เช้าต่อมา กริ้ง!!! เสียงนาฬิกาปลุกจากโทรศัพท์ของวิเวียนดังออกมาเป็นปกติ บ่งบอกว่าเวลานี้เป็นเวลา 07:30 น. “ยัยวิเวียน แกปิดนาฬิกาของแกสิ ฉันจะนอน” มิชรินทร์พูดกับเพื่อนสนิททั้ง ๆที่กำลังหลับตาอยู่ เพราะลืมตาไม่ขึ้น อาการรู้สึกหนักอึ้งที่บริเวณศีรษะค่อย ๆ กำเริบขึ้นมาเมื่อคืนเธอได้ไปโหม่งเสาไฟที่ไหนไหมนะ ทำไมถึงรู้สึกเจ็บและมึนหัวขนาดนี้ จนเธอต้องยกเอามือเล็กมาทุบเบา ๆ ที่หน้าผาก ปึก ปึก “เวียนหัวชะมัดเลย ฮือ” ปากเล็กพึมพำ “หือ แกไม่ไปทำงานเหรอยัยริน…” วิเวียนถามมิชรินทร์ด้วยน้ำเสียงที่เนิบนาบ พร้อม ๆ กับหลับตาอยู่เช่นกัน มิชรินทร์ดวงตาเบิกโพลง เหมือนว่าจะลืมเรื่องนี้ไปจนสนิทใจ จากนั้นดีดตัวลุกขึ้นจากเตียงขนาด 5 ฟุต พร้อมกับอุทานอย่างเสียงดังว่า “ซวยแล้ว ! กี่โมงแล้วเนี่ย โอ้ย” คนตัวเล็กพูดอย่างร้อนรน จู่ ๆ ภาพที่เธอตบใบหน้าของอัลเฟรดในหัวก็ฉายเข้ามา ทำให้ร่างเล็ก ๆ นั่งอยู่บนเตี