EP3

2467 คำ
โอ๊ย! ฉันต้องนึกถึงกายสิ ไม่ใช่ผู้ชายคนนั้น ลิฟต์เคลื่อนตัวขึ้นไปพร้อมกับหัวใจของฉันที่กำลังเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ ฉันพยายามลืมหน้าผู้ชายแปลกหน้าที่เกือบจะเสียค่าและพรหมจรรย์ให้กับเขาไปแทนที่จะเป็นคู่หมั้นที่กำลังทำงานอยู่ชั้นบน บอกตามตรงฉันเองก็รู้สึกผิดที่ดันไปเผลอตัวเผลอใจให้กับเอฟ จนรู้สึกผิดกับกายอย่างบอกไม่ถูก เมื่อไปถึงชั้นที่หมายฉันก็เดินออกจากลิฟท์ไปที่หน้าห้องของเขาอย่าเงียบๆ จากนั้นก็ใช้กุญแจสำรองที่เขาเคยให้ไว้ก่อนหน้านี้ใขเปิดประตูเข้าไปทันที ในห้องของกายนั้นต่างกับคอนโดมิเนียมของเอฟเรียกได้ว่าแตกต่างกันราวฟ้ากับเหวเลยก็ว่าได้ เพราะห้องของกายเป็นแค่เพียงห้องที่มีครัวแยกออกไปกับห้องน้ำแค่นั้นเอง แต่ห้องสุดหรูของเอฟนั้นเป็นห้องชุดที่กินพื้นที่ชั้นบนสุดและตกแต่งอย่างเลิศล้ำอลังการ เรื่องนั้นไม่สำคัญสำหรับความรักที่ฉันมีให้ต่อคู่หมั้นหรอกนะ และฉันก็ตั้งใจว่าจะเซอร์ไพรส์เขาหลังจากที่กายทำงานเสร็จด้วยการจบลงที่เตียง ตามแผนเดิม ฉันแอบเดินเข้าไปเงียบๆเพราะไม่อยากทำเสียงดังเพราะอาจจะรบกวนเวลาทำงานของคนที่กำลังมีสมาธิ แต่ทันทีที่ฉันโผล่เข้าไปในห้อง เลือดในกายของฉันก็พลันเย็นวาบคร้ายกับกลายเป็นน้ำแข็งในบัดดล "ว๊าย!!" "เฮ้ย พีช!!"0~0 กายร้องเสียงหลงพร้อมกับเสียงผู้หญิงที่กรีดร้องออกมาด้วยความถูกใจเช่นกัน แต่ให้เสียงกรี๊ด 8 หลอดดังลั่นสะเทือนกระจกนั้นไม่ใช่เสียงของฉันหรอกนะ ถึงแม้ว่าเจ้าของเสียงนั้นจะหน้าตาเหมือนกับฉันมากแค่ไหนก็ตามที ใช่ค่ะ...คนที่กำลังกอดรัดฟัดเหวี่ยงอยู่กับคู่หมั้นของฉันไม่ใช่ใครอื่นแต่เป็นน้องสาวฝาแฝดที่หน้าเหมือนกับฉันราวกับหล่อมาจากแม่พิมพ์เดียวกัน เอ๊ะ....ฉันเคยบอกทุกคนแล้วรึยังค่ะ? ว่ามีน้องสาวฝาแฝดที่ชื่อว่า "ลูกแพร์" อยู่ด้วยคนนึง เอาจริงๆแล้วถึงฉันกับลูกแพร์จะเกิดห่างกันเพียงแค่สองนาที และมีหน้าตาเหมือนกันเปี๊ยบชนิดที่เพื่อนสนิทบางคนยังเรียกผิดเรียกถูก แต่นิสัยของพวกเรานั้นเรียกได้ว่าแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ฉัน "ลูกพีช" มีนัสัยรักความเป็นระเบียบ เป็นคนรักษากฎ และมักจะมีแผนการวางไว้เป็นขั้นตอน แต่ ลูกแพร์" กลับมีนิสัยตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิงเพราะเธอนั้นเรียกได้ว่าเป็นคนทิ้งของระเกะระกะ ชอบแหกกฎ และไม่มีการวางแผนงานหรือตารางในชีวิตแม้แต่เรื่องเดียว ทุกอย่างขับเคลื่อนด้วยสภาพอารมณ์และความเอาแต่ใจของเธอที่เป็นที่ตั้ง "กาย! แพร์! นี่มันหมายความว่ายังไงกัน?!" ฉันตะโกนถามคู่หมั้นของฉันกับน้องสาวฝาแฝดที่กำลังนอนกอดก่ายกันอยู่ในสภาพที่เปลือยเปล่าด้วยกันทั้งคู่ พื้นด้านล่างมีชุดวางระแกะระกะกันอย่างไม่มีระเบียบ ไม่ว่าจะเชื่อของกายมีชุดของลูกแพร์ รวมไปถึงชุดชั้นในที่วางพาดอยู่บนโคมไฟที่หัวเตียง วินาทีนั้นมันเหมือนกับสายฟ้าฟาดลงมาแสกหน้าของฉันที่ได้มาเห็นอะไรแบบนี้ เพราะมันช่างเป็นอะไรที่เลวร้ายสุดๆ เมื่อต้องมาพบว่าน้องสาวฝาแฝดของตัวเองกับคู่หมั้นคนสำคัญที่ฉันกับเขาวางแผนที่จะแต่งงานกันกำลังนัวเนียกันอยู่บนเตียงอย่างเร่าร้อน "พะ....พีชมาได้ยังไง?" กายถามฉันด้วยสีหน้าตื่นตระหนกพร้อมกับกระเด้งตัวลุกขึ้นจากเตียง และดันร่างน้องสาวของฉันออกไปจากตัวของเขาก่อน ส่วนทางด้านลูกแพร์ ก็ปลายตามองมาที่ฉันแล้วลอบยิ้มมุมปากออกมาคล้ายกับสะใจยิ่งนัก เข้าห้องคนอื่นทำไมไม่รู้จักเคาะประตู ลูกแพร์พูดเชิงตำหนิและทำเหมือนกับฉันเป็นคนนอกทั้งที่ความจริงก็รู้รู้ อยู่ว่าฉันมักจะเข้าห้องนี้อยู่เป็นประจำ ฉันนิ่งอึ่งไปชั่วครู่ก่อนจะถามออกไปคล้ายกับหัวใจกำลังจะแตกสลายเมื่อเห็นว่าตัวเองกำลังถูกคนสนิทและเป็นคนที่ฉันรักทั้งสองคนทรยศหักหลัง เธอนั่นแหละ ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้? ยังไม่ทันที่ลูกแพร์จะได้ตอบคำถามของฉัน เจ้าของห้องก็รีบชิงพูดขึ้นมาก่อน ทำไมพีชไม่บอกก่อนล่ะว่าจะมาหาผม.. "ทำไมคะ? ก็พีชเห็นว่าคุณยุ่งๆ เพราะทำงานส่งลูกค้าก็เลยตั้งใจว่าจะแวะมาทำอาหารให้เงียบๆ แล้วนี่ถ้าพีชไม่มาก็คงไม่รู้ว่าตัวเองนั้นโง่ขนาดไหนใช่ไหมคะ!" ฉันตะโกนถามอย่างฉุนเฉียวก่อนจะหันหลังเดินกลับไปโดยไม่รอฟังคำตอบใดๆทั้งนั้น แต่กายก็รีบรุดเข้ามาคว้าข้อมือของฉันเอาไว้ก่อนโดยอีกมือหนึ่งก็กระชับผ้าขนหนูที่หยิบฉวยมาพันด้านล่างเอาไว้อย่างลวกๆด้วยความร้อนรน "พีช ฟังผมพูดก่อนสิ.." ปล่อยพีชเดี๋ยวนี้นะ ฉันพยายามสะบัดมือให้หลุด แต่ดูเหมือนมือของกายที่จับแขนฉันเอาไว้จะแน่นยิ่งกว่าถูกพันด้วยหนวดของปลาหมึกทะเลเสียอีก ผมไม่ปล่อย ฟังผมก่อนได้ไหมพีช ชัดเจนแบบนี้ยังมีอะไรแก้ตัวได้อีกหรอ?!! แถมคนที่กายกำลังมีอะไรด้วย ก็เป็นน้องสาวฝาแฝดของพีชอีก แบบนี้มันยังต้องคุยกันต่ออีกหรือไง?" เปลวไฟในใจของฉันยิ่งประทุขึ้น คล้ายกับมีใครเอาน้ำมันเบนซินมาราดลงบนกองไฟ ความเดือดดาลที่เก็บกดจากเรื่องเมื่อคืน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่เขาผิดนัด เรื่องที่เขาไม่รับโทรศัพท์ เรื่องที่โกหกว่าทำงาน และเรื่องที่ไม่น่าให้อภัยที่สุดคือการที่มีอะไรกับน้องสาวของฉัน ก็เพราะแบบนี้ไงที่ต้องคุยกันให้รู้เรื่อง กายถอนหายใจแล้วจ้องมองตาฉันด้วยสีหน้าจริงจัง ว่ามาจะได้จบๆกันไปซะที ต่อไปจะได้ถือว่าไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก ฉันยังอารมณ์เสียและพร้อมที่จะระเบิดได้ทุกเมื่อ แต่ก็อยากจะรู้ว่าเขาจะแก้ตัวยังไงอยู่เหมือนกัน แต่ดูเหมือนสิ่งที่เขากำลังพยายามพ่นออกมามันยิ่งทำให้ฉันรู้สึกขยะแขยงผู้ชายคนนี้อย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน คือผมแค่จำผิดคนน่ะ ผมไม่รู้ว่านั่นคือแพร์ น้องสาวฝาแฝดของคุณที่ผมทำแบบนั้นเพราะผมนึกว่าเขาเป็นคุณต่างหากล่ะพีช แก้ตัวน้ำขุ่นๆแบบนี้เลยเหรอ? แล้วแพร์ก็ไม่คิดจะพูดอะไรเลยหรือไง ฉันหันไปหาน้องสาวของฉันที่กำลังจัดเสื้อผ้าของตัวเองให้เข้าที่เข้าทางและเดินลอยหน้าลอยตาตามมาที่ฉันกลับกาย ฉันนึกว่าเธออยู่ที่นี่ก็เลยจะมาหา แต่พอมาถึงกายเขาก็นึกว่าฉันเป็นเธอ ฉันเห็นเขาดีใจมากก็เลยไม่อยากทำให้ผิดหวังก็แค่นั้นเอง ลูกแพร์เชิดหน้าเชิดตาอย่างไม่รู้สึกสะทกสะท้านกับสิ่งที่เธอได้ทำลงไป "แต่นี่มันคู่หมั้นของฉันนะแพร์" ถ้าอย่างนั้นก็ทำตัวให้สมกับเป็นคู่หมั้นที่เขาสมควรจะมีสิ หัดเข้าใจกายเขาบ้าง อย่าเอาแต่โทษคนอื่น หมายความว่ายังไง ฉันไม่สมกับเป็นคู่หมั้นของเขาตรงไหน? ฉันเถียงยังไม่เข้าใจว่าฉันไม่เข้าใจกายตรงไหน อะไร ยังไง หรือนี่ฉันทำผิดอะไรไป ก็เธอดันปล่อยให้คู่หมั้นอดอยากปากแห้ง ทำได้ก็แค่กอดจูบลูบคลำแต่ไม่ยอมให้เขาถลำลึกลงไปมากกว่านี้ยังไงล่ะ พอเขาเจอฉัน...มันก็เลยลงเอยแบบที่เห็น คนพึ่งมีอะไรกับคู่หมั้นของคนอื่นตีหน้าตาย ทำท่าเหมือนกับว่าสิ่งที่ฉันปฏิบัติตัวกับกายเป็นเรื่องที่ผิด อ๋อ!! งั้นเธอก็เลยอาสา ให้เขาถลำเข้าไปทั้งลำ เฮ้ย ทั้งตัวอย่างนั้นน่ะสินะ ฉันตอบกลับไปด้วยความโมโห ทั้งโกรธ ทั้งเสียใจ เพราะไม่คิดว่าน้องสาวฝาแฝดของตัวเองจะทำเรื่องร้ายกาจแบบนี้กับฉันได้ มันผิดด้วยเหรอที่ฉันอยากจะรักษาพรหมจรรย์เอาไว้ให้กับคนที่ฉันรัก เป็นผู้หญิงมันก็ต้องรักนวลสงวนตัวสิมันถึงจะถูกต้อง แต่ดูเหมือนว่าในตอนนี้ไม่ว่าฉันจะคิดมอบพรหมจรรย์ให้กับผู้ชายที่ฉันรักหรือคิดจะทิ้งมันให้กับผู้ชายแปลกหน้า ใอ้ความเวอร์จิ้นที่ว่านี้ดูแล้วมันไม่มีถ้าว่าจะเสียไปง่ายๆ ดังที่ตั้งใจเลยจริงๆ ก็ใช่น่ะสิ ความจริงเธอต้องขอบคุณฉันนะพีชที่ช่วยให้กายเขามีความสุขหลังจากที่ต้องอดทนอดกลั้นกับเธอมานาน มีความจริงแล้วถ้าเขาคิดจะเปลี่ยนใจมาหมั้นกับฉันแทนก็คงไม่ต้องอดๆอยากๆเรื่องเซ็กส์แบบนี้หรอก ฉันทั้งโมโหและงงกับตะกละป่วยๆของน้องสาวฝาแฝดของตัวเองไม่คิดว่าเธอจะคิดและลงมือทำเรื่องผิดศีลธรรมแบบนี้ได้ เอาล่ะเอาล่ะ อย่าเพิ่งเถียงกันเลยนะ ถือเสียว่าผมผิดเองก็แล้วกันนะพีช ที่เข้าใจผิดว่าแพร์เป็นคุณ เพราะผมคิดถึงคุณจริงๆ อีกทั้งผมยังทำงานมาทั้งวันจนตาลายอีกด้วย ก็เลย...แยกไม่ออก คำพูดของกายทำให้ลูกแพร์หน้าหงิกงอในทันที แยกไม่ออกอย่างนั้นหรอ? นี่แปลว่าไม่เคยใส่ใจกันเลยใช่ไหม? นี่คืเจะโกหกก็น่าจะคิดหาข้อแก้ตัวให้แนบเนียนกว่านี้หน่อย ไม่ใช่เอาสีข้างเข้าแถแก้ตัวน้ำขุ่นๆ แบบนี้ ฉันตอกกลับอย่างไม่ไว้หน้า บอกตามตรง ในใจของฉันตอนนี้มีแต่ความรู้สึกโมโหและอารมณ์ขุ่นมัว แต่ก็คิดว่าตัวเองไม่ได้รู้สึกเสียใจหรือหัวใจจะแตกสลายเหมือนกับที่เคยมีเพื่อนมาปรับทุกข์ยามอกหักเพราะถูกคนรักทรยศแต่อย่างใด หากมันเป็นความรู้สึกที่เหมือนกับถูกหักหลัง และถูกคนที่ไว้ใจทรยศเสียมากกว่า ที่ทำให้ฉันอยากจะเดินออกไปให้พ้นๆหน้าจากคนทั้งคู่ "ไม่ใช่แบบนั้นนะพีช" กายพยายามพูดแก้ตัวแต่ฉันไม่อาจทนฟังคำแก้ตัวใดๆ ได้อีกต่อไป ในเวลานี้ฉันได้แต่พยายามปลอบใจตัวเองว่าผู้ชายห่วยๆกับข้อแก้ตัวห่วยๆก็สมควรที่จะถูกเขี่ยทิ้งไป และไม่มีค่าแก่การเสียใจหรอก และยังดีที่ฉันรู้ตัวก่อนที่จะพลาดพลั้งยอมมอบให้เขาทั้งกายและใจ. ขอให้มีความสุขกันไปก็แล้วกัน จากนั้นฉันก็รีบหนีออกมาจากคอนโดของกายพร้อมกับความเสียใจหากกลับไม่มีหยดน้ำตาไหลรินออกมาให้เห็นแม้เพียงสักหยดเดียว.... ฉันได้แต่คิดว่าหรือบางทีฉันอาจจะเข้มแข็งกว่าที่ตัวเองคิดเอาไว้ หรือไม่ ก็ไม่ได้รักกายอย่างที่ฉันพยายามจะบอกกับตัวเอง ทำไมฉันถึงต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ด้วยนะ หรือเป็นเพราะกรรมจากการที่ฉันเกือบเผลอไปมีสัมพันธ์กับผู้ชายคนนั้น แต่นั่นมันก็เพราะกายผิดนัดฉันก่อนไม่ใช่หรือยังไงกัน อีกอย่างมันเป็นความผิดของผู้ชายที่ชื่อเอฟนั่นแหละที่ดันใช้ความหล่อและเสน่ห์ของเขามาล่อลวงสาวบริสุทธิ์อย่างฉัน จนเกือบต้องพลั้งเผลอเสียท่าให้กับใบหน้าหล่อๆ นั้น บางทีมันอาจจะเป็นผลกรรม ที่ติดจรวจให้เห็นกับตา ซึ้งความจริงแล้วฉันเองก็ไม่ต่างอะไรกับกายที่นอกใจคนรัก และไปขึ้นเตียงกับคนอื่นที่ไม่ใช่คนรักของตัวเอง แต่ในกรณีของฉันนี่สิ..ยังดูเลวร้ายยิ่งกว่า เมื่อฉันดันไปขึ้นเตียงกับผู้ชายที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนหน้า ฉันจะไม่ยอมให้มันเกิดดรื่องแบบนั้นขึ้นอีกเป็นอันขาด ไม่ว่ากับใครก็ตาม!! นั่นคือสิ่งที่ฉันปฏิญาณกับตัวเองเอาไว้อย่างมั่นๆ แต่ก็ไม่แน่ใจว่าจะทำได้อย่างที่พูดเอาไว้จริงหรือเปล่านี่สิ หลังจากวันนั้น เวลาก็ผ่านไปได้ 1 อาทิตย์ ฉันไม่ยอมรับสายหรือไปพบหน้ากายเลยแม้ว่าเขาจะพยายามง้อหรือติดต่อมาสักกี่ครั้งก็ตาม ในวันนี้ฉันก็มาทำงานตามปกติที่โครงการบ้านจัดสรรในย่านธุรกิจ ที่รถแสนจะติดมหาบรรลัยแต่ฉันไม่ได้มาซื้อบ้านหรอกนะ ฉันเป็นพนักงานขายบ้านต่างหากละค่ะ มาแต่เช้าเลยนะ" กลัวเดือนนี้ไม่ได้ยอดรึไง?" พี่จี๊ดที่เคยเป็นพนักงานขายรุ่นพี่ แต่ตอนนี้มีดีกรีเป็นถึงหัวหน้าของฉันพูดแซวขึ้นเมื่อเห็นฉันมาทำงานเร็วกว่าปกติ เปล่าค่ะพี่ พอดีแถวบ้านเขาจะปิดถนนรื้อสะพานข้ามแยกเพื่อทำรถไฟฟ้าพีชก็เลยต้องออกจากบ้านเร็วกว่าเดิม ไม่งั้น 9 โมงจะมาถึงที่นี่หรือเปล่าก็ยังไม่รู้ อันที่จริงแล้วฉันเองก็เพิ่งย้ายมาทำงานที่นี่ตามคำชักชวนของพี่จี๊ด เราสองคนเคยทำงานด้วยกันมาก่อนที่บริษัทอื่น พวกเซลล์ขายบ้านก็แบบนี้ล่ะค่ะ ย้ายที่สลับไปมา ที่ไหนให้ค่าคอมมิชชั่นดี เจ้าของโครงการน่ารักเราก็พร้อมที่จะเคลื่อนย้ายมวลสารได้ทุกเมื่อ ก็ดี ต่อไปจะได้มีคนมาอยู่เช้าๆเป็นเพื่อนกัน พี่ขี้เกียจรับหน้าพวกเสี่ยหัวล้านอ้วนลงพุงอยู่คนเดียว พี่จี๊ดพูดพร้อมกับทำหน้าเบื่อหน่ายออกมา ในช่วงเศรษฐกิจแบบนี้ คนที่มีเงินพอจะซื้อบ้านก็คงไม่พ้นพวกบันดาเสี่ยกระเป๋าหนักทั้งหลายที่คอยซื้อบ้านทำเลดีๆไว้เพื่อเก็งกำไร หรือไม่ก็ซื้อไว้ให้เมียน้อยอยู่

เริ่มอ่านเรื่องราวที่ยอดเยี่ยมได้ที่นี่

ดาวโหลดโดยการสแกนรหัส QR เพื่ออ่านเรื่องราวมากมายฟรี และหนังสือที่ได้รับการอัปเดตทุกวัน

อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม