ค่ำนั้น
“คุณหนึ่งนะคุณหนึ่ง ว่านอุตส่าห์ไว้ใจให้ไปซื้อของในตลาดเอง ก่อนจะกลับก็ถามแล้วนะคะว่าได้ของกินมาครบแล้วใช่มั้ย ไหนล่ะคนที่ยืนยันหนักแน่นว่าไม่ต้องห่วงน่ะ”
“ก็ไม่ต้องห่วงไงจ๊ะ นี่คุณหนึ่งก็ซื้อมาตั้งหลายอย่าง กินกันแค่สี่คนเหลือแหล่อยู่แล้ว” รัฐศาสตร์ยิ้มหวานให้เมียสาว หวังว่ามันจะช่วยบรรเทาความไม่พอใจของมีกังวานได้บ้าง
“เหลืออยู่แล้วค่ะ ก็คุณหนึ่งเล่นกวาดมาทั้งหมึกแห้งย่าง หมูมะนาว ซูเปอร์ตีนไก่ กุ้งแช่น้ำปลา ถั่วลิสงทอดก็ยังมี เอามาแต่กับแกล้มอย่างนี้ไม่มีอะไรกินกับข้าวได้สักอย่าง น้องหญ้าก็หิวแย่สิคะ พอไฟเขียวให้เมาได้นี่จัดเต็มไม่นึกถึงปากท้องของน้องกับเมียเลยนะคะ” มีกังวานสวดยับ อยากหยิกสามีให้เนื้อขาดนักเชียว
“ไอ้หญ้ามันกินได้น่า ส่วนว่านเองช่วงนี้ก็ไดเอตอยู่ไม่ใช่เหรอครับ คุณหนึ่งหวังดีหรอกนะเนี่ย”
ระหว่างแก้ตัวรัฐศาสตร์ก็คว้าไหยาดองมารินใส่ขันให้ทั้งเขาและ
สิงห์คบ ยาดองสูตรนี้เป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นของคนในไร่ เมื่อหลายปีก่อนเขาได้ลองมันครั้งแรกจึงยังไม่รู้ฤทธิ์ของมัน แต่ตอนนี้รับได้สบายมาก แม้จะมีทั้งรสและดีกรีที่แรง แต่ถ้าได้ลองแล้วรับรองว่าจะลืมเครื่องดื่มแบบอื่นๆ ไปเลย
“คนกะล่อน !”
ก่อนหน้านี้ทั้งญาติกาและสิงห์คบนั่งเงียบฟังสองผัวเมียถกเถียงกันตั้งแต่กลับมาจากในตัวจังหวัด เป็นภาพที่ญาติกาแสนจะคิดถึง ครอบครัวที่เธออยากสร้างมันกับสิงห์คบก็อยากให้เป็นแบบนี้แหละ ไม่ต้องจ๊ะจ๋าหวานจ๋อยกันตลอดเวลา ตีกันบ้าง รักกันบ้าง ชีวิตมีสีสันจะตาย
“หญ้าอยากกินข้าวสักหน่อยมั้ย เดี๋ยวพี่ไปผัดข้าวให้สักจาน”
“ไม่เป็นไรค่ะพี่ว่าน นี่ก็มีเป็ดย่างตั้งตัวนึง หญ้ากินนี่กับของอื่นนิดๆ หน่อยๆ ก็น่าจะอิ่มแล้วค่ะ”
“ไปเป็นสาวเมืองกรุงไม่กี่ปี รักสวยรักงามถึงขั้นต้องกินน้อยๆ นับแคลอรี่ก่อนกินแล้วหรือไง เมื่อก่อนเห็นสวาปามข้าวเป็นหม้อๆ ผอมจนจะเหลือแต่กระดูกอยู่แล้ว”
ญาติกาดูผอมบางลงไปมากจนน่าใจหายจริงๆ ถึงเมื่อก่อนเด็กสาวจะไม่ได้อ้วนเผละหรืออวบอั๋นมีน้ำมีนวลนัก แต่เขาก็ยังจำเจ้าหล่อนตอนแก้มเป็นกระติกๆ ขึ้นสีแดงจัดเวลาโดนแดด ดึงรั้งดั้งจนแทบไม่รู้ว่าที่จริงแล้วญาติกาก็มีจมูกเป็นทรงขึ้นสันสวยอย่างตอนนี้ได้ และความเจ้าเนื้อของแก้มที่เขาชอบหยิกให้เจ้าตัวได้ร้องโวยวายทุกทียังขึ้นไปปิดจนเขาเข้าใจว่าเธอมีดวงตาเรียวเล็กเหมือนเม็ดกวยจี๊ ไม่ใช่ดวงตาใสแป๋วกลมโตเหมือนตุ๊กตาฝรั่งอย่างที่เห็นนี่ด้วย
“นายสิงห์ว่าหญ้าผอมเหรอ แต่หญ้าว่าหุ่นตอนนี้กำลังสวยเลยนะ เอวเล็กคอดไร้ไขมันส่วนเกินน่าจับน่าลูบจะตาย พอเอวเล็ก แขนขาเล็กหาเสื้อผ้าใส่ง่ายด้วย ที่สำคัญพอตัวเล็กลงมันก็เลยช่วยเน้นให้ทั้งนมทั้งก้นหญ้าเชฟบ๊ะไปเลย”
“หน้าไม่อาย เป็นผู้หญิงประสาอะไร พูดออกมาได้ไม่อายปาก” ยิ่งได้ฟังสิ่งที่ญาติกาเจื้อยแจ้วเขาก็ยิ่งรู้สึกขัดหูขัดตายังไงพิกล
“จะต้องอายทำไมล่ะ คนกันเองทั้งนั้น นั่นคุณหนึ่งพี่ชายหญ้า โน่นก็พี่ว่านพี่สะใภ้หญ้า แล้วนี่...” ญาติกาใช้นิ้วชี้ไปจิ้มคนข้างๆ สองสามจึ๊กด้วยท่าทางขวยเขิน “แล้วนี่ก็นายสิงห์ สามีในอนาคตของหญ้า”
พรวด ! แคร็กๆ
สิงห์คบถึงกับสำลักน้ำเมาในขันที่เพิ่งซดเข้าไปแบบเต็มเหนี่ยว ใช่ว่าญาติกาไม่เคยพูดจาทำนองนี้ ตรงกันข้าม หญิงสาวกลับป่าวประกาศว่าเขาเป็นของเจ้าหล่อนตั้งแต่ยังไม่แตกเนื้อสาวโน่น
... แต่ที่น่าประหลาดก็คือ เมื่อก่อนเขากลับรู้สึกตลก แต่ไม่รู้ทำไมตอนนี้ถึงรู้สึกขนลุกขนชันแทนที่ซะอย่างนั้น
“วะ ฮะ ฮ่า ไอ้หญ้านี่มันแน่จริง” รัฐศาสตร์แทบขำกลิ้งกับท่าทางของเพื่อนรัก กลับมาคราวนี้ญาติการุกหนัก รุกแรงเหลือเกิน เขาก็อยากรู้นักว่าไอ้สิงห์หนุ่มขี้เก๊กมันจะทนได้สักกี่น้ำ
“ได้ยังไงคะน้องหญ้า เราเป็นผู้หญิงพูดแบบนี้มันไม่เหมาะรู้มั้ย”
“หญ้าไม่ถือหรอกค่ะพี่ว่าน ก็หญ้ารักของหญ้านี่นา”
“ว่านก็อย่าไปถือสาไอ้หญ้ามันเลย มันคงอยากเป็นเหมือนคู่เรา จำได้หรือเปล่าตอนที่ว่านมาที่ไร่นี่ อยู่แค่ไม่ถึงเดือนผมก็ทำว่านท้องได้แล้วน่ะ โอ๊ย...”
รัฐศาสตร์สะดุ้งโหยงเมื่อถูกบิดเนื้อต้นแขนจนหลุดคามือเมียสุดที่รักไปแล้วหรือเปล่าก็ไม่รู้
“คุณหนึ่งกำลังจะบอกว่าว่านใจง่ายใช่หรือเปล่าคะ” มีกังวานแสนจะอับอายที่สามีเอาเรื่องสมัยก่อนมาพูด แล้วเธอก็เถียงไม่ได้ซะด้วยสิ เพราะไอ้ที่เขาพูดน่ะมันเป็นความจริงซะด้วย
“โธ่ว่านจ๋า คุณหนึ่งหมายความว่าเรารักกันมากต่างหาก เวลาไม่ใช่เรื่องสำคัญถ้าหัวใจเราตรงกัน” รัฐศาสตร์เอาสองมือประกบทำเป็นรูปหัวใจส่งให้คนที่กำลังเขินจัด
“แต่คุณหนึ่งคงลืมไปแล้วนะคะว่าเรารู้จักกันมาก่อนหน้านั้นตั้งสี่ปี แล้วคุณหนึ่งก็อยู่ในหัวใจว่านตั้งแต่วันแรกที่เราได้พบกันแล้ว”
“คุณหนึ่งก็ไม่เคยลืมผู้หญิงที่ชื่อมีกังวานเลยนะครับ”
“พอๆ ทั้งมึงทั้งว่านนั่นแหละ กูเลี่ยนฉิบหายเลยว่ะ” สิงห์คบต้องรีบเบรกสองผัวเมียคู่นี้เอาไว้ก่อน ขืนปล่อยให้รำลึกความหลังกันไปรำลึกความหลังกันมา เดี๋ยวไอ้คุณหนึ่งมันได้ชวนเมียขึ้นห้องหนีเขากับยายญาติกาตัวแสบไปแน่ๆ
“เจ้าเนื้อนวลหอมฟุ้งจรุงใจพี่
คงไม่มีวันไหนหักใจไหว
อยากกอดเจ้า จูบเจ้า อยู่เรื่อยไป
โปรดเห็นใจ พี่เถิดหนา เจ้าเนื้อนวล”
ผิวเมียเขานี่ช่างนุ่มนิ่มละมุนมือ ให้ลูบให้คลำอยู่ทั้งวันทั้งคืนเขาก็ไม่เบื่อ
“มาเป็นกลอนเลยนะมึงทีนี้” สิงห์คบส่ายหน้าอย่างแสนระอาใจ ถึงเมื่อสองชั่วโมงก่อนรัฐศาสตร์จะไม่ได้พาเมียขึ้นห้องไปอย่างที่เขานึกกลัว แต่ผ่านมาจนถึงตอนนี้ไอ้คนตาเยิ้มที่เริ่มลูบๆ คลำๆ เดี๋ยวจูบเดี๋ยวหอมแขนเมียก็ทำท่าจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว
“คุณหนึ่งอย่าสิคะ อายคุณสิงห์กับน้องหญ้านะ” มีกังวานตีมือสามีที่ยุ่มย่ามเนื้อตัวเธอไปทั่วซะหลายเพียะ ได้แอลกอฮอล์เข้าไปทีไรเป็นอย่างนี้ทุกทีโดยเฉพาะยาดองและเหล้ากลั่นที่ซัดไปซะหลายไหตรงหน้านี่แหละ
“ถ้าอย่างนั้นเรากลับเข้าห้องของเรากันดีหรือเปล่าจ๊ะ”
“ได้ยังไงล่ะคะ คุณหนึ่งจะทิ้งให้คุณสิงห์ดื่มคนเดียวเหรอ”
“ไปเถอะว่าน ผมกับไอ้หญ้าก็เริ่มจะง่วงแล้วเหมือนกัน ว่าจะกลับอยู่พอดี”
“เอาอย่างนั้นเหรอคะ”
“ถ้าไม่เอาแบบนี้ ผมว่าไอ้หนึ่งมันได้จับว่านปล้ำต่อหน้าผมกับไอ้หญ้าแน่ๆ” ว่าแล้วสิงห์คบก็หัวเราะร่วน รู้ไส้รู้พุงถึงระดับความหื่นกระหายของเพื่อนดี ยิ่งเหล้ากลั่นที่เขากับมันเพิ่งซัดกันเข้าไปก็ขึ้นชื่อเรื่องทำให้เลือดลมสูบฉีดดีอยู่แล้ว ดีที่เขาไม่ได้คออ่อนอย่างรัฐศาสตร์
ระหว่างทางเดินกลับที่พักของเขากับญาติกา ซึ่งก็ไม่ได้อยู่ไกลจากซุ้มที่พวกเราชอบใช้ไว้ปาร์ตี้เล็กๆ กันสี่คน หรือกินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตากันอย่างสมัยก่อนนัก ถึงจะไม่ได้ใกล้อย่างบ้านของรัฐศาสตร์กับมีกังวานก็เถอะ แต่ถ้ามีเพื่อนเดินอย่างตอนนี้ คิดอะไรเพลินๆ สักประเดี๋ยวก็ถึง