ตอนที่ : 8 จนตรอก

1865 คำ
4 จนตรอก            มินจันทร์หิ้วกระเป๋าใบเดียวเดินออกจากเบลลาเดโอคลับด้วยความรู้สึกหวั่นใจ ค่ำคืนนี้เธอจะไปนอนที่ไหนได้ ในเมื่อทั้งตัวมีเงินอยู่แค่ไม่กี่เหรียญไม่เพียงพอที่จะเข้าพักในโรงแรมด้วยซ้ำไป หญิงสาวเดินไปหยุดอยู่ที่ม้านั่งในสวนสาธารณะแห่งหนึ่งในช่วงเวลาพระอาทิตย์ตกดินพอดี บรรยากาศในสวนสาธารณะช่างเต็มไปด้วยความเงียบงัน มีกลุ่มคนจรเพียงแค่สองคนที่นอนอยู่บนม้านั่งตัวถัดไป หญิงสาวปรายสายตาดูผู้ชายสองคนในสภาพสติไม่เต็มเต็งแล้วก็พานให้รู้สึกไม่ปลอดภัย แต่จะให้ทำอย่างไรได้ในเมื่อเธอไม่มีที่อื่นให้ไปจริงๆ จู่ๆ ก็มีเสียงรถยนต์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจวิ่งผ่านมาทางด้านหน้าของสวนสาธารณะแห่งนี้ ผู้ชายทั้งสองคนที่อยู่บนม้านั่งด้านข้างรีบกระวีกระวาดหาที่หลบซ่อน มินจันทร์ไม่รอช้ารีบทำตามพวกเขาในทันที เกือบลืมไปว่าสวนสาธารณะในต่างประเทศไม่เหมือนในประเทศไทย เขาห้ามคนจรมาบุกรุกหรือหาที่หลับนอนในยามค่ำคืน ทั้งหมดเฝ้ารอจนรถของเจ้าหน้าที่ตำรวจวิ่งผ่านลับตาไปแล้วจึงได้ออกมาจากที่หลบซ่อน แล้วเดินหาที่หลับนอนของตัวเองต่อเหมือนเมื่อครู่ไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้น มินจันทร์รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง ที่ต้องหนีการตามล่าของเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง คิดแล้วก็ได้แต่อเนจอนาถใจในชะตากรรมอันแสนเศร้าของตัวเอง กระเป๋าใบน้อยในมือถูกวางเป็นหมอนหนุนบนม้านั่ง กระชับเสื้อโค้ตของตัวเองเข้าหากันแน่นแล้วทิ้งตัวลงนอน ขอผ่านค่ำคืนแห่งความหนาวเหน็บนี้ไปก่อน พรุ่งนี้ค่อยคิดเดินทางออกหางานทำใหม่ก็แล้วกัน คนไร้ที่พักพิงได้แต่ปลอบใจตัวเองก่อนจะข่มตาหลับนอนลง            มองย้อนไปด้านหลังของต้นไม้ใหญ่ ก็จะพบเห็นร่างของบุรุษสองคนภายใต้เงามืดของสวนสาธารณะแห่งนี้ ทั้งคู่ได้เฝ้าสะกดรอยตามหญิงสาวมาอย่างเงียบๆ หนึ่งในนั้นกำลังยกโทรศัพท์มือถือขึ้น เพื่อรายงานต่อเจ้านายของตัวเอง            “เธอนอนอยู่ที่สวนสาธารณะครับคุณแอล”            “เฝ้าเอาไว้” แอลสั่งให้คนของตัวเองเฝ้าดูหญิงสาวอยู่ที่สวนสาธารณะต่อไป            หลังจากกดวางสายโทรศัพท์มือถือลงแล้ว ร่างสูงของชายหนุ่มเดินไปหยุดอยู่ตรงริมระเบียงห้อง มองออกไปยังกลุ่มไฟแสงสีที่ประดับประดาอยู่เต็มบริเวณรอบๆ เมือง ท่ามกลางความวุ่นวายในเมืองคนบาปแห่งนี้ ยังมีผู้หญิงคนหนึ่งเลือกที่จะขดตัวทนรับความหนาวเหน็บเพียงลำพัง เพียงเพราะไม่อยากร่วมเตียงกับเขา แอลกำขอบระเบียงห้องเอาไว้แน่น ให้มันรู้ไปว่าแอลคนนี้จะทำให้ผู้หญิงจนตรอกคนหนึ่งซมซานกลับมาหาไม่ได้            ด้านสวนสาธารณะที่ใครบางคนใช้เป็นที่หลับนอน ไอน้ำค้างเริ่มจะกลั่นตัวลงบนพื้นสนามหญ้าในตอนตีสามของค่ำคืน มินจันทร์ผล็อยหลับลงไปด้วยความเหนื่อยล้า จึงไม่ได้รับรู้ว่าอันตรายใกล้ตัวกำลังจะย่างกรายเข้ามาหา ชายจรจัดสองคนลุกขึ้นนั่งพวกมันหันหน้าไปมองกัน ก่อนจะชำเลืองสายตาไปทางม้านั่งด้านข้าง จากนั้นทั้งคู่ก็ก้าวตรงเข้าไปหาหญิงสาวที่นอนหลับอยู่ “โอ๊ะ” มินจันทร์สะดุ้งสุดตัวเมื่อมีคนมากระชากท่อนแขนของเธอให้ลุกขึ้นจากม้านั่ง “ตามมาดีๆ น้องสาว” หนึ่งในนั้นข่มขู่ “ไม่!” หญิงสาวดิ้นรนหนีคนที่พยายามกระชากร่างของเธอให้ตามติดพวกมันไปในบริเวณที่เป็นมุมอับ สองแรงชายหนุ่มกับหนึ่งหญิงสาวมีหรือมินจันทร์จะสู้แรงของพวกมันได้ เธอถูกพวกเดนสังคมลากไปยังด้านหลังของพุ่มไม้หนา มินจันทร์ได้แต่ส่งเสียงร้องอยู่ในลำคอเพราะว่าถูกฝ่ามือสกปรกของพวกมันอุดปากเอาไว้แน่น แผ่นหลังบางถูกดันแนบลงกับพื้นหญ้า คนถูกกระทำถึงกับหลับตาลงแน่นด้วยความรู้สึกสิ้นหวังในชีวิต แต่ก่อนที่พวกมันจะได้ลงมือทำมิดีมิร้ายตัวเธอ ชายแปลกหน้าสองคนก็ตรงเข้ามากระชากร่างของพวกมันให้ออกห่างอย่างรวดเร็ว พลั่ก! ตับ! พวกเดนสังคมจึงถูกมอบบทลงโทษอันแสนหฤโหดให้ มินจันทร์รีบยันกายลุกขึ้นนั่งมองดูพวกมันถูกรุมกระทืบด้วยอาการตื่นตกใจ “พวกมึงไปให้พ้นหูพ้นตากูเดี๋ยวนี้ อย่าได้กลับมาให้พวกกูเห็นหน้าอีก ไม่งั้นตาย!” เมื่อถูกข่มขู่ถึงชีวิต พวกมันทั้งสองคนก็รีบวิ่งหนีจากไปอย่างลนลาน “ขอบคุณมากนะคะที่ช่วยฉันเอาไว้” มินจันทร์ยกมือขึ้นไหว้ผู้มีพระคุณทั้งสองคนด้วยความซาบซึ้งใจ “ไม่เป็นไรครับ” ชายร่างใหญ่ผิวสีหมึกมองดูหญิงสาวด้วยความเห็นใจ แต่ว่าหน้าที่ของเขามีเพียงแค่เฝ้าดูห้ามทำอะไรมากไปกว่านี้ พวกเขาจึงเดินจากไปเงียบๆ ปล่อยให้คนขวัญผวาอยู่เพียงลำพังในสวนสาธารณะแห่งนี้ คราวนี้มินจันทร์ไม่กล้าหลับตาลงอีกต่อไป หญิงสาวเดินลัดเลาะสวนสาธารณะไปตามแถวทางเดิน ก่อนจะข้ามถนนไปยังโรงแรมหรูแห่งหนึ่งซึ่งด้านข้างมีที่กดน้ำดื่มตั้งอยู่ หญิงสาวรีบกดน้ำลูบตามใบหน้าและเนื้อตัวของตัวเอง จากนั้นก็นั่งรออยู่ด้านข้างของโรงแรมกระทั่งรุ่งเช้าของวันใหม่จึงได้เตรียมตัวออกหางานทำ ร้านอาหารในลาสเวกัสสองร้านปฏิเสธมินจันทร์ ทั้งที่หญิงสาวยังไม่ได้กรอกใบสมัครเสียด้วยซ้ำ ไม่มีคำอธิบายใดให้หญิงสาวได้หายข้องใจ มินจันทร์ทำใจสู้เดินไปสมัครงานอีกสองแห่ง ทว่าคำตอบที่ได้รับมันช่างเหมือนกันราวกับนัดหมายมา ผ่านมาสี่ร้านแล้วเริ่มเข้าสู่เวลาเที่ยงเงินค่าแรงจากเบลลาเดโอคลับวันเดียวได้มาเพียงแค่ห้าสิบเหรียญ และมันก็ได้กลายเป็นค่าอาหารเที่ยงของวันไป จากนั้นมินจันทร์ก็เดินสมัครงานไปตามร้านอาหารที่ตั้งเรียงรายอยู่ริมถนน เข็ดแล้วกับโรงแรมและคาสิโนสุดหรูคงไม่แคล้วได้ขายตัวอย่างแน่นอน แม้จะพยายามแค่ไหนแต่ความจริงก็ช่างโหดร้าย เมื่อไม่มีร้านไหนรับเธอเข้าทำงานเลยแม้แต่ร้านเดียว ความอัดอั้นใจสุดกู่นี้ทำให้มินจันทร์เอ่ยปากถามร้านสุดท้ายในช่วงเย็นของวัน ว่าเธอมีข้อเสียอะไรถึงได้ปฏิเสธอย่างไม่มีเหตุผลแบบนี้ ทั้งที่หน้าร้านก็ติดป้ายประกาศรับสมัครเด็กเสิร์ฟด่วนหลายอัตรา และแล้วคำตอบที่ได้รับกลับมาก็ทำให้มินจันทร์เข่าแทบทรุด “กลับไปหา แอล คอร์เทส เถอะ ถ้าอยากอยู่รอดในเมืองนี้” เจ้าของร้านเป็นคนเอ่ยปากบอกด้วยความสงสาร หลังจากที่มินจันทร์เพียรถามเรื่องการปฏิเสธรับตัวเธอเข้าทำงานด้วยความไม่เข้าใจ “แอล คอร์เทส” มินจันทร์ครางออกมาทั้งน้ำตา เธอเฝ้าเดินหางานทำมาทั้งวันเพียงเพื่อจะพบกับความผิดหวังโดยมีเขาเป็นผู้อยู่เบื้องหลังทั้งหมดอย่างนั้นหรือ แผ่นหลังบางที่กำลังสั่นสะเทือนด้วยแรงสะอื้นไห้เดินออกจากร้านอาหารไปอย่างเงียบๆ มินจันทร์เดินร้องไห้สะอึกสะอื้นไปตามถนนใหญ่ก่อนจะเลี้ยวเข้าตรอกซอยเล็กๆ ไปโดยไม่รู้ตัว ว่าเธอได้พลัดหลงเข้าไปในดินแดนของพวกผิวสีเสียแล้ว แหล่งสลัมแห่งนี้กลายเป็นที่พักพิงของผู้คนที่ต่างเชื้อชาติ รวมกันอยู่ ด้วยสารพัดอบายมุขที่ผิดกฎหมายแทบจะทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นยาเสพติด การพนันชั้นต่ำ หรือกระทั่งผู้หญิงบริการที่พบเห็นอยู่เกลื่อนท้องถนนอันคับแคบ มินจันทร์รีบเช็ดคราบน้ำตาเมื่อรู้ตัวว่าได้เดินเข้ามาผิดที่ผิดทาง แต่ครั้นจะเดินจากที่นี่ไปก็ทำได้ไม่ง่ายเสียแล้ว เมื่อมีชายผิวหมึกรูปร่างใหญ่โตสองคนเดินเข้ามาขวางทางเธอเอาไว้            “จะไปไหนน้องสาว” มือสกปรกยื่นเข้ามาหมายจะดึงหัวไหล่ของมินจันทร์ แต่เจ้าตัวก็สะบัดหันหนีไปอีกทาง            “อย่ามายุ่งกับฉัน” หญิงสาวหาญกล้าทำตาดุใส่พวกมันทั้งสองคน            “โอ๊ะ ดุเสียด้วย มืดค่ำแบบนี้อยู่เป็นเพื่อนพวกเราก่อนดีกว่าไหม” คนตัวสูงกว่ายิ้มแสยะจนเห็นฟันสีขาวตัดกับผิวสีหมึก มินจันทร์เห็นแล้วก็นึกขยะแขยงในความกักขฬะตรงหน้า            “ไม่!” พูดแล้วก็ก้าวเท้าเดินหนีไปอีกทาง แต่ก็ไม่วายถูกทั้งสองคนตามมาดักอีกจนได้            “คุยกันดีๆ ไม่ชอบ เฟรโต้จัดการ” ว่าแล้วพวกมันก็ตรงเข้าหามินจันทร์ กระชากลากถูหญิงสาวให้เข้าไปภายในมุมมืดในซอกซอยเล็กๆ แรงดิ้นรนกับเสียงกรีดร้องให้คนช่วยเหลือแผดลั่นไปทั่ว แต่ก็ไม่มีใครให้ความสนใจต่อเหตุการณ์ตรงนี้เลย มันเป็นความเคยชินเสียแล้วสำหรับผู้คนในสลัมแห่งนี้ การฉุดคร่าข่มขืนมันได้กลายเป็นเรื่องปกติในสายตาของคนที่นี่ มินจันทร์ถูกลากเข้าไปจนสุดซอยหญิงสาวตัดสินใจกัดข้อมือที่กำท่อนแขนของเธอเอาไว้สุดแรงเกิดเมื่อถึงคราวอับจนหนทาง            “โอ๊ย!” เสียงร้องด้วยความเจ็บลั่นขึ้น มันสะบัดข้อมือออกจากปากของหญิงสาวจนหลุด            เพียะ! ฝ่ามือมหากาฬฟาดใส่ใบหน้าของมินจันทร์จนแก้วหูลั่นเปรี๊ยะ ร่างน้อยเซถลาไปด้านหลังจนติดกับผนังกำแพงปูน            “มึงอยากตายนักใช่ไหม” ด้วยความโกรธทำให้คนที่ถูกกัดมือ ดึงปืนกระบอกหนึ่งออกมาจากบั้นเอว            “เฮ้ย เฟรโต้อย่าสินานๆ จะเจอชาวเอเชียหลงเข้ามา จัดการก่อนแล้วค่อยใช้มันก็ได้” เพื่อนที่มาด้วยกันแนะทางออกให้ด้วยสายตามีเลศนัย เฟรโต้ยิ้มเยือนออกมาด้วยรู้ในความหมาย มีแม่กวางหลงป่าเนื้อหวานมาอยู่ตรงหน้าจะฆ่าทิ้งเลยก็เสียดาย สู้ใช้ให้เกิดประโยชน์แล้วค่อยกำจัดก็ไม่เสียหาย            “นั่นสินะ หึหึ” ชายที่ชื่อเฟรโต้เดินตรงไปหาหญิงสาวที่ยืนตัวซีดแผ่นหลังติดอยู่กับกำแพง มินจันทร์สั่นเทาไปทั้งร่างกายด้วยความกลัว เธอมองไม่เห็นหนทางหนีของตัวเองเลยในตอนนี้ หยาดน้ำตาไหลอาบนองหน้าด้วยความสิ้นหวัง นี่เธอจะต้องกลายเป็นเหยื่ออารมณ์ของสัตว์นรกพวกนี้อย่างนั้นเหรอ            “ไม่!” ร่างสกปรกที่โถมเข้าใส่ทำให้กำปั้นน้อยซัดออกไปอย่างไม่รู้ทิศทาง ความชุลมุนวุ่นวายเกิดขึ้นอยู่เพียงชั่วครู่ มินจันทร์ก็สิ้นฤทธิ์ด้วยไม่อาจต้านแรงบุรุษได้ 
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม