไร มาช่วยพี่ทำบัญชีไปก่อนเอามั้ย” “หญ้าคิดไว้แล้วค่ะพี่ว่าน” “ไหนลองบอกมาหน่อยซิ” รัฐศาสตร์ก็อยากรู้ว่าที่ญาติกาลั่นวาจาไว้เป็นมั่นเหมาะว่าจะไม่ยอมไปหางานทำที่อื่นหรือเก็บเกี่ยวประสบการณ์การทำงานก่อน แต่เรียนจบแล้วจะกลับมาช่วยงานที่ไร่เลย งานอะไรกันที่น้องสาวคนนี้ของเขาอยากจะทำ “หญ้าจะแต่งงานก่อนค่ะ” “เฮ้ย ! เอาจริงดิ วะ ฮ่าๆๆๆ” รัฐศาสตร์ขำก๊ากจนคนเป็นเมียต้องฟาดแขนไปหลายทีถึงจะยอมหยุด “แล้วแกจะแต่งกับใครฮึ” “หญ้าจะแต่งกับใครได้ล่ะถ้าไม่ใช่นายสิงห์” เพล้ง ! เพล้ง ! เพล้ง ! จานในมือหลายใบทยอยร่วงลงพื้นจนเกิดเสียงดังสนั่นไปทั้งสำนักงานขนาดเล็ก เมื่อญาติกาเอาปิ่นโตอาหารกลางวันมาส่งและสิงห์คบเป็นคนอาสาเข้าไปเอาจานชามช้อน จึงออกมาได้ยินเรื่องสยองขวัญเข้าพอดี “แตกหมดแล้วไอ้ห่าสิงห์ นั่นคอลเล็กชั่นลายดอกซากุระของเมียกูเลยนะโว้ย ขนาดกูเผลอทำขอบจานบิ่นไปใบนึงยังโดนสวดยับสามวันสามคืนไม่จบ” “เออ ขอโทษทีเดี๋ยวซื้อมาใช้คืนให้” “ไม่เป็นไรค่ะ ว่านรู้ว่าคุณสิงห์ไม่ได้ตั้งใจ แค่ตอนเก็บกวาดระวังบาดตัวเองเข้าก็พอค่ะ” “ไหงสองมาตรฐานแบบนั้นล่ะจ๊ะเมียจ๋า ตอนนั้นคุณหนึ่งก็ระวังเป็นอย่างดีเลยนะแต่มันเป็นอุบัติเหตุจริงๆ นี่ครับ ตาหนูลูกว่านนั่นแหละวิ่งซนจนมาชนผมเอง” เขาหมายถึงลูกชายวัยหกขวบที่ตอนนี้ถูกคุณปู่คุณย่ารวมถึงพวกอาๆ ขโมยไปไว้ที่กรุงเทพฯ เป็นที่เรียบร้อย เขากับภรรยาจะได้เจอหน้าตาหนูทีก็ตอนปิดเทอมโน่นแหละ “ก็คุณหนึ่งน่ะไม่ใส่ใจ ไม่รู้จักคิดล่วงหน้า เห็นอยู่ว่าลูกวิ่งแทนที่จะถือให้มั่น” รัฐศาสตร์เริ่มหน้างอเป็นจวักอย่างจริงจัง พอมีลูกความสำคัญของเขาก็กลายเป็นอันดับสองทันที “แล้วไอ้สิงห์มันต่างยังไง ไม่มีลูกหรือกุมารทองคอยมาขัดแข้งขัดขาด้วยซ้ำ” “ก็คุณสิงห์ตกใจ” นั่นเองคำเฉลยจากเมียเขา ซึ่งพอเป็นเหตุผลนี้รัฐศาสตร์ก็เหมือนจะเข้าใจและเห็นใจอยู่หน่อยๆ “แค่ไอ้หญ้าบอกจะแต่งงานกับมึงถึงกับต้องตกใจขนาดนี้เลยเหรอวะไอ้สิงห์ ทีเมื่อก่อนไอ้ตัวแสบมันก็พูดอยู่ออกบ่อยๆ ไม่เห็นมึงจะเป็นอะไร” ผู้จัดการหนุ่มเก็บกวาดจานชามที่แตกจนเรียบร้อยและหยิบของใหม่มาวางไว้ที่โต๊ะกินข้าวขนาดสี่คนนั่งพอดี “ตอนนั้นไอ้หญ้ามันเด็ก ตอนนี้มันโตเป็นสาวแล้ว ใครมาได้ยินเข้ามันไม่ดี” “ไม่ดีตรงไหนคะนายสิงห์” ญาติกาลอยหน้าลอยตาถามเพื่อยั่วอารมณ์คนแถวนี้โดยเฉพาะ สิงห์คบไม่ตอบแต่เริ่มหรี่ตาสำรวจความผิดปกติตรงหน้า บอกตามตรงว่าเขาไม่ชอบใจเลยสักนิด “แต่งตัวอะไรมา” “เปลี่ยนเรื่องเฉยเลยนะนาย... แล้วตกลงสวยหรือเปล่าล่ะ นายสิงห์ชอบมั้ย” เมื่อเขาถามก็เลยเป็นอีกครั้งที่เธอก้มลงมองตัวเองอีกรอบ ไม่แปลกใจด้วยว่าทำไมสิงห์คบถึงถามแบบนี้ เสื้อเชิ้ตสีขาวรัดติ้วเน้นสัดส่วนที่เธอมั่นใจว่ายั่วน้ำลายผู้ชายให้หกได้ 99.99 % ขอเว้นอีก 0.01 % ไว้ให้คนไม่มีหัวใจอย่างสิงห์คบนี่แหละ เธอพับแขนเสื้อขึ้นมาจนถึงข้อศอกทั้งสองข้างส่วนชายเสื้อก็ถูกจับมาผูกเข้าด้วยกันเหนือเอวขึ้นมา ทิ้งระยะห่างของขอบชายเสื้อด้านล่างกับขอบกางเกงยีนส์สีซีดขาดรุ่ยให้พอสวยงาม ความยาวของกางเกงวัดจากสะโพกลงมาแค่คืบเดียวเท่านั้น แถมยังแต่งหน้าอ่อนๆ ให้เป็นธรรมชาติที่สุด ปากแดงระเรื่อเหมือนสาวสุขภาพดีทั้งที่จริงกว่าจะออกมาจนเธอพอใจแบบนี้ก็ต้องใช้เวลาแต่งองค์ทรงเครื่องไปนับชั่วโมงเลยทีเดียว “ทุเรศ ดูนานๆ แล้วกลัวจะเสียสายตา” “คนอะไรปากร้ายจริง แต่หญ้าไม่ถือหรอก ก็รักไปแล้วนี่เนอะ” “พอๆ ไอ้หญ้าเดี๋ยวไอ้สิงห์มันจะกินข้าวไม่ลงเอา เห็นมั้ยว่าหน้าเข้มๆ แดงหมดแล้วนั่น” รัฐศาสตร์ก็ช่างแกล้งจนภรรยาสาวต้องคอยเบรก ชงเข้มขนาดนี้ถ้าสิงห์คบไม่ตกล่องปล่องชิ้นกับญาติกาก็คงได้หนีเตลิดกันไปเลย “อุ๊ย !” เสียงร้องของญาติกากับการวางช้อนส้อมลงในจานข้าวแล้วยกน้ำขึ้นดื่มเสียงดังอั๊กๆ บวกกับอาการรีบร้อนของเจ้าหล่อนเรียกความสนใจจากสายตาอีกสามคู่ได้ “อิ่มแล้วเหรอคะน้องหญ้า เพิ่งกินไปได้คำสองคำเองนี่” “หญ้านึกขึ้นได้น่ะค่ะว่ามีเรื่องต้องรีบไปสะสาง เดี๋ยวพวกพี่ๆ วางจานที่ใช้แล้วกับชั้นปิ่นโตไว้ในซิงก์ล้างจานได้เลยนะคะ อีกสักพักหญ้ามาเก็บล้างให้เอง” หน้าที่ส่งข้าวส่งน้ำให้คนที่เปรียบเสมือนพี่ชายทั้งสอง เพิ่มพี่สะใภ้อย่างมีกังวานมาอีกหนึ่งคนเป็นหน้าที่ของเธอเองที่ทำมาตั้งแต่อยู่มัธยมปลายโน่น รวมถึงดูแลเรื่องส่วนตัวหลายๆ อย่างให้ด้วย ก็อย่างว่า ผู้ชายจะมาละเอียดลออเท่าผู้หญิงได้ยังไง โดยเฉพาะผู้ชายอย่างรัฐศาสตร์กับสิงห์คบ “แล้วนั่นจะรีบไปไหนฮึ” รัฐศาสตร์ถาม “เข้าไปที่ไร่ค่ะคุณหนึ่ง ตอนนี้คนงานกำลังพักกลางวันกัน” “แล้วมีเรื่องด่วนอะไรนักหนาถึงต้องเข้าไปที่ไร่ ข้าวปลาก็ไม่ยอมกินให้เรียบร้อยซะก่อน” คำถามแกมดุนี้เป็นของสิงห์คบ “ก็หญ้าต้องรีบไปสืบนี่ว่าแฟนนายสิงห์เป็นผู้หญิงบ้านไหน ทั้งตะล่อม ทั้งขู่ถามนายสิงห์มาตั้งแต่เมื่อวานก็ไม่ยอมบอก ถ้าหญ้าไม่รู้ยังไงก็กินข้าวไม่อร่อยอยู่ดี” คำเฉลยของญาติกาทำให้ทั้งรัฐศาสตร์และภรรยาถึงกับหันไปจ้องสิงห์คบอย่างจับผิดเป็นตาเดียว ดีที่ตอนนี้ยายเด็กแสบผลุนผลันคว้าเจ้าเลดี้พิงก์แล้วปั่นแน่บออกไปไกลแล้ว “มึงแอบไปมีเมียตั้งแต่ตอนไหนวะไอ้สิงห์” “นั่นสิคะ ว่านก็ไม่เคยรู้มาก่อนเลย” “เรื่องของกูมึงไม่ต้องยุ่งหรอกน่า... ขอโทษทีนะว่าน” ที่ผู้จัดการหนุ่มขอโทษขอโพยเมียเพื่อนไม่ใช่เพราะพูดจาหยาบคาย แต่เป็นเพราะเรื่องที่เขาตั้งใจจะแกล้งญาติกาเล่น ทำให้คนอื่นเข้าใจผิดกันไปหมดต่างหาก ... และฟันธงไว้ได้เลยว่ายายตัวแสบต้องสร้างความเดือดร้อนวุ่นวายไม่หยุดหย่อนแน่ๆ ที่ยังไม่สืบเสาะจากคนวงในอย่างรัฐศาสตร์และมีกังวานแต่เลือกจะไปหาข่าวจากคนงานก่อนก็คงเพราะญาติกาคิดว่าทางนี้เป็นคนคุ้นเคยเอาไว้รีดเค้นตัวต่อตัววันหลังได้นั่นเอง
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม