EP.1
นับถอยหลัง ไปสู่ปัญหาในสาม..สอง...หนึ่ง
ตลอดชีวิตของฉัน... ผู้หญิงที่ชื่อว่าลูกพีช' คนนี้ไม่เคยมีคำว่าผิดแผนหรือนอกตาราง ในเมื่อฉันเป็นคนที่ชอบทำอะไรอย่างมีแบบแผน ทุกๆ เรื่องจะต้องถูกเตรียมการเอาไว้ล่วงหน้าอย่างแม่นยำ ไม่ว่าจะเรื่องการเรียน งาน คู่หมั้น หรือการวางแผนทางการเงิน ไม่ใช่ว่าฉันเป็นคนจุกจิกหรือเจ้าระเบียบ แต่ฉันเป็นคนที่ไม่ชอบเรื่องที่คาดเดาอะไรไม่ได้ หรือไม่ได้มีการเตรียมตัวมาก่อน
แต่เมื่อเสียงนาฬิกาบอกเวลาเที่ยงคืนของวันส่งท้ายปีเก่าสิ้นสุดลงแผนการมอบความบริสุทธิ์ให้คู่หมั้นที่ยอดเยี่ยมที่สุดของฉันกลับเลือนหายไปจากสมอง โลกทั้งใบเหมือนกับหยุดหมุน เมื่อภาพต่างๆ รอบตัวฉันมันดูเหมือนภาพสโลโมชั่นที่ผู้คนต่างเคลื่อนไหวอย่างช้าๆ รวมไปถึงเสียงเพลงที่ฟังดูแผ่วเบาลงคล้ายกับมีใครกำลังปิดสวิตช์เครื่องเสียงลงอย่างนุ่มนวล ในวินาทีนี้ฉันเองก็ไม่รู้เลยสักนิดว่าอะไรดลใจให้ฉันกล้าทำเรื่องบ้าระห่ำลงไป... ทั้งๆที่ฉันไม่ใช่ผู้หญิงใจง่าย หรือคิดจะมาทำอะไรกับคนแปลกหน้าที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน
แต่ผู้ชายคนนี้กลับเหมือนมีแรงดึงดูดให้ฉันเผลอตัวเผลอใจ ลืมตัวโหเข้าหาอ้อมกอดของเขาโดยที่ฉันเองก็ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง
ใช่.... ฉันไม่ได้รู้จักมักจี่อะไรกับผู้ชายแปลกหน้าคนนี้เลยสักนิดฉันรู้เพียงแค่ว่าเห็นเขามานั่งรอใครบางคนอยู่ที่โต๊ะริมหน้าต่างบานใหญ่นั้น สายตาของเราสบประสานกันชั่วครู่ แล้วมันทำให้ฉันรู้สึกได้ว่าหัวใจของตัวเองมันเต้นตึกตั๊กอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ทั้งๆที่ฉันเองก็มีคนรักที่พึ่งจะหมั้นหมายกันไปหมาดๆเมื่อต้นปีนี้เอง และสิ่งที่ฉันเองก็ไม่อยากจะเชื่อมากที่สุด....
นั่นก็คือผู้ชายที่ฉันกำลังจูบเขาอย่างดุจเดิมคนนี้ไม่ใช่คู่หมั้นคนสำคัญของฉัน แต่กลับเป็นชายหนุ่มลูกครึ่งหน้าตาหมดจด และหล่อกระชากใจจนฉันเองก็คือตัวเผลอใจคล้ายกับคนที่กำลังตกอยู่ในห้วงแห่งความฝัน
ฉันไม่รู้หรอกว่าใอ้ความรู้สึกนี้มันเกิดขึ้นได้อย่างไร แต่พวกคุณเคยรู้สึกแบบนี้ไหม ที่พอเจอใครสักคนก็เหมือนกับมีอะไรบางอย่างดึงดูดพวกเราเข้าหากัน ไม่ต้องมีคำพูดหรือบทสนทนาใดๆ ให้วุ่นวาย มีเพียงสายตาที่สบประสานกันและก่อเกิดเป็นความรู้สึกที่ไม่สามารถอธิบายให้ใครเข้าใจได้ว่ามันคืออะไร
ปุง ปุง ปุง
ทันใดนั้นเสียงพลุที่ถูกจุดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่บนท้องฟ้าสว่างไสวไปด้วยประกายแสงสีต่างๆกัน ผู้คนต่างพากันโห่ร้องและเมื่อเสียงนับถอยหลังย่างเข้าสู่ปีใหม่สิ้นสุดลงภาพทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันช่างเหมือนกับนวนิยายที่เจ้าชายกับเจ้าหญิงกำลังจุมพิตกันอย่างดุดดื่ม ภาพที่ทั้งคู่กำลังกอดกันด้วยความรักและเต็มไปด้วยความชื่นมื่น จะแตกต่างกันก็แค่ฉากหลังที่ไม่ใช่ปราสาท หากแต่เป็นร้านอาหารสุดหรูที่เต็มไปด้วยผู้คนที่มาเป็นคู่กันและฉันก็ไม่ใช่เจ้าหญิงในนิยาย เมื่อชุดของฉันเป็นชุดรัดรูปสีแดงเพลิง (ที่ตั้งใจจะใส่มาเอาใจคู่หมั่นในวันนี้)
ส่วนเขาคนนี้ก็อยู่ในชุดสูทสีดำราคาแพงมาดเนี๊ยบและเชื่อว่าเขาดูหล่อกว่าบรรดาเจ้าชายทั้งหมดที่ฉันเคยได้เห็นมาในหนังสือนิทาน
เราไปจิบไวน์กันต่อที่คอนโดของผมไหม?"น้ำเสียงทุ้มต่ำระรื่นหูพูดขึ้นหลังจากที่ถอนริมฝีปากที่ประกบกันอย่างดูดดื่มออกจากปากสีเชอรี่ของฉันความวาบหวามยังคงตราตรึงอยู่ในห้วงความรู้สึก ฉันรู้สึกวาบหวานจนเผลอพยักหน้าตอบกลับไปโดยไม่ทันรู้ตัว
ทั้งๆที่ฉันควรจะปฏิเสธแต่กลับตอบรับอย่างไม่มีอิดออดกับคำชวนนั้นบอกตามตรงว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันช่างรวดเร็วเสียจนฉันเองก็แทบจะไม่ทันได้ไตร่ตรองใดๆจะบอกว่าเป็นฤทธิ์ของ cocktail ที่ฉันแค่จิบๆไปก็ไม่น่าจะใช่ เพราะฉันรู้ตัวดีว่าไม่ได้เมา แต่อาจจะเป็นเพราะเคมีของสองเรามันเข้ากันอย่างบอกไม่ถูก
จากนั้นเราทั้งสองก็เดินทางมายังคอนโดของชายหนุ่ม
นี่เป็นคอนโดของผมเอง ชายแปลกหน้าคลี่ยิ้มที่แสนจะหล่อบาดใจให้กับฉัน ก่อนจะขับรถสปอร์ตคันงามเข้าเมืองที่จอดรถส่วนตัว ความจริงแล้วดูเหมือนว่าคอนโดมิเนียมของเขาจะอยู่ห่างจากร้านอาหารในโรงแรมที่เราทั้งคู่เพิ่งขับรถออกมาไม่มากนัก
ฉันไม่ได้ตอบอะไรกลับไป หากยอมเดินตามเขาไปยังลิฟท์ส่วนตัวที่ต้องใช้คีย์การ์ดแบบพิเศษเพื่อขึ้นไปงานห้องพักส่วนตัวของเขา ระหว่างนั้นเราทั้งคู่ก็ไม่ปล่อยให้เวลาทุกนาทีที่มีค่าเสียไปเปล่าๆ เมื่อเขารวบตัวของฉันมาแนบชิดกายแกร่ง และบทเรียนริมฝีปากกับริมฝีปากของฉันอย่างเร่าร้อน
เราไปต่อกันบนห้องดีกว่านะคะ..ฉันผละจากเขาเล็กน้อย เขาทำสายตาและห้อยเหมือนกับไม่อยากให้ฉันแถมจูบออกเสียกลางคัน อย่างน้อยๆฉันก็ยังมีความรู้สึกกระดากใจอยู่ไม่ใช่น้อย เพราะตั้งแต่เกิดมาฉันเองก็ยังไม่เคยทำอะไรที่ดูเหมือนผู้หญิงใจง่ายอย่างนี้มาก่อนแล้วแต่กับกายที่เป็นคู่หมั้นของฉันเองก็ตามทีดังนั้นสติแสนดีที่ยังเหลืออยู่เรื่อยได้แต่พยายามเชิญชวนเขาไม่ไปในที่มิดชิดเสียหน่อย
กลัวจะมีใครมาเห็นหรือยังไงแต่นี่เป็นลิปส่วนตัวไม่มีใครเข้ามาใช้ได้หรอกนะ
เปล่าค่ะ.. ฉันก็แค่อยากไปในที่ที่จะสามารถสวีทกับคุณได้ถนัดกว่านี้ ฉันยังคงพูดเหมือนผู้หญิงเจนจัดด้วยท่วงท่าที่เรียกได้ว่ากระชากใจฝ่ายเอามาไว้ในกำมือได้อย่างที่ฉันก็ยังนึกกลัวตัวเอง
คุณทำให้ผมแทบจะอดใจไม่ไหว..
งั้นเรารีบขึ้นไปบนห้องกันเถอะค่ะ.. ฉันตอบกลับไปด้วยท่าทางยั่วเย้าทางที่มันช่างเป็นบุคลิกที่ตรงกันข้ามกับตัวตนแท้จริงของฉันเสียนี่กระไร วินาทีนี้ฉันเองก็ได้แต่สงสัยว่าหรือความจริงในใจลึกๆของฉันนั้นอาจจะลองประสบการณ์อะไรแบบนี้ก็เป็นได้ ในเมื่อไม่เห็นจะมีอะไรเสียหาย...ก็แค่ขึ้นเตียงกับผู้ชายแปลกหน้าที่ถูกชะตาแล้วก็จบแบบเฮฮาไม่มีอะไรผูกพัน
ตะ...แต่ เดี๋ยวก่อนนะ...
เหมือนฉันจะลืมอะไรบางอย่างไปเสียสนิทใจ ฉันเองโตมาอายุ 22 ย่าง 23 ปี แต่ยังเป็นสาวเวอร์จิ้นไม่เคยมีอะไรกับผู้ชายมาก่อนเลยสักครั้งในตอนนี้ฉันได้แต่ควรคิดถึงแผนการที่มอบความบริสุทธิ์ให้กับกาย คู่หมั้นของฉันในค่ำคืนอันแสนจะโรแมนติก ช่วงเวลาคาบเกี่ยวระหว่างปีเก่ากับปีใหม่ที่ฉันเฝ้าคิดแผนการมาเป็นอย่างดี ว่ามันจะต้องเป็นคืนแห่งความทรงจำที่ยอดเยี่ยม กายจะต้องประทับใจกับของขวัญชิ้นพิเศษที่ฉันเตรียมจะมอบให้เขายังไม่ต้องคิด
ทว่า... ความคิดทุกอย่างมันมีอันต้องพังทลายเมื่อเขาทิ้งให้ฉันนั่งรออยู่ที่ร้านอาหารในโรงแรมเพียงลำพังอยู่หลายชั่วโมง แน่นอนว่าฉันทั้งโมโหทั้งเดือดดาล ทั้งเสียใจและขูดหัวฟัดหัวเหวี่ยง ในขณะที่โทรศัพท์มือถือของเขาก็ไม่สามารถติดต่อได้ ฉันไม่รู้ว่าวินาทีนั้นมีเทพบุตรมาอะไรดลใจ หรือมีซาตานตนใดเข้าสิง เลยทำให้ฉันลุกจากโต๊ะอาหารด้วยความหัวเสีย และนั้นก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ฉันได้พบกับผู้ชายแปลกหน้าคนนี้
"คุณกำลังคิดอะไรอยู่หรอ?"
"อ๋อ..เปล่าค่ะ"
แต่ดูเหมือนกับว่าคุณมีเรื่องอะไรบางอย่างอยู่ในใจ ดวงตาสีเข้มฤดูคล้ายกับสีเขียวมรกตยามที่มันต้องกับแสงไฟจ้องมองมาคล้ายกับกำลังจะอ่านความคิดของฉัน ดวงตาคู่นั้นดูราวกับจะสามารถมองทะลุได้ทุกสิ่งและมองเห็นความนึกคิดที่ซ่อนอยู่ภายใน ฉันเลยได้แต่รีบตอบกลับไป
"ฉันก็แค่กำลังคิดว่าห้องของคุณช่างดูน่าอยู่มากๆเลยค่ะ"
ความจริงฉันเพิ่งจะทันได้สังเกตหลังจากที่ประตูลิฟต์ส่วนตัวเปิดออกกว้าง เบื้องหน้านั้นเป็นห้องสูทขนาดใหญ่ที่กินพื้นที่ทั้งชั้นเลยก็ว่าได้ และที่สำคัญห้องของเขาอยู่ชั้นบนสุดที่สามารถมองเห็นเมืองทั้งเมืองได้ไกลสุดลูกหูลูกตา ไม่นับรวมพวกของตกแต่งภายในห้องที่ดูทันสมัย และเต็มไปด้วยอุปกรณ์ข้าวของเครื่องใช้ที่แสนจะไฮเทค แน่นอนว่าคนอย่างฉัน ลูกพีชคนนี้ที่เป็นเซลล์มือหนึ่งในการขายบ้านและคอนโดมิเนียมชั้นนำแค่มองแว๊บเดียวก็รู้แล้วว่าห้องพักสุดหรูของผู้ชายคนนี้มันแพงระยิบระยับแค่ไหน
เตียงของผมก็น่านอนไม่ต่างอะไรกัน รอยยิ้มที่ปรากฏบนใบหน้าหล่อๆทำไมฉันลืมเรื่องของกายไปชั่งขณะนึ่ง ทั้งที่จิตใจส่วนดีที่ยังเหลืออยู่ของฉันพยายามจะบอกกับตัวเองว่าการทำแบบนี้ มันก็ไม่ต่างอะไรกับการนอกใจ แต่มีหรือที่จิตใจส่วนดีในตอนนี้จะมาสู้ความรู้สึกโมโหของฉันที่กำลังเดือดดาลไม่ต่างอะไรกับเปลวเพลิงที่กำลังแผดเผา จนทำให้ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีของฉันหล่นลงไปกองอยู่กับพื้นพร้อมกับชุดเดรสที่ฉันสวมใส่มา
ร่างที่เกือบจะเปลือยเปล่าของฉันปรากฏแก่สายตาของชายแปลกหน้าที่เขาเพิ่งจะบอกว่าตัวเองชื่อเอฟ ส่วนชื่อของฉันดูเหมือนว่าเขาเองจะไม่ได้สนใจถามเลยสักเท่าไหร่ และฉันเองก็ไม่ได้คิดสนใจที่จะบอกชื่อของตัวเองออกไปเช่นเดียวกัน ในเมื่อฉันเองก็รู้ดีว่าความสัมพันธ์ระหว่างเรา มันคงไม่ได้มีอะไรมากไปกว่าคู่นอนแบบ one night stand ที่มีเซ็กส์กันเสร็จก็ตัวใครตัวมันดังนั้น เชื่อได้เลยว่าต่อให้ฉันบอกชื่อเขาไปผู้ชายที่ดูไม่ต่างอะไรกับ playboy คนนี้ก็คงจะลืมชื่อของฉันในทันทีที่เขาตื่นนอน
"คุณสวยมาก.. ที่รัก" ดูเหมือนคำเรียกขานนั้นจะไม่ได้สลักคำสำคัญอะไรกับเขาสักเท่าไหร่แต่อย่างน้อยๆมันก็ทำให้คนที่ถูกอุปโลกเป็น "ที่รัก" ชั่วคืนรู้สึกวาบหวาบกับคำเรียกนั้นโดยเฉพาะผู้หญิงที่ไร้ประสบการณ์อย่างฉัน
แล้วคุณไม่ถอดหรอคะหรือจะให้ฉันช่วยถอดดี
ตามใจคุณสิ...
จากนั้นฉันก็ยังรับบทบาทเป็นหญิงสาวผู้เจนโลกต่อไป บอกตามตรงที่ฉันทำแบบนี้ไม่ใช่เป็นการประชดชีวิต หรือประชดกายหรอกนะ แต่อารมณ์เดือดดาลของผู้หญิงต่างหากที่เป็นแรงขับเคลื่อนให้ฉันอยากจะทำเรื่องแบบนี้ขึ้นมา ในเมื่อกายไม่เห็นค่ากับของขวัญชิ้นพิเศษที่ฉันตั้งใจจะมอบให้เขา ฉันก็เลยคิดว่าเอามันไปมอบให้กับคนที่เขาอยากจะได้น่าจะดีกว่า...
ริมฝีปากของคุณหวานอย่างกับสตอเบอรี่ มันทำให้ผมอยากจะรู้ซะแล้วสิว่าส่วนอื่นของร่างกายคุณ...มันจะหวานแบบนี้หรือเปล่า เขาไม่พูดพร่ำทำเพลง ปลายนิ้วที่อยู่แถวบริเวณสะโพกของฉันปลดเปลื่องกางเกงในลายลูกไม้ตัวจิ๋วให้ร่วงหล่นลงไปกองกับพื้นห้อง ส่วนมืออีกข้างก็ปลดตะขอเสื้อชั้นในของฉันออกด้วยความช้ำชอง
คะ..คุณ ใบหน้าของฉันเห่อร้อนขึ้นในทันใดเมื่อเห็นว่าเอฟเองก็ปลดเปลื้องชุดที่เขาสวมใส่ออกไปด้วยความรวดเร็วเช่นเดียวกัน บัดนี้เราทั้งคู่อยู่ในสภาพเปลือยเปล่าจนฉันเผลอทำตาโตขึ้นด้วยความตกใจ (ก็แหม...คนมันไม่เคยเห็นอะไรจะๆอย่างนี้มาก่อนนี่นา)
คืนนี้ผมจะชิมคุณให้ทั่วทั้งตัวเลย เขาไม่พูดเปล่าริมฝีปากของเขาก็ค่อยๆละไล้จากซอกคอของฉันเลื่อนไปตามส่วนต่างๆด้วยความปรารถนา
อ๊ะ...ฉันเองแทบจะฝืนยืนตรงตัวเอาไว้ไม่ไหวเมื่อถูกปลุกปั่นด้วยลายลิ้นอุ่นร้อนที่เขากำลังละลิ้มชิมรถไปตามเนื้อตัวของฉันด้วยความหิวกระหาย มือหนาปัดปายไปตามทุกส่วนที่เขาต้องการจะแตะต้อง หากทุกพื้นที่ที่เขาลากมือผ่านมันยิ่งกระตุ้นความเป็นหญิงในกายของฉันให้รู้สึกวูบวาบจนรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก
ชั่วแว๊บนึงใบหน้ากายก็ผุดขึ้นมาในสมองของฉัน ทั้งที่ใบหน้าของชายคนรักควรจะทำให้ฉันรู้สึกผิดในเรื่องที่กำลังทำอยู่ แต่บอกตามตรงมันกลับยิ่งเป็นแรงผลักดันให้ฉันอยากเดินหน้าต่อไปกับเอฟ ความน้อยใจผสมกับความโมโหของผู้หญิงที่มันช่างเป็นสิ่งร้ายกาจ เพราะว่ามันอาจจะทำให้พลั้งเผลอใจ ลืมคำว่าผิดชอบชั่วดี จนกลายเป็นเรื่องเลยเถิดมาจนถึงขั้นนี้
ไม่นานนักเราทั้งคู่ขอเปลี่ยนไปกอดก่ายกันบนที่นอน ฉันถูกเอฟปลูกปั่นเสียจนตัดสินใจแล้วว่าจะยอมทิ้งพรหมจรรย์ที่สู้เก็บไว้มานานให้กับเขาในคืนนี้ พวกคุณกำลังคิดว่าฉันนี่เป็นผู้หญิงใจง่ายและไร้สมองอยู่ใช่ไหมล่ะคะ แต่ในทางกลับกันถ้าลองคิดดูดีๆการมอบความบริสุทธิ์ให้กับผู้ชายที่เพิ่งพบกันครั้งแรกในชีวิตมันก็ดูไม่ใช่เรื่องเลวร้ายสักเท่าไหร่ ก็ในเมื่อเขาเองทั้งหล่อ ทั้งดูเร้าใจ อีกทั้งเสน่ห์ที่น่าหลงใหลจนฉันเผลอตัวเผลอใจตามเขามาจนถึงเตียงนอน
คุณอยากดื่มอะไรก่อนหรือเปล่า?"
จู่ๆคนที่กำลังขึ้นคร่อมฉันอยู่ก็ถามออกมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย