เมื่อเข้ามาในห้อง หล่อนถึงกับประหม่า ทั้งที่ตลอดชีวิตการทำงาน หล่อนเคยเข้าหาคนระดับบริหารมาไม่รู้ตั้งกี่ครั้ง แต่ต่างจากคราวนี้
ชายหนุ่มผิวขาว ร่างสูง ใบหน้าคมคาย ปากแดง...
ความหล่อของเขา ทำลายความเชื่อมั่นในตัวของศศิธรลง แต่คำพูดของเขา สร้างความเจ็บปวดรวดร้าวและกลายเป็นความคับแค้นลึกๆ
“ผมมีเวลาให้ป้าแค่สิบนาที เชิญว่ามาได้เลย”
ศศิธรกลืนทุกอย่างลงท้อง ระบายใบหน้าด้วยรอยยิ้มแล้วเริ่มต้นอธิบายโปรเจ็กต์ใหญ่ๆที่บริษัทเคยทำมา
เขาให้เวลาแค่สิบนาทีจริงๆ แต่หล่อนก็สามารถอธิบายจนหมดถ้วน ร่างสูงขยับตัว
“เอาไว้ผมจะติดต่อกลับไปนะครับป้า ผมต้องรีบไป พอดีนัดกับว่าที่ภรรยาเอาไว้น่ะครับ”
“เชิญค่ะ”
ศศิธรออกมาจากคฤหาสน์หรูของสุดหล่อ... ความแค้นเหมือนจะเริ่มก่อตัวขึ้น พร้อมๆกับอาการเคลิบเคลิ้ม เพราะการได้เห็นสมพร โคตรสร้างเพชรในระยะใกล้ หล่อนก็ปลื้มสุดขีดแล้วละ เขาปากเสียไปหน่อย ก็พอให้อภัยได้
สาวใหญ่นึกเคลิบเคลิ้มไม่ทันไร กลับสะดุ้งโหยงสุดตัว เพราะเสียงแตรรถที่ตามมาจากด้านหลัง
“ว้าย! แ*ดหลุด!”
หล่อนอุทานซะเสียลุ้ก ครั้นเหลือบไปเห็นรถ คนในรถที่กดกระจกลงแล้วยื่นใบหน้าออกมาจากรถ ศศิธรก็ถึงกับเบิกตากว้าง
“คุณสมพร!”
“ผมนึกว่าป้าขับรถมา ไปด้วยกันไหม”
“คงจะดีมั้งค่ะ”
หล่อนตอบแล้วรีบก้าวไปที่ฝั่งตรงข้าม เรื่องอะไรจะปฏิเสธโอกาส
โอกาสน่ะมันไม่ได้มีบ่อยครั้งหรอก เพราะฉะนั้นเมื่อมีก็จงรีบฉกฉวย มันเป็นกฎของผู้ประสบความสำเร็จในชีวิต
การสนทนา ไม่ใช่แค่เป็นฝ่ายฟัง และไม่ใช่การรุกคืบเสียจนอีกฝ่ายรำคาญ...ทั้งหมดรวมอยู่ในกลยุทธ์ของการสื่อสารขั้นเทพ...หล่อนเคยไปสัมมนามา หล่อนจึงรู้เทคนิค
ทุกอย่างเป็นศิลปะ เทคนิค วิธีการ และทั้งหมดมีอยู่ในตัวของศศิธร
“แฟนคุณคงจะสวยน่ารักมากนะคะ”
“ใช่ครับ อายุอ่อนกว่าผมเกือบห้าปี”
“เพิ่งจะยี่สิบ”
“ยังไม่เต็มยี่สิบต่างหากล่ะครับ แต่ปริญญาสองใบแล้วนะครับ เป็นเด็กเรียน”
“โอว์ สุดยอด”
“ผมไม่รู้ว่าจะไปด้วยกันได้สักแค่ไหน”
“อ้าว...”
“ผมค่อนข้างเถื่อน เป็นนักเลงบ้านนอก แต่เธอ...ไม่ใช่”
“เถื่อน โอ้...” เข้าทางฉัน!
“ผมเรียนไม่จบแม้แต่มัธยมปลาย เกเร ชอบคบพวกเพื่อนแว๊น เป็นเจ้าถนนตั้งแต่ยังเรียนประถม ก็พ่อผมรวย จะเรียนไปทำไม”
“นั่นสิคะ เป็นฉันก็คงไม่เรียน”
“ป้าเข้าใจวัยรุ่นดีจัง”
“แน่นอน เพราะฉันเคยวัยรุ่นมาก่อน”
“ป้าคุยสนุกจัง” เขาชมต่อ ศศิธรรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นยายแก่ๆที่กำลังหลอกเด็กน้อยด้วยขนมหวาน เล่านิทาน ในระหว่างนั้นก็สอดใส่เรื่องราวที่เป็นประโยชน์ต่อเด็ก
ฉันยังไม่แก่ซักหน่อย... หล่อนแอบเคืองไม่หาย
“ผมไปส่งที่สำนักงานนะ จะได้ดูด้วยว่าเป็นยังไง”
“เอ้อ...มันยังไม่เรียบร้อยดี บริษัทของฉันใหญ่โตก็จริง แต่ที่นี่เป็นเพียงการเปิดสาขาใหม่”
“ผมรู้ แล้วไอ้ตึกนั่นก็เป็นของผมเองนั่นแหละ”
“อ้าว แล้วไม่บอกแต่แรก”
“ป้าไม่ได้ถามผมนี่”
เขาตอบแล้วเบาเครื่องรถจอดลงที่หน้าอาคารสำนักงาน ตอนแรกศศิธรหันมาขอบคุณแล้วเปิดประตูก้าวลงไป แต่ชายหนุ่มเปิดประตูออกแล้วก้าวตามมา
“คุณจะเข้าไปหรือคะ”
“เข้าไปได้ไหมล่ะครับ”
“ได้ค่ะ ได้เลย”
ศศิธรรีบเชื้อเชิญ ใจเต้นขึ้นมาอย่างประหลาด ผู้ชายคนนี้เหมือนมีปัญหาตั้งแต่ยังเด็ก เขาอาจมีปัญหาอะไรบางอย่างจริงๆ ถึงทำให้กลายเป็นคนปากเปราะ พูดจาไม่สู้เข้าหาสักเท่าไหร่ นิสัยเสียเหล่านี้เกิดจากอิทธิพลของการเลี้ยงดู สั่งสมจนกลายเป็นสันดาน
แต่อะไรที่เป็นความไม่เข้าท่าทั้งหมด ต้องละเว้นเอาไว้ในฐานที่เข้าใจ เพราะ...ความหล่อของเขากินขาด เรื่องอื่นๆจึงกลายเป็นเรื่องเล็ก
ก่อนที่สุดหล่อจะก้าวตามศศิธรเข้าไปข้างใน เสียงมือถือของเขาดังขึ้นขัดจังหวะ เขาหยิบออกมารับสาย โดยมีสายตาของหญิงสาวมองท่วงท่าการพูดจา การรับสายของเขาด้วยสายตาหวานฉ่ำ มันฉ่ำเองแบบไม่มีเหตุผล
“พี่กำลังจะไปจ๊ะที่รัก แต่งตัวรอได้เลย ขอเวลาอีก 10 นาที อ้อ...ไม่ต้องใส่กางเกงในนะ โอเคจ้ะ จุ๊ฟๆ”
ว้าว!
ศศิธรรู้สึกวูบวาบ แค่ได้ยินคำพูดของชายหนุ่มเท่านั้น หล่อนยังรู้สึกได้ถึงขนาดนี้ นานเป็นชาติแล้วมั้งที่หล่อนไม่เคยได้กินผู้ชาย
หล่อนแรง แต่หล่อนก็เลือก ไม่ใช่ว่าจะกินดะ
บางครั้งรู้สึกมากมาย ทว่าหล่อนไม่คิดจะทำลายตัวเอง อย่างดีที่สุดแค่เก็บมามโน แล้วเสร็จสมด้วยนิ้วหรือสายน้ำจากฝักบัวเท่านั้นแหละ
“ผมไปนะครับ”
เขาล่ำลา แล้วหมุนร่างก้าวกลับไปที่รถ
ศศิธรเดินเข้าออฟฟิศ ตาลอย ความรู้สึกยังวาบหวิวกับคำพูดของชายหนุ่ม หมายความว่ายังไง ไม่ใส่ต้องให้ใส่กางเกงใน
แค่คิดก็ฟินเวอร์!
ศศิธรเพิ่งรู้ว่า เม็ดบัวของหล่อนตั้ง
“ไม่นะ ฉันไม่มีที่ลง”
หล่อนบอกตัวเอง แต่กระแสความคิดของหล่อนยามนี้ กลับมองเห็นภาพของสุดหล่อ ชายหนุ่มผู้มีชื่ออันเชยที่สุดในสามโลก
“ไม่ไหวแล้วยัยศิเอ๊ย ติ้วเหอะ”
รถราคาแพง แทบไม่ได้ยินเสียง
ศศิธรมั่นใจว่า หล่อนอยู่ตามลำพัง เพราะฉะนั้นยามนี้จึงปลดปล่อยอารมณ์ความรู้สึกออกมาอย่างเต็มที่
“อ๊าสส!”
หารู้ไม่ว่าในระหว่างนั้น รถของสุดหล่อชื่อเชยได้ย้อนกลับมา ท่าทางของชายหนุ่มเหมือนจะหัวเสียอะไรสักอย่าง
ห้องน้ำหล่อนทำความสะอาดด้วยตัวเอง ไม่ใช่ห้องน้ำเน่าๆเหมือนแรกมาถึง หล่อนรูดกางเกงในออก ถลกกระโปรงขึ้น หล่อนใช้มือกับน้องหมีอย่างอ่อนโยน แต่ความอ่อนโยนก็เริ่มเลือนหายไปเมื่ออารมณ์เริ่มเร่าร้อน
“ซี้ดดดด!”