“ช่วยบอกเหตุผลให้ผมรู้ได้ไหมว่าเพราะอะไรคุณถึงไม่กลับ”
“ไม่มีอะไรมากค่ะ ฉันแค่อยากสร้างฐานที่มั่นอีกที่ให้กับบริษัทของเราค่ะ ที่นี่ไม่เลวเลยนะคะ คนรวยเยอะค่ะ”
“อืมม ได้ยินยังงี้จากปากของคุณเองผมค่อยสบายใจหน่อย”
“ไม่ต้องห่วงค่ะ สำเร็จเมื่อไหร่ ฉันจะโทร.บอกคุณเป็นคนแรก”
“พูดก็พูดเถอะ ที่นั่นไม่มีอะไรทำนะ ไอ้สัญญาตึกที่เราเช่าก็กำลังจะหมด”
“ต่อสัญญาสิคะ ฉันกำลังจะเสนอตัว เอ๊ย เสนองานตกแต่งเรือนหอร้อยล้านกับลูกค้ารายสำคัญ”
“ถ้าหมายถึงคุณสมพร...”
“ค่ะ คุณสมพรนั่นแหละค่ะ”
“เรากำลังเจอกับคู่แข่งนะ”
“หมายถึง...”
“บริษัทไปจากกรุงเทพฯ คู่แข่งในทุกสนามของบริษัทเรา และดูเหมือนว่างานใหญ่ๆที่เขาได้ไป เรามักจะเป็นฝ่ายพลาด”
“จริงหรือเนี่ย”
“เรามันบริษัทเบอร์สอง”
“ที่อื่นอาจจะเบอร์สอง แต่ที่นี่ ฉันจะทำให้เราได้งานเป็นเบอร์หนึ่งค่ะ”
“โอ้ ผมละชื่นชมคุณจริงๆ”
ศศิธรรู้สึกเหมือนได้พลังจากพระเจ้าก็มิปาน เมื่อเทียบกับสิ่งที่เกิดขึ้นนับตั้งแต่วันแรกที่มาถึง หล่อนมาถูกทางแล้ว
มีคนมาหาศศิธรที่ออฟฟิศในช่วงบ่าย...
เป็นผู้ชายสูงวัยคนหนึ่ง อีกคนรุ่นราวคราวเดียวกับหล่อน การแต่งตัวมีสไตล์ เสื้อผ้าดูเหมือนจะแบรนด์เนมมีระดับเสียด้วย
จริงอย่างที่ประธานบอร์ดบอกมาตามสาย หล่อนกำลังเจอกับคู่แข่งที่เหนือชั้นในการประมูลงาน
“ที่นี่มันค่อนข้างเถื่อนนะ ถ้าคุณคิดจะเสนอตัวเข้าแข่ง ผมอยากให้คุณคิดให้รอบคอบ”
“ฉันเพิ่งมาค่ะ ขอศึกษาก่อนนะคะ”
“ผมแค่แวะมาเตือน”
“ขอบคุณค่ะ” ศศิธรสบตากับผู้ชายทั้งสอง ประกายตาของเธอดูเร่าร้อนแบบผู้หญิงที่...ไม่ใช่ไร้เดียงสาต่อโลก
ก่อนสองคนนั่นจะลากลับ หล่อนจึงได้เบอร์มือถือของคนสูงอายุมา
“มีอะไร ติดต่อผมได้นะครับ”
เขากล่าวพร้อมกับส่งสายตามีความหมาย
“ขอบคุณค่ะพี่” ศศิธรสบตาเป็นประกาย พอสองคนนั่นก้าวพ้นออฟฟิศ สีหน้าของหล่อนก็เปลี่ยนเป็นถมึงทึง
“คิดจะขู่ฉันเรอะไอ้แก่ ได้... เดี๋ยวเจอกัน”
กริ๊งงงงง!
ศศิธรสะดุ้งเฮือกกับเครื่องโทรศัพท์ตั้งโต๊ะที่ดังขึ้นหลังจากคนของบริษัทคู่แข่งจากไปไม่ถึงชั่วโมง หล่อนกำลังง่วนอยู่กับการวางแผน... ผู้หญิงอย่างศศิธร ผ่านร้อนผ่านหนาวมา หล่อนไม่ประเมินคู่แข่งต่ำแน่ หล่อนประเมินเอาไว้สูง เช่นเดียวกับคนที่หล่อนจะต้องเข้าไปเสนองาน…
สุดหล่อ สมพร โคตรสร้างเพชร
“สวัสดีค่ะ” หล่อนรับสายเสียงหวาน ยังไม่ทันได้พูดต่อด้วยซ้ำ เสียงของคนปลายสายทำเอาศศิธรเลือดร้อนฉ่าขึ้นมาอีกครั้ง
“ป้า ว่างไหม”
ใช่ เขานั่นแหละ สุดหล่อ สมพร โคตรสร้างเพชร
“วะ...ว่างค่ะ” หล่อนไม่ได้พูดต่อให้จบว่า... สุดหล่อ “มีอะไรหรือเปล่าคะ”
“เรื่องประตูห้องน้ำ”
“อ๋อ ค่ะ แล้วไงคะ”
“ผมจะเข้าไปซ่อมให้”
“หมายถึง...”
“ผมจะเข้าไปซ่อมด้วยตัวเอง”
“อ้อ ได้ค่ะ ได้ จะเข้ามาเมื่อไหร่คะ”
“อีกครึ่งชั่วโมงครับ”
หล่อนวางสาย หัวใจเต้นรัว แล้วรู้สึกเหมือนเพิ่งเสร็จสมจากการช่วยตัวเองครั้งแรก มันเป็นอย่างนั้นจริงๆ
ครึ่งชั่วโมงต่อมา
เขามาจริงๆ และเวลาครึ่งชั่วโมงที่ผ่านมา เธอมีเวลามากพอสำหรับจัดการตัวเองให้...หอมไปทั้งร่าง โธ่...ระดับสาวใหญ่อย่างเธอ ไม่ใช่ปล่อยให้โอกาสลอยนวล ทุกอย่างในโลกนี้ไม่มีคำว่าบังเอิญอย่างเด็ดขาด ศศิธรเชื่ออย่างนั้น
ถ้าคิดจะเป็นผู้ชนะ ต้องเตรียมตัวให้พร้อม
รถหรูแล่นเข้ามาจอดหน้าออฟฟิศตรงเวลาเป๊ะ แล้วสุดหล่อก็ก้าวลงมา แต่ผิดคาดจากที่ศศิธรคิดไปหน่อย เพราะเขาไม่ได้มาคนเดียว แต่มาพร้อมกับหญิงสาวอายุดูไม่น่าเกิน 20 ปี การแต่งเนื้อแบบโชว์สัดสัดส่วน บ่งบอกว่าเธอแก่แดดและอาจจะล้ำหน้าอายุไปมากแล้ว
หรือว่า ผู้หญิงคนนี้คือว่าที่เจ้าสาวของเขา ก็มีส่วนเป็นไปได้ เพราะหน้าตาผิวพรรณของหล่อนดูเป็นลูกผู้ดีไม่เคยออกแดด
“หวัดดีป้าเสียสิ” สุดหล่อแนะนำเพื่อนสาว “เธอชื่อ ดวงสมร”
“บอกกี่ครั้งแล้วว่าหนูชื่อ เชอรี่”
“ดวงสมร เป็นชื่อที่พ่อให้พระที่นับถือตั้งให้ ไม่ว่าเธอจะเปลี่ยนชื่อกี่สิบชื่อ สำหรับพี่ เธอก็คือ ดวงสมร”
น้ำเสียงของชายหนุ่มดุดัน แววตาของเขาเวลาพูดกับเด็กสาว มีความกร้าวราวกับเป็นผู้ปกครอง
นี่ก็เป็นอะไรที่ผิดคาดของศศิธรอีกเหมือนกัน ตอนแรกหล่อนเข้าใจว่าเป็นคู่รัก แท้จริงแล้วเด็กสาวท่าทางก๋ากั่นเป็นน้องสาวแท้ๆของสุดหล่อ
“ขอโทษด้วยนะครับป้า เธอไม่รู้จักโตเสียที ต้องโทษผมไม่ดีเอง ไม่สามารถดูแลเธอให้เป็นเด็กเรียบร้อยได้”
“วัยรุ่นก็เป็นงี้แหละน่า คุณสมพรนั่นแหละน่าจะผิดปกติ เพราะดูเป็นผู้ใหญ่เกินอายุ” ศศิธรพูด
“จริงด้วยค่ะป้า พี่สมพรแก่”
เขาหันไปแยกเขี้ยวใส่ดวงสมรแล้วอธิบายกับศศิธร “แม่ตายตั้งแต่พวกเรายังเด็ก ตอนแม่ตาย ดวงสมรเพิ่งจะห้าขวบ”
“โอ้ เสียใจด้วยนะคะ” ศศิธรไม่ได้รู้สึกเสียใจจริงๆ เป็นแค่การพูดตามมารยาท ไม่มีใครมานั่งเสียให้กับการตายของคนอื่นหรอกน่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งมันผ่านมานานแล้ว
“ท่าทางของป้าเหมือนจะเข้ากับดวงสมรดีนะครับ” สุดหล่อพูด
“ฉันแค่เคยผ่านการเป็นวัยรุ่นมาแล้ว”
“ผมคงผิดปกติจริงๆ” สมพรพูดเหมือนพึมพำกับตัวเอง “ผมต้องรับผิดชอบกิจการทั้งหมดที่พ่อมีแทนพ่อ ลืมบอกไป พ่อผมเพิ่งเสียเมื่อปีที่แล้ว”
“โอ้ แย่จริงๆ”
“ไม่มีอะไรที่จะแย่กว่านี้อีกแล้วสำหรับผม”
“นั่นสิคะ ฉันเสียใจ”
“แต่ผมลืมเรื่องทั้งหมด และผมกำลังจะสร้างชีวิตใหม่”
“หมายถึงแต่งงานใช่มั้ยคะ”
“ครับ เธอเป็นลูกสาวของพ่อ”
“สวยไหมคะ” ศศิธรใจแป้วลง แต่ก็สามารถปกปิดความรู้สึกได้ดี
“ก็สวยแหละครับ แต่ไม่ใช่สเปก”
“ยังไงคะ สเปกคุณยังไง”
“พี่สมพรชอบคนอวบๆ อกใหญ่ สะโพกใหญ่ค่ะ”
“ดวงสมร ไม่พูดก็ไม่มีใครว่าใบ้หรอกนะ”
คำพูดของดวงสมร ทำให้ศศิธรรู้สึกเหมือนว่าเข้าทางหล่อนอีกแล้ว หล่อนน่ะเป็นอย่างที่ดวงสมรพูดเลย ถ้าจะมีด้อยก็เพียง...อายุเท่านั้นแหละ
“ผมว่าผมไปซ่อมประตูห้องน้ำดีกว่า” เขาตัดบท แต่ศศิธรสังเกตเห็นใบหน้าของเขาแดง มันคืออารมณ์ของผู้ชายกำลังเขิน
อยากกรี๊ด! แต่ก็ทำได้แค่ยิ้มเล็กน้อย เก็บงำความรู้สึกทั้งหมดเอาไว้
“เชิญข้างในดีกว่าค่ะคุณ...เชอรี่”
ศศิธรพูดกับดวงสมร หล่อนย่อมเข้าใจอารมณ์ของคนเกลียดชื่อเดิม และถ้าเข้าใจดวงสมรได้อีกคน หล่อนเชื่อว่าหล่อนจะสมหวังในหลายๆเรื่อง
ศศิธรชวนเด็กสาวเข้ามานั่งในออฟฟิศ
“ว้าว! นี่จัดใหม่เหรอคะป้า”
เด็กสาวอุทานอย่างตื่นเต้นเมื่อเห็นสภาพของสำนักงานที่ถูกจัดใหม่ด้วยฝีมือของศศิธร สมกับอยู่บริษัทเกี่ยวกับตกแต่งภายใน
ศศิธรเกือบจะปลื้มอยู่แล้วเชียว ถ้าดวงสมรไม่เรียกหล่อนว่าป้า พยายามสะกดอารมณ์ไม่ให้ปรี๊ดแตก มองเห็นงานใหญ่รออยู่ ดังนั้นศศิธรจึงต้องระบายรอยยิ้มอ่อนโยน ต้องให้สมกับที่เด็กไว้วางใจ
ดวงสมรเป็นเด็กสาวที่ไม่ได้มีปัญหาอย่างที่สุดหล่อเข้าใจ แค่...สมพรมีความเป็นผู้ชายมากเกินไปนั่นเอง จึงไม่มีวันเข้าใจความเป็นผู้หญิง เรื่องขี้ปะติ๋วในความเข้าใจของผู้ชาย แต่มันคือเรื่องสำคัญมีความหมายที่สุดของผู้หญิง